46... กาวใจ
เจ็ดวันต่อมา...
ช่วงพลบค่ำราวทุ่มเศษๆ
ผู้กองมอนโร กับวิชุดา มาปรากฏตัวขึ้นที่ซีซาร์พาเลสโฮเตล โรงแรมระดับห้าดาวบนย่านสตริป ใจกลางนครลาสเวกัส
คืนนี้ทั้งสองคนแต่งตัวหรูหราเป็นพิเศษ แม่สาวทอมใส่สูทชุดใหญ่ ส่วนแม่ดี้ฝึกหัดอยู่ในชุดราตรียาวสีดำคว้านอกเปิดหลัง เห็นส่วนบนของปทุมถันกับแผ่นหลังนวลเนียนขาวผ่อง ไม่ว่าจะย่างกรายไปทางไหน พวกผู้ชายเหลียวมองตามจนคอบิดเป็นเกลียว
ผู้กองมอนโรพาวิชุดาเข้าไปในภัตตาคารหรูหรา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอภิมหาคาสิโนขนาดมหึมาภายในโรงแรม
พนักงานต้อนรับ รีบพาทั้งสองไปนั่งที่โต๊ะซึ่งจองไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว คืนนี้เป็นวันสุดสัปดาห์ลูกค้าค่อนข้างเยอะ โต๊ะที่เห็นว่างอยู่ ส่วนใหญ่มีคนจองไว้แล้วแทบทั้งสิ้น
เมื่อบริกรนำเมนูมาให้ ผู้กองก็ออร์เดอร์แชมเปญชั้นดีกับอาหารเลิศรสราคาแพงมาเต็มโต๊ะ
วิชุดามองตาปริบๆ รีบออกปากทักท้วง
“ แพต พอแล้ว เรามากันสองคน สั่งมาทำไมตั้งเยอะแยะ ตะละอย่างแพงๆทั้งนั้น ฉันบอกแล้วว่าช่วงนี้เบื่ออาหาร กินอะไรไม่ค่อยลง ไม่รู้จะชวนมาให้สิ้นเปลืองทำไม ”
ผู้กองมอนโร ยิ้มพราย
“ ก็เพราะคุณเบื่ออาหารจนผ่ายผอมซูบซีด ผมถึงต้องพาคุณมาทานของดีๆอร่อยๆ คุณจะได้ทานได้เยอะๆไง เอ้าทานสิ ถ้าไม่ทานเองผมจะป้อนให้นะ ”
วิชุดาโบกมือปฏิเสธเมื่อเห็นสาวทอมตัวแม่ ตักไข่ปลาคาเวียร์เกรดเอ.สีดำปี๋ ป้ายขนมปังกรอบชิ้นเล็กพอดีคำ ยื่นมาที่ปากเธอ
“ ไม่ต้องค่ะ ฉันทานเองได้ แพต คุณจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร มันสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เราเคลียร์กันเข้าใจแล้วไม่ใช่เหรอ ? ว่าเรา... ”
ผู้กองมอนโร จุ๊ปากจิ๊กจั๊กอย่างเสียอารมณ์
“ ใช่ เราเคลียร์กันแล้วว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่ต้องตอกย้ำหรอก ผมเข้าใจและยอมรับได้มาตั้งนานแล้ว วันนี้ผมก็แค่ อยากจะทำหน้าที่เพื่อนที่ดีเท่านั้นเอง ตามใจไม่กินผมกินเองก็ได้ ” สาวทอมรักคุดบ่นงึมงำ เอาออเดิร์ฟหรูกลับมาใส่ปากเคี้ยวอย่างงอนๆ
วิชุดาหน้าจ๋อย กล่าวอย่างรู้สึกผิด
“ แพต ฉันขอโทษ ขอบใจนะสำหรับทุกอย่าง บอกตรงๆฉันเกรงใจคุณจนตัวเองกดดันไปหมดแล้ว ยิ่งคุณดีกับฉันมากเท่าไหร่ ฉันยิ่งรู้สึกอึดอัด เพราะไม่อาจตอบแทนน้ำใจคุณได้ ”
ผู้กองมอนโรโบกมือส่ายหน้าวุ่นไปหมด
“ ฮ้ายยยย ไปใหญ่แล้ว นี่แม่คุณ คิดเยอะไปรึป่าวเนี่ย ก็แค่เพื่อนห่วงเพื่อนไม่อยากให้เพื่อนผอมโทรม ก็พามาเปลี่ยนบรรยากาศเผื่อจะเจริญอาหารก็เท่านั้นเอง ทานสิฮะ ของดีๆทั้งนั้น ผมหิวแล้ว มาๆๆ หม่ำๆด้วยกัน ” หล่อนรีบตัดบท กลัวเสียบรรยากาศ
วิชุดากลัว‘เพื่อน’เสียน้ำใจ จึงฝืนใจตักอาหารชั้นดีหลากหลายชนิดตรงหน้า ใส่ปากอย่างละนิดละหน่อยพอเป็นพิธี
หลังจากร่วมรับประทานอาหารกันไปไม่นาน เสียงกริ่งโทรศัพท์มือถือผู้กองมอนโร ก็ดังกังวานขึ้น
พอเห็นเบอร์ที่โชว์บนมือถือ ผู้กองก็วางช้อนส้อม และขอตัวออกไปรับสายทันที
หลังจากหายหน้าไปพักใหญ่ ผู้กองก็เดินยิ้มกริ่มกลับมาพร้อมกับถาดชิปในมือ
“ ผมมีธุระด่วนต้องไปทำแป๊บนึง ผมเช็คบิลล์จ่ายค่าอาหารให้แล้ว คุณทานไปเรื่อยๆก่อนนะ อิ่มแล้วถ้าผมยังไม่กลับมาก็เข้าไปเล่นคาสิโนแก้เซ็ง ผมแลกชิปมาให้คุณ แสนนึงพอมั้ย ? ถ้าไม่พอผมจะไปแลกมาเพิ่มอีก ”
วิชุดาทำตาเหลือก มองชิปคาสิโนที่ใช้เล่นพนันแทนเงินหลากสีหลายราคาในถาดด้วยความตกใจ
“ แสนดอลล่าร์ ? โอ้มายก๊อด แพต คุณไปรวยอะไรมา ไหนจะค่าอาหารเครื่องดื่มนี่อีก ไม่เอา ไม่เอา ฉันไม่เล่น ฉันจะดื่มแชมเปญรอคุณที่นี่ละกัน รีบไปรีบมานะคะ ”
ผู้กองหัวเราะอย่างมีเลศนัย
“ เล่นไปเถอะไม่ต้องเกรงใจ งานนี้มีสปอนเซอร์จ่ายให้ เล่นให้สนุกนะ ถ้ารวยก็แบ่งมั่งละกัน ”
ผู้กองวางถาดชิปลงบนโต๊ะแล้วจากไป ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายซักถามอะไรอีก
วิชุดางุนงงกับกิริยาท่าทางและคำพูดแปลกๆของผู้กองมอนโร แล้วเบ้หน้ามองอาหารชั้นเลิศร่วมสิบอย่าง ซึ่งเหลือเบะบะตรงหน้าอย่างเอียนๆ
หญิงสาวยกแก้วแชมเปญขึ้นดื่มรวดเดียวจบ แล้วลุกขึ้นเดินออกจากโซนภัตตาคารเข้าไปในโซนคาสิโน พร้อมกับชิปทั้งหมดบนโต๊ะ
วิชุดาก็แค่จะใช้เกมส์การพนันสร้างความเพลิดเพลิน ให้คลายความทุกข์ในใจตนเอง
ตลอดช่วงเวลาสองเดือนที่ผ่านไป แทบไม่ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าเธอเลย ใบหน้าที่เคยสดใสอ่อนเยาว์เต็มไปด้วยริ้วรอยความหม่นหมอง ร่างกายที่เคยอวบอิ่มสมส่วนก็ผอมซูบลงอย่างเห็นได้ชัด
ทุกสิ่งล้วนเป็นผลข้างเคียงจากความรักที่ต้องจบลงด้วยความผิดหวัง
ความเจ็บปวดรวดร้าวที่เกาะกินหัวใจเธออยู่ มันแสนสาหัสจนเธอกินไม่ได้นอนไม่หลับ ทั้งวันทั้งคืนจมอยู่กับความซึมเศร้า มีชีวิตไม่ต่างกับคนตายทั้งเป็น มีลมหายใจอยู่อย่างซังกะตายไปวันๆนึงเท่านั้น
ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหนุ่มซานฟรานคนนั้น จะทำให้สาวเวกัสเฮิร์ทจัดเจียนตายได้ขนาดนี้
ทุกสิ่งที่หลอมรวมกันเป็นบุรุษจากซานฟรานซิสโกคนนี้ ยังฝังแน่นตราตรึงอยู่ในใจวิชุดาตลอดเวลา พยายามจะสลัดออกไปยังไงก็ไม่สำเร็จ เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน
หญิงสาวมัวแต่เดินใจลอยไม่ทันสังเกตุว่า ตัวเองกำลังถูกชายใส่แว่นดำสวมสูทสีเข้มคนนึงแอบสะกดรอยเดินตามประกบอยู่ข้างหลัง
ท่าทางของมันลุกลี้ลุกลน ส่อพิรุธว่ามีลับลมคมในอย่างแน่นอน ดูแล้วน่าจะเป็นตัวร้ายมากกว่าตัวดี
เมื่อเห็นวิชุดาเดินนวยนาดเข้าไปที่โต๊ะโป๊กเกอร์* เจ้าแว่นดำก็แอบแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย
มันเดินย่างสามขุมตามเข้าไปประกบติด พลางล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อทำท่าจะชักอาวุธออกมาลอบทำร้ายผู้หญิงข้างหลัง อย่างเลือดเย็นและไร้ยางอาย
สิ่งที่ชายลึกลับล้วงออกมาจากอกเสื้อ ดูไม่เหมือนปืนหรือมีด มันเป็นกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆถ้าเป็นอาวุธ ภายในก็คงบรรจุพวกระเบิดซีโฟร์ ซึ่งมีอำนาจทำลายล้างสูงมาก
เจ้าแว่นดำแค่หยิบสิ่งนั้นออกมาดูแล้วเก็บกลับเข้าไปอีก ท่าทางคงยังไม่สบโอกาสเหมาะๆที่จะลงมือ จึงยืนจดๆจ้องๆรอจังหวะอยู่ข้างหลังเหยื่ออย่างกระวนกระวาย
วิชุดานั่งลงบนเก้าอี้ว่างตัวหนึ่ง บรรดาขาไพ่รวมโต๊ะพากันหันมามองและยิ้มต้อนรับ โดยเฉพาะพวกผู้ชาย แอบจ้องอกอันล้นหลามเกินตัวของหล่อนตาเป็นมัน
แม่สาวอกใหญ่ชินซะแล้ว เลยไม่ถือสาหรือใส่ใจ เธอยิ้มกับทุกคน แล้วซักถามเงื่อนไขกติกาการเล่นกับชายหัวล้านเจ้ามือเป็นสังเขป
จากนั้น วิชุดาก็หยิบชิปโยนลงไปในกองกลางตามจำนวนที่ตกลงกัน เจ้ามือยิ้มแป้น รีบแจกไพ่ให้ทันที
ตาแรกๆวิชุดาได้ตลอด แผลบเดียวชิปของเธอก็กองโตสูงเป็นภูเขาเลากา ไม่รู้เป็นเพราะมือกำลังขึ้น หรือเป็นแผนอ่อยเหยื่อของเซียนพนันรุ่นเดอะทั้งหลายที่นั่งร่วมโต๊ะ
ไม่นานชิปกองโตของวิชุดาก็มลายหายไป เพราะตาหลังๆ เธอเล่นเสียตลอด ทุนหายกำไรหดอย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้เข้าเนื้อไปกว่าครึ่งแล้ว
เจ้าตัวลึกลับดูท่าทางเหมือนจะสนใจไพ่ในมือเหยื่อสาว มากกว่าจะคิดฉวยโอกาสทำร้าย
มันแอบดูอยู่ข้างหลัง จึงรู้ว่าไพ่วิชุดาดีเกือบทุกตา ที่แพ้ก็เพราะอ่านสีหน้ากับลักไก่ไม่เก่ง ไม่เหมือนบรรดาเสือ สิงห์ กระทิง แรด ที่เล่นอยู่ร่วมโต๊ะ
หลังจากผู้ชนะในตานั้นกวาดชิปทั้งหมดไปแล้ว เจ้าหัวล้านตัวเจ้ามือซึ่งตอนนี้มีชิปกองโตที่สุดในวง ก็แจกไพ่ให้ตัวเองและขาไพ่ร่วมโต๊ะคนละ 2 ใบ แล้วหงายไพ่ไว้ตรงกลางอีก 3 ใบ ตามวิธีการเล่นเท็กซัสโป๊กเกอร์ทั่วๆไป
หลังจากเกทับกันไปมาอย่างดุเดือด หงายไพ่ยังไม่ครบห้าใบ วิชุดาที่มีลุ้น ทั้งสองคู่ ทั้งตองฟูลเฮาส์ ก็ถูกเจ้ามือลักไก่จนถอดใจหมอบไปอีกตามเคย
ตาต่อไปไพ่ในมือวิชุดาก็ดีเหมือนเคย เธอมีแหม่มกับ10โพแดง แล้วสามใบที่หงายตรงกลางนอกจากเอซกับ10โพดำอีกใบที่เหลือคือ คิงโพแดงซะด้วย
แถมไพ่ใบที่สี่ที่เพิ่งเปิดไปหลังจากเกเดิมพันกันจนหน่ำใจแล้ว ดันเป็นแจ๊คโพแดงอีก ทำให้หญิงสาวมีลุ้นทั้งตอง10ไปจนถึงเสตรจ์ฟลัสช์และรอยัลเสตรจ์ฟลัสช์ ซึ่งเป็นหน้าไพ่สูงสุดในเกมส์โป๊กเกอร์
แต่ไอ้หัวล้านเจ้ามือคงถือไพ่ดีเหมือนกัน จึงอาศัยชิปเงินทุนที่เหนือกว่าเยอะ แกล้งเกหนักๆ บีบคนเงินน้อยๆอย่างวิชุดาให้คิดหนัก
ซึ่งมันก็ได้ผล วิชุดาเสียไปเยอะใจกำลังฝ่อ โดนขู่นิดเดียวก็หงอ เธอคิดเก็บชิปไว้เล่นเอามันอีกสามสี่ตา จึงตัดสินใจยอมหมอบทั้งๆที่มีลุ้น
เมื่อเห็นหญิงสาวเหงื่อแตกคอตก เจ้าแว่นดำก็รู้ว่าเธอถอดใจ พอเธออ้าปากจะพูดคำว่าหมอบออกมา
เจ้าตัวลึกลับก็ก้มลงมากระซิบข้างหูเธอ
“ อย่าหมอบเป็นอันขาด เกทับมันไปให้หมดหน้าตักเลย ไม่ต้องกลัว ถ้าตานี้เสียผมรับผิดชอบเอง ”
คำพูดลอยๆแค่ไม่กี่คำของมัน ทำให้สาวใจเสาะรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด
ในขณะที่วิชุดาจะหันไปดูหน้าว่าเขาเป็นใคร ชายลึกลับก็กระซิบปรามไว้
“ อย่าหันมามองผม ตั้งสมาธิสนใจกับเกมส์ แล้วลุ้นไพ่ใบสุดท้ายบนโต๊ะเถอะ ผมกล้าเอาหัวเป็นประกัน ตานี้คุณรวยเละแน่นอน ”
ถึงไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่วิชุดาเกิดรู้สึกไว้ใจและเชื่อฟังเขาโดยไม่มีเหตุผล เธอมองไพ่ตัวเองแล้วยักคิ้วกับเจ้ามือ ก่อนผลักชิปที่เหลืออยู่ทั้งหมดไปข้างหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว
ขาไพ่คนอื่นๆไม่สู้หมอบกันหมด เหลือเพียงเจ้ามือหัวล้านคนเดียวที่ไม่ยอมหมอบ มันคิดว่าวิชุดาลักไก่ จึงหรี่ตามองเธออย่างดูแคลน แล้วเลื่อนชิปตัวเองออกมาขอดู
ตอนนี้เหลือสู้กันแค่ตัวต่อตัว ใครจะได้ชิปเงินเดิมพันกองโตบนโต๊ะนี้ไป ไพ่ใบสุดท้าย ที่จะหงายต่อไปนี้จะเป็นตัวตัดสินแพ้ชนะ
สายตาทุกคู่ของขาไพ่ร่วมโต๊ะจับจ้องไปที่สำรับไพ่ในมือเจ้ามือเป็นจุดๆเดียว ทุกๆคนแม้คนที่หมอบไปแล้ว ต่างก็ลุ้นว่าไพ่ใบสุดท้ายจะออกอะไร ?
เจ้ามือจั่วไพ่ใบบนสุดขึ้นมาหงายลงบนโต๊ะต่อหน้าทุกคน แล้วแหกปากหัวเราะออกมาลั่นห้อง ด้วยความยินดีปรีดาสุดๆ
ไพ่ใบสุดท้ายคือ เอซโพแดงเท่ากับไพ่ที่หงายตอนนี้ เรียงตามลำดับหนึ่งถึงห้ามีดังนี้
1...เอซ โพดำ 2...สิบ โพดำ 3...คิง โพแดง 4...แจ๊ค โพแดง และ 5...เอซ โพแดง
เจ้ามือออกอาการเริงร่า เพราะมันถือคู่เอซอยู่เมื่อรวมกับเอซสองใบในไพ่ที่หงายก็กลายเป็น โฟร์คาร์ดเอซ หรือหอนเอซ ซึ่งเป็นหน้าไพ่หอนที่ดีที่สุดในเกมส์โป๊กเกอร์
เจ้าหัวลูกมะอึกหงายไพ่ตนเองบนโต๊ะต่อหน้าทุกคน พลางแหงะหน้าขึ้นมายิ้มเยาะวิชุดา แล้วขยับจะกวาดชิปทั้งหมดบนโต๊ะไปเป็นของมัน
“ เดี๋ยวค่ะ คุณจะไม่ดูไพ่ฉันก่อนเหรอ ? ” วิชุดาทักท้วง พลางอมยิ้มแก้มตุ่ย
เจ้ามือหัวเหม่งชะงักมือ ก่อนจ้องหน้าดูแคลน และประกาศอย่างฮึกเหิม
“ ผม หอนเอซ นะครับคุณผู้หญิง คุณ เสตรจ์ฟลัสช์ รึเปล่า? ถ้าไม่ก็อย่าหงายไพ่เลย ขายหน้าเขาเปล่าๆ ”
วิชุดาหัวเราะหึๆ
“ คนขายหน้าคงไม่ใช่ฉันแน่ เพราะฉัน รอยัลสเตรจ์ฟลัสช์ เจ้าค่ะ คุณผู้ชาย อิ อิ ” เธอยักคิ้วกับไอ้เหม่งพลางหงายไพ่ทั้งสองใบในมือให้ดู
ไพ่ที่หงายห้าใบหลังจากเอา เอซกับสิบโพดำซึ่งไม่เกี่ยวออกไป สามใบที่เหลือ เมื่อนำมารวมกับ แหม่มและสิบโพแดงของวิชุดา ก็จะเรียงกันเป็น สิบ แจ๊ค แหม่ม คิง เอซ เข้าสเตรจพอดี แถมโพแดงเหมือนกันทุกใบจึงเป็นฟลัสช์ด้วย ที่สำคัญเป็นไพ่เต๊ะแต้มสูงอีกต่างหาก
เมื่อ สเตรจ +ฟลัสช์+ไพ่สูง ในกติกาโป๊กเกอร์เรียกว่า รอยัลสเตรจฟลัสช์ นับเป็นหน้าไพ่ที่ใหญ่ที่สุดของเกมส์พนันในรูปแบบนี้
ขาไพ่ร่วมโต๊ะถึงกับตกตะลึงพรึงเพริดส่งเสียงฮือฮากันอื้ออึง ต่างเข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับชัยชนะอย่างงดงามของวิชุดากันทั่วหน้า
เจ้ามือหน้าซีดเหงื่อแตกจำต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ได้แต่นั่งทำตาปริบๆมองผู้ชนะกวาดเดิมพันทั้งหมดไปอย่างเซ็งๆ
วิชุดาโกยชิปซึ่งมีมูลค่าหลายแสนเหรียญมากองไว้ตรงหน้า แล้วลุกขึ้นหันไปจะขอบคุณคนที่ช่วยเธอให้ได้ชัยชนะ
หญิงสาวตกตะลึงอ้าปากค้าง เมื่อพบว่าชายใส่สูทสวมแว่นดำที่ทำตัวลับๆล่อๆอยู่ข้างหลังเธอ ไม่ใช่คนแปลกหน้าหรือฆาตกรโรคจิตที่ไหน
เขาคือ จอห์น เบล็น ผู้ชายที่หัวใจเธอเฝ้าคร่ำครวญโหยหาอยู่ตลอดเวลานั่นเอง...
*****