Diamond eyes
#ดมอบีนยอง
△
{2}
การแข่งขันโคล์ดสโตนผ่านพ้นไปแล้ว
ในการแข่งขันครั้งที่ สิบสองนี้ผู้ที่ชนะคือเมืองเพิร์ล มีเรื่องเล่าถึงการขอเปลี่ยนของรางวัลของผู้ชนะ ที่ตามมาด้วยพิธีผูกชะตาของผู้ชนะและของเดิมพัน ราวกับนิยายหวานล้ำที่กล่อมใจผู้อ่านให้เคลิบเคลิ้ม แม้แต่เขาก็ยังได้ยินเรื่องราวนี้อยู่เนือง ๆ ตลอดเวลาสองเดือนที่ผ่านมา
สองเดือนตั้งแต่ที่แองเจลโล่ ปาร์กเกอร์ถูกกัดตีตราคู่พันธะสัญญา
เป็นระยะเวลาสองเดือน ที่จีนรู้สึกว่ามีหลายต่อหลายอย่างที่เขาต้องเรียนรู้และปรับตัว แม้จะยังคงเป็นโรงเรียนโอเมก้าลินน์แห่งเดิม
อย่างแรกตอนนี้เขาเป็นบรรณารักษ์ของห้องสมุดแล้ว แม้จะมีคุณโดโรธีเป็นผู้ดูแลหลัก แต่ก็ถือว่าเขามีตำแหน่งเทียบเท่าคุณครูผู้ทำการสอน จึงเกิดเส้นกั้นหนา ๆ ขึ้นระหว่างเขากับบรรดาเพื่อนร่วมชั้นที่ปกติก็ไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่อยู่แล้ว แน่นอนว่าลูเซียนคือข้อยกเว้น
แต่ความห่างเหินจากเพื่อนนี้ คุณโดโรธีบอกว่าอาจจะเป็นเพราะกลิ่นของอัลฟ่าที่อยู่รอบกายเขาด้วยก็เป็นได้
อย่างที่สองคือเรื่องเรียน แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหามากนัก เพราะลูเซียนจะเอาอะไรน่าสนใจในห้องเรียนมาเล่าให้เขาฟังต่ออยู่บ่อย ๆ หลายครั้งเราก็ช่วยกันทำการบ้านไปส่งด้วยซ้ำ (ซึ่งนี่เป็นนิสัยที่ไม่ค่อยดี ต้องแอบคุณโดโรธีทำไม่เช่นนั้นจะถูกดุทั้งคู่) ส่วนจีนเองก็หาอ่านเพิ่มเติมจากหนังสือที่เต็มห้องสมุด
ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จีนทำใจยอมรับกับมันไม่ยากนัก
ส่วนเรื่องรอยกัดที่ถูกอัลฟ่าตีตราพันธะสัญญา รวมทั้งอัลฟ่าผู้นั้นได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว แถมยังถูกปลดจากการเป็นนักเรียนของโรงเรียนโอเมก้าลินน์อีก จีนยังไม่กล้าจะส่งจดหมายที่เขียนไว้ไปบอกท่านพ่อกับท่านแม่ มันมีความกังวลหลายอย่าง
จึงเลือกจะรอบอกกับท่านพ่อท่านแม่ด้วยตัวเองตอนปิดเทอม ซึ่งบางทีจีนอาจจะออกไปหาพวกท่านเองได้
การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดในรอบสองเดือนนี้ก็คงเป็นเรื่องนี้
"ตำราดูพระจันทร์กับการทำนายดวง อืม น่าจะอยู่บนชั้นสี่" ริมฝีปากอิ่มตึงพึมพำกับตัวเอง ใบหน้าน่ารักแหงนขึ้นมองชั้นหนังสือสูงท่วมหัว สองขาปีนขึ้นบันไดแบบเก้าอี้สูงลิบเพื่อเก็บตำราเก่าแก่ให้เข้าที่
"เจอแล้ว" ยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อเจอช่องว่างของหนังสือที่ตัวเองต้องการเก็บ
"จีน เดี๋ยวเจ้าเอาตำรากองนั้นขึ้นไปเก็บด้วยนะ มันอยู่หมวดเดียวกับตรงที่เจ้ายืนอยู่"
"ขอรับคุณโดโรธี" จีนขานรับตอบเสียงนุ่มหวานของคุณบรรณารักษ์เก่าแก่ ร่างผอมเพรียวที่เอวคอดบางรับกับเนินสะโพกอวบอิ่มปีนขึ้นลงอย่างคล่องแคล่ว เพราะตอนที่เป็นนักเรียนก็เที่ยวเสาะหาหนังสือไปทั่วห้องสมุดอยู่แล้ว
ตอนนี้จีนดูคล้ายแต่ก่อน แถบผ้าบนคอพันทับรอยเขี้ยวของอัลฟ่าที่ฝากไว้จนมิดชิด จีนเลือกใช้เพียงผ้าธรรมดาในการอำพลางรอย เพราะเมื่อถูกกัดแล้วก็มิต้องกังวลว่าจะถูกกัดเป็นครั้งที่สอง
และดูเหมือนจีนยังไม่ได้ต้องสาปจนโชคร้ายขนาดนั้น
ในเรื่องแย่ ๆ ก็มีเรื่องที่ดีซ่อนอยู่
"คุณโดโรธีขอรับ ข้าเก็บหนังสือพวกนี้เสร็จแล้ว ข้าขอออกไปช่วยลูเซียนเตรียมงานได้ไหมขอรับ" โอเมก้าหนุ่มน้อยตัวผอมบางกอดแขนอวบอ้วนของคุณโดโรธีไว้จนแน่น ไถแก้มซ้าย ซุกแก้มขวาเอาใจอย่างสุดกำลัง จนหญิงชราได้แต่ถอนหายใจเจือรอยยิ้ม
เธอเจอเด็กคนนี้ตั้งแต่ไม่มีกี่ขวบที่ถูกพามาอยู่ที่นี่ จนโตขึ้นขนาดนี้แล้ว จะว่าเอ็นดูเป็นลูกคนหนึ่งก็แทบจะไม่ผิดนัก
"ได้ แต่ต้องพกสมุนไพรของเจ้าติดย่ามไปด้วยอย่างละสองชุด เข้าใจไหม"
"ขอรับคุณโดโรธี" รับคำด้วยรอยยิ้มอย่างชอบใจ ร่างผอมบางรีบวิ่งขึ้นไปที่ตึกโรงนอนด้านหลังห้องสมุดสู่ที่พักของตัวเองเพื่อเตรียมสมุนไพรกันฮีทและป้องกันตัวเองอย่างทุกที
จีนใจเต้นทุกครั้งที่จะได้ออกไปข้างนอก
ยิ่งตอนนี้ได้ออกไปบ่อยขึ้นกว่าแต่ก่อนก็ไม่ได้ทำให้ตื่นเต้นน้อยลงเลย
ดูเหมือนว่าการเป็นโอเมก้าต้องคำสาปของเขาจะดีขึ้น อย่างน้อยหากประโครมสมุนไพรอย่างหนาแน่น เขาก็สามารถเข้าใกล้หมู่ผู้คนได้แล้ว อย่างน้อยก็ไม่เกิดเหตุจลาจลขึ้นอย่างแต่ก่อน
น่ายินดีนักที่เมืองลินน์โดยมากจะมีแต่เบต้ากับโอเมก้า แทบไม่มีอัลฟ่าให้เขาต้องกังวลใจ
ครูใหญ่เกเบรียลบอกว่ามันเป็นเพราะกลิ่นของอัลฟ่าบนตัวเขาทำให้กลิ่นโอเมก้าที่ส่งผลรุนแรงแต่เดิมถูกปนเปื้อน มันไม่ได้ล้างสภาพต้องสาปของเขาได้ แต่อย่างน้อยนอกจากสมุนไพรหลายขนานแล้ว กลิ่นนั้นก็ช่วยเคาะสติให้เบต้าที่กำลังจะคลั่งหรือถูกกระตุ้นรุนแรง ยั้งตัวเองได้ดีมากขึ้น
สิ่งที่อัลฟ่าผู้นั้นทำก่อประโยชน์ให้กับจีนอย่างคาดไม่ถึง
โอเมก้าที่รู้สึกว่าตัวเองต้องสาปน้อยกว่าเคยจึงภาวนาขอให้ภพภูมิใหม่น้อมรับอัลฟ่านัยน์เพชรผู้นั้นอย่างอารีด้วยแล้วกัน แม้จะไม่ได้มีแต่สิ่งที่ดีเกิดขึ้น เรื่องแย่ ๆ ก็ตามมา
สิ่งที่แย่ลงมากที่สุดคืออาการฮีท
การฮีทตอนพระจันทร์เต็มเมื่อเดือนก่อน จีนรู้สึกได้เลยว่าเขาฮีทรุนแรงขึ้น มันร้อนและทุรนทุรายจนแม้แต่ยาหยาดหิมะที่ใช้ระงับอาการฮีทและคลั่งอย่างฉับพลันยังช่วยเขาไม่ได้มากนัก
ในห้วงคิดของเขามีแต่กลิ่นเปลือกไม้ที่หอมปนฝาดซึ่งกำลังแผดเผาในเปลวไฟเพราะมันทั้งหอมแล้วก็ร้อน ดวงตาสีดำสนิทประกายเพชรแล่นวาบเข้ามาในความทรงจำครั้งแล้วครั้งเล่า
จีนทรมานยิ่งกว่าจับไข้ เป็นการฮีทที่รุนแรงกว่าแต่ก่อนมากนัก
และเขาไม่ได้คิดเอง แม้จะมีถุงสมุนไพรกันฮีทติดห้องนอนกันคนละถุงสองถุงอยู่เสมอ แต่อาการฮีทของโอเมก้าต้องคำสาปครั้งนี้ก็แผ่ไปจนทำเอาโอเมก้าในโรงนอนซึ่งห่างออกไปหนึ่งช่วงตึกฮีทตามได้ วุ่นวายเสียจนครูใหญ่เกเบรียลต้องใช้พลังย้ายถุงสมุนไพรป้องกันชนิดพิเศษจากโรงอบสมุนไพรไปไว้กลางห้องของทุกคนอย่างละถุงถึงควบคุมผลกระทบครั้งนั้นได้
แน่นอนว่าครูใหญ่ใจดีเอามาส่งที่ห้องของจีนมากกว่าคนอื่น ๆ และดูเหมือนจะตั้งใจทำใหม่เพื่อเขาในคืนพระจันทร์เต็มดวงในกี่ไม่กี่วันข้างหน้านี้โดยเฉพาะอีกหลายขนาน
"จีน จีนนน" เสียงเรียกของเพื่อนรักทำให้ร่างน้อยที่ยืนนิ่งกุมแก้มตัวเองอยู่เพราะปล่อยความคิดกระเจิงไปไกลรีบวิ่งตรงไปหาคุณหนูตระกูลโรมานอฟที่รออยู่นอกรั้วของโรงเรียน
ช่วงนี้เป็นช่วงเตรียมงานเลี้ยงประจำปีของโรงเรียนโอเมก้าลินน์ ซึ่งจัดที่ตึกหอสมุดประจำเมือง ชั้นสองของมันมีห้องโอ่โถงที่เหมาะแก่การจัดงาน และที่ตั้งไม่ได้ห่างไปมากนัก หากเดินเท้าชมนกชมไม้ข้างทางก็ใช้เวลาราวครึ่งชั่วยามเท่านั้น
งานเลี้ยงนี้เป็นช่วงเวลาที่นักเรียนโรงเรียนโอเมก้าลินน์จะได้ออกไปเจอกับเบต้าและอัลฟ่า แต่งตัวสวยงามและฝึกฝนการเข้าสังคมชั้นสูงแบบแท้จริง เพื่อให้ดีพร้อมทุกด้านสมดังใจของบรรดาผู้ปกครองที่ส่งมาร่ำเรียน
อีกทั้งยังเป็นการสอบปฏิบัติอย่างหนึ่งของวิชาทักษะการเข้าสังคม แม้จะอยู่ที่นี่มาหลายปีแต่นี่เป็นครั้งแรกที่จีนได้ออกมาร่วมด้วย เพราะแต่ก่อนนี้เขามักจะสร้างแต่เหตุวุ่นวาย เลยได้รับข้อยกเว้นให้สอบในโรงเรียนเพียงผู้เดียว
พอครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่พอจะทำให้ได้ออกมา โอเมก้าผู้ปรารถนาจะได้เห็นโลกอันน่าตื่นตาภายนอกก็ไม่รอช้าที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้
แถมครูใหญ่ยังใจดีบอกว่าเขาไม่ใช่นักเรียนแล้ว ไม่ต้องขอครูใหญ่ถ้าอยากออกมาแต่ให้ขอคุณโดโรธีที่เป็นเหมือนหัวหน้างานแทน ก็เลยต้องงัดลูกอ้อนออกมาใช้อย่างสุดความสามารถ แล้วคุณโดโรธีก็ใจอ่อนทุกครั้ง
"โหยย จีน กลิ่นนี่แบบ..." ลูเซียนทำหน้ามุ่ยเบี่ยงหลบไปอีกทางทันทีที่เพื่อนรักจะวิ่งเข้ามากอด
"ทำไมเหรอ ถุงสมุนไพรใหม่ของข้าเหม็นเหรอ" จีนดึงเสื้อที่ด้านในมีเสื้ออีกชั้นซึ่งเย็บกระเป๋าสำหรับใส่ถุงสมุนไพรไว้ติดตัวจนแน่นเอี๊ยดออกมาดม จีนรับรู้กลิ่นได้ไม่ค่อยดีนัก คงเพราะเจอแต่พวกสมุนไพรระงับจนจมูกใช้การไม่ได้ดีไปเสียแล้วมั้ง
"ไม่ใช่กลิ่นสมุนไพร กลิ่นของพี่ซากนั่นแรงกว่าปกติเสียอีก จะต้องยังไม่ข้ามภพไปเกิดใหม่แน่ ๆ "
"กลิ่นของพี่ซากเหรอ" จีนพึมพำ มือก็เผลอจับผ้าที่รัดรอบคอ จีนเรียกอัลฟ่าคนนั้นว่าพี่ซากตามลูเซียนจนติดปาก เพราะมันดีไปเสียอีกอย่างที่จะย้ำให้เขาได้รู้ตัวว่า ชายผู้นั้นได้ตายจากไปแล้ว
เพราะพอคิดถึงความทรมานจากอาการฮีทที่แผงฤทธิ์ร้ายมากกว่าปกติ ทำให้จีนนึกโกรธอัลฟ่าคนนั้นอยู่หลายครั้งที่มากัดโดยที่เขาไม่เต็มใจ แต่พอคิดว่าอีกฝ่ายตายไปแล้วก็ไม่รู้จะจองเวรคนตายให้เสียสุขภาพทางจิตใจตัวเองไปทำไมกัน
ถ้าหากยังไม่ตายล่ะก็ หากเจอกันอีกเขาจะทุบแรง ๆ เลย จะทุบจนกว่ากำปั้นของเขาจะแดง จะตี ๆ ให้กระดูกหักเลย แต่ตอนนี้ฝ่ายนั้นเหลือเพียงเถ้ากระดูกเขาจึงทำได้แค่อวยพรว่าชาติภพไหน ๆ ก็อย่าต้องสิ้นลมหายใจเพียงลำพังอีกเลย
"ท่านปู่ข้าพอตายแล้วก็ไม่เห็นทิ้งกลิ่นพิมเสน กลิ่นประจำตัวท่านไว้หลอกหลอนแบบนี้เลย กลิ่นจางลงตั้งแต่ตอนป่วยแล้วด้วยซ้ำ ยิ่งร่างกายอ่อนแอกลิ่นก็ยิ่งเบาบางลง แต่พี่ซากนี่อะไรกันยิ่งตายนานวันไปก็ชุบย้อมตัวเจ้าด้วยกลิ่นเปลือกไม้ของตนเองแรงขึ้นทุกวัน" ลูเซียนบ่นพึมพำ เพราะเป็นโอเมก้าแสนเดียงสาเจอกลิ่นอัลฟ่าโจมตีเสียขนาดนี้เลยเดินควงแขนแนบชิดเพื่อนรักอย่างเคยไม่ไหว จำต้องถอยห่างอีกสองก้าวด้วยซ้ำ
"สงสัยข้าเป็นโอเมก้าต้องสาปล่ะมั้งก็เลยแปลกกว่าชาวบ้านเขา" จีนหัวเราะอย่างไม่คิดอะไร มือน้อยฉวยถุงสมุนไพรในเสื้อออกมาสองสามถุง เช่นไรในตึกตอนนี้ก็มีแค่โอเมก้าจากโรงเรียน แถมแค่ถูกย้ายไปอยู่ในย่ามย่อมส่งกลิ่นออกมาล้อมตัวเขาอยู่ดี
"ข้าเอาสมุนไพรระงับออกไปบ้าง เจ้าจะได้กลิ่นโอเมก้าของข้าแทนดีไหม" จีนเก็บถุงสมุนไพรใส่กระเป๋าย่ามใบโปรดของตัวเองให้เรียบร้อย ลูเซียนพยักหน้าแล้วขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น เพราะได้กลิ่นของเพื่อนที่คุ้นจมูกตนมากขึ้น
เสียงหวานนุ่มพูดคุยกัน แม้จะเห็นโอเมก้าชัดเจนเพียงหนึ่งคน เพราะอีกคนซ่อนตัวเองไว้ในเสื้อคลุมที่ปิดทับจนถึงศีรษะแต่ก็ยังคงเป็นภาพที่น่ามองสำหรับผู้ที่เดินผ่านไปมา ก่อนโอเมก้าตัวน้อยทั้งสองจะหายลับขึ้นไปบนตึกโออ่าของหอสมุดประจำเมือง
"ข้าพูดเลยว่าคะแนนของข้าครั้งนี้จะต้องดีกว่าบิช็อป เจมส์ให้ได้ แพ้ใครไม่น่าเจ็บใจเท่าแพ้ให้พวกตระกูลเจมส์" ลูเซียนบอกจนปากสีสวยขมุบขมิบอวดฟันกระต่ายเด่นชัดให้ได้เห็น
"ไม่เห็นต้องแข่งกับเขาเลย ทำของตัวเองให้ดีเจ้าก็คงได้คะแนนเกือบเต็มแล้ว นี่คุณหนูโอเมก้าแห่งโรมานอฟเลยนะ" ถ้อยคำหวานหูเอ่ยบอก ยามที่ร่างน้อยปีนขึ้นบันไดไปช่วยจัดดอกไม้ประดับงานเลี้ยง โดยมีลูเซียนคอยหยิบของส่งให้จากด้านล่าง
ตอนนี้นักเรียนของโรงเรียนโอเมก้าลินน์กระจายตัวกันไปทั่วห้องเพื่อรับผิดชอบจัดตกแต่งสถานที่ของตัวเอง โดยมีผู้ทำการสอนคอยเดินดูความเรียบร้อยเป็นระยะ
"เจ้าพูดแบบนั้นก็ถูก ฮ่าฮ่า" ลูเซียนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"แล้ววันงานจริง เจ้าจะมาไหมจีน" ลูเซียนกังวลอยู่ไม่น้อย ตนอยากให้เพื่อนมาร่วมสนุกด้วยอุตส่าห์มียันกันเบต้าจู่โจมเป็นกลิ่นอัลฟ่าคลุ้งขนาดนี้แล้ว แต่ก็นั่นล่ะวันงานจริงที่จะจัดอีกสองวันข้างหน้านี้ ย่อมมีพวกอัลฟ่ามาร่วมงานอยู่หลายคน
แล้วกลิ่นของอัลฟ่าที่ตายไปแล้วต่อให้วิญญาณหลอนแค่ไหนจะไปสู้อัลฟ่าจริง ๆ ที่ยังมีชีวิตได้อย่างไรกัน
"นั่นสิ ข้าก็คิดอยู่เหมือนกัน" ใช่ว่าตัวเขาจะไม่กังวล จีนอยากมาเห็นงานเลี้ยงจริง ๆ กับตาสักครั้ง แต่ถึงจะทำให้ออกมาปะปนกับเบต้าได้บ้าง ทว่าตั้งแต่ถูกฝังคมเขี้ยวลงที่คอก็ไม่เคยลองอยู่ท่ามกลางเบต้าจำนวนมาก หรือว่าเจอกับอัลฟ่าตรง ๆ เลย
แล้วจีนก็จำได้ดีเชียวล่ะว่าความวุ่นวายเข้าขั้นเหตุวินาศกรรมเกิดขึ้นได้ง่ายแค่ไหนเพราะตัวเอง
"ข้าคงไม่มา ลูเซียน"
"อื้อ แต่เสียดายนะ สหายข้างดงามอย่างสุดแสน แต่ยามนี้อยู่ในสภาพกึ่งม่ายก็ไม่ปาน ข้าอยากจะหาอัลฟ่าใหม่ดี ๆ ให้กับเจ้า" พอได้ฟังความในใจเพื่อนรัก จีนก็อดขำไม่ได้
"โอ๊ะ หรือเพราะข้าคิดเรื่องนี้ดังไป กลิ่นพี่ซากเลยไม่คลายจากตัวเจ้าเสียที ต้องมาคอยหลอกที่ข้าจะหาคู่ใหม่ให้เจ้าแน่ ๆ ช่างยึดมั่นในการจับจองเจ้าเป็นของตนจริง ๆ ก่อนจะตายก็ยังฮึดออกแรงมากัด พอตายเหลือไว้แต่ผลึกเพชรสองก้อนก็ยังจะส่งกลิ่นมารังควาน น่ากลัวนัก" ลูเซียนทำท่าตื่นตกใจที่ชวนขันมากกว่ากลัวจริง ๆ เพราะอยากให้เพื่อนรักผ่อนคลายต่อเรื่องนี้
ถึงจะมีโอเมก้าหลายคนที่คู่ชีวิตตายไปแล้วได้พบรักครั้งใหม่อีกครั้ง ทว่ามันก็คงไม่เหมือนเดิมอย่างที่ควรจะเป็น
“ไม่ต้องหาคู่ใหม่ให้กับข้าหรอก ข้ายินดีแล้วกับสิ่งที่เป็นตอนนี้” จีนไม่ได้เอ่ยปลอบใจให้เพื่อนรักคลายกังวล แต่เขาคิดแบบนั้นจริง ๆ จะเรื่องคู่ชีวิต หรือคู่พันธะสัญญาใหม่ในอนาคต แม้แต่คู่แท้แห่งโชคชะตาที่อ่านเจอในตำรายังไม่แวะเวียนไปคิดถึงด้วยซ้ำ
ขอแค่ได้ออกมาดูโลกภายนอกบ้างแบบนี้ก็พอใจแล้วล่ะ
△
มาถึงหอสมุดประจำเมืองทั้งที บรรณารักษ์มือใหม่แต่เป็นหนอนหนังสือคงแก่เรียนมาเนิ่นนานเช่นแองเจลโล ปาร์กเกอร์ก็ห้ามตัวเองไม่ให้แวะมาเยี่ยมเหล่าหนังสือไม่ไหว
ลูเซียนไม่ได้ห้าม แค่เน้นย้ำว่าอีกสามชั่วยามนั้นเจอกันที่ทางออก แล้วก็แอบขู่ด้วยว่าให้ระวังจะโดนผีหลอก เพราะข้างล่างนี่ไม่ได้เปิดให้ใครเข้าตลอดสัปดาห์ เนื่องด้วยเสียงดังอึกทึกเกินห้องสมุดทำการได้จากการเตรียมจัดงานเลี้ยงที่ด้านบน
ระหว่างกลัวผี กับ ไม่ได้เห็นหนังสือเก่าหายากของที่นี่
แน่นอนว่าแองเจลโล่เลือกอย่างหลัง
อันที่จริงเพราะลูเซียนย้ำให้แน่ใจแล้วด้วยว่าในชั้นล่างของหอสมุดนี้ไม่มีใครอื่นอยู่อีกแม้แต่บรรณารักษณ์ของที่นี่ ทำให้โอเมก้าตัวน้อยรู้สึกผ่อนคลายและไม่กังวลที่จะเข้ามาในนี้เพียงลำพัง
"....." กลิ่นหนังสือเก่ารายล้อมรอบตัวนั้นชวนให้จีนรู้สึกสบายใจทุกครั้ง เสียงเดินแทบจะดังสะท้อนไปทั่วห้องกว้างขวางที่มีตู้หนังสือจัดเรียงไว้ แค่ห้องนี้ห้องเดียวก็ดูเหมือนว่าจะใหญ่กว่าห้องสมุดของโรงเรียนไปเสียแล้ว
ความผ่อนคลายขยายตัวอย่างรวดเร็วเพราะบรรยากาศคุ้นเคย จีนรู้สึกปลอดภัยกับที่นี่ไม่ต่างจากห้องสมุดของโรงเรียนโอเมก้าลินน์ มือน้อยหยิบหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้มาดูอย่างสนอกสนใจเต็มอ้อมแขนจนต้องวางกระเป๋าย่ามของตัวเองไว้ที่โต๊ะไม้ตัวโต
ขาเรียวผอมพาเรือนร่างน่ามองเดินผ่านหนังสือชั้นแล้วชั้นเล่า ไปจนถึงชั้นหมวดที่ตัวเองต้องการหนังสือเพิ่มอีกสักสองสามเล่ม
สมุนไพรและพืชพรรณต่าง ๆ ที่ดีต่อการรักษาเยียวยา จีนหลงใหลพวกมันเป็นพิเศษ
แกรก
หน้าหนังสือเก่าถูกเปิดออก กลิ่นไม้หอมโชยเข้าจมูกจนอดจะรู้สึกชื่นชมไม่ได้ที่กระดาษพวกนี้อบน้ำหอมเอาไว้อย่างดี แม้สภาพเก่าคร่ำคร่าก็ยังคงส่งกลิ่นหอมกรุ่นได้อยู่
มือน้อยประคองหนังสือไว้ในมือ ดวงตากวาดมองตัวอักษรเป็นระเบียบของหยดหมึดสีดำลายเส้นคมชัด เขารู้สึกว่าหัวใจเต้นรัวแรง รู้สึกอากาศอบอ้าวลง และเขาไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมว่ากลิ่นหอมมันรุนแรงมากขึ้น
ใบหน้าจิ้มลิ้มงดงามเริ่มแฝงความกังวล
ปึก
และกว่าจะรู้เท่าทันแผ่นหลังผอมบางก็กระแทกเข้ากับบางสิ่งที่ไม่ใช่ตู้หนังสือ ความอุ่นวาบทำให้ดวงตาโตเบิกโพลงตกใจ สองขาถอยกรูออกห่างจากสิ่งที่ตัวเองชน
ควรจะเรียกว่าบุรุษรูปงามผู้หนึ่งมากกว่า ชายหนุ่มร่างกายแข็งแรงที่ตัวสูงใหญ่จนดูเบียดคับในช่องว่างระหว่างทางเดินของตู้หนังสือ
"......" จีนจ้องมองชายตรงหน้าและชายผู้นั้นก็มองกลับมา ลักษณะภายนอกอันโดดเด่น สูงใหญ่ดุดันทำให้จีนสรุปได้ว่าคนตรงหน้าคืออัลฟ่า และความทรงจำในชีวิตเตือนจีนให้ถอยห่างออกไปให้มากที่สุด
ให้วิ่งหนีให้เร็วเท่าที่ทำได้
แต่ขาเพรียวก็ยังคงชะงักนิ่ง บางสิ่งที่หอมหวาน ยั่วเย้าทั้งรุนแรง ทั้งแปลกแหลม ทว่าก็คุ้นเคยจนเผลอคิดว่าอบอุ่นปลอดภัยทำให้ร่างน้อยของโอเมก้าต้องสาปยังคงยืนอยู่ตรงนั้น
ท่ามกลางกลิ่นเปลือกไม้ที่ถูกแผดเผา ทั้งหอมและเร่าร้อน
"เจ้า ...เจอแล้ว" เสียงนุ่มกังวานดังเข้าโสตราวกับเสียงกระดิ่งในพิธีเฉลิมฉลองผ่านริมฝีปากหยักบางของอัลฟ่า ดวงตาคู่เรียวเล็กที่จดจ้องมาสะกดให้จีนไม่อาจละสายตา อาจเพราะสองจุดเล็ก ๆ บนเปลือกตาที่ชวนคุ้นเคยจนต้องเฝ้าพินิจมองมัน
หรือเพราะกลิ่นหอม ๆ ที่ชวนรู้สึกติดใจจนอยากจะขอดมมันต่อไป ไม่ว่าอะไรก็ตาม ไม่ว่ามันคืออะไร
เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
อัลฟ่าผู้นั้นก้าวเข้าใกล้จนแนบชิดอย่างที่โอเมก้าแห่งตระกูลปาร์กเกอร์ไม่ทันยับยั้ง ทั้งอัลฟ่าแปลกหน้าและตัวของเขาเอง
"...." ผิวแก้มนุ่มร้อนวาบขึ้นเมื่อถูกมือใหญ่จับประคอง จีนได้กลิ่นหอมของเปลือกไม้รุนแรงขึ้นและเขาได้อีกกลิ่นที่แปลกแหลมเข้ามา กลิ่นกระดังงา กลิ่นของตัวเขา กลิ่นประจำตัวเขาแต่เขากลับรู้สึกไม่คุ้นเคยกับมันอย่างที่ควรในยามนี้ เมื่อมันหลอมรวมกับกลิ่นเปลือกไม้ในเปลวไฟ
มันทั้งหอมหวาน ยั่วเย้าและทำลายทุกความนึกคิด
ใช่ จีนไม่เหลือสติไตร่ตรองแล้วแน่ ๆ เพราะหากมีสติ ตอนนี้ที่ใบหน้าคมคายกำลังก้มลงมาหา เขาควรที่จะถอยออกห่าง
และ ไม่ จีนไม่ได้ทำมัน
เขายืนอยู่ตรงนั้น รับรู้ถึงริมฝีปากที่เบียดสัมผัสลงกับริมฝีปากของตัวเอง มันอุ่นในคราแรกที่แตะต้อง ทว่าชั่วครู่เดียวกลับพลันร้อนระอุมากขึ้น ยิ่งถูกบดเบียดรสจูบล้ำลึก ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนได้กลิ่นหอมสำลักเข้ามาในลมหายใจมากขึ้น
รวดเร็วพอ ๆ กับลิ้นร้อนที่สอดแทรกเข้ามา ปลายลิ้นดุนเพดานปากและกวาดต้อนเจ้าบ้านจนมึนงงและตามแทบไม่ทัน ทุกสิ่งทุกอย่างมีกลิ่นหอมคอยบงการ
กอปรกับความรู้สึกร้อนเหมือนมีกองเพลิงอยู่ในร่างของจีนคอยสั่งให้ยิ่งบดเบียดตัวเข้าหาร่างสูงใหญ่เบื้องหน้าตนตามแรงของแขนแกร่งแข็งแรงที่เกี่ยวเอวคอดบางเข้าแนบชิด มิใช่ถอยหนีออกห่างไปอย่างที่ควรเป็น
แองเจลโล่ ปาร์กเกอร์มิได้ทันได้รู้ตัวเลยว่าตอนนี้เขากำลังฮีท
ฮีทมากกว่าครั้งไหนที่เคยรู้สึก
△
เพล้ง
เสียงร่วงของแจกันดอกไม้แสนสวยทำให้ทุกคนในห้องหันไปมองที่มาของเสียง โอเมก้าชายซึ่งเรียนอยู่ชั้นปีสุดท้ายเหมือนพวกเขาทรุดกองลงไปนั่งกับพื้น มือผอมบางสีน้ำผึ้งขยุ้มเสื้อตัวเองเต็มแรง
และใช้เพียงไม่ถึงเสี้ยววินาทีทุกคนในห้องก็เข้าใจถึงอาการของอีกฝ่าย เมื่อทุกคนกำลังรู้สึกอย่างเดียวกัน ความร้อนโพยพุ่งขึ้นในร่างอย่างรุนแรง กลิ่นหวานหอมยั่วเย้าแผ่ขยายกินอาณาเขตอย่างรวดเร็ว
ร่างกายพลันรู้สึกต้องการ ต้องการอย่างมากล้น
เสียงข้าวของชิ้นแล้วชิ้นเล่าร่วงลงพื้น เมื่อผู้ที่ถือมันไร้เรี่ยวแรงจะประคองเอาไว้ได้ เพราะร่างกายตอบสนองต่อสัญชาติญาณดิบที่ถูกกระตุ้น
ของหลายชิ้นแตกหัก บางชิ้นกลิ้งไปตามพื้นห้อง โอเมก้าที่ถูกอาการฮีทครอบงำพยายามฉุดรั้งร่างกาย อย่างยิ่งยวด แต่ยากเต็มกลืนเมื่อถูกกระตุ้นมากเพียงนี้
หากมีอัลฟ่าหลงเข้ามาก็คงถูกกระตุ้นไม่ต่างกัน คงเกิดเรื่องเลวขึ้นแบบที่ไม่อยากแม้แต่จะคิด
"อะ อะ ข้า ข้า" เสียงพึมพำร้อนผ่าวระบายออกมาทางลมหายใจ ไม่ใช่เพียงแค่เหล่าโอเมก้าที่เป็นนักเรียนเท่านั้น แม้แต่ครูผู้ทำการสอนซึ่งมีประสบการณ์ในชีวิตมากกว่าก็เริ่มแข้งขาอ่อนแรง มือจับดึงเสื้อผ้าของตัวราวกับว่ามันจะระบายความร้อนได้
และสาเหตุเดียวที่ทำให้โอเมก้าทั้งห้องจำนวนเกือบยี่สิบคนฮีทได้พร้อม ๆ กันนั้นจะเป็นอื่นใดไปได้
"จีน อะ แองเจลโล ปาร์เกอร์อยู่ที่ไหน อาา " ครูคนหนึ่งตะโกนถามเสียงดัง โอเมก้าคนอื่นในห้องก็คิดตรงกันว่าต้องเป็นตัวปัญหานั่นแน่ที่ทำให้เป็นแบบนี้ พวกตนถูกคุกคามและปั่นหัวจากตัวประหลาดนั่นไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง รู้ว่าจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็ยังสาระแนจะออกมา
แต่ตอนนี้แม้แต่ด่าทอก็ยังทำไม่ไหว เพราะต้องพยายามเหนี่ยวรั้งสติให้ได้มากที่สุดก่อนจะทำเรื่องไม่งามลงไป
ทว่าอาการฮีทที่เหมือนทวีรุนแรงทุกวินาทีนี้จะห้ามมันได้อย่างไร
"เจ้า อืออ เจ้าพามันมาด้วยใช่ไหม อือ" บิช็อป เจมส์ใช้ดอกไม้บนพื้นที่ตกอยู่ขว้างใส่ลูเซียนเพราะไร้แรงจะเดินมาหาเรื่องได้ เป็นปกติลูเซียน โรมานอฟคงขว้างของใกล้มือกลับไป แต่ตอนนี้ทำได้แค่ยืนจิกขอบโต๊ะปากกัดแน่น หน้าแดงหูแดงไปหมด แม้ตนจะชินกลิ่นของเพื่อนรักมากที่สุดจนพอมีภูมิต้านทานแต่ครั้งนี้ก็ฮีทตามอย่างคนอื่น ๆ ได้ไวมาก
มากจนลูเซียนนึกเป็นห่วงเพื่อนของตัวเองยิ่งนัก
ตนเป็นเพื่อนกับจีนมานาน เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาหลายครั้งจากผลกระทบการเป็นโอเมก้าต้องสาปของเพื่อนรัก แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่มันมากได้ขนาดนี้
ถ้ามีโอเมก้าฮีทพร้อมกันถึงยี่สิบคนรวมทั้งแองเจลโล ปาร์กเเกอร์ เช่นนี้แล้ว อีกไม่นานพวกเบต้ากับอัลฟ่าคงแห่มาฉีกทึ้งตึกนี้ไม่มีเหลือ
เรื่องเลวร้ายพวกนั้น
"ทุกคน อึก ลุก ลุกขึ้น เข้าไปในประตูนั่น! " เสียงของครูใหญ่เกเบรียลดังลั่นขึ้น ใบหน้าอ่อนหวานนั้นกำลังแดงจัดไม่ต่างจากคนอื่นในห้องแต่ก็ยังคงยืนได้ไหวอยู่หน้าประตูเวทย์สีเทาเรืองรองอันโต
"เข้าไปในนี้ มันจะไปที่โรงเรียน เร็ว!! " เกเบรียล ซินเวียร์ตะโกนบอกเสียงดังอีกครั้ง เพราะเป็นครูใหญ่ที่ทุกคนเคารพรักและเชื่อใจ รวมทั้งอาการฮีทที่คุกคามเกินควบคุมนั้นน่ากลัว ทำให้โอเมก้าทุกคนพยายามตั้งสติลุกขึ้นเพื่อวิ่งเข้าไปในประตูเวทมนตร์ หลายคนต้องหอบหิ้วเพื่อนที่ฮีทจนไร้สติฉีกทึ้งเสื้อผ้าตัวเองหลุดลุ่ยอย่างทุลักทุเล
เกเบรียลมองภาพตรงหน้าอย่างหนักใจ แม้แต่ตนที่อยู่มาหลายร้อยปีก็ยังคุมสติแทบไม่อยู่ อาการฮีทครั้งนี้ของแองเจลโล ปาร์กเกอร์รุนแรงมากนัก รุนแรงและอันตรายเกินไป
ตนห่วงเด็กคนนั้น แต่ก็ต้องห่วงหลายสิบชีวิตที่ได้รับผลกระทบมากกว่า ณ ตอนนี้ไม่สนใจแล้วว่าคนอื่นจะสงสัยว่าตนไม่ได้เป็นแค่นักแปรธาตุธรรมดาให้น่ารำคาญใจไหม เกเบรียลร่ายมนตร์ให้แผนที่เวทมนตร์เก่าแก่ซึ่งเก็บไว้ในห้องพักที่โรงเรียนลอยตรงมาที่นี่อย่างรวดเร็ว
และต้องร่ายคาถาปิดการป้องกันรอบโรงเรียนทิ้งเพื่อให้แผนที่เวทมนตร์กำหนดจุดหมายลงหลังรั้วโรงเรียนได้ ทุกอย่างยุ่งยากและใช้พลังไม่น้อย แต่ก็เป็นทางเดียวที่พอจะคิดออกในสภาพที่กำลังจะฮีทแบบนี้
โอเมก้าคนแล้วคนเล่าผ่านเข้าประตูเวทไปในที่สุดก็เหลือคนสุดท้าย
"เร็ว ลูเซียนเร็ว" เกเบรียลเรียกนักเรียนของตัวเองที่ยังเหลือในห้อง
"จีน จีนอยู่ข้างล่าง อะ หอสมุด ฮึกก" ลูเซียนแทบจะร้องไห้ออกมาเมื่อร่างกายมันร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ความต้องการทางกายมากล้นจนรู้สึกชื้นระหว่างขา มือทั้งสองจิกกำผ้าม่านใกล้ตัวไว้
"เจ้า ต้อง ไป เดี๋ยว นี้" เกเบรียลออกคำสั่งเสียงดัง ลูเซียนสนิทกับจีนจึงต้านทานได้มากกว่า แต่ดูจากอาการแล้วอีกไม่นานก็คงทนไม่ไหว รวมทั้งตัวเขาก็ด้วย เขาเองก็ต้องรีบไปจากที่นี่ก่อนที่จะฮีทรุนแรง
"ฮึก ช่วย อะ ช่วยจีนด้วย อืออ" ลูเซียนบอกทั้งน้ำตาและลมหายใจร้อนผ่าวก่อนจะก้าวเข้าประตูเวทมนตร์ไปอย่างยากลำบาก
เกเบรียล ซินเวียร์สูดลมหายใจตัวเองเข้าลึกเพื่อตั้งสติ แต่นั่นกลับยิ่งทำให้สูดกลิ่นหอมหวานจากโอเมก้าต้องสาปที่แผ่ไปทั่วเข้าปอด ร่างกายที่ยิ่งร้อนจนแม่มดอายุสี่ร้อยยี่สิบเจ็ดปีจำต้องจิกแรง ๆ ลงที่แขนตัวเอง
"เอส เซ โด..." เสียงร่ายคาถาพึมพำดังขึ้น เกเบรียลพยายามตั้งสติร่ายออกมาให้ถูกต้องครบถ้วน กางกั้นอาณาเขตที่จะจำกัดฟีโรโมนและการกระตุ้นแสนรุนแรงจากโอเมก้าต้องสาปไว้เพียงแค่ในตึกนี้ ก่อนที่มันจะยิ่งรุนแรงขึ้นและทำให้เมืองลินน์ตกอยู่ในเหตุจลาจลและอาชญากรรมจากสัญชาติญาณที่ถูกปลุกเร้ามากเกินไป
นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่พอจะทำได้ ก่อนครูใหญ่แห่งโอเมก้าลินน์จะก้าวผ่านประตูเวทมนตร์สู่รั้วโรงเรียนที่จำต้องไปจัดการกับนักเรียนซึ่งยังตกอยู่ในห้วงอาการฮีทต่อ
แม้จะยังเป็นห่วงอดีตนักเรียนคนสุดท้ายของตนในตึกนี้
แต่ดูเหมือนว่าเป็นอีกครั้งที่ตนต้องโทษโชตชะตา
สำหรับทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับแองเจลโล ปาร์กเกอร์
△
ขอฟีดแบ็คให้พี่เดฟกับน้องจีนหน่อยค่าา ติดแท็ก ๆ #ดมอบีนยอง นะคะ
พระเอกออกมาแล้วค่าาทุกท่านนน มาตัวเป็น ๆ มาถึงก็จูบน้องอีกแล้วววว 555555
ครั้งแรกของนุ้งจีนคือหอสมุดหรือนี่ 5555
อันนี้แท็กเรื่องนี้เน้อ
#ดมอบีนยอง