(ต่อ)
“ช่วยคุณหญิงด้วยครับ”
เขาไม่ได้เอ่ยว่า ‘เรา’ แต่เอ่ยถึงมารดาผู้เป็นที่รักอย่างตรงไปตรงมา
คุณเตชินถอนหายใจเบาๆ โน้มตัวลงประคองร่างของบุตรชายคนเล็กของอดีตภรรยาขึ้น จ้องมองใบหน้าเด็ดเดี่ยวกับดวงตาสีเทาเข้มของอีกฝ่ายอย่างพิจารณา
ไม่ได้ตอบรับทันที หากก็ครุ่นคิดอย่างหนักเช่นกัน
สถานการณ์ปัจจุบันของแอลเอ็นกรุ๊ปเป็นเช่นไร เหตุใดเขาจะไม่รู้ แม้จะไม่ได้ข้องเกี่ยวกับวงการธุรกิจแล้ว ปลีกตัวออกมาใช้ชีวิตบั้นปลายในสวนในไร่ที่จังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออกนานแล้ว แต่ก็ยังอดเป็นห่วงผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ต้องแบกรับความรับผิดชอบมากมายอยู่เหมือนกัน
“วา” ชายสูงวัยเรียกได้เพียงชื่อเล่นของเด็กหนุ่มตรงหน้า สับสนในใจมากพอๆ กับรู้สึกผิด เพราะรู้ดีว่าเหตุใดหุ้นแอลเอ็นกรุ๊ปที่ลดฮวบถึงร่วงกราวราวเม็ดฝนเช่นนี้
ทว่าท่านไม่อาจทำสิ่งใดได้ ตักเตือนแล้วอย่างไร ในเมื่อท่านกับบุตรชายเพียงคนเดียวเป็นดั่งเช่นเส้นขนานที่ไม่อาจบรรจบกันได้ ต่อให้พูดอะไรออกไป ยากนักที่มาวินจะเชื่อฟัง และเหนือสิ่งอื่นใด ท่านไม่รู้จักบุตรชายคนเดียวของตนอีกต่อไป
ตั้งแต่วันนั้นมาวินก็เหมือนคนแปลกหน้าที่ท่านไม่รู้จัก ยามพบเจอกันใบหน้ายิ้มแย้ม หากนัยน์ตาคู่นั้นกลับไร้แสง
คุณเตชินมองหน้าวาคินนิ่งนาน กระทั่งหัวใจอ่อนไหวให้สายตามุ่งมั่นของเด็กหนุ่มจนไม่อาจปฏิเสธคำขอหนักแน่นนี้ได้อีก มือหนาเอื้อมไปแตะเบาๆ ที่ศีรษะของอีกฝ่าย ลูบแผ่วๆ พร้อมส่งยิ้มเอื้ออาทรให้
“ได้ ลุงจะช่วย” ใบหน้าอบอุ่นคล้ายมาวินทอประกายอ่อนโยนพร้อมรอยยิ้มใจดีส่งผลให้วาคินคลี่ยิ้มบางๆ ออกมาในที่สุด
“ขอบคุณมากครับ”
คุณเตชินมองส่งบุตรชายคนเล็กของอดีตภรรยาจนร่างสูงแผ่นหลังตั้งตรงเดินขึ้นรถจนควันสีหม่นจากท้ายรถยุโรปสีดำคันนั้นจางไปนานแล้ว ท่านจึงถอนหายใจออกมาแรงๆ
ในขณะที่วาคินวิ่งพล่านเพื่อหาทางยื้อลมหายใจของแอลเอ็นกรุ๊ป ช่วยเหลือมารดาของตนอย่างสุดกำลัง แม้คนที่อีกฝ่ายพยายามช่วยเหลือจะไม่เห็นความพยายามในครั้งนี้สักกระผีกเดียวก็ตาม ทว่ามาวินกลับทำทุกอย่างตรงกันข้ามกับน้องชาย บุตรชายของท่านผู้เป็นดวงใจของมารดากลับเหยียบย่ำแอลเอ็นกรุ๊ปซ้ำลงอีก สะบัดแขนออกจากหน้าทีโดยไม่หันกลับมามองของที่ต้องเป็นของตนราวกับว่านี่เป็นสิ่งที่อีกฝ่ายไม่ปรารถนาจะเฉียดใกล้
เลิศวรานนท์เป็นนามสกุลของฝั่งมารดา แต่พงษ์ไพบูลย์คือนามสกุลของท่าน มาวินยังเป็น มาวิน พงษ์ไพบูลย์จนถึงขณะนี้ หากอีกไม่นานบุตรชายคนเดียวของท่านก็คงต้องเป็นเลิศวรานนท์อย่างเต็มตัวตามพินัยกรรมของหม่อนหลงกีรติ และนี่คงเป็นเหตุผลสำคัญให้อีกฝ่ายเกลียดชังทุกคนที่คอยขีดเส้นตีกรอบให้อีกฝ่ายต้องเดิน
ในขณะที่วาคินเลือกใช้ความเย็นชากลบฝังความเย็บปวด และปกป้องตนเอง มาวินกลับเลือกจะสวมหน้ากาก ‘คนดี’ สะท้อนความเจ็บปวดของตนเอง ชายหนุ่มกลายเป็นคนกักเก็บความรู้สึกมาโดยตลอด อาจเพราะหนึ่งในเหตุผลนั้นก็คือ… การเป็นตัวแทนของท่าน คุณหญิงวารีสร้างทุกอย่างเพื่อบุตรชายสุดที่รัก ขีดเส้น สร้างกรอบเอาไว้ให้บุตรชายคนโตเดินเพียงเท่านั้น จนมาวินแทบจะเดินเองไม่ได้ สุดท้ายใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของอีกฝ่ายก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งในแบบแผนที่ผู้เป็นแม่สร้างให้
กระทั่งบิดาเช่นท่านก็ยังไม่แน่ใจว่า รอยยิ้มไหนคือรอยยิ้มจริงๆ จากหัวใจของบุตรชาย และลึกๆ ในหัวใจดวงนั้นบุตรชายคนเดียวกำลังคิดทำสิ่งใดกันแน่
“วิน…” น้ำเสียงเอ่ยเรียกหาบุตรชายเบาจนแทบเป็นเสียงกระซิบ ใบหน้าอวบอูมแต่มีเค้าหล่อเหลาเหมือนบุตรชายเงยหน้าขึ้นมองแสงตะวันที่สาดกระทบดวงหน้า จ้าจนต้องหรี่ตาลง
ครั้งนึงบุตรชายของท่านก็เคนสว่างสดใสเช่นนี้ ทว่าวินาทีที่ท่านก้าวจากมา ความสว่างไสวในแววตาของมาวินก็ค่อยๆ เลือนหายไป
คุณเตชินเข้ามาช่วยบริหารแอลเอ็นกรุ๊ปตามคำขอร้องของวาคิน ท่านเป็นคนมีความสามารถเพียงไม่ถึงปี บริษัทอสังหาริมทรัพย์เก่าแก่ที่ทำท่าจะล้มไม่เป็นท่าก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง หลายอย่างปรับเปลี่ยนไปในทางที่ถูกที่ควร หลายคนที่เข้ามาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ และทอดทิ้งแอลเอ็นกรุ๊ปในยามระส่ำระสายก็ถูกกำจัด เพราะเป็นคนเก่ง มีความสามารถ แถมที่นี่ยังเคยเป็นบริษัทที่ท่านบริหารงานมาหลายปี ทั้งต่อไปบุตรชายคนเดียวอาจต้องรับหน้าที่ดูแลมันต่อ ท่านจึงลงมือปรับเปลี่ยน และดูแลในหลายส่วน คัดคนอย่างดีเพื่อวางในหน้าที่ที่เหมาะสม
รอ… รอเพียงให้มาวินกลับมาดูแลที่นี่ต่อ ไม่ว่าจะอ่อนประสบการณ์แค่ไหน แต่บริษัทที่มีรากฐานมั่นคงย่อมไม่สั่นครอนอย่างแน่นอนอ
ทว่า… มาวินคงไม่คิดเช่นนั้น
ปัง!
ฝ่ามือหนาเหี่ยวย่นทุบลงบนโต๊ะทำงานภายในห้องเสียงดังลั่น หนังสือพิมพ์ธุรกิจฉบับวันพรุ่งนี้ที่กำลังจะถูกจำหน่วยในมือกำแน่น ก่อนจะถูกโยนทิ้งลงไปในถังขยะข้างโต๊ะทำงานทันที
‘คั่วไม่เลือก ลูกชายคนเดียวของตระกูลเศรษฐีตกอับใช้ชีวิตราวเจ้าชายเสเพลในต่างแดน คบผู้หญิงไม่เลือกหน้า เปลี่ยนผู้หญิงซ้ำคน จนได้ฉายาว่ามาฟันเป็นที่เรียบร้อย!’
ใบหน้าใจดีเป็นนิดบิดเบ้ ดูดวงตาคมปราบแสนอ่อนโยนเรืองรองขึ้นมายามตวัดสายตาหาเลขาของตน
“คุณตุลาผมไม่ได้แจ้งคุณหรือว่าให้ส่งคนไปควบคุมความประพฤติของมาวินเอาไว้”
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ใบหน้าเรียบนิ่ง ผิวสีแทนก้มหน้าลงเล็กน้อย ขานตอบเสียงฉะฉานไม่หวาดหวั่น
“ผมส่งคนไปแล้วครับ แต่คุณมาวินให้คนของตัวเองกระทืบจนคนของผมต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ในโรงพยาบาลครับ”
คราวนี้คนฟังหลับตาลง ขบกรามกรอดจนเป็นสันนูนเด่นชัด
บุตรชายของท่านแตกต่างอย่างชัดเจนกับวาคิน
ทั้งๆ ที่เกิด และเติบโตมาสมบูรณ์พร้อมกว่าน้อง ยิ่งเรื่องของความรักที่มารดามีต่อตนยิ่งห่างไกล แต่กลับทำตัวเลวร้ายราวกับไม่ใช่สายเลือดสูงศักดิ์ ทว่าท่านก็พอมองออกว่าเหตุใดมาวินจึงกลายเป็นคนเช่นนี้
หลายเดือนก่อนตอนเข้ารับหน้าที่ดูแลแอลเอ็นกรุ๊ปช่วยอดีตภรรยา ท่านเคยโทรไปหาบุตรชายครั้งหนึ่ง ทว่ามาวินไม่ยอมพูดคุยด้วย ให้ลูกน้องของตนมาถ่ายทอดคำสั่งเท่านั้น
ท่านโกรธมาก และทุกวันนี้ก็ยังคงโกรธ
“เจ้าคนนั้นมันชื่ออะไรแล้วนะ” ท่านหมายถึงคนสนิทที่บุตรชายพกไปไหนมาไหนเป็นลูกคู่ตลอดเวลา
“คริส เมอร์สันครับ”
ถ้าจะจัดการบุตรชาย ก่อนอื่นเลยเขาต้องจัดการหมอนี่ก่อน
“หาตั๋วไปอเมริกาแบบด่วนที่สุด ผมจะพาคุณไปเที่ยวฟลอริด้าคุณตุลา”
ตุลารับคำก่อนค้อมกายแล้วล่าถอยออกไป
คล้อยหลังเลขาจากไปได้ไม่นาน คนที่นั่งบนเก้าอี้ประธานจึงถอนหายใจทิ้งแรงๆ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ท่านก็ยังไม่แน่ใจว่าต้องแก้ไขส่วนไหนก่อน ตัวเอง คุณหญิงวารี หรือว่า… มาวิน
ตั้งแต่บิดามารดาเลิกรากันแบบไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มาวินก็เหมือนจะเปลี่ยนไป จากเด็กที่ร่าเริงสดใสกลับกลายเป็นเพียงคนสวมหน้ากากรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา นั่นมันเริ่มตอนไหน คุณเตชินครุ่นคิดแล้วหลับตาแน่น เพราะ…
ท่านจำไม่ได้… ว่าครั้งสุดท้ายที่ใส่ใจบุตรชายมันเมื่อไหร่กัน
ตั้งแต่เลิกกับแม่ของลูกไป อดีตพ่อตาก็คัดค้านการพบกันอีก คุณหญิงวารีเสียใจจนหอบความเจ็บปวดไปพักใจที่อิตาลี และที่นั่นท่านก็ให้กำเนิดวาคิน ทว่าเมื่อถูกเรียกตัวกลับมาอีกครั้ง เด็กน้อยที่เพิ่งถือกำเนิดกลับไม่ได้ถูกพามาด้วย เรื่องราวเหล่านี้อยู่ในสายตาของอดีตสามีเช่นท่านมาตลอด หากคุณเตชินเลือกจะเงียบ กลบฝังอดีตกับความรู้สึกทุกอย่างไว้กับความหลัง ย้ายตัวเองไปทำไร่ทำสวนยังจังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออกเพียงลำพัง
ทุกครั้งที่มีคนทวงถามหาสาเหตุของการเลิกรากัน ท่านจะบ่ายเบี่ยง แม้กระทั่งคำถามนั้นจะมาจากมาวินก็ตาม
หากต่อมาเมื่อเวลาผันผ่าน หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป แม้กระทั่งบุตรชายคนเดียว คุณเตชินก็เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น ท่านกำลังนำความรู้สึกเจ็บแค้น ทุกข์ตรมในอดีตฝังลงไปในหัวใจของลูกโดยไม่รู้ตัว และไม่ใช่เพียงท่านเท่านั้นที่ทำ แต่คุณหญิงวารีเองก็ทำเช่นกัน
“ถ้าพ่อเล่าให้เจ้าฟัง เจ้าจะเป็นยังไงวิน เลวร้ายกว่านี้หรือดีกว่านี้กันนะ”
ชายสูงวัยถอนหายใจทิ้ง ปล่อยให้หยดน้ำที่เอ่อคลอข้างในหน่วยตารินรดสองข้างแก้มสากหยดแล้วหยดเล่าอย่างเศร้าเสียใจ
มาวินไม่ควรรู้… ไม่ควรรู้เลยจริงๆ ว่ามารดาของแกทรยศบิดาเช่นไร…
**** เนื้อหายังมีติดขัดต้องขออภัยนะคะ
ฝากหนูอัยย์กับมาวินด้วยนะคะ
เนื้อหาที่ลงยังไม่มีการปรับแก้ ตรวจคำผิด
อาจมีบางส่วนผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด ทุกๆ เรื่องเลยนะคะ
รัก... เอริณ