เสียงเกล็ดของสัตว์เลื้อยคลานขูดกับหินในถ้ำเป็นเสียงดังสะท้อนฟังชัดเจน กัลปพฤกษ์ยืนตัวแข็งทื่อชุดที่เจ้าตัวคิดว่าเปียกก็แห้งไปทันตาเพราะไม่ใช่วัตถุจับต้องได้.....
ในหัวของเขานึกถึงตอนที่พี่สายกรีดร้องแล้วกลับมาในสภาพสาหัสความกลัวก็เริ่มเกาะกินจิตใจ ตอนนี้มีแค่ภุชคินทร์เป็นที่พึ่งคนเดียวจึงขยับตัวเข้าไปใกล้ๆพลางเกาะแขนเป็นมัดอีกฝ่ายเอาไว้
เขาหันมามองผมก่อนจะหันกลับไปมืออีกข้างก็ชักมีดออกจากปอก มันเป็นมีดสั้นสลักอาคมลงเอาไว้แค่ดูเอาจากหนังผีไทยเรื่องอื่นๆก็น่าจะปะติดปะต่อได้เป็นแบบที่คิด
"เจ้าเข้ามาทำไม"เสียงเหี้ยมยังคงส่งมาไม่ขาด พาลทำให้เขาตัวสั่น....นี่น่ะหรืออำนาจของผู้ทรงฤทธิ์
"ข้าแค่มาหาของที่หายไป พรายน้ำของข้าบอกว่าของอยู่ที่นี่"ภุชคินทร์กล่าวเสียงแข็งไม่กลัวตาย
แต่ผมนี่สิอกสั่นขวัญแขวนเพราะเสียงพรูลมหายใจมันดังกังวานไปทั่วถ้ำ ถ้าหากเป็นอย่างนี้ต่อไปผมอาจจะอกแตกตายได้ถึงจะตายไปแล้วก็เเถอะ
"นังพรายสมควรตายนั่น เหอะ.....ข้าเก็บมันได้มันก็สมควรเป็นของข้า พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์มาขอคืน!!"พญานาคราชตะโกนกึกก้องไปทั่ว ผิวน้ำสั่นไหวอย่างรุนแรงหมู่นกกาพากันบินตกใจ
ตอนนี้ผมไม่รู้เรื่องอีกแล้วเพราะนั่งลงไปกับพื้นเอามือทั้งสองข้างปิดหู ทำไมมันต่างราวฟ้ากับเหวขนาดนี้...ผีตัวอื่นๆยังไม่น่ากลัวเท่านี้เลย....
"พาผีรับใช้ของเจ้าออกไปเถอะก่อนที่จะทนไม่ไหววิญญาณดับสลายเอา"
ผมฟังสิ่งที่เขาพูดไม่ออก รู้แค่ว่าหูอื้อตายลายไปหมด...รู้ตัวอีกทีภุชคินทร์ก็ดึงผมเข้าไปในอ้อมแขนกดใบหน้าผมให้ชิดกับอกเขา....
"ท่านทำอะไร"น้ำเสียงของเขาดุดันมากขึ้นกว่าเดิม ถึงจะฟังไม่ค่อยออกแต่ก็พอจับเสียงในตอนนี้ได้ลางๆ
คำตอบที่ได้มาคือความว่างเปล่า ภุชคินทร์ค่อยๆถอยหลังพะยุงผมออกไปจากตรงนั้นช้าๆจนถึงทางออก เขาวางผมนั่งลงบอกให้ผมรออยู่ตรงนี้
"เจ้ารออยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวข้ามา"
"ไม่...."เสียงผมแหบมาก อีกฝ่ายคงไม่ได้ยินวิ่งเข้าไปข้างในทันที
เขาได้แต่นั่งรออยู่ตรงนั้นสักพักก่อนที่เสียงคำรามจะดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้มันดูรุนแรงยิ่งกว่าเดิม...ใจเกิดความเป็นห่วงอีกคนเสียดื้อๆ พยายามยันตัวเองขึ้นลุกออกจากที่ เขาต้องช่วยให้ได้....จะปล่อยให้ภุชคินทร์ตายไม่ได้!
กลับมาทางฝั่งของภุชคินทร์ ร่างสูงในตอนนี้เจรจากับพญานาคราชไม่รู้เรื่อง แต่เพราะความดื้อรั้นไม่ยอมใครทำให้เขายังคงหยัดยืนต่อไป
"เจ้ามนุษย์พูดไม่รู้เรื่อง เอาชีวิตมาทิ้งที่นี่ไว้เสียเปล่าๆในเมื่อเตือนดีๆแล้วไม่ฟังล่ะก็..."
กรร โฮ่ก!!!
ทันทีที่พญานาคราชเผยตัวตนออกมาก็พุ่งเข้าหาภุชคินทร์ด้วยความรวดเร็ว ร่างสูงขยับตัวหลบได้ทันท่วงทีพร้อมกับแทงมีดลงกับเกล็ดอันแข็งแกร่งของงูใหญ่ แต่ทว่ามันกลับเข้าไปได้ลึกพอควรเพราะมีดนี่ไม่ใช่มีดธรรมดาแต่เป็นมีดเหล็กกล้าลงอาคม
โฮ่ก!! ปึก!
หางยาวตวัดใส่ร่างจนกายสูงกระเด็นไปชนผนังถ้ำ มุมปากหยักปรากฏเลือดสีแดงไหลเป็นทาง....ภุชคินทร์เช็ดเลือดที่มุมปากตัวเอง จังหวะที่หางยาวฟาดมาอีกครั้งภุชคินทร์ลอดต่ำลงพ้นจากหางยาวตวัดมีดฟันเข้าที่ส่วนปลายหาง
ภุชคินทร์ถูกฟาดหางเข้าอีกรอบ ครั้งนี้ภุชคินทร์แทบลุกไม่ขึ้นหากแต่ดวงตาคู่คมยังมองไม่เลิกเหมือนไม่คิดที่จะถอย
"มนุษย์ช่างโง่เขลา..."นัยย์ตาเรียวเล็กเกล็ดสีเขียวสั่นกระเพื่อม
เขาคิดว่าเขาจะต้องตายอยู่ที่นี่จริงๆเสียแล้ว มุมปากหยักยกยิ้มเย้ยหยันให้ตัวเอง
ทันทีที่พญานาคราชพ่นพิษออกจากปาก เขาก็เห็นร่างสีขาวนวลไถลตัวเข้ามากอดทำทีเอาตัวบังเอาไว้
กัลปพฤกษ์......
'บ้าเอ้ย!'
ฟุบ! ซ่า!
"อึก!"ความเจ็บปวดจากข้างหลังแล่นเข้าสู่หัวใจ
ก่อนที่พิษจะมาถึงตัวภุชคินทร์ยกแขนขึ้นมากอดพลิกเอาตัวบังพิษได้ทันท่วงที...
แอบเห็นดวงตากลมโตเบิกกว้างตกใจ เขาแอบยิ้มน้อยๆเป็นยิ้มจริงๆจากใจก่อนที่ทัศนียภาพจะเบลอแล้วดับไป...
"ภะ... ภุช.... คินทร์.... ภุชคินทร์..... ภุชคินทร์!!!" กัลป์ถึงกับตะโกนลั่น เก็นอีกฝ่ายนอนคว่ำทับตัวเองแน่นิ่งไปแล้วใจมันพลันร้อนรน
"เสียงนี้มัน..... กัลป์?" พญานาคราชคุ้นเสียง ค่อยๆเลื้อยมาหาพลางม้วนตัวเข้าหากันจากนั้นจึงแปลงกายเป็นหนุ่มรูปงามใส่สังวาลย์ทองประดับมณีสีแดงชาด นุ่งโจงกระเบนสีเขียวเลื่อม...
น้ำตาของกัลป์ไหลลงมาจากดวงตาพยายามเขย่าตัวปลุกอีกฝ่าย ทำอย่างไรอีกฝ่ายก็ไม่ลุกไม่ตื่นขึ้นมาเลยสักนิด
"กัลป์... กัลป์! เจ้าจริงๆด้วย!"
เสียงเรียกทำให้กัลปพฤกษ์เงยหน้าขึ้น เห็นหนุ่มรูปงามคล้ายทศนายืนเผยความสูงอยู่ตรงหน้า
"ทศน์หรอ..... นั่นทศหรอ" น้ำเสียงคล้ายไม่อยากจะเชื่อเปล่งออกมาจากเรียวปากบาง
"กัลป์จริงๆด้วย...... ทำไม... เจ้าเหลือเพียงแต่ดวงวิญญาณ..... ล่ะ.. แล้วร่างเจ้าไปไหน.... ใครทำเจ้า!!" สหายคนแรกของทศนาตอนนี้กลับกลายเป็นวิญญาณผีตายโหงตนหนึ่งเท่านั้น
"มะ... ไม่มีใครทำผมหรอก"กัลป์สะอื้น ใช้แรงทั้งหมดพลิกตัวให้ภุชคินทร์เอาหัวพิงอกเอาไว้....
" หรือว่ามนุษย์คนนี้! ที่มันทำเจ้า! "ทศน์หน้าดำคล้ำลงไปหลายส่วน อารมณ์อยากฆ่ามนุษย์พึ่งมีให้เห็น...
"ไม่ใช่... ไม่ใช่!.. ได้โปรด... ทศนาช่วยภุชคินทร์ที ช่วยเขาที"กัลป์อ้อนวอนทั้งน้ำตา... ภาพที่เห็นอีกฝ่ายเอาตัวเข้าบังให้ แทนที่เขาจะเป็นคนโดนแทน...
"อืม..... "ทศน์ไม่อยากเห็นน้ำตาจากอีกฝ่าย เดินเข้ามาคุกเข่านั่งลงทาบฝ่ามือลงกับตัวใช้อาคมจนหาย... เป็นปกติ...
" ข้าถอนพิษให้แล้วอีกสักพักก็คงจะฟื้น ทีนี้เจ้าจะบอกข้าได้หรือยังว่าทำไมเจ้าเหลือแต่เพียงดวงวิญญาณ..."ทศนาคาดคั้น จนกัลป์ต้องยอมเปิดปากบอกทุกสิ่งที่รู้ออกไป...
"เจ้าจะบอกว่าท่านยมราชส่งดวงวิญญาณเจ้ามาเพื่อช่วยงานของท่านจนกว่าจะสิ้นอายุไขจริง..."
"ใช่ครับ.... ส่วนเรื่องตอนที่เราเจอกันครั้งแรกก็เพราะว่าวันนั้นเป็นวันพระ หลวงพ่อท่านบอกว่าทุกๆวันพระดวงวิญญาณของผมจะมีร่างกายเป็นมนุษย์จริงๆ... แต่มันก็หายไปหากพ้นเที่ยงคืนไปแล้ว... "
ทศนาไม่อยากจะเชื่อเลย เข้าอยู่มาเป็นร้อยๆปียังไม่เคยเจอะเคยเจอเรื่องพวกนี้มาก่อน หวังว่ายมนาจะบอกเรื่องนี้แก่เขาได้...
" เห้อ... เอาเถอะ.... ข้าจะไม่ถือสามนุษย์ผู้นี้แล้วกัน หึ... ขุนศึกผู้ดื้อรั้นงั้นหรอ.... เอานี่.. "ทศพึมพำเล็กน้อยอย่างไม่สบอารมณ์... ก่อนจะโยนบางอย่างมาให้..
"มันคืออะไร.... นะ... นี่มันหวีทอง คุณให้ผมหรอ" กัลป์ถือหวีทองไว้ในอุ้งมือ ทศนาใช้ลิ้นกระทุ้งแก้มเลิกคิ้วขึ้น
" ก็พวกเจ้าสองคนมาตามหามันไม่ใช่รึ ต้องเรียกว่าคืนดีกว่า... ของถูกใจข้าไม่ใช่ว่าใครๆก็ได้คืนทั้งนั้น ที่คืนให้เพราะเห็นเป็นเจ้าหรอก..."
เพราะเขางั้นหรอ?
" อื้อ!... ขอบคุณนะ! "กัลป์ยิ้มกว้างขอบคุณก่อนจะกลับไปโบกมือพัดลมให้ภุชคินทร์รอคอยอีกฝ่ายตื่นขึ้น...
โดยที่ไม่เห็นว่าพญานาคหนุ่มผินหน้าไปทางอื่นซ่อนความเขินอายเอาไว้.... ทำไมบุรุษถึงได้มียิ้มที่อ่อนหวานขนาดนี้นะ...
" ระหว่างเจ้ารอมนุษย์คนนี้ฟื้นเจ้าก็อยู่ที่นี่ไปก่อน... เดี๋ยวข้ากลับมา.." สงสัยต้องไปเยี่ยมเยียนสหายเก่ากันบ้าง ไม่ได้เจอกันมานานแสนนาน...
"ครับ" กัลป์ขานรับ มัวแต่โบกมือพัดไปมาไม่ได้มองอีกคน
"แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่ใช้อาคมกับเจ้าเมื่อกี้ ข้าไม่รู้ว่าเป็นเจ้าเกือบพลั้งมือทำให้เจ้าดับไปแล้ว"ทศน์ว่าอย่างรู้สึกผิด ไม่ได้มองให้ถี่ถ้วนก่อน...
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเชื่อว่าคุณคงไม่ได้ตั้งใจหรอก... อีกอย่างคนที่เจ็บไม่ใช่ผมหรอก... แต่เป็นภุชคินทร์"
" หึ... ภุชคินทร์... งั้นข้าไปก่อน"พูดจบทศนาก็หายไปทันที ให้ร่างบางดูแลอีกคนตัวคนเดียว..
+++++++++++++++++++++++
แหนะ ใครหว่าบอกคิดถึงเรื่องเจ้าสาววิญญาณในหลายๆเรื่องของไรท์ มาต่อให้แล้วนะ