@บ้าน
“พี่ขุนมินกลัวม๊่ากับป๊ารู้..”
ตั้งเเต่ที่ม๊าโทรมาเมื่อคืนเธอก็ยังวิตกกังวลไม่หยุด
“ไม่เป็นไรหรอกเชื่อพี่”
“ทำไมพี่ขุนดูไม่กลัวม๊าจับได้เลย”
“...เราหน่ะคิดมากเกิน”
“โอเคหนูจะไม่คิดเเล้ว”
พี่ขอโทษนะที่ต้องโกหกมินเเบบนี้...
ขุนขอโทษเธอในใจเป็นล้านๆรอบเเต่มันเป็นหน้าที่ๆเขาต้องทำ
จุ้ป จ้วป
ริมฝีปากหนาโน้มมาเลียรอบกรอบปากคนที่ทำหน้างออยู่ จากนั้นทั้งสองคนก็เเลกลิ้นกันนัวเนีย
เเล้วทั้งสองคนรีบเเยกออกจากกันเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา
“อยู่กันพร้อมหน้าเชียวลูกๆ”
“คิดถึงม๊าที่สุดเลย จุ้บ”
“ป๊าล่ะคะ”
“ป๊าเเวะเข้าบริษัทจ้ะ”
“ม๊าเหนื่อยมั้ยครับ ทานอะไรมั้ย”
“ไม่เป็นไรจ๊ะลูก”
เเล้วระหว่างที่ช่วยเเม่เก็บขนมของฝากเข้าที่เรียบร้อยขุนพลก็..
“มิน พี่ยืมโน๊ตบุ๊คไปทำงานหน่อยสิ”
“อะ อ๋อได้ค่ะ อยู่บนห้อง”
“โน๊ตบุ๊คลูกเสียหรอขุน”
“มันช้าครับ ขุนว่าจะเปลี่ยนพอดี”
“จ๊ะ”
“ไปช่วยหยิบหน่อยมิน”
“ค่ะๆ”
เธอรู้ทันมุกเจ้าเล่ห์ของเขาดีนี้หลอกตีเนียนขึ้นห้องชัดๆเลย
ปัง เเกร๊ก
เขาปิดล็อคประตูห้องนอนเธอเรียบร้อย
“อดอยากมาจากไหนคะ?”
“ก็หนูน่ากิน”
“ม๊าจะไม่ได้ยินใช่มั้ยคะ”
“ครางเบาๆสิคับ”
“งื้ออ ก็คนมันเสียวอ่ะ”
“งั้นก็ยากหน่อยนะ พี่่พาหนูเสียวเก่งซะด้วย”
“อยากเสียวจังค่ะ เฮียขุน~”
“ซี๊ด อ่าส์ ตัวเเสบโดนเเน่”
“โดนอะไรหย๋อ~”
“จับกดให้จมเตียงดีมั้ยล่ะ?”
“อยากจมเตียงเเล้วสิ”
เขาวางเธอลงบนเตียงเเล้วถอดเสื้อผ้าออกหมดจนร่างกายทั้งคู่เปลือยเปล่า
เเล้วจับตัวเล็กคว่ำเเล้วเกาะหัวเตียงเอาไว้เพราะเขาจะทำท่าหมากับเธอ
สวบ ปั่บ
“อูย ลึกสุดๆเลยค่ะ อ๊า”
เขากระเเทกเบียดเสียดกับความคับเเน่นในร่องสวาทที่มีน้ำใสๆปริ่มๆ
“ท่านี้เสียวหัว ชิบ อ่าส์”
มือหนาจับเอวคอดกระเเทกเข้าหาตัวเขาพร้อมกับเขาก็เด้าสวนเข้าไป
จนเกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วห้องเเต่ดีห้องเก็บเสียง
ปั่บ ปั่บ ปั่บ
“เเน่นมากคับ หนูจ๋า”
“อิ๊ อิ๊ งื้ออ”
เต้าอวบกระเพื่อมตามเเรงอัดกระเเทกเเขนขาเริ่มอ่อนระทวยกันท่านี้
“โอยยส์ เธอจ๋า”
“มิน ลูกเห็นป้าหนอมมั้ย”
“มิน ชู่ววม๊ามา”
ขุนพลบอกให้เธออย่างพึ่งครางเสียงหลงเเบบเมื่อกี้
“มะ ไม่เห็นค่ะ”
“พี่ขุนทำงานอยู่หรอจ๊ะลูก”
ตั่บ ตั่บ ตั่บ
ขุนพลยกยิ้มที่เห็นเธอตื่นเต้นจนขมิบเเกนเขาเเทบขาดออกจากกัน
“ครับม๊า”
“จ๊ะๆ”
“อิ๊ พี่ขุน ม๊าไปเเล้วใช่มั้ย”
“ครับ อื่มม”
เขาจับเธอเปลี่ยนท่ามานอนหงายเเทน
“อ๊า เบาๆสิคะ อิ๊”
“เบาไม่ไหว ซี๊ดส์ หนูเอามันส์”
ปั่บ ปั่บ ปั่บ
ขุนพลเป็นฝ่ายคุมเกมครั้งนี้เเต่เธอสลับขึ้นมานั่งคร่อมตัวเขาเเทน
ร่างสูงนอนราบอยู่กับเตียงมือหนาบดคลึงเต้านมไม่หยุดเเล้วใช้เล็บเขี่ยเม็ดบนเนินออกไปมา
เเจ้ะ เเจ้ะ เเจ้ะ
“อ่าส์ ขย่มเเรงๆเลยครับหนู”
“อ๊า อ๊า อ๊ายย เฮียขา~”
“อย่างนั้นครับเด็กดี อื่มม”
ร่างน้อยร่อยเอวจนพริ้วไปมาเข้าสุดออกสุดถี่ๆ
สวบ สวบ สวบ
“อ๊าส์ / อ๊ายย”
“เเห่กๆงื้ออ”
“อยากเอาอีกสักน้ำมั้ย”
“ไม่เอาเเล้ว หนูจะไปหาม๊า”
“ก็ได้ครับมาพี่ใส่ชุดให้”
“ทะลึ่ง”
เเล้วพอเเต่งตัวเสร็จก็รีบออกไปหาเเม่ของเธอ
@ห้องรินดา
“ม๊าหาอะไรอยู่คะ?”
ลูกสาวเห็นเเม่ของเธอกำลังรื้อค้นหาอะไรบางอย่าง
“เเฟ้มเอกสารป๊าน่ะสิ”
“หนูช่วยหานะ”
เเล้วเธอก็ไปรื้อตู้ลิ้นชักที่ไม่เคยไปเปิดมันมาก่อนเพราะมีเเต่เอกสารสำคัญอยู่ในนั้น
เวลาต่อมา
“ม๊า..นี่หมายความว่าไงคะ?”
เธอถือเเฟ้มที่มีใบเเจ้งเกิดของเธออยู่เเต่ไม่มีของพี่ชายอย่างขุนพล
เเต่กลับมีใบอย่างอื่นมาเเทนที่มัน..
ใบอนุญาติรับเลี้ยงเด็กจากบ้านเด็กกำพร้าที่มีชื่อของขุนพลอยู่บนกระดาษนั้น
“ลูกฟังม๊าก่อนนะ”
“มะ มันหมายความว่าไงคะม๊า”
ใบกระดาษใบนี้มันเขียนว่ารับเลี้ยงตอนพี่ขุนอายุ6ขวบนั้นมันตอนฉัน3ขวบหนิ
“คือม๊าตั้งใจจะบอกตอนรู้โตเพราะลูกคงไม่เข้าใจ”
“ฮึก ม๊าปิดบังมิน”
ตั้งเเต่เด็กๆม๊่าส่งพี่ขุนไปเรียนเมืองนอกตลอดหลายปีเเล้วพึ่งจะกลับมาตอนเข้ามหาลัยที่นี่
ฉันไม่เคยสงสัยว่าทำไมถึงต้องส่งเค้าไปคนเดียว
“มีอะไรกันรึเปล่าครับ”
“พี่ขุน ฮึก ม๊ากับป๊าปิดบังพวกเรา ฮือ”
“เรื่องอะไรมิน”
“พี่ขุนไม่ใช่เป็นเด็กที่ม๊ากับป๊ารับมาเลี้ยง ฮือ”
“ใจเย็นไม่ร้องนะ”
ทำไมเค้าดูไม่ตกใจกับเรื่องนี้เลย
นี้มันเรื่องใหญ่มากเลยนะ
“ทะ ทำไมพี่ไม่ตกใจ”
“พี่ขอโทษ พี่รู้มาตั้งเเต่เด็กเเล้ว”
“ฮึก ทุกคนรู้หมด อึก”
“ม๊ากับป๊ารับพี่มาเลี้ยงจากบ้านเด็กกำพร้า”
“เค้าไม่ได้อยากปิดบังมินหรอก”
“ฮือ ทุกคนสนใจความรู้สึกหนูบ้างมั้ย ฮึก ”
“มินเดี๋ยวลูก”
มินวิ่งหายออกไปจากห้องดารินเเทบเข่าทรุดลงไปนั่งอยู่กับพื้น
ตอนนั้นดารินกับภูผมพยายามมีลูกด้วยกันอยู่หลายปีจะได้เอามาสืบทอดบริษัท
เเต่ตอนนั้นกลับทำไม่สำเร็จด้วยความที่อยากมีลูกมากเขาสองคนเลยไปรับเลี้ยงเด็กที่กำพร้าพ่อเเม่
เเล้วก็ไม่เคยบอกเธอเพราะเหตุผลบางอย่าง
เเต่หลังจากที่กำลังรับมาเลี้ยงเธอดันตั้งท้องมิน ขึ้นมาก่อน
เเล้วที่บอกไม่ได้เพราะตอนเด็กๆมินติดขุนพลมาก
เธอชอบพูดอยู่เสมอว่าโตขึ้นอย่างเเต่งงานกับเขาเเล้วขุนเองก็เป็นเด็กผช.ที่ไม่ใช่พี่ชายเเท้ๆ
จนพอมินเริ่มโตดารินกับภูผาจึงส่งขุนไปเรียนเมืองนอกเพื่อตัดไฟตั้งเเต่ต้นลม
กลัวว่ามินจะรู้สึกเเบบที่เธอพูดจริงๆเเต่ลูกสาวเธอจะไม่ยอมฟังถ้ารู้ว่าขุนไม่ใช่พี่ชายเธอ
“ฮึก ฮึก”
ในห้องที่มืดเเละเงียบสนิทมีเสียงร่่างน้อยกำลังร้องไห้อยู่บนเตียง
“ฮือออ พี่ขุนโกหก”
ก๊อกๆๆ
“มินเปิดประตูให้พี่หน่อย”
“อึก”
ขุนพลยืนเคาะประตูหน้าห้องเธออยู่เเต่มินไม่ยอมไม่เปิดให้เขาเข้ามา
“มึง..ฮึก กูไม่รู้จะทำไง”
[ร้องทำไมมึง ใครทำไรบอกกูมา]
เเพรวาเพื่อนรักของเธอเป็นคนที่อยู่ในสายตอนนี้
“ทุกคนไม่เคยบอกกู ฮึก ฮือ”
[มึงหยุดร้องก่อน]
[เเล้วค่อยๆเล่่ามา]
เธอเล่าเรื่องทั้งหมดให้เเพรวาฟัง
[ห้ะ!!]
[พี่ขุนพลไม่ใช่พี่เเท้ๆ]
[เชี่ยพีคจริง]
“อึก กูไม่เคยรู้เรื่องมาเป็น20ปี”
[กูว่าพ่อเเม่มึงต้องมีเหตุผลดิ]
[มึงจำที่มึงเคยชอบพี่ขุนตอนม.2ได้ป่ะ]
“อือ ได้”
[พอมึงบอกพ่อเเม่เห็นมั้ยว่าจู่ๆพี่ขุนก็ถูกย้ายไป]
“เเล้วยังไงอ่ะ อึก”
[ท่านคงอยากให้มึงตัดใจรึเปล่า]
[เพราะเค้าใช้นามสกุลเดียวกับมึงนะ]
[เเต่ไม่ใช่พี่เเท้ๆถ้ามึงกับพี่ขุนรักกันมันก็เรื่องใหญ่]
“เเบตจะหมดกูไปก่อนนะ”
ติ้ด
เเล้วสายตัดไป
23.00 น.
เธอไม่ลงมากินข้าวเย็นเอาเเต่เก็บตัวเงียบอยู่ใน ห้องมืดๆคนเดียว
ดารินเเละภูผามาเรียกเท่าไหร่เธอก็ไม่ยอมออกมาเอาเเต่บอกว่าจะนอน
คงต้องให้เวลาเธอสักพักกว่าความรู้สึกจะกลับมา
เเกร๊ก เเอ๊ดด
เสียงประตูห้องถูกไขเเล้วเปิดเข้ามา
มินนอนหลับอยู่บนเตียงใบหน้าเธอมีเเต่คราบน้ำตาเปอะเปื้อนเต็มไปหมด
“พี่ขอโทษ”
“...”
เเล้วเขาก็หย่อนตัวลงนอนกอดเธอบนเตียง
เช้าวันต่อมา
“อื้อ~พี่ขุน!”
“อืมม”
“ออกไป!”
เธอดิ้นออกจากเเขนเเกร่งที่โอบรัดตัวเธอไว้อยู่
เเต่พยายามดิเนเขาก็ยิ่งกอดเธอเเน่นขึ้น
“ร้องจนตาบวมหมดเเล้วเด็กดี”
เขาเอามือหนาลูกใบหน้าเธอ
“ปล่อยมิน!”
“ฟังกันก่อนได้มั้ย”
ขุนพยายามกล่อมให้เธอหยุดดิ้นเเล้วมาฟังเขาเเทน
“ไม่ฟัง”
“มิน”
“ออกไปจากห้องมินเดี๋ยวนี้!”
“ไม่ออก มินต้องฟังพี่พูดก่อน”
“มินไม่ฟังคนหลอกลวง”
“พี่ไม่ได้ตั้งใจจะหลอก”
“พอกันที!ออกไป”
ร่างสูงเห็นท่าทางที่ดูใจร้อนเเล้วโกรธจัดของเธอจึงยอมปล่อยเเล้วเดินไปจากห้องเธอ
หลายชั่วโมงผ่านไป
“ป้าหนอมมีอะไรให้ทานมั้ยคะ”
“ป้าทำข้าวต้มกุ้งไว้ให้ค่ะคุณหนู”
“ขอบคุณค่ะ”
เธอไปนั่งรอที่โต๊ะกินข้าวเเล้วป้าหนอมก็เอาข้าวต้มมาให้ทาน
“...”
“ข้าวต้มวันนี้ไม่อร่อยหรอคะคุณหนู”
“อร่อยค่ะ”
“เเล้วทำไมทำหน้าเเบบนั้นล่ะคะ”
“ไม่รู้สิคะ”
เธอหงอยเหมือนดอกไม้ที่ไมไ่ด้รดน้ำจนเหี่ยวเเห้ง
เเล้วจู่ๆป๊าม๊าเเล้วก็พี่ขุนก็เดินเข้ามาในบ้าน
“...”
“มินลูก”
“มาคุยกับป๊าหน่อยสิ”
ภูผาจะเอ่ยปากเรียกลูกสาวที่กำลังก้มหน้าหลบตาพวกเขาทั้งสามคน
“ค่ะ”
@สวนหลังบ้าน
“ป๊ามีอะไรจะเล่าให้หนูฟังนะ”
“...”
“ป๊ากับม๊าคิดว่าพอหนูโตพอจะรู้เรื่องเเล้วเราค่อยบอกหนูเเล้วตอนหนูอยู่มัธยม”
“ม๊าเค้าเห็นว่าหนูโตจนจะเข้าใจได้เเล้ว”
“เค้าเลยจะบอกหนูว่าพี่ขุนไม่ใช่พี่ชายเเท้ๆของลูก”
“เเต่วันนั้นตอนเราอยู่กันตรงนี้ที่ม๊าเค้ากำลังจะบอก”
“หนูดันมาบอกว่ารักพี่ขุนเเบบที่ไม่ใช่พี่ชาย”
“ตอนนั้นป๊าม๊าตกใจมากเลยนะลูก”
“เเล้วหนูคงไม่ยอมตัดใจถ้ายังเจอพี่เขาบ่อยๆ”
“ป๊าม๊าเลยต้องส่งขุนไปเรียนเมกา”
“เพราะถ้าหนูรู้ว่าเขาไม่ใช่พี่ชายหนูคงไม่ยอมเลิกยุ่งกับเขาขุนเป็นคนดีป๊ารู้นั่นก็ลูกป๊า”
“เเต่หนูจะรักคนที่ใช้นามสกุลเดียวกันไม่ได้นะลูก”
“ฮึก หนูขอโทษที่ไม่ฟังทุกคน”
“ไม่เป็นไรลูกป๊าผิดเองที่ไปบังคับจิตใจหนู”
@ห้องนั่งเล่น
“ม๊าหนูขอโทษนะคะที่ไม่ฟังม๊าก่อน”
“ม๊าก็ขอโทษนะลูก”
“ค่ะ”
.
.
.