พรึบ!!
คนตัวสูงใช้แขนแหวกผ้ากระโจมเปิดออกให้คนตัวเล็กอย่างอียูได้ออกไปด้านนอกเพื่อให้คนเจ็บได้พักผ่อน
ด้านนอกมีผู้ชายหลายคนแต่ละคนต่างก็มองมายังอียูไม่ค่อยเป็นมิตรนัก บางคนกำลังก่อกองไฟและเตรียมอาหาร บางคนจับกลุ่มดื่มสุรา
“พวกเค้าไม่พอใจที่ข้าอยู่ที่นี่หรือ?”
“.....?”
แซฮุนทำหน้าแปลกใจหันมองคนถามและพบว่าอียูมองเขาอยู่ก่อนแล้วตนจึงหยุดเดินเอามือสองข้างไขว้หลัง
“เปล่า”
“งั้นหรอ”
“พวกเขาไม่ค่อยได้เจอคนแปลกถิ่นที่มาจากในพระราชวังมากกว่า เลยไม่รู้ว่าควรปฏิบัติต่อเจ้าอย่างไร”
“ข้าไม่ใช่คนในวังเสียหน่อย”
แซฮุนเลิกคิ้วขึ้นสูงพรางมองชุดฮันบกที่สาวเจ้าสวมใส่ก็พอมองออกว่านี่ไม่ใช่เนื้อผ้าทั่วๆไปที่ประชาชนทั่วไปจะซื้อใส่ได้ ยิ่งมาพร้อมกับทหารหลวงจากพระราชวังแบบนั้นอีก นี่เขากำลังถูกนางหลอกอยู่อย่างนั้นหรือ
“บอกข้าได้หรือไม่ ว่าทำไมเจ้าถึงถูกจับตัวมาเช่นนี้?”
“.....”
ทั้งสองเริ่มออกเดินต่อโดยมีแซฮุนคอยถามคำถามอยู่ด้านข้าง
“ทำไมเจ้าถึงอยากรู้นัก?”
“เพราะข้าช่วยชีวิตพวกเจ้าเอาไว้ เจ้าเป็นหนี้ เจ้าก็ต้องจ่ายบ้างบางส่วน”
“......”
อียูละสายตาจากแซฮุนหันมองไปทางอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงแววตาเศร้าๆ ของตัวเอง
“ข้ากำลังจะเข้ารับการสอบเป็นแม่ครัวของวังหลวง”
“......”
“น่าเสียใจที่ข้าดันมาโดนปองร้ายเสียก่อน”
“ข้าเสียใจด้วย”
“ขอบใจนะ แต่ข้าโล่งอกเสียมากกว่า”
“.....”
พูดจบอียูก็ชิงเดินต่อทิ้งให้แซฮุนทำหน้าเศร้าแทนตัวเองแล้วค่อยๆเดินตามอีกครั้ง แน่นอนว่ามันคือเรื่องโกหก คุณหนูอย่างคังอียูผู้ไม่เคยเข้าครัวแม้แต่ครั้งเดียว ทำไมจะต้องไปสอบคัดเลือกแม่ครัววังหลวงด้วย อย่างน้อยข้าก็พอจะรู้เข้าใจว่าใครบางคนในวังไม่ต้องการให้ข้าได้ตำแหน่งพระชายา
“เราจะไปที่ไหนกัน?”
“ตามมาก่อนเถิด”
“....”
อียูย่นจมูกอย่างสงสัยเมื่อแซฮุนเอาแต่เดินนำหน้าพาตนเข้าไปในป่าเรื่อยๆ ถึงจะชั่งใจอยู่ว่าทำไมถึงเชื่อและยอมตามเขาไปทั้งที่เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน อาจเป็นเพราะไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากกว่านี้ ถึงจะถูกหลอกไปฆ่าอย่างทารุนก็คงหนีไปไหนไม่พ้นอยู่ดี
เบื้องหน้าไม่ไกลจากเราสองคนนักหลังม่านไม้และต้นไม้ใหญ่หญิงสาวสองคนกำลังช่วยกันจัดแจงแร่เนื้อสัตว์ขนาดกลางอย่างกระฉับกระเฉงด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มหนึ่งในนั้นคือจีมินทั้งสองคุยกันถูกคอเสียจนหัวเราะเสียงดังโดยไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีใครกำลังยืนมองอยู่
“นางอาสาทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนเมื่อรู้ว่าข้าเป็นคนช่วยชีวิตของเจ้ากับ....!!”
“จีซู!!!”
“คะ คุณหนู!!!!”
พรึบ!! หมับ!!
เขายังไม่ทันได้พูดจบร่างเล็กก็รีบวิ่งออกไปหาจีซูพร้อมกับกระโดดกอดกันตัวกลมราวกับไม่ได้เจอกันเสียนาน เขาหยุดคำพูดลงเพียงเท่านั้นก่อนจะค่อยๆเดินตามเข้าไปยืนข้างกับ ยูมี หญิงสาวคนรู้จักที่ติดตามเขามาด้วยพรางมองไปที่สองคนด้วยใบหน้ายินดี
“ท่านช่วยพวกนางเอาไว้”
คนตัวเล็กพูดขณะสายตาจดจ้องไปที่อียูและจีซู แซฮุนกระแอมในลำคอเล็กน้อยพรางยืดออกขึ้น
“เป็นเพราะเจ้ามิใช่หรือ ที่ทำให้ข้าต้องปักหลักอยู่ที่นี่ต่อ ทั้งที่ควรจะเดินทางลงใต้เสียตั้งนานแล้ว”
“ขอบคุณ ที่ท่านฟังคำขอจากข้า”
“......!!”
แม้เป็นคำชมตามมารยาท แต่ทำเอาหัวใจของแม่ทัพหนุ่มพองโตไม่น้อยจนต้องยกมือขึ้นเกาท้ายทอยแก้เขินไปเสียอย่างนั้น
“เราจะทำอย่างไรกันดี ตอนนี้ภายในพระราชวังอาจกำลังวุ่นวายไม่น้อยที่คุณหนูหายตัวไป”
ภายใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่หญิงสาวทั้งสองได้ปลีกตัวออกมาหารือกันถึงเรื่องราวที่พบเจอก่อนหน้า
“ข้าไม่คิดว่าจะมีใครกล้าทำเรื่องอุกอาจในวันสำคัญของคุณหนูเช่นนี้”
“ตอนนี้คงทำได้เพียงดูแลจีมิน แต่แซฮุนคงจะอยู่ที่นี่อีกไม่นานเค้าก็คงจะต้องกลับบ้านเมืองของเขาทางตอนใต้”
“เรายังต้องพึ่งพาท่านแซฮุน สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก มีคนคิดปองร้ายคุณหนูหนำซ้ำยังเป็นคนภายในวัง ตัวข้าและจีมินคิดได้ไม่รอบคอบ ขออภัยแก่ข้าด้วยคุณหนู”
“ไม่เป็นไร พวกเจ้าไม่ได้ผิดอะไรอีกอย่างเป็นข้าเองที่ทำให้พวกเจ้าตกอยู่ในอันตราย”
“ไม่เลยเจ้าค่ะ! ชีวิตของเราสองคนเป็นดั่งหิ่งห้อยยินดีจะสละชีวิตให้กับคุณหนู เพื่อจะสนับสนุนท่านแล้ว ข้าพร้อมจะเป็นดั่งแขนและขาให้กับท่าน”
“จีซู!....”
แววตาเศร้าสร้อยแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น จีซูพูดจบนางก็ก้มคำนับต่อหน้าอียู แม้ได้ร่วมรับใช้อียูได้ไม่นานนักแต่ทั้งสองก็ได้รับการปฏิบัติที่ดีจากอียูมาตลอด และไม่คิดว่าเหล่าขุนนางหรือราชวงศ์คนไหนจะมีใจเมตตาต่อทั้งสองได้มากเท่านี้
“ข้าขอบใจเจ้ามาก..”
“อย่างไรเสีย องค์ชายจะต้องออกตามหาคุณหนูเป็นแน่ อย่าได้กังวลไปเลยเจ้าค่ะ”
“ไม่มีอะไรรับประกันเรื่องนั้นได้หรอก เราหายออกมาจากพิธี นับว่าเป็นการขัดต่อพระราชโองการ หากองค์ชายพาเรากลับไปได้ ข้าก็ไม่แน่ใจนักว่าจะเกิดสิ่งใดตามมา”
“แต่เราถูกลักพาตัว เรื่องนี้หากเรากราบทูลต่อองค์ราชาแล้วละก็....”
“มันคงไม่ง่ายอย่างนั้น คนที่กล้าทำเรื่องอย่างนี้โดยไม่เกรงกลัวความผิด อาจเป็นคนในพระราชวัง ถ้าเป็นอย่างนั้น ข้าก็คงกลายเป็นคนร้ายในสายตาผู้อื่นไปแล้ว”
“โหดร้าย โหดร้ายนัก”
“.....”
อียูก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อกลบเกลื่อนความเศร้าภายในใจ แม้ว่าครั้งนี้ข้าเกือบตายไปแล้วจริงๆ แต่ลึกๆแล้วข้าควรตายไปอย่างไม่รับรู้อะไรเลยจะดีกว่าไหมนะ
“องค์ชาย! ด้านหน้า”
“อืม”
หนทางเบื้องหน้า เมื่อออกเดินทางตามหาร่องรอยการหายตัวไปของเกี้ยวที่น่าสงสัยก็สิ้นสุด กลิ่นคาวเลือดจากศพ บางร่างเริ่มเน่าเปื่อยส่งกลิ่นและภาพสยดสยอง แต่ก็ไม่ได้บั่นทอนความมุ่งมั่นของทั้งสองลงได้
ซอลมินโดดลงจากหลังม้าตรงไปยังเกี้ยวพังๆรายล้อมไปด้วยศพ ยิ่งได้เห็นว่าเครื่องแบบนั้นคือทหารจากวังหลวงไม่ผิดแน่ ในใจของเขาเองก็เริ่มหวาดกลัว กลัวความคิดของตนเอง
“องค์ชาย กระหม่อมพบสิ่งนี้ภายในเกี้ยว”
“!!!!!”
หลังจากแทซันทำการสำรวจโดยรอบเขาก็พบเข้ากับสิ่งของบางอย่างจึงรีบนำมาให้องค์ชาย
ซอลมินยื่นมือที่สั่นเล็กน้อยหยิบเอากำไรหยกฟ้าจากแทซันมาถือไว้ ภาพในอดีตฉายซ้ำขึ้นอีกครั้ง ครั้งเมื่อพบกับอียูที่ตลาด ใบหน้าขาวใสยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แลมีความสุขกับการเลือกเครื่องประดับ ซอลมินยืนอยู่ตรงนั้นมองไปร่างเล็กที่ฟังทุกอย่างจากแม่ค้าเล่าด้วยใบหน้าเชื่อเสียเต็มประดา แม้เป็นเรื่องน่าขันแต่ก็ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กำไรเส้นนี้เหมาะสมกับนางเสียจริง
“องค์ชาย!”
“ไม่ว่าจะห่างไกลเพียงใดข้าก็จะตามหานาง และถึงแม้ว่านางจะตายไปจนดินกลบหน้า ข้าก็จะขุดทั้งแผ่นดินลงไปจนกว่าจะเจอร่าง”
มือหน้ากุมเอากำไรของอียูไว้ในมือแน่นก่อนจะค่อยๆสวมมันที่ข้อมือของตนเอง แทซันเห็นดังนั้นจึงคำนับต่อคำบัญชาของซอลมิน ไม่แม้แต่จะขัดค้านสิ่งใด
‘ข้ากำลังไป เจ้ารอข้าอีกหน่อยนะ’
เสียงภายในใจดังขึ้นซ้ำไปซ้ำมาแม้รู้สึกว่าอีกไม่นานเราจะเจอกัน ข้าไม่เคยกลัวสิ่งใดแม้จะต้องยืนอย่างโดดเดี่ยวในสนามรบ แต่บัดนี้ข้ากลัวเหลือเกิน.
ซู่ซ่าาา ~~!!
พรึบ!
“เป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม เจ้าว่าไหม?”
“อ่า อือ!”
เบื้องหน้าคือลำธารถัดไปไม่ไกลนักคือหน้าผาน้ำตกขนาดใหญ่ สวยงามจนข้าสามารถยืนมองได้อยู่นานสองนานกระทั่งแซฮุนมาถึง
“นึกไม่ถึงว่าแถวนี้จะมีน้ำตกซ่อนอยู่ เจ้าหาเจอได้อย่างไร?”
“ข้าหลงทาง และบังเอิญเจอที่นี่เข้า แล้วท่านหลงทางเหมือนข้าหรือไม่?”
แซฮุนมองยังใบหน้าครึ่งซีกของอียูด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง น้ำเสียงเช่นนี้บอกไม่ได้เลยว่านางหลงทางจริง หรือตั้งใจเดินอย่างร่องรอยเข้าป่าลึกเสียมากกว่า
“ข้าไม่เคยหลงทาง เพียงเพราะทางที่เดินไปข้าไม่รู้จักและไม่เคยไปมาก่อน มีเพียงสิ่งเดียวที่ข้ายึดมั่นคือความหนักแน่น แม้หนทางด้านหน้าข้าไม่เคยพบเจอ ข้าก็ยังเชื่อข้าจะพาตัวเองไปพบกับทางออก”
“เป็นข้าที่ไม่มีความหนักแน่นพอ ข้าไม่อาจทนมองผู้ใดเสียสละเพื่อข้าได้อีก”
“ใครจะเป็นคนตัดสินใจกันหละ เจ้าอย่างนั้นหรือ? หากต้องการปกป้องคนที่สำคัญ นั่นก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้ว”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น ข้าก็ไม่อยากเป็นคนสำคัญของใคร”
“เฮ้ออ...แม้แต่นก ยังเชื่อมันในปีกของตนเอง เหตุใดบางคนจึงไม่เชื่อมั่นในแขนและขาของตน”
“.....!”
ผู้หญิงคนนี้ ไม่มีความกล้าได้กล้าเสียเอาเสียเลยเป็นแบบนี้จะพบเจอความสุขได้อย่างไร จะแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียวด้วยใบหน้าที่หมองหม่นเช่นนั้น เฝ้าโทษตัวเอง แทนที่จะคิดแค้นคนที่ทำเรื่องแบบนี้กับตัวเอง นางคิดอะไรอยู่กันแน่
“เพื่อนของเจ้า จีมินคนนั้น”
“เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?!!”
อียูรีบหันขวับไปทางแซฮุนทันที เขาถอนหายใจอย่างสบายใจมองออกไปยังน้ำตกเบื้อหน้า
“นางฟื้นแล้ว”
“....!!”
หมับ!!
“ช้าก่อน!”
ร่างเล็กไม่รีรอรีบก้าวเท้ากลับไปทางเดิม แต่ต้องหยุดลงเมื่อถูกมือหนาของแซฮุนคว้าแขนของตนเอาไว้เสียก่อน
“ขออภัย หากข้าร่วงเกินท่าน หากแต่ข้ายังพูดกับท่านไม่จบ คุณหนู คังอียู”
“....!!!”
แซฮุนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งก่อนจะปล่อยมือของตนออกจากการจับกุมพร้อมกับก้มคำนับอียู เขารู้แล้วอย่างนั้นหรือว่าข้าเป็นใคร....