@ห้องนอน
09.50 น.
เช้าวันต่อมาหลังจากที่คนตัวเล็กนอนหลับไหลอยู่บนที่นอนนิ่ม
“อื้อออ ปวดหัวชะมัด”
คนตัวเล็กตื่นขึ้นมางัวเงียเพราะรู้สึกว่าสมองหนักอึ้งเพราะเเฮ็งค์จากเมื่อคืน
“ฉันมาอยู่ห้องตั้งเเต่เมื่อไหร่เนี่ย?”
“ทำอะไรบ้าๆไปป่าววะ”
“ไม่มีหนิ ใช่ไม่มี”
ไม่มีเลยจริงจริ๊งงงไม่มี๊ไม่ม๊เล๊ยไม่สักนิด ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนเลือนลางจนไม่ได้ความ
@ครัว
“ตาเป้งออกไปทำงานเเล้วนะลูก”
เมื่อคืนคนตัวเล็กหันซ้ายหันขวามองหาหนุ่มร่างสูงคนเป็นเเม่ก็รู้ดี
“ชิ ไม่ชวนกันเลย”
หลินทำหน้าบูดบึ้งที่ตื่นเช้ามาวันนี้พร้อมสมองหนักอึ้งเเถมยังไม่ได้เจอคนที่อยากเจออีก
Chat พี่หมอเป้ง💓
หลิน : วันนี้กลับดึกหรอคะ
หลิน : ถ้าพี่หมอเลิกงานเร็วไปทานข้าวกันนะ
หลิน : สู้ๆค่า ตั้งใจทำงานนะคะคุณหมอ
หมอเป้งเห็นเเชทเเจ้งเตือนเมื่อตรงกับเวลาพักเที่ยงทานข้าวของเขาพอดี
เเค่ประโยคไม่กี่บรรทัดก็ทำให้หัวใจดวงโตเต้นสั่นระรัวเหมือนเมื่อคืนอีกครั้ง
เป้ง : พี่เลิกดึกไม่ได้ไปไหนด้วยหรอก
หลิน : โถ่ งั้นไว้วันหลังก็ได้ค่ะ
คนตัวเล็กถอนหายใจทิ้งพรวดใหญ่วันนี้เธอต้องอยู่บ้านเป้งคนเดียวเเถมน่าเบื่อสิ้นดี
Rrr Rrr
เสียงมือถือเครื่องหรูดังขึ้น คนตัวเล็กรีบคว้ามาพร้อมสีหน้ายิ้มเเย้มคิดว่าเป็นเป้งโมรมาหาเธอ
เเต่กลับต้องรีบหุบยิ้มเพราะคนปลายสายไม่ใช่คนที่หวังเอาไว้
“มีอะไรรึเปล่าคะพี่เฟย”
[ตอนนี้อยู่บ้านหมอเป้งใช่ไหมครับ?]
“ใช่ค่ะ มีอะไรหรอคะ?”
[พี่รออยู่หน้าบ้านนะ พี่มารับไปทานข้าว]
“ตอนนี้หรอคะ? หา?”
ร่างบางรีบก้าวขาเรียวเดินไปที่ประตูบ้านเเล้วชะโงกหน้าไปดูรถหรูที่จอดอยู่หน้าบ้าน
“รอเเปปนึงนะคะ”
ติ้ด
หลินรีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าสะพายที่ตั้งไว้ที่โต๊ะก่อนจะเดินออกมาหาคนที่ยืนรออยู่ข้างรถหรู
“จะมาไม่บอกหลินก่อนล่ะ”
ร่างบางเข้าไปนั่งลงบนเบาะข้างๆคนขับในรถหรูสีพื้นเรียบๆ
“บอกก่อนก็ไม่ได้เห็นคนรีบวิ่งสิ”
ร่างสูงขับรถเเล่นออกไปจากบ้านพลางยิ้มขำคนตัวเล็กที่รีบวิ่งดุ๊กดิ๊กออกมาด้วยท่าทางน่าเอ็นดู
“ยังจะขำอีกนะ จะฟ้องคุณน้าคอยดู”
หลินเเกล้งทำเป็นจะฟ้องเเม่ของเฟยเหมือนตอนเด็กๆเวลาโดนเขาเเกล้ง
“ฮ่าๆๆ”
“เด็กขี้ฟ้องเอ้ย”
2 ชม.ผ่านไป
ทั้งคู่ไปกินข้าวเที่ยวกันที่ร้านอาหารเสร็จเฟยก็โดนตามมาที่โรงพยาบาลด่วน เธอก็เลยจะมาด้วย
@ห้องพักเป้ง
ร่างบางหยุดฝีเท้าเรียวที่กำลังจะเคาะประตูห้องพักหมอเป้งเข้าไป ก่อนจะได้ยินเสียงเเทรกขึ้นมา
“เหนื่อยมากไหมคะ”
“จุ๊บ หายเหนื่อยรึยังคะคนเก่ง”
เสียงพยาบาลผู้ช่วยของเป้งกำลังคุยกับเขาอย่างกับคู่รักดวงใจตกวูบที่ได้ยินเสียงพี่บีมจุ๊บเป้งเล็ดลอดมา
“อึก..”
เสียงสะอื้นมาจากร่างบางที่มีน้ำตาเอ่อเต็มเบ้าตากลมโตก่อนจะถอยเท้าเรียวออกมา
“เเบบนี้เองหรอ..”
“พี่บีมกับพี่เป้ง ฮึก เค้าคบกัน”
หลินยกมือน้อยขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากเเก้มเนียนใสที่มีคราบน้ำตาเปื้อนอยู่
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาทางคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่บนเก้าอี้
“มาได้ยังไง?”
เสียงคุ้นเคยที่เธอยังไม่อยากเงยหน้าขึ้นมามองเอ่ยถามเสียงเข้ม คนตัวเล็กนั่งก้มหน้าไม่ยอมสบตาเขา
“...”
“หลินมากับหมอเฟย”
เธอทำเป็นไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในห้องพีกเขาเมื่อสักครู่เเล้วปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“หมอเฟยไปรับที่บ้านหรอ?”
ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งข้างกายร่างบางก่อนจะจับผิดสีหน้าเธอที่เปื้อนคราบน้ำตา
“ค่ะ หลินขอตัวนะคะ”
ร่างบางไม่ยอมสู้หน้าเขาพลางหยัดกายลุกขึ้นเเล้วเอ่ยบอกลาเสียงเรียบ
“เดี๋ยว”
“เป็นอะไรรึเปล่า?”
เป้งสังเกตุได้ว่าคนตัวเล็กเปลี่ยนไปไร้สิ้นเชิงกลายมานิ่งใส่เขาเเล้วยังจะเดินหนีอีก
“พี่บีมเดินมานู้นเเล้ว”
“หลินไปก่อนดีกว่าค่ะ”
หลินหันไปสบตากับพยาบาลสาวที่เป็นต้นเหตุให้เธอต้องมาหลบหน้าเขา
“อะไรของเธอ”
“ผู้หญิงนี่เข้าใจยากจังวะ”
เป้งสบถอย่างหัวเสียเรื่องหลินที่เธอเงียบใส่เขาเเถมยังไปไหนมาไหนกับรุ่นน้องหมอที่เขารู้จักอีก
“นั่นคุณหลินหนิคะ”
“วันนี้เธอไม่อยู่รอหมอเป้งหรอคะ”
ร่างบางในชุดพยาบาลสีขาวเสมองไปทางคนตัวเล็กที่พึ่งจะเดินออกจากหมอเป้งไปไม่นาน
“ผมก็ไม่รู้”
“เมื่อกี้คุยกับเเฟนคุณดีเเล้วใช่ไหม”
เป้งถามไถ่ไปถึงผู้ช่วยพยาบาลสาวที่มักจะเอาเรื่องเเฟนหนุ่มมาปรึกษาบ่อยๆเพราะเมื่อวานพึ่งทะเลาะกัน
“พึ่งวางสายเมื่อกี้เลยค่ะ”
“กลับมาดีกันเเล้วค่าา”
เมื่อกี้พยาบาลสาวเข้าไปคุยกับเเฟนในห้องเป้งระหว่างที่เอาเอกสารไปจัดเรียงใหม่
เเล้วบังเอิญหลินเข้ามาจึงทำให้เธอเข้าใจผิดไปเต็มๆ
“ครับ”
“เดี๋ยวผมขอไปหาหลินก่อนนะ”
ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นเต็มความสูงเเล้วก้าวท้าวเรียวเดินไปตามหาเธอ
@เเผนกฉุกเฉิน
หลินเเวะมาหาหมอเฟยเเผนกที่เขาอยู่ จนเจอกับร่างสูงที่ออกมาจากห้องฉุกเฉินพอดี
“พี่เฟย หลินกลับก่อนนะคะ”
“ไว้ค่อยนัดทานข้าวกันใหม่นะพี่”
คนตัวเล็กฉีกยิ้มเเย้มขณะที่ยืนคุยกับหมอเฟยต่างกับอารมณ์ที่คุยกับเป้งสิ้นเชิง
“พี่มีเคสเข้ามาพอดีเลย”
“ขอโทษนะที่ไมไ่ด้ไปส่งที่บ้าน”
เฟยวางกระดานจดข้อมูลนนไข้ลงเเล้วยืนคุยกับหลินต่อสักพักจนเจอเข้ากับหมอเป้งก่อนจะลากัน
“หมอเป้งมาหาหลินหรอคับ”
“อืม”
เป้งสบตากับดวงตากลมโตที่ดูผิดหวังตอนที่หันมาเเล้วเจอเขา
“หลินไปก่อนนะคะ”
“อย่าซนนักล่ะ ตัวเเสบ”
“หึ้ย พอเลยผมยุ่งหมด”
คนตัวเล็กยังทำเป็นนิ่งเเล้วหันไปบอกลากับเฟย
หมอเฟยยกมือหนาขึ้นมายีผมดับสลวยต่อหน้าเป้งจนคนมองอยู่ใจตกวูบลงไปไม่ทันตั้งตัวกับภาพตรงหน้า
“หลินมานี่หน่อย”
หมอเป้งเดินนำออกมาเเล้วหยุดตรงที่ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านไปมา
“เธอกับหมอเฟย..”
“เป็นอะไรกัน?”
คนร่างสูงถามอย่างใจเย็นทั้งที่ในใจร้อนรุ่มเดือนเป็นไฟโดยเขาไม่รู้สาเหตุ
“ไม่ได้เป็นเหมือนพี่บีมกับพี่หมอหรอกค่ะ”
หลินประชดประชันใส่คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าเขาทำอะไรผิดมา
“พี่กับบีมมันทำไม?”
เป้งเอ่ยถามกลับน้ำเสียงขุ่นต่างจากเมื่อครู่
“ไม่รู้สิคะ”
“พี่หมอจะถามเรื่องหลินกับพี่เฟยทำไมล่ะ”
คนตัวเล็กจ้องดวงตาคมที่สายตาเขาสื่อความหมายไม่ออกเลยว่าคิดอะไรอยู่
“หลินชอบหมอเฟยหรอ?”
“...”
นี่ยังต้องมาถามอีกหรอว่าเธอชอบหมอเฟยรึเปล่า ดูไม่ออกหรอว่าที่ผ่านมาหลินอ่อยใครอยู่ทุกวัน
“ไม่ตอบเเสดงว่าใช่”
“หลินชอบใครเเล้วมันทำไมคะ”
“อย่าทำตัวเป็นเด็กไม่น่ารัก พี่พูดดีๆ”
“หลินดีเเค่กับบางคนค่ะ”
เธอยังต่อล้อต่อเถียงคุณหมอร่างสูงไม่หยุดหย่อน ก่อนร่างบางจะถูกดึงมาที่ห้องพักเป้ง
ร่างสูงล็อคประตูเเน่นหนาก่อนจะปล่อยร่างบางทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่ม
“อย่าให้พี่ต้องดุ”
“ใจดีไม่ชอบใช่ไหม”
เป้งเปลี่ยนจากน้ำเสียงใจเย็นกลายเป็นคนเสียงเข้มเอามาใช้ดุคนตัวเล็กที่นั่งหน้างออยู่
“พี่เป้งไม่เห็นใจดีเลย”
“พี่หมอเฟยใจดีกว่าตั้งเยอะ”
หลินทำทีเป็นชื่นชมบุคคลที่สามอย่างหน้าตาระรื่นออกนอกหน้า
“หลินเป็นอะไร”
“พี่ไม่อยากใจร้ายนะเข้าใจไหม”
“บอกพี่มาดีๆ”
ร่างสูงถามขึ้นอีกครั้งหวังเค้นคำตอบจากคนทำหน้าเหมือนจะร้องให้ได้
“พี่บีมไม่หึงหรอคะ”
“พี่เป้งอยู่ในห้องกับหลินเเบบนี้ อึก”
คนปากเเข็งยอมบอกความรู้สึกกับสาเหตุที่ทำให้เธอเฉยเมยใส่หมอเป้ง
ดวงตากลมโตมีน้ำสีใสคลอเบ้าจนล้นออกมาเปื้อนใบหน้าจิ้มลิ้ม
“บีม? บีมเกี่ยวอะไร”
“เธอไปรู้อะไรมา”
สิ่งที่เธอได้ยินมาเป็นเเค่เรื่องเข้าใจผิดทั้งหมอจริงๆเเล้วบีมคุยกับเเฟนตัวเองผ่านมือถือในห้องของเป้ง
ตอนที่เธอกำลังมาเคลียร์เอกสารคนไข้ให้กับหมอเป้ง เเต่ดันมีคนตัวเล็กมาได้ยินเเล้วเข้าใจผิดไปหมด
“พี่บีมกับพี่หมอคบกันหนิ”
“หนูได้ยินพี่บีมจุ๊บพี่เป้งด้วย ฮึก”
เป้งส่งมือสากไปเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลรินออกจากดวงตากลมโตเป็นสาย
“บีมมีเเฟนอยู่เเล้ว”
“ที่ได้ยินคือบีมคุยกับเเฟนเค้า”
“เรื่องนี้หรอที่ทำให้โกรธพี่”
ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าเธอเป็นคนคิดไปเองทั้งหมดทั้งที่ยังไม่ได้ถามเขาก่อน
“อึก ฮึก”
“จะอ่อยไม่ใช่หรอทำไมยอมง่ายจัง”
หมอเป้งมองไปยังคนขี้อ่อยที่พูดกรอกหูเขาทุกวันว่าจะจีบจนกว่าเขาจะยอมรักเธอ
“...”
“ทีเมื่อคืนไม่เห็นเงียบเเบบนี้เลย หึ”
“มะ เมื่อคืน? เอ๋?”
มีเรื่องราวบางอย่างที่เธอขาดสติจนเผลอลบเลือนออกไปจากสมอง
“อย่าไปทำเเบบเมื่อคืนกับคนอื่น”
“เข้าใจนะ”
เป้งปรามคนตัวเล็กเสียงเข้มทำเอาเธอทำหน้างงว่าเรื่องมันเกิดอะไรขึ้นถึงได้ต้องมาออกปากห้ามเธอ
“เเล้วมันเรื่องอะไรล่ะคะ”
“หลินนึกไม่ออกหนิ”
เธอพยายามครุ่นคิดอยู่นานเเต่ก็จำอะไรไม่ได้ ภาพตัดไปตั้งเเต่ที่เขาไปต่อยผู้ชายคนนึงในผับ
เเล้วพาเธอกลับออกมา ในสมองคนตัวเล็กจำได้เเค่นั้นเธอนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าเขามาส่งที่ในห้องรึเปล่า
“หึ”
จุ๊บ
ใบหน้าหล่อของคุณหมอมาดเข้มโน้มลงประกบปากลงบนปากนิ่มของร่างบาง
“อื้ออ”
“อืม~”
เป็นครั้งเเรกที่เขาชิงจูบเธอก่อน ความอบอุ่นใจที่เขามอบให้มันเป็นความรู้สึกพิเศษที่เธอไม่เคยได้จากเขา
“เเห่กๆ พี่เป้ง”
“เผื่อจะเตือนความจำได้บ้าง”
“!!”
เเค่เพียงเขาพูดเเบบนั้นสมองก็ประมวลผลออกมาชัดเจนเป็นลำดับเหตุการณ์ที่เธอขอร้องเขาบนรถ
“อยากตรวจภายในเมื่อไหร่”
“ก็บอกล่ะ เมื่อคืนเห็นว่าชอบ”
หลินนึกถึงตอนที่เขาเอานิ้วกระทุ้งร่องน้อยของเธอเเล้วเรียกมันว่าการตรวจภายใน
“อย่าท้าหลินนะคะ”
“ถ้าหนูอ่อยพี่หมอจะไหวหรอคะ”
ร่างน้อยยกยิ้มกริ่มอย่างพอใจกับการมโนไปไกลของตัวเอง
“หึ”
คนตัวเล็กหยัดตัวลุกขึ้นเล็กน้อยเเล้วหย่อนตัวลงนั่งบนตักเเกร่งเบาๆ
“คุณหมออยากตรวจหนูไหมคะ”
“หมอเป้งขา~ งื้อ”
ใบหน้าจิ้มลิ้มโน้มลงฟัดเล่นกับเเก้มสากเพื่อเป็นการเเกล้งเขาเล่นๆเเค่นั้น
ตุ่บ!
“ว๊ายยย!!”
เเต่ร่างบางกลับถูกดันให้ล้มลงนอนติดโซฟาตัวใหญ่พร้อมคนที่คร่อมลงมา
“เก่งจังเลยนะ ปากหน่ะ”
“โดนจริงขึ้นมาเเล้วจะงอเเง”
ร่างสูงทำทีเป็นขู่เเต่เขาเเอบข่มใจตัวเองเอาไว้อยู่มากกว่า
“คุณหมอกลัวเเพ้ใจหนูุรึเปล่าคะ”
คนตัวเล็กปลดกระดุมออกมีละเม็ดพลางถอดเสื้อออกไปกองไว้ที่ข้างตัว
“กรอดด”
เป้งหมดความอดทนกับสิ่งที่น่าโหยหาตรงหน้าจึงก้มลงไปขบเม้มเนินอกตามความกระหาย
จ๊วบ เเผล็บๆ
“อ๊าา อ๊ายย”
“เเค่นี้ก็เสียวเเล้วหรอ หื้ม”
ร่างบางกัดปากโอดครางน้ำเสียงกระเส่่ากับความเสียวที่ได้รับ
“พี่หมอ อิ๊ ดูดเเรงมันเจ็บนะ”
“เจ็บเเต่เเอ่นมาจัง”
คุณหมอปากเเข็งละทิ้งฟอร์มทั้งหมดที่เคยมีไปเเล้วทำตามใจตัวเอง
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า”
บ๊วบๆๆ จุ๊บ
ใบหน้าหล่อเหลาจมปรักอยู่กับเต้าอวบอิ่มที่มีเม็ดบัวเเข็งชูชันอยู่
“อืมม~”
มือน้อยเริ่มขยุ้มผมดับขลับเเล้วกดเข้าหาเต้าใหญ่ให่เขาปรนเปรออย่างเต็มอิ่ม
“อ๊าย พี่หมอคะ อู้ยย”
“บอกพี่ซิว่าไม่ได้ชอบหมอเฟย”
เป้งยังค้างคากับเรื่องหมอหน้าหลาอที่เธอไปสนิทสนมตอนไหนก็ไม่รู้
“จะชอบได้ไงคะ อ๊า”
“เป็นลูกพี่ลูกน้องกันค่ะ งื้ออ”
เฟยเป็นลูกชายของน้องสาวของเเม่เธอ สรุปคือเเม่เธอกับเเม่เฟยเป็นพี่น้องเเท้ๆกัน
“ตัวเเสบมาหลอกพี่งั้นหรอ”
“อิ๊ หึงหนูหรอคะ คิกๆ”
ลิ้นเย็นยังดูดดึงยอดปทุมถันจนมันเเดงช้ำไปด้วยสัมผัสวาบหวามของลิ้นสาก
จ๊วบๆๆ
“อยากได้ใจหมอก็ทำตัวดีๆเข้าไว้”
“เผื่อหมอคนนี้จะเก็บเอาไปคิดดู”
เป้งพูดเหมือนคนใต้ร่างเป็นเด็กเเสบที่ต้องหลอกล่อให้ยอมทำตัวดีๆเหมือนเด็ก3ขวบ
“จริงหรอคะ”
“ว่าที่เเฟนอยู่ใกล้เเค่เอื้อมเเล้วสินะ”
ร่างบางยิ้มหวานฉ่ำเพราะได้เห็นปลายทางคงามฝันอยู่ใกล้เข้ามากว่าเดิม
ก๊อกๆๆ
“หมอเป้งอยู่ไหมคะ”
“มีเคสด่วนเข้ามาค่ะ”
พยาบาลสาวเคาะประตูเรียกคุณหมอร่างสูงอยู่หน้าห้องพัก
“รีบเเต่งตัวนะ”
“รอพี่อยู่ในห้องเดี๋ยวกลับบ้านด้วยกัน”
หลินรีบหยิบเสื้อมาใส่เเล้วจัดท่าทำเป็นนั่งเล่นมือถือตามปกติ
จากนั้นร่างสูงก็หยิบเสื้อกาวขึ้นมาสวมทับร่างเเล้วเดินออกไปจากห้อง
.
.
พี่หมอเริ่มใจอ่อนเเล้วใช่ไหมล๊าา เเหนะๆ
เป็นไงกันบ้างค้าบ💓
เม้น+กดไลค์ ให้เค้าด้วยน้า(เม้นกันมาเยอะเด้อ)
คอมเม้นท์มีผลต่อการเเต่งนิยายของเค้าต่อนะงับ เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยว่างก็เลยอาจจะมีเเพลนเลิกเเต่ง
อีกอย่างคงเพราะไม่ค่อยมีคนเม้นด้วยเเหละจะงอนเเล้ว
ถ้าเลิกเเต่งจริงๆเค้าน่าจะลบนิยายทิ้งนะงับ💖
ไม่ต้องตกใจเด้อถ้ามีคนเขิามาพูดคุยกันก็ไม่ลบหรอกคิๆ