“เห้ย !! …“เป็นเอกตกใจเมื่อหันไม่มองที่มาของเสียง เด็กน้อยอายุประมาณสามสี่ขวบได้ นั่งกับพื้นเงยหน้าขึ้นมา แบะปากเหมือนจะร้องให้ที่โดนเบียดจนล้มก้นกระแทก
“อ้วน อ้วน …”เป็นเอกไม่รู้จะทำยังไง เขาไม่เคยอุ้มเด็กหรือเล่นกับเด็กมาก่อนเลยทำไม่เป็น
“เอกมีอะไรเหรอครับ …“คนอ้วนที่กำลังโดนเด็กรุมอวดผลการเรียนกันอยู่ เงยหน้าขาวอวบอิ่มที่มีหงื่ิอเริ่มไหลเป็นทางตามหน้าผากมล และแก้มขาว ถึงจะอยู่ไต้ต้นไม้แต่อากาศมันก็ร้อนมากและมีเด็กๆมารุมกันแบบนี้ก็ร้อนสุดๆได้เหมือนกัน
“เด็ก เด็กน้อยล้มอยู่ …“เป็นเอกชี้ให้ดูตามที่ตัวเองเห็น เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา แล้วเอื้อมไปจนสุดแขนเพราะเด็กรุมล้อมคนอ้วนเอาไว้ เพื่อเช็คหน้าขาวอวบอิ่มที่เต็มไปด้วยหงื่อให้อย่างเบามือด้วยความทะนุถนอม สบตาแล้วยิ้มให้กันอย่างรู้กันว่ารู้สึกอะไรอยู่
“เอก !! อุ้มน้องขึ้นมาหน่อยครับ … “ปลาวาฬโดนเด็กๆรุมอยู่ไม่สามารถออกมาได้
“อุ้ม !!! อุ้มยังไง … “เป็นเอกเก้ๆกังๆ ก้มลงไปจับไหล่เล็กบอบบางทั้งสองข้างให้ลุกขึ้น ท่ามกลางสายตาลุ้นๆของคนอ้วนที่แอบยิ้มมุมปากนิดๆ เขาอยากให้คนรักมีความอ่อนโยนขึ้นมาบ้าง เลยอยากให้ลองอยู่กับเด็กดูก็ดีเหมือนกัน
“ขอบคุณคร๊าบ …“เด็กน้อยมองหน้าคนที่ช่วยตัวเองแล้วยิ้มให้จนตาหยี
“อื้ม ไม่เป็นไร …“เป็นเอกทำหน้าไม่ถูก เมื่อสายตาของเด็กที่มองมา มันไร้เดียงสาจนเป็นเอกต้องหลบตาลงมองพื้นหน้าร้อนพร่าว ไม่ใช่อะไร เขาพี่งได้รับคำขอบคุณจากสิ่งที่เขาทำเพื่อคนอื่นโดยที่อะไรเขาก็บอกไม่ถูก แต่มันก็ทำให้เขาอิ่มใจแปลกๆถึงจะเล็กน้อยก็เถอะ
“ไอ้หนึ่ง มึงมาได้ไงเนี่ย …”เด็กคนที่ตัวประมาณเจ็ดขวบถามเด็กที่เป็นเอกช่วยให้ลุกยืนเมื่อกี้
“เด็กน้อยมาจากที่ไหนเหรอกัน …”ปลาวาฬถามขึ้นด้วยความสงสัยเพราะเขาไม่เคยเห็นเด็กคนนี้มาก่อน
”แม่มันเอามาทิ้งไว้ที่หน้าวัดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้เองครับพี่ปลาวาฬ …“คำตอบของกันทำให้ เป็นเอกตกใจ เขาไม่เคยได้เจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเองมาก่อน ส่วนมากก็เจอตามข่าวในทีวีเท่านั้นซึ่งเขาก็ไม่เคยให้ความสนใจอยู่แล้ว
“แล้วแม่เขามาทิ้งทำไมอ่ะอ้วน …“เป็นเอกเงยหน้าขึ้นไปหาคนอ้วนของเขาสลับกับมองหน้าเด็กที่กันเรียกว่าหนึ่งทันที
“เอาล่ะๆเด็กๆ พี่รับเรื่องหมดแล้วนะ แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเองนะ เที่ยงนี้มีคนใจดีเลี้ยงไก่ทอดชื่อดังกับพวกเราด้วยแหละจริงไหมเอก … “ปลาวาฬหันไปพูดยิ้มๆกับคนตัวสูงที่ยืนทำหน้าเขินกับคำพูดของเขา เขาเห็นว่าคนตัวสูงแอบไปกระซิบกับลุงสุขคนขับรถให้ออกไปซื้อไก่ทอดชื่อดังเอามาเลี้ยงเด็กๆที่นี่พอดี เขารู้สึกดีใจที่คนรักเริ่มอ่อนโยนเข้ากับคนอื่นได้บ้างแล้ว
“ครับ \…”เด็กๆรับคำแล้วก็พากันแยกย้ายออกไป
“กัน !! เดี๋ยว พาน้องอยู่ก่อน พี่มีเรื่องจะถาม … “ปลาวาฬยักหน้าเรียกให้ทั้งคู่เข้ามาหา
“ครับ …“กันตอบรับแล้วจูงมือน้องเดินเข้ามานั่งระหว่างปลาวาฬกับฉลามถัดจากฉลามก็เป็นปกป้อง เป็นเอกนั่งซ้ายมือของปลาวาฬ พวกเขานั่งไต้ต้นที่มีปูนโบกทำเป็นที่นั่งรอบต้นไม้ใหญ่
“กัน รู้เรื่องอะไรบ้างบอกพี่สิ …”ปลาวาฬอุ้มเด็กน้อยที่ชื่อหนึ่งมานั่งที่ตักแล้วคุยกับกันไปด้วย
“ผมไม่เห็นเหตุการณ์นะพี่ปลาวาฬตอนนั้นผมไปเรียน กลับมาชาวบ้านก็มามุงดูไอ้หนึ่งแล้วก็รุมด่าแม่มันกันใหญ่เลย แต่แม่มันก็ไม่มีใครรู้นะว่าเป็นใคร แต่ยายแม้นที่ขายกล้วยแขกอยู่หน้าวัดบอกมีคนอ้วนๆดำๆอุ้มเด็กมาคนหนึ่งว่างั้น แต่เรื่องจริงเป็นยังไงก็ไม่มีใครรู้ แล้วก็มีคนไปแจ้งความแล้วด้วยแต่ก็ตามจับยังไม่ได้จะครบอาทิตย์แล้วเนี่ย …”
“แล้วไม่มีใครรับเด็กไปเลี้ยงเหรอ …“ปกป้องถามขึ้น เขารับฟังเรื่องราวแล้วก็สงสาร เด็กพึ่งจะสามขวบกว่าๆด้วยซ้ำพูดก็ยังไม่ค่อยจะชัดเลยด้วย
“ยังไม่ได้หรอกครับ เรื่องยังอยู่ในขั้นตอนของตำรวจตามหาคนเป็นแม่อยู่ …“ปลาวาฬหันไปอธิบายให้ปกป้องฟัง
“ก็ปล่อยให้เด็กอยู่แบบนี้น่ะเหรออ้วน น่าสงสารอ่ะเด็กมาก …”เป็นเอกมองหน้าเด็กน้อยด้วยความสงสาร
“ก็ยังดีกว่าเด็กที่แบเบาะนะเอก อย่างน้อยอายุเท่านี้เขายังพอช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้ว ถ้าเด็กแบเบาะนี่ลำบากมากเลยนะ …“ปลาวาฬหันไปอธิบายด้วยสีหน้าปกติเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาเจออยู่เป็นประจำ
“มีด้วยเหรอ เด็กแบเบาะอ่ะ …”ปกป้องถามขึ้นอีกครั้ง ด้วยความตกใจ
“มีครับ แต่ก็ต้องแจ้งทางมูลนิธิมารับไป เพราะตอนนั้นที่เจอเป็นเด็กผู้หญิงเอาไว้ที่นี่ไม่ได้ …“ฉลามเป็นคนอธิบายเพราะเหตุการณ์นั้นเขาเป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมดเอง
“อ้วน ขอคุยด้วยหน่อยสิ …”เป็นเอกพยักหน้าเรียกให้คนอ้วนออกมาคุยกับเขาสองคน
“เอกมีอะไรเหรอครับ …”ปลาวาฬมองหน้าคนตัวสูงยิ้มๆเพราะพอจะเดาออกว่าคิดอะไรอยู่
“อ้วนนนน ยิ้มอะไรเล่า คนซีเรียสอยู่นะ … “เป็นเอกค้อนให้คนอ้วนที่มองเขาแล้วยิ้มตาเป็นประกาย
“อ่ะๆพูดมาสิครับ …”
“เอ่อ คือผมอยากรับน้องหนึ่งมาเลี้ยงดีไหม อ้วนจะช่วยเลี้ยงไหม …”
“ได้นะ เอกลองไปถามหลวงตาดูสิ ผมก็ไม่รู้ว่าเขาทำเรื่องไปถึงขั้นตอนไหนกันแล้วอ่ะ …”
“อ้าว !! อ้วนจะไม่ทำเรื่องให้ผมเหรอ ถ้าอ้วนทำมันน่าจะง่ายกว่าที่ผมทำเองนะ …“เป็นเอกทำหน้างง เพราะเขาคิดว่าคนอ้วนเป็นคนที่ดูแลเด็กพวกนี้อยู่แล้วน่าจะง่ายกว่าเขาที่เป็นคนนอกซะอีก
“ผมทำไม่ได้ เอกคิดดูสิ ถ้าผมทำอย่างนั้น เด็กที่รุมล้อมผมอยู่เมื่อกี้ พวกเขาจะคิดยังไง ?…”
”ไม่คิดหรอกอ้วน เด็กพวกนั้นโตแล้ว แต่น้องหนึ่งพึ่งจะสามสี่ขวบเองนะ …“
“เอก คิดตามผมนะ คนที่ขาดความรัก ห่างไกลพ่อแม่ ไม่เคยได้รับการกอดจากใครเลย เขาแยกแยะอะไรไม่ได้มากเหมือนคนที่มีครบทุกอย่างนะ จะสามสี่ขวบเหมือนน้องหนึ่งหรือจะโตเหมือนเด็กพวกนี้ หรือแม้กระทั้งจะอายุใกล้จะสามสิบอย่างพี่ชลทีก็เถอะ พวกเขาอยู่ในความดูแลของผม ถ้าผมเลือกใครสักคนไปเลี้ยงที่บ้านหรือรับเป็นลูกบุญธรรม แล้วคนที่เหลือล่ะ ความรู้สึกของพวกเขาคือ ทำไมไม่เป็นเขาที่โดนผมเลือกไปเลี้ยง …“ปลาวาฬหยุดพูดเพื่อให้อีกคนได้คิด
“อื้มม อ้วนนน ถ้าอย่างนั้น ผมรับไปเลี้ยงจะดีเหรอ เด็กพวกนั้นจะคิดไหมถ้าผมรับน้องหนึ่งไปเลี้ยง …“เป็นเอกเริ่มไม่มั่นใจ
“ได้ เอกลองไปปรึกษากับคุณพ่อคุณแม่ดูสิ แต่ผมจะไม่ยุ่งเรื่องนี้ ผมกลัวเด็กๆจะเสียความรู้สึก ผมรักเด็กๆพวกนี้เท่ากันทุกคน แต่ถ้าเป็นคนนอกเด็กๆก็คิด แต่ไม่เท่าไหร่ พวกเขาก็ลืม แต่ถ้าเป็นผม ที่พวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่จำความได้ มันจะเป็นแผลในใจพวกเขาตลอด ว่าทำไมตัวเองถึงไม่โดนเลือก …”ปลาวาฬบอกยิ้มๆ
“งั้น ผมขอไปคุยกับแม่ดูก่อน ผมสงสารน้องหนึ่งตัวเล็กมากเลยอ่ะ … “
“ครับ ผมขอไปดูเด็กๆกับพี่ชลทีก่อนนะ แล้วค่อยกลับมาเจอกันที่นี่นะครับ … “ปลาวาฬหันไปยิ้มให้กำลังคนที่ทำหน้าลังเลตัดสินใจไม่ถูก ให้สู้ๆ
“ปลาวาฬแม่รู้เรื่องทั้งหมดแล้วนะ แม่ดีใจที่ได้เจอกับปลาวาฬมากนะลูก ครอบครัวหนูน่ารักมากๆ … “เมื่อทั้งหมดมาขึ้นรถครบกันหมดแล้ว ในช่วงเย็นของวันนั้น ต่างก็ล่ำลาแยกย้ายกันกลับบ้าน ด้วยใบหน้าที่อิ่มบุญกัน
“ผมก็ดีใจเหมือนกันครับ ครอบครัวของคุณแม่ก็น่ารักเหมือนกันครับ … “ปลาวาฬตอบกลับยิ้มๆ
“แล้วนี่ น้องหนึ่งจะนอนกับใครครับ …”ปกป้องหันมาถามทุกคน ก่อนที่จะสตาร์ทรถออกจากบริเวณวัดแห่งนี้
“ลูกใครก็นอนกับคนนั้นสิ … “แม่ตอบลูกชายคนโตไป แต่ตาเหลือบมองลูกชายคนเล็กที่อยากได้เด็กมาเลี้ยงเป็นลูกเพราะสงสารหรือแพ้ตาบ่องแบ๊วของเด็กน้อยกันแน่ก็ไม่รู้ ลูกชายคนเล็กของเธอขึ้นไปปรึกษาเธอว่าอยากได้เด็กมาเลี้ยง ตอนที่เธอกำลังคุยอยู่กับพ่อแม่ของปลาวาฬและหลวงตา พอหลวงตาได้ยินเข้า เลยขอให้เอามาเลี้ยงดูให้ด้วย ในระหว่างที่ตำรวจกำลังตามจับแม่ของเด็กอยู่ แต่ดูเหมือนจะเงียบไป เลยขอรบกวนก่อน เพราะยังเด็กเกินไป กลัวเด็กโตกว่าจะแกล้งเอา เด็กวัดที่นี่มียี่สามคน พอได้ยินว่าวัดนี่มีคนส่งเสียให้เรียนหนังสือ ก็มีคนเอาลูกมาทิ้งที่วัดนี่กันเป็นว่าเล่น
“นอนกับใครเล่า ผมให้พี่ตาลจัดห้องว่างที่ข้างห้องผมให้แล้ว … “เป็นเอกทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ตอบแม่ไป เขารู้ว่าแม่แค่แกล้งแซวเขาเล่น แค่เห็นว่าเขาอยากรับเด็กไปเลี้ยงแม่เขาก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตลอดเวลาด้วยซ้ำ
“เอก เอาเขามาเลี้ยงต้องดูแลดีๆนะครับ อย่าเอามาปล่อยให้พี่ๆเขาต้องดูให้ทั้งหมดล่ะ ถ้ามีเวลาเอกก็ต้องดูแลเองบ้าง … “ปลาวาฬบอกคนเป็นพ่อมือใหม่ยิ้มๆ
“ใครบอกว่าผมจะเอามาให้พวกพี่ตาลเขาดูให้ล่ะ ผมเอามาให้แม่เขาดูแลต่างหาก นะครับเมียดูแลลูกช่วยผมด้วยนะครับ …”เป็นเอกหันมากระซิบที่ข้างหูของคนอ้วนของเขาเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคนในตอนท้าย
“แม่อะไรเล่าเอกกกก …“ปลาวาฬก้มหน้าที่ขึ้นสีของตัวเองตัวบิดไปมา ไม่กล้ามองใครในรถด้วยความเขิน ที่โดนคุณพ่อมือใหม่มาเรียกตัวเองว่าแม่อย่างนั้น
“หึๆ …“เป็นเอกมองคนเขินที่นั่งบิดตัวไปมาแกล้งเมินออกไปนอกรถบ้างมองพื้นบ้าง แต่ไม่ยอมสบตากับเขา เห็นแล้วอยากจะให้ถึงบ้านไวๆ เขาอยากจะฟัดตัวกลมๆคนนี้แล้ว มันดูน่ารักไปหมด
“เอกกก หันไปเลยไม่ต้องมอง … “คนเขินเอามือดันหน้าหล่อเหลาให้หันไปทางอื่นไม่ให้มองตัวเอง
“น้องหนึ่งครับ ลองเรียกแม่ดูสิครับ …“เป็นเอกหันไปกระซิบแล้วชี้ให้เด็กน้อยหันไปทางคนอ้วนที่เมินเขามองไปทางหน้าต่าง กับเด็กน้อยที่นั่งชิดริมหน้าต่างอีกฝั่งทางซ้ายมือของเขาที่มองข้างทางไปด้วยความตื่นเต้นที่ได้นั่งรถคันสวยไปเที่ยว
“แม่ ครัาบ …“ เด็กน้อยหันมาพูดตามที่คุณพ่อมือใหม่สอน ทำให้คนที่อยู่ในรถหันมามองและพากันยิ้ม เมื่อเห็นคนอ้วนหันไปยิ้มรับอายๆและไม่กล้าปฏิเสธเพราะกลัวเด็กน้อยจะเรียกเก้อเอาได้ คนอ้วนได้แต่ค่อยๆเอื้อมมืออวบขาวของตัวเองไปหยิกเนื้อที่เอวหนาถึงจะหยิกแทบไม่ได้ก็ตามเพราะมีแต่กล้ามเนื้อ แต่ก็พยายามหยิกจนได้
“โอ้ยยย หมับ จุ๊บ …” คนโดนหยิกแกล้งร้องเสียงดังทั้งๆที่ไม่เจ็บอะไรเลย เพราะความที่มือขาวอวบของคนอ้วนเล็บสั้นกุด มันทำแค่ให้เขาจั๊กจี้แค่นั้น เลยจับมือขาวอวบขึ้นมาจูบต่อหน้าทุกคนซะเลย
“เอกกกก ทำอะไรเนี้ย !! เห็นไหมลูกเอกมองอยู่ … “คนโดนจูบมือรีบสะบัดออกเพราะพ่อแม่และเด็กน้อยมองมาที่เขา และไหนจะปกป้องที่ส่องกระจกหลังมองมายิ้มๆนั้นอีก
“หึ ๆ ผมชอบเวลาอ้วนอาย แก้มอ้วนเป็นสีชมพูเลยอ่ะ น่ารักดี …”
“เอกกกก หยุด !!! …”