บทที่26 : อยากกินอะไร
-
ความเดิม --- "ดีใจนะที่เจอ..." ปลายนิ้วสอดประสานและกระชับเข้าหา...เหมือนกับจะบอกว่าเขาจะจับมืออีกคนไว้ไม่ปลาอยให้ไปไหนอีกแน่นอน ---
-
รัม
หึ.... บ้าชะมัด "อือ" คุ้นเคยจนหัวใจมันพองโตไปหมด แค่รู้ว่าจะได้กลับมาเจอ มาอยู่ด้วยกันเหมือนทุกวันที่เขาเฝ้ารอมันก่อนหน้าก็รู้สึกมีความสุขแทบบ้าเลย
-
รัม
ชะงักแต่ก็เดินตามมันไปด้วยแรงจากฝ่ามือที่ดึงมือเขาเข้าไปไว้ในกระเป๋าเสื้อกันหนาวด้วยกัน เขา..มีอะไรที่อยากถามมันเยอะแยะไปหมดเลย แต่ยังเรียบเรียงไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรก่อนหน้าดี
-
รัม
เขาดีใจมาก ๆ ...มากจริง ๆ "อือ ดีใจเหมือนกัน"
-
ติม
"เปลี่ยนที่คุยมั้ย...." เดินทอดน่องเคียงข้างกันต่อและเปิดประเด็นคุยกัน
-
ติม
"กูชื่อติม...27" เริ่มแนะนำตัวเองและเว้นจังหวะให้อีกคนได้พูดบ้าง ก่อนจะคุยซักถามกันต่อไป เขาเองก็ไม่ใช่คนที่พูดเพราะอะไร เขากับมันก็ไม่ใช่คนอื่น..
-
รัม
"ที่ไหน?" บ้านเขาหรอ.. หรือว่ายังไง ให้นั่งคุยกันที่สวนสาธารณะอะไรแบบนี้เหมือนเวลานัดเดทกันครั้งแรกมันก็คงไม่ใช่ล่ะมั้ง
-
รัม
"รัม..25" เอ่ยแนะนำตัวกับอีกคนไปด้วย อายุมากกว่าจริงด้วยงั้นดินะ
-
ติม
"อืม" ส่งเสียงในลำคอตอบรับ และพยักหน้ากับตัวเองเมื่อคิดถูกว่าอีกคนอายุน้อยกว่าเขาจริงๆ
-
ติม
"ถ้าชวนไปบ้านจะกล้าไปมั้ยล่ะ.." หันไปเลิกคิ้ว และยิ้มมุมปากออกมา..
-
ติม
ยอมรับว่าจงใจแกล้ง..แกมเอาจริงหน่อยๆ เขาพอจะมองออกว่าในเกม..ท่าทีของอีกคนไม่ใช่พวกที่รักสนุกหรือมาเล่นเกมเพราะอยากปลดปล่อย
-
ติม
ส่วนเขาเองก็ถูกกระตุ้นด้วยกลิ่นที่ทำให้อยากมีอะไรกับอีกคน จนพอได้สัมผัสเข้าจริงๆ จากที่เคยลองในชีวิตจริงแล้วเฉยๆ พอเป็นอีกคนเขากลับหลงไปทั้งหมด..จนคิดแล้วว่าอีกคนคงเป็นข้อยกเว้นหนึ่งเดียวของเขา และก็ใช่จริงๆ...
-
รัม
หันไปมองอีกคนตอนที่ถูกพูดเกริ่นแบบนั้น จริง ๆ ก็คิดไว้อยู่แล้ว..ว่าไม่บ้านเขาก็บ้านอีกคน แต่เขารู้ดีว่าสภาพของตัวเองน่ะเป็นหอพักปกติ ของอีกคนน่ะเขาไม่รู้หรอก เลยไม่ได้คิดเผื่อ
-
รัม
"ก็ได้" นี่ชีวิตจริง ไม่ใช่ในเกม อะไรหลายอย่างก็ไม่ใช่ อย่างน้อยก็การเจอกัน ที่ครั้งแรกมันเป็นเพราะโรลของเขากับอีกคนที่ทำให้บังเอิญเจอกัน ความสามารถในโลกนั้นก็ไม่ใช่ความจริงของโลกนี้เลยด้วย
-
รัม
"แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?" เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมถึงมาเจอมันสนสวนบริษัท..บังเอิญไปหรือเปล่า
-
ติม
ยิ้มพอใจแล้วเดินต่อ มุ่งหน้าไปยังรถของตัวเอง เพราะในเมื่ออีกคนไม่คัดค้านอะไรเขาก็คิดว่าคงไม่ได้เอารถมาเอง เพราะเดี๋ยวนี้คนส่วนใหญ่ค่อนข้างจะชอบการโดยสารของสาธารณะมากกว่า ค่าที่จอดก็แพงด้วย
-
ติม
"หืม...อ่า...ก็มาทำงานนี่แหละ " เริ่มเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง และเป็นใคร โดยไม่คิดจะปิดบังอีกคน
-
ติม
"ทางนี้.." จับมืออีกคนเดินผ่านทางแยกไปที่อาคารจอดรถแทนที่จะเป็นจุดขึ้นรถสาธารณะที่อยู่อีกฟาก
-
ติม
"ถึงเป็นแฟนกู แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะได้สิทธิพิเศษอะไรหรอกนะ" เอ่ยสัพยอกแถมตีเนียนย้ำสถานะที่ตั้งขึ้นมาเอง ก่อนที่จะถามบ้าง "แล้ววันนี้มาทำงาน? "
-
รัม
เขาเรียนรู้เรื่องราวของอีกคน ว่าไปไงมาไงทำงานอะไร แล้วก็ต้องช้อคเพราะเพิ่งมารู้ว่ามันเองคือลูกชายเจ้าของค่ายเกมที่เขาทำงานอยู่..และยังโด่งดังไปมากจนคาดไม่ถึง
-
รัม
นี่เขา....ทำไมถึงได้มาเจอมันในเกมล่ะเนี่ย เขาเองก็เล่าเรื่องตัวเองให้มันฟังบ้างเหมือนกัน เขาเป็นแค่ลูกพ่อกับแม่ครอบครัวธรรมดาที่อยู่ต่างจังหวัด ส่วนเขาพอเรียนจบก็้ย้ายเข้ามาในเมืองเพื่อหางานทำ
-
รัม
"อือ" เดินจับมือกับมันมาตั้งแต่ในสวนจนตอนนี้ก็ยังไม่ปล่อยเลย และไม่มีความคิดว่าจะปล่อยด้วย โดนมันกวนเข้าใส่ก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไร..ถึงจะ ฟังขัด ๆ ไปหน่อยว่าตัวเองจะต้องเป็นแฟนของมัน..ของผู้ชายด้วยกัน
-
รัม
แต่ผู้ชายอีกคนที่ว่าก็คือมัน...ไม่มีเหตุผลอะไรต้องปฏิเสธ "จะมาลางาน ไม่อยากเข้าเกม"
-
ติม
ฟังเรื่องของอีกคนบ้างระหว่างที่เดินเข้ามาในตัวอาคาร มันเองก็เป็นคนทั่วไป ถึงเขาจะฐานะดี ...แต่ครอบครัวของเขาก็ไม่ได้แบ่งแยกกับคนอื่นเลย บ้านที่พ่อแม่อยู่ก็เป็นบ้านหลังเล็กธรรมดาด้วยซ้ำไป
-
ติม
แค่พ่อต้องการที่จะเชื่อมต่อโลกเสมือนที่สร้างไว้ให้เติมเต็มโลกจริง และไปให้สุดก็เท่านั้น เขาก็ชักจะมีแรงจูงใจในการทำมันต่อขึ้นมาบ้างเหมือนกัน
-
ติม
คิดเรื่อยเปื่อยจนอีกคนตอบคำถามของเขาและทำให้ชะงักกึก ระหว่างที่ทาบมือลงเครื่องสแกนเพื่อตรวจรับรถที่จอดในอาคาร.. ดึงมือออกมาจากเครื่องมือนั่นแล้วโอบแขนอีกคนบีบเบาๆเป็นเชิงรับรู้ว่าทำไมถึงบอกว่าไม่อยากเข้าไปในบริษัท รถถูกส่งมากับลิฟต์ในอาคาร พอผละออกจากคนก็พาอีกคนขึ้นรถแล้วนั่งที่คนขับ ทำหน้าที่สารถีต่อ
-
ติม
"ถ้าไม่เจอวันนี้คงแย่...แต่พรุ่งนี้ก็ว่างสินะ" ตัวละครของเขาปกติจะต้องเข้าไปแจกเควสบางวันที่กำหนดไว้เท่านั้น แต่ที่ออนบ่อยๆก็เพราะอีกคน..เหตุผลเดียวจริงๆ
-
ติม
ตอนแรกเขายังคงไม่เข้าใจตัวเอง..ว่าทำไมถึงกลายเป็นติดเกมขึ้นมาทั้งที่ปกติเขาหยิบจับอะไรก็จะเกิดความเบื่อหน่ายอย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้... คำตอบคือติดคนในเกม..ล้วนๆเลย
-
รัม
ตลกดีที่เหตุผลของเขาไม่ต่างอะไรจากมันเลย เขาเองก็เบื่อง่ายเสมอ ยิ่งเวลาได้เกมมาใหม่ หรือมีอีเวนท์ต่าง ๆ ที่พวกเพื่อนเอามาเทใส่ แต่ได้ไม่นาน พอคุ้นชินแล้ว.. อะไรก็คล้ายเดิมไปหมดจนเดาทางออก
-
รัม
แต่เกมนี้..เกมที่เขาได้เจอกับมัน มันเปลี่ยนโลกทั้งใบของเขาด้วย ไม่ใช่แค่ความเบื่อหน่าย เขาเริ่มติดเกมจนเพื่อนสงสัย เพราะเป็นครั้งแรกที่รู้สึกมีความสุขในโลกที่ไม่ใช่ความเป็นจริง
-
รัม
พอรู้ถึงฐานะและความเป็นมันแล้ว เขาก็แอบเกร็งอยู่ไม่น้อย อะไรมันอาจจะยากกว่าในเกม ทั้งเขาที่เป็นผู้ชาย..ฐานะของมันกับเขาที่ต่างกัน แต่ถ้าจะให้ยอมแพ้ตอนนี้..เขาก็ไม่อยากเลย "อีกสองวัน.."
-
รัม
"จริง ๆ ก็ลาเอาไว้สามวัน" กะเอาไว้แบบนั้นโดยที่ตัวเองก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าจะทำใจได้มั้ยภายในสองสามวันนี้น่ะ แต่ก็ยังดีกว่าต้องถ่อมาทำงานทั้งที่กะจิตกะใจไม่อยู่กะเนื้อตัวเลยสักนิดเดียวล่ะนะ
-
ติม
"อื่ม......." เขาลาบ้างดีมั้ยนะ..ฝึกงานมีสิทธิ์ลาได้ตั้งสี่วัน.. ในหัวคิดไปนั่นนี่ ระหว่างที่รถถูกเลื่อนมาหาและแยกย้ายกันขึ้นคนละฝั่ง คุยเรื่องอื่นกันบ้างในระหว่างเดินทาง ไม่นานก็กลับมาถึงห้อง
-
ติม
"กินไรมายัง?" เปิดประตูแล้วเข้าไปเปิดไฟในห้องตัวเองก่อนค่อยรอให้อีกคนเข้ามาเอง
-
รัม
เขาคุยกับอีกคนไปด้วยระหว่างนี้..รู้สึก เหมือนจะดข้าใกล้กันได้มากขึ้นในโลกของความจริง เขาแอบกังวลนิด ๆ ..แต่มันก็แทบไม่มีอะไรที่ต่างจากในนั้นแล้วนอกจากรูปลักษณ์ อีกคนก็เป็นตัวเอง เขาก็เช่นกัน
-
รัม
ขึ้นรถของมันมาเหมือนง่ายไปหมด แล้งก็มาจอดอยู่ที่ที่พักของมัน.. ก็ดู..หรูกว่าที่พักเขาเป็นไหน ๆ ล่ะนะ "ยังไม่ได้กิน.. มึงล่ะ"
-
ติม
"หึ...ยัง สนใจแสดงฝีมือหน่อยมั้ยล่ะ " หัวเราะหึและ พยักเพยิดให้อีกคนปิดประตู ส่วนเขาเองก็วางกระเป๋าทำงานทิ้งไว้บนโซฟาแล้วลองเปิดตู้เย็นที่โซนทำอาหารออกมาดู หลังจากที่ไม่ได้สนใจมันมาเกือบอาทิตย์
-
ติม
ไม่มีอะไรเลยแฮะ... ว่างเปล่าจนคิดว่าก่อนหน้านี้เขากินอะไรไปบ้าง ระหว่างที่เข้าเกมไป
-
รัม
"มีอะไรทำให้บ้างละ" เขาเองไม่ได้ปฏิเสธ ..ยังไงก็ในโลกนั้นและในนี้เขาเองก็ทำอาหารได้เหมือนกันอยู่ดี วางของบ้างแล้วเดินตามอีกคนเพื่อไปดูว่าจะมีอะไรให้ทำได้บ้าง "หืม...ไม่มีอะไรเลย?"
-
ติม
"อืม....ช่วงนี้ไม่ค่อยอยากกินอะไร" ฮัมในลำคอแล้วปิดตู้เย็นลง หันไปหาอีกคนแล้วชวนกันลงไปข้างล่างเพื่อซื้อของกันแทน "ลงไปซื้อของข้างล่างคอนโดก็ได้.."
-
รัม
"อืม..ก็พอเข้าใจ" เพราะตอนที่เขาเจอกับอะไร ๆ มาก่อนหน้านี้ก็แทบไม่อยากทำอะไร ไม่แม้แต่อยากจะกินด้วยซ้ำ พูดแล้วอาจจะดูเวอร์ แต่ว่ายิ่งพอเข้าครัวเขาก็นึกถึงตอนที่อยู่ในโลกนั้นกับมัน "ก็ได้"
-
ร้านสะดวกซื้อ
-
รัม
"มีอะไรอยากกินมั้ย"
-
ติม
"เสต็ก"
-
ติม
เดินเข้าร้านขายของด้านล่างที่มีทุกอย่างให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะตามหาอะไร ถ้าไม่มีสต็อกจริงๆก็รอโดรนมาส่ง แค่นั้น
-
ติม
"เอาเนื้อแกะนะ....แต่ว่าเครื่องปรุงที่ห้องกูไม่น่ามี"
-
ติม
เอ่ยสำทับไป และนึกขึ้นได้ว่าที่ห้องเมื่อกี้ กับตอนก่อนหน้านี้มันเรียกเขาว่ามึงสินะ ...ไม่น่ารักเลย นึกอย่างนั้นแต่มุมปากก็นังมีรอยยิ้มอยู่ขณะที่เดินไปเข็นรถเข็นเล็กๆมา
-
รัม
"...อือ มีทุกอย่างเลยอ่อ" เดินตามมันเข้าไปด้วยในร้านขายของ พอเข้ามาถึงได้เชื่อว่ามีทุกอย่างจริงว่ะ.. ทั้งเนื้อสารพัดอย่าง แล้วก็พวกเครื่องปรุงราคาแพง ๆ ที่เขาไม่มีปัญญาซื้อมาแค่เพื่อทำอาหารให้ตัวเอง หันไปหาคนที่เข็นรถออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง เขาจะได้คำนวณว่าควรซื้อในราคาเท่าไรอะไรบ้าง
-
รัม
"มึงมีงบเท่าไร"
-
ติม
มองหน้าคนที่หันมามองท่าทางจริงจังก็สงสัยเหมือนกันว่าอีกคนจะพูดอะไร หรือมีอะไร..แต่บอกไม่ได้กัน พอได้ยินคำถามเท่านั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความอ่อนใจ
-
ติม
"หยิบมาเถอะ ขอให้อร่อยก็พอ" ไม่น่าไปคิดมากจริงๆ
-
รัม
อืม..รวยจริง ๆ ไม่น่าไปถามแต่แรกเลย
-
รัม
หันไปหยิบเนื้อแกะอย่างดีมาสองชิ้น ให้ตัวเองด้วยเลย แล้วก็..มันพูดแล้วนะ เขาเลยหยิบเอาเครื่องปรุงรสที่อร่อยออกมาอย่างเร็วเลย เคยเห็นในโฆษณาแต่ไม่เคยลอง..ขอสักหน่อยแล้วกัน เหมือนเขาดูเอนจอยกับการหยิบของทุกอย่างลงรถเข็นไป
-
ติม
เข็นรถตามอีกคนไปจนคิดว่ารถเข็นคันเล็กเกินไปหน่อยแล้ว แต่เห็นอีกคนที่เลือกนั่นนี่อย่างสนอกสนใจไปทุกอย่างก็เพลินดีเหมือนกัน
-
ติม
"ซื้อเยอะแบบนี้ย้ายมาช่วยกินอยู่นี่เลยมั้ย? เหมือนเครื่องปรุงพวกนั้นจะมากเกินทำสเต็กแล้วนะ" ยิ้มล้อแล้วหยิบจับของใช้บางอย่างที่เดินผ่านไปลงรถเข็นมาด้วย "พอยัง? "
-
รัม
นี่แซะหรือว่าชวนกันแน่.. "งั้นก็เก็บไว้ทำอย่างอื่นต่อเลย" พูดตอบกลับไป
-
รัม
จากตอนที่อยู่ในโลกนั้น มันเองก็ชวนเขามาอยู่ด้วยใช่มั้ย งั้นตอนนี้ก็เหมารวมว่ามันเป็นแบบนั้นเหมือนกัน ก็แล้วกันวะ "จะได้ตื่นมาทำให้กินทุกวัน" พูดเสียงเรียบ ๆ แล้วเดินต่อไป ทั้งที่เขารู้สึกเหมือนจะระเบิดตัวตายได้อยู่ละ
-
ติม
ฮัมรับกลับไป แต่พอประโยคถัดไปหลุดออกมาจากปากอีกคนเขาก็หัวเราะในลำคอขึ้นมาทันที
-
ติม
"หึหึ...." เข็นรถตามไปทั้งที่ใบหน้านั้นคลี่ยิ้มสุดๆ...ถ้าแม่มาเจอเขาตอนนี้อาจจะนึกว่านี่เป็นคนอื่นไม่ใช่ลูกชายตัวเองก็ได้ อย่างกับขอแต่งงานแล้วสำเร็จงั้นล่ะ...ทั้งที่ไม่ได้พูดอะไรกันจริงตังสักครั้งเลย พวกเขาน่ะ ...เป็นงี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรสินะ
-
ติม
พอเดินทันอีกคนก็ทำเป็นหน้าตาเฉยเหมือนกัน เข็นรถไปข้างๆจนถึงเคาท์เตอร์ ก่อนจะหยิบกล่องถุงยางและเจลหล่อลื่นอย่างดีบนชั้นวางหย่อนลงไปบนกองวัตถุดิบพวกนั้นด้วย
-
รัม
แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของอีกคนถึงจะยากก็เถอะ แต่ไม่งั้นมันจะเหมือนเขาร้อนตัวโคตร ๆ เลย... แต่ยังไงดีละ.. เขาดีใจนะที่มันชวน ยังไงตัวเขาเองก็ไม่ได้มีชนักอะไรติดหลังอยู่แล้วด้วย
-
รัม
เดินมาที่เคาท์เตอร์คิดเงินแล้วก็ต้องชะงักไปตอนเห็นของที่มันหยิบใส่มาเป็นอย่างสุดท้าย.. นั่น.. เม้มริมฝีปากแล้วเบือนหน้าหนีนิด ๆ ชัดเลย
-
รัม
อา... อีกคนมองเขาออกแน่ ๆ นั่นแหละที่ทำให้รู้สึกเหมือนโดนตีเข้าจัง ๆ จนหน้ามันชาวาบไปหมด แต่ตราบใดที่อีกคนไม่พูดหยอกอะไรเขาก็โอเคแล้ว
คลิกบริเวณนี้เพื่ออ่าน
หรือสัญลักษณ์ด้านขวาเพื่ออ่านต่อเนื่อง
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น