(ต่อ)
คืนนั้นคนที่ไม่อยากกลับบ้านก็ออกไปเที่ยวเตร่โดยไม่สนใจน้ำตาแห่งความห่วงใยของมารดาอีกเลย มาวินเริ่มทำตัวออกนอกลู่นอกทางตามกรอบที่คุณหญิงวารีวางเอาไว้ จากเด็กที่เอาแต่พยักหน้ารับ เชื่อฟังทุกอย่าง กลับกลายเป็นคนละคนจากวันวานโดยสิ้นเชิง ทว่าแม้จะพยายามแข็งข้อแค่ไหน
สุดท้าย ‘ลูก’ ก็ยังคงพ่ายแพ้ให้น้ำตาของผู้ให้กำเนิดในที่สุด
“เตรียมตัวแต่งงานซะ!” คุณเตชินเดินทางมาหาบุตรชายทันทีในวันรุ่งขึ้น สีหน้าของชายสูงวัยเคร่งเครียด ไม่พอใจเรื่องความประพฤติของลูกชายมาก จากที่เคยคิดว่ามาวินเปลี่ยนไปเพราะคบเพื่อนไม่ดี แต่พอมาถึงวันนี้ ท่านเริ่มไม่แน่ใจตกลงตอนไหนคือนิสัยที่แท้จริงของบุตรชาย
ประกาศิตนั้นดูเหมือนจะส่งผลต่อความรู้สึกของมาวินพอสมควร ชายหนุ่มขบกรามแน่น กำมือระงับอารมณ์ของตนจนเส้นเลือดเขียวเข้ม เพราะหลังจากออกคำสั่ง บิดาก็จากไปทันที
เขาปึงปังกลับขึ้นมาบนห้อง ทุบทำลายข้าวของด้วยความกรุ่นโกรธ เจ็บปวดกับทุกอย่าง สับสน และหมดสิ้นหนจนต้องเข้ารับการรักษาอาการทางจิตเภทที่เพิ่งดีขึ้นตอนอยู่ที่อเมริกา แน่นอนว่าเรื่องนี้ชายหนุ่มไม่ได้ปริปากบอกใคร เขาทุกข์ใจในทุกเรื่องเพียงลำพัง จนกระทั่งหมดหวังจริงๆ
สุดท้ายเมื่อค้นพบความว่างเปล่ากับความพยายาม ‘เป็นอิสระ’ มาวินก็กลับมาพยักหน้า เชื่อฟังทุกคนดังเดิม
สิ้นสุดความพยายามต่อต้านโดยสินเชิง ก้าวขาเดินตามเส้นที่มารดาขีดเขียนให้อย่างไม่ปริปากบ่น ก้มหน้าเดินไปเงียบๆ อย่างที่เคยทำ
“พี่วิน!” เสียงร้องเรียกดังมาพร้อมร่างระหง ใบหน้างดงามแต่งแต้มมาอย่างดีพร้อมรอยยิ้มฉีกกว้าง ทว่าแววตาคู่นั้นกลับถือดี และหยิ่งผยองจนเขาลอบถอนหายใจ ปิดกระตูรถ แล้วเดินตรงเข้าไปหา รับร่างที่โถมถับเข้ามาเอาไว้ลวกๆ ก่อนดันออกอย่างให้เกียรติ
“มาแล้วเหรอลูกวิน” คุณหญิงรจเรศเดินตามออกมา ใบหน้าสะสวยสมกับเป็นอดีตนางงามคล้ายคลึงกับบึตรสาวราวกับคนคนเดียว แม้กระทั่งแววตายังหยิ่งผยองไม่ต่างกันด้วย
มาวินเพียงยิ้มบางๆ ผละจากร่างของกวินตรา เดินตรงไปหาผู้ใหญ่อย่างมีสัมมาคาระ ทว่าจังหวะที่เขากำลังจะยกมือพนมไหว้ สองแขนของบุตรสาวเจ้าของบ้านก็ฉวยกอดเต็มแรง ชายหนุ่มไม่ได้ตั้งตัวจึงเซไปเล็กน้อย ขบกรามด้วยความอึดอัดใจหากก็ยังปั้นรอยยิ้มขึ้นมาต่อได้
“สวัสดีครับคุณน้า”
คุณหญิงรจเรศรับไหว้ด้วยใบหน้าอิ่มเอิบ แกล้งส่งสายตา และเอ่ยตำหนิบุตรสาวสั้นๆ อย่างไม่ให้ดูเกินงามนัก
“ยัยวินนี่คงคิดถึงพี่วินของเขามากไปหน่อย วินอย่าถือสาน้องเลยนะลูก”
มาวินไม่ได้ตอบสิ่งใด เพียงปั้นยิ้มอบอุ่นส่งไปเท่านั้นเอง แม้ลึกๆ จะไม่ชอบใจในกิริยาไม่สงวนท่าทีของสองแม่ลูก แต่เขาก็ไม่อาจตัดสินใจเอ่ยคำพูดรุนแรงออกไปได้ อย่างไรหญิงสาวที่กอดแขนของเขาแน่นก็เป็นเพียงหญิงสาวที่เพิ่งเติบใหญ่ หากจะต้องโทษก็คงต้องโทษที่การเลี้ยงดู
กวินตราเป็นบุตรสาวของคุณหญิงรจเรศ วรโชติพงศ์ นามสกุลเดิมคือ เลิศสกุล ครอบครัวเป็นมหาเศรษฐีที่ใครๆ ก็อยากเกี่ยวดอง เพราะเหตุครอบครัวของคุณชินกรจึงบีบคั้นให้แต่งงานกัน คนในวงสังคมต่างรับรู้การ ‘ได้มา’ ของสามีที่ไม่ชอบธรรมของคุณหญิงรจเรศ การพรากผัวพรากเมีย พรากแม่พรากลูกในครั้งนั้นส่งผลให้คุณหญิงอับอายขายหน้าพอสมควร แต่ท่านใช้คำว่า ‘ความรัก’ กลบฝังความผิดชอบชั่วดีไปจนหมด
อดีตภรรยาทางพฤติในของคุณชินกรตรอมใจตาย เพราะรับไม่ได้ที่สามีต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ครอบครัวหาให้หลังจากคลอดบุตรสาวได้เพียงห้าเดือน คุณหญิงกลัวข้อครหาในวงสังคมหนักขึ้นจึงรับเด็กคนนั้นเข้ามาในบ้าน และเด็กคนนั้นก็คือ… กลอยใจ เด็กหญิงผู้มีรอยยิ้มจริงใจให้แก่เขาเพียงคนเดียว คนที่รับฟังเขาเงียบๆ ยิ้มใจ ปลอบใจด้วยรอยยิ้มเดียวที่แสนพิเศษเสมอมา
ทว่าความสัมพันธ์ของเขา และเธอไม่อาจเป็นไปได้ ตราบใดที่เขายังเป็นทายาทของเลิศวรานนท์ แม้ยังไม่ได้ใช้นามสกุลนั้น แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร วอนขอมากแค่ไหน สุดท้ายคำตอบของมารดาก็คือ…
“ถ้าแกคิดจะแต่งงานกับคนอื่น แกต้องรอให้แม่ตายก่อน!”
มารดาของเขามีอาการซึมเศร้าระยะแรก เขาจึงไม่อาจทำสิ่งใดให้กระทบกระเทือนจิตใจของท่าน เพราะอาการป่วยจิตเภทของมารดามีผลมาจาก… การหย่าร้างกับสามี และการถือกำเนิดของวาคิน
ท่านสนับสนุนกวินตราให้เป็นคู่หมายของเขาตั้งแต่อีกฝ่ายยังไม่เกิดด้วยซ้ำ แม้ตอนนี้กวินตราจะเป็นเพียงเด็กสาวมัธยมปลาย ในขณะที่เขาอายุใกล้สามสิบ ทว่าแผนที่วางเอาไว้ อย่างไรก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง มิหนำซ้ำกวินตรายังชื่นชอบเขามากมายนัก แทบจะแต่งงานกับเขาทันทีที่อีกฝ่ายใช้นางสาวด้วยซ้ำ
แม้จะยังไม่ได้หมั้นหมายกันอย่างเป็นทางการ แต่ข่าวของเขากับทายาทคนเดียวของเลิศวรานนท์ก็ไม่ใช่ข่าวลือ จะอย่างไรสักวันเขาก็คงต้องแต่งงานกับเธอ ต่อให้ไม่เต็มใจแค่ไหน แต่เจ้าสาวที่เขาต้องสวมแหวนให้ในวันสำคัญเดียวของชีวิตก็คงเป็นกวินตรา ไม่อาจ… เป็นกลอยใจไปได้อย่างแน่นอน
มาวินแค่นยิ้ม ก้มหน้าลงมองมือที่กอดแขนตนเองเอาไว้แน่น แล้วเงยหน้าขึ้น
ร่างผอมบางคุ้นตา ใบหน้าอ่อนหวาน และดวงตากลมโศกคู่เดิมอยู่ใกล้ในระยะสายตา
ทว่า… สิ่งที่เขาทำได้ก็คือเดินผ่านเลยไปอย่างไม่อาจไขว่คว้าเธอมาไว้ในอ้อมแขนได้ ไม่ว่าจะวันนี้ พรุ่งนี้ หรืออีกหลายปีผ่านไป
เขาก็ยังคง ‘ไม่กล้า’ แสดงออกถึงความรู้สึกที่มีต่อเด็กหญิงตัวน้อยในความทรงจำที่คอยยิ้มแย้มให้ มองมาอย่างชื่นชมบูชา และ… ห่วงใย
เด็กหญิงตัวน้อยผู้เป็นรักแรกของเขา…
**** เนื้อหายังมีติดขัดต้องขออภัยนะคะ
ฝากหนูอัยย์กับมาวินด้วยนะคะ
เนื้อหาที่ลงยังไม่มีการปรับแก้ ตรวจคำผิด
อาจมีบางส่วนผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด ทุกๆ เรื่องเลยนะคะ
รัก... เอริณ