แสงสว่างของดวงดาวที่แข่งกันเปล่งประกายอวดโฉบราวกับสาวงามบนท้องฟ้ายามรัตติกาลถูกแสงนีออนจากดวงไฟของเมืองท่องเที่ยวบดบังไปจนหมด แต่ถึงอย่างนั้นความว่างเปล่าของท้องฟ้าก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกเงียบเหงาแต่อย่างใด
หลังเคลียร์งานในโรงงานเสร็จในเวลาเกือบเที่ยงคืน วิศวกรหนุ่มผู้ซึ่งรู้สึกว่าคืนวันศุกร์คือสวรรค์ของนักเที่ยวไม่พลาดที่จะพาตัวเองวิ่งเข้าหาสีสันแห่งความสุขนั้นเด็ดขาด
ตรัยคุณฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีขณะขับรถยนต์อายุ 10 ปีที่ได้รับมาจากผู้เป็นพ่อไปปตามทางที่ไม่เงียบเหงาไปยังร้านเหล้าประจำของตน เขาทักทายพนักงานของร้านอย่างเป็นกันเองก่อนจับจองที่นั่งหน้าเคาน์เตอร์แล้วสั่งเครื่องดื่มเบาๆ มาจิบพลาง ปลดปล่อยอารมณ์ให้เพลิดเพลินไปกับเพลงบรรเลงที่ดังคลอขับไล่ทุกความเงียบเหงาไปจากสถานที่เริงรมย์
ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มตรงหน้า เก้าอี้ข้างกายที่เคยว่างก็ถูกใครอีกคนจับจอง
ชายหนุ่มไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองแต่ก็รู้สึกได้ว่าตนกำลังถูกจับจ้อง
“ร้านใกล้จะปิดแล้ว มีแพลนไปต่อที่ไหนรึเปล่า” นิ้วเรียวที่กำลังไล้ปากแก้วหยุดลงอย่างอ้อยอิ่งเมื่ออีกฝ่ายยื่นไมตรีมาให้
เหลือบมองก็พบว่าเสี้ยวหน้าของอีกฝ่ายดูดีทีเดียว
ตรัยคุณเงยหน้าขึ้นมองคนข้างกายตรงๆ อีกครั้งเพื่อพิจารณาว่าควรตอบรับไมตรีครั้งนี้ดีไหมและก็พบว่าเขาคนนั้นหน้าตาดีตามสมัยนิยม ดูขาวใสแบบหนุ่มตี๋ที่ไม่ค่อยตรงสเป็กตรัยคุณนัก แต่กลิ่นน้ำหอมเซ็กซี่ๆ กับแผ่นอกที่อีกฝ่ายตั้งใจโชว์ด้วยการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตั้ง 3 เม็ดนั้นก็ทำให้ตรัยคุณเริ่มลังเล
“ก็คงกลับบ้านมั้งครับ”
ถ้าหากรับไมตรีง่ายๆ ก็คงไม่ใช่ตรัยคุณตัวจริง
“เสียดายแย่ ถ้างั้นผมขอเลี้ยงเครื่องดื่มคุณซักแก้วได้มั้ย”
“ผมจ่ายเองได้” อีกฝ่ายมีสีหน้าผิดหวังทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่ไม่นานหัวใจก็พลันพองโตขึ้นมา “แต่ก่อนมานี่ยังไม่ได้ทานอะไรมาเลยครับ”
“ผมรู้จักร้านข้าวต้มๆ อร่อยอยู่เจ้านึง”
“ถ้าได้กินข้าวต้มปลาอร่อยๆ คงรู้สึกดีเหมือนได้ขึ้นสวรรค์นะครับ”
“ถ้าอย่างนั้นไปทานข้าวต้มรอบดึกกับผมนะ”
เพียงตรัยคุณพยักหน้ารับพวกเขาทั้งคู่ก็เดินตามกันออกจากร้านมา
ร้านข้าวต้มรอบดึกที่ว่านั้นมีจริงหรือเปล่าตรัยคุณไม่รู้เลย เพราะหลังจากก้าวขึ้นมาบนรถคันหรูของชายหนุ่ม เขาก็บึ่งมายังคอนโดทันทีโดยไม่ถามความเห็นตรัยคุณซักคำ
และเมื่อไม่มีเสียงคัดค้านก็เท่ากับว่ายินยอมพร้อมใจ
เตียงนอนกว้างในห้องหรูบนชั้นเกือบบนสุดของคอนโดริมทะเลกำลังรับศึกหนักจากสองร่างที่กำลังกอดเกี่ยวและโหมสะโพกใส่กันราวกับอดอยากมานานแรมปี
ไม่มีใครเสียเวลาถอดเสื้อผ้าด้วยซ้ำ
“คุณยังไม่บอกชื่อของคุณเลย” หลังจากเสร็จสมไปหนึ่งรอบ ร่างหนาของคนเป็นเจ้าของห้องก็ทิ้งลงมาทาบทับ ใบหน้าหล่อเหลาซุกซบอยู่บนอก เขาใช้ริมฝีปากปลิดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตรัยคุณแล้วแหวกสาบเสื้อออก ก่อนใช้ลิ้นชื้นแตะแต้มลงมาบนจุดเล็กที่ตื่นขึ้นมาด้วยด้วยความเย็นซึ่งกำลังโลมเลีย
อา...
ตรัยคุณปล่อยเสียงครางหวานอย่างไม่อาจอดกลั้นเมื่อร่างกายถูกปรนเปรอ เขาส่งมือเรียวลูบไล้สาบเสื้อของอีกฝ่าย ทั้งดึงทั้งทึ้งเพื่อถอดมันออกเมื่อรู้สึกว่าตนกำลังเสียเปรียบ
“คุณอยากเรียกผมว่าอะไรล่ะ” เป็นแค่คู่นอนคืนเดียว ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องบอกชื่อเสียงเรียงนาม ทำๆ ให้มันจบแล้วตอนเช้าก็แค่แยกย้าย
“ขี้โกงนี่” ชายหนุ่มคู่นอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงตำหนิ
“เรียกผมด้วยชื่อของคนที่คุณชอบก็ได้ ผมไม่ถือหรอก”
ตรัยคุณเสนอ หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็ไม่เซ้าซี้ถามอะไรอีกเลย
กิจกรรมบนเตียงผ่านไปอย่างเนิบนาบในรอบที่ 2 ทั้งคู่ในสภาพร่างกายเปลือยเปล่านอนแผ่หลาหอบหายใจ ก่อนคนเป็นเจ้าของห้องจะขยับตัวนอนตะแคงมองเสี้ยวหน้าของคนที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมบอกชื่อแก่เขาเลย
“ยังไหวรึเปล่า” นิ้วเรียวลูบไล้กรอบหน้า ทิ้งความร้อนเอาไว้ในทุกพื้นที่ที่ลากผ่าน
“อดอยากมาจากไหนกันเนี่ย”
“คุณพอแล้วเหรอ” ตรัยคุณตอบคำถามด้วยการพลิกกายขึ้นคร่อมอีกฝ่าย บดสะโพกเบียดกับส่วนที่เพิ่งปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่ให้มันลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง
“คุณเถอะ ยังไหวอยู่หรือเปล่า”
“คำว่าไม่ไหวสะกดไงอะ” ตรัยคุณยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจก่อนก้มลงไปมอบจุมพิตเร่าร้อน
หากเปรียบเรื่องคืนนี้กับการต่อสู้ คงต้องบอกว่าเป็นมวยคู่เอกก็ว่าได้ คงเพราะห่างหายจากเรื่องบนเตียงด้วยเรื่องงานมาซักพักแล้ว ตรัยคุณจึงรู้สึกโหยหามันเป็นพิเศษ ส่วนอีกฝ่าย นอกจากรูปร่างหน้าตาที่ชวนฝันแล้ว เรื่องนั้นก็ทำได้ดีมากเช่นเดียวกัน
“คุณเจ้าของชื่อน่ะเขารู้รึเปล่าว่าคุณชอบ” ตรัยคุณหันมาถามคนที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง ขณะที่ตนกำลังสวมเสื้อผ้าในตอนรุ่งเช้า
“ไม่ใช่เรื่องอะไรของคุณนี่” ชายหนุ่มไหวไหล่ขณะตอบ
“โอเค ผมเสือกเอง”
“ไม่ได้หมายว่าอย่างนั้น” ชายหนุ่มรีบปฏิเสธ “แต่ถ้าคุณอยากรู้จริงๆ ล่ะก็ บอกชื่อของคุณก่อนสิ แล้วผมจะตอบทุกคำถามที่คุณอยากรู้เลย”
“ไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้นหรอก”
“ใจร้ายจัง”
“ผมชอบนะว่าที่ถูกหาว่าใจร้าย”
“ผมก็ชอบนะ หมายถึงชอบคุณน่ะ” แววตาเจ้าเล่ห์มองสำรวจร่างกายของตรัยคุณอย่างนึกเสียดาย ทั้งที่เข้ากันได้ดีขนาดนี้แท้ๆ น่าเสียดายที่อีกฝ่ายไม่อยากสานต่อความสัมพันธ์
“คุณแค่ชอบเซ็กส์ของผม ไม่ได้ชอบผมซักหน่อย”
“ก็จริงแหละ แต่ถ้าได้ทำความรู้จักผมอาจจะชอบคุณจริงๆ ก็ได้”
“อย่าเลย ผมไม่อยากทำความรู้จักคนที่เป็นคู่นอนหรอก”
“ใจร้ายอีกแล้ว” เจ้าของร่างสูงใหญ่มุ่ยหน้าเหมือนเด็กก่อนจะขยับมานั่งที่ปลายเตียงแล้วคว้าบ็อกเซอร์มาใส่ ”ละนี่คุณจะกลับเลยจริงๆ เหรอ ไหวแน่นะ เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเลย”
“แค่นี่จิ๊บๆ หนักกว่านี้ก็เคยมาแล้ว”
“นี่คุณกำลังดูถูกผมรึเปล่า” ตรัยคุณไม่ตอบอะไร เขาแค่หัวเราะเบาๆ เท่านั้น
“ถ้าคุณขอตัวกลับไปตอนเที่ยงคืน ผมคงคิดว่าคุณเป็นซินเดอเรลล่า” ชายหนุ่มเจ้าของห้องว่ากลั้วขำ
“ไม่คิดว่าผมเป็นแวมไพร์บ้างเหรอ”
“ก็ได้อยู่นะ ต้องกลับก่อนพระอาทิตย์ขึ้นด้วยนี่”
ตรัยคุณติดกระดุมเม็ดสุดท้ายเสร็จพอดี เขาเดินไปสวมรองเท้าที่หน้าห้อง ขณะกำลังยื่นมือไปเปิดประตูก็ถูกเจ้าของห้องคว้าเอาไว้
ร่างกายที่มีเพียงบ็อกเซอร์ปกปิดส่วนล่างขยับเข้ามาใกล้ชิด พลางกระซิบเสียงกระเส่าที่ข้างหู “ผมชอบคุณมากจริงๆ นะ เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วจริงๆ เหรอ”
ตรัยคุณไม่ตอบ เขาไม่แม้แต่จะหันมามองอีกฝ่ายด้วยซ้ำ ก่อนดึงมือออกเบาๆ อย่างพยายามรักษามารยาท
เจอกันอีกอย่างนั้นเหรอ
ตรัยคุณนึกขำขณะก้าวไปตามทางเดินในคอนโด ถ้าหากเจอกันอีกก็ไม่นับว่าเป็นวันไนท์สแตนน่ะสิ
TBC.
เปิดตัวตรัยคุณไว้ก่อน
ฝากน้องด้วย :)