บทที่25 : โชคชะตา
-
ความเดิม --- "อ่ะ..ขอโทษครับ" เสียงทุ้มเอ่ยออกไปพร้อมกับผละตัวเองออกมา ---
-
รัม
"อ่ะ..." ตัวเซไปไม่น้อยเพราะจู่ ๆ เขาก็ถูกใครสักคนชนเข้าจากด้านหลัง
-
รัม
"ครับ" เอ่ยตอบรับขณะที่หันกลับไปมองเล็กน้อยเพื่อดูว่าใครที่มาชน
-
รัม
ไม่ได้กะจะเอาความอะไรหรอก ตอนนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจสำหรับเรื่องอะไรเลย .....เขานิ่งไปตอนที่เห็นใบหน้าที่แลดูคุ้นตาของคู่กรณีเขา
-
รัม
ไม่ใช่หรอก...ตาฝาด
-
ติม
".." ก้มหัวให้เล็กน้อยก่อนจะนิ่งงันไปเหมือนกันเห็นว่าใบหน้าของอีกคนคล้ายกับมัน... บ้าน่า.. ถึงกับเห็นหน้าคนอื่นเป็นมันนี่ก็แย่แล้ว
-
ติม
แต่เสียงที่ได้ยินนี่มันใช่เลยล่ะ...
-
รัม
หัวใจเขาเหมือนหยุดเต้นไปชั่วขณะเลย.. เกือบทุกอย่างที่ทำให้เขารู้สึกถึง ยกวเว้นแค่สีตาและทรงผม.. เหมือนมาก..
-
รัม
พยักหน้ารับช้า ๆ ขณะที่หลุบมองไปทางอื่นแล้วขยับก้าวถอยหลังผละออกไป
-
รัม
เขาควร..ควรจะเดินไปแบบปกติสิ แต่แค่ความหวังเล็กน้อยเขาก็อยากหวัง..
-
ติม
ทั้งเขา..ทั้งอีกคนเหมือนต่างชะงักไปทั้งคู่ คนตรงหน้าสบตาเขาแค่เสี้ยววิ ก่อนจะหลบตา และขยับถอยออก
-
รัม
มันจะใช่หรอ..จะจริงหรอ
-
รัม
ไม่หรอก...เขาจะคิดอะไรที่มันทำให้คาดหวังอีกทำไมวะ เพราะสุดท้ายก็ต้องมานั่งเจ็บนั่งทรมาน เวลาผ่านไปหลายวันแต่แต่มันไม่ช่วยอะไรเลย ไม่เลยสักนิดเดียว
-
ติม
แค่สบตาคู่นั้น... เขาก็เหมือนพบอีกคนแล้ว .... ไม่ว่าจะใช่หรือไม่
-
ติม
"ริช..."
-
ติม
เสียงแผ่วเบาเอ่ยออกมาจากปาก ขณะอีกคนกำลังหันเดินจากไป ช่วยหันกลับมาหาเขาที..
-
รัม
กำลังก้าวเท้าเดินห่างออกไปจากคนที่ดูคลับคล้ายคลับคลานั่น จนกระทั่ง... น้ำเสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อที่เขาใช้ในเกมออกมา
-
รัม
เท้าสองข้างชะงักงัน..
-
รัม
ก่อนจะขยับตัว..หมุนกลับไปหาอีกครั้ง
-
ติม
เขายืนนิ่ง... มองดูเท้าสองข้างนั้นที่หยุดลง อาจจะเพราะเหมือนได้ยินเขาพูดบางอย่างก็ได้
-
ติม
แต่เมื่อใบหน้านั้นหันกลับมาหาเขาอีกครั้ง และสายตาของเขาทั้งคู่สบมองกันอย่างที่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีก
-
ติม
ในใจเขามันก็สั่นสะท้านไปหมด สายตาคมฉายแววไหววูบด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้เลย
-
ติม
เขาได้แต่จ้องตากับคนตรงหน้าโดยที่ร่างกายมันไม่ยอมขยับไปไหนด้วยซ้ำ
-
รัม
เรียกชื่อเขาในเกม..แต่ดันยืนนิ่งแบบนั้น มันอะไรกันหรอ
-
รัม
จะทำให้เขาคาดหวังไปถึงไหน
-
รัม
แต่ดวงตาที่สบมองกันนั่น ท่ามกลางความเงียบบางอย่างมันคล้ายกับกำลังกรีดร้องอยู่ไม่มีผิด.. ทำไม..รู้สึกแบบนี้
-
รัม
"ซิล....วา?"
-
ติม
ราวกับความเข้มแข็งของเขามันพังทลายอยู่ตรงนั้น ทันทีที่เสียงเรียกชื่อเอ่ยออกมาจากอีกฝ่าย... มันมีตัวตนจริงๆ..อยู่ตรงหน้าเขาด้วย ตอนนี้..
-
ติม
"อา.." ได้แต่ตอบไปอย่างนั้นจริงๆ ขายาวๆก้าวเข้าไปอยู่ตรงหน้าอีกคนจนเกือบชิด...ก้มหน้าลงไปมองพร้อมกับเอื้อมไปจับข้อมืออีกคนไว้ เขาทำตัวไม่ถูก
-
รัม
จริง ๆ เขาไม่น่าจะเรียกชื่อนั้นเลย เพราะถ้าเกิดว่าคนตรงมันมุ่นคิ้วแล้วไม่เข้าใจเขาคงรู้สึกเหมือนโลกจะพังรอบสอง แค่รอบเดียว...รอบเดียวก็พอแล้ว แต่เจ้าของชื่อกลับแค่ฮัมรับในลำคอ ดวงตาคมที่จ้องเขาอยู่นั่นเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วถึงได้ก้าวเข้ามาใกล้
-
รัม
ทำไม...ทำไมถึงได้รู้สึกมั่นใจแบบนี้วะ มือที่กำข้อมือเขาไว้นั่ยยิ่งทำให้รู้สึกคุ้นกับสัมผัสมากเหลือเกิน
-
ติม
คำพูดทุกอย่างทีคิดไว้ตั้งแต่แรก ว่าถ้าเขาเจอมันแล้วจะบอกอะไรบ้างมันหายไปจากสมองหมดแล้ว สายตาเขากวาดไปทั่วไปหน้า และดวงตาที่ดูบวมช้ำน้อยๆ..ข้างในเหมือนคลอไปด้วยน้ำตาที่พร้อมจะร่วงลงมา
-
ติม
เลื่อนมือไปกระชับกับอีกคนแล้วดึงเข้ามากอดเต็มแรง มืออีกข้างกดท้ายทอยให้ซบกับอกเขาไว้ให้อีกคนได้ปลดปล่อยทุกอย่างที่อัดอั้นไว้ "กลับมาแล้ว..."
-
รัม
จนอ้อมกอดนั่นต้อนรับเขา.... "อึก... " ใบหน้าที่ซบกับเข้ากับไหล่นั่นอย่างพอดิบพอดีทำให้ความเข้มแข็งที่เขาพยายามสร้างมันขึ้นมาตลอดหลายวันจบสิ้นลง
-
รัม
น้ำตาเขาไหลออกมาทันทีที่ความมั่นใจของตัวเองกลับมาอีกครั้ง ยกแขนกอดร่างของมันเอาไว้โดยไม่ต้องคิด
-
รัม
มีตัวตนจริง...มันมีจริง
-
ติม
อา..
-
ติม
สัมผัสอบอุ่นที่แท้จริงในอ้อมกอด.....โดยไม่ต้องผ่านเครื่องมืออะไร มันพิเศษที่สุด..
-
ติม
บางทีโชคชะตาอาจจะทำให้เขาออกมาเพื่อได้พบกับอีกคนจริงๆแบบนี้ก็ได้
-
ติม
เขารวบกอดมันแน่นและคลายออกอยู่อย่างนั้น รับน้ำหนักอีกคนที่พิงมาหาอย่างเต็มใจที่สุด น้ำตาอีกฝ่ายชุ่มเต็มไหล่จนเขารู้สึกได้...ยกมือลูบหลังอีกคนไปมา
-
ติม
"อยู่นี่แล้ว...ไม่ไปไหนแล้ว" เอียงหน้ากระซิบเสียงแหบแห้ง ...กลืนก้อนความรู้สึกผิดที่ทำให้อีกคนต้องรอด้วยความโดดเดี่ยวแบบนั้น
-
ติม
เพราะเขาก็รอเหมือนกัน...เขารู้ว่ามันยากขนาดไหนที่จะทำใจยอมรับและดึงตัวเองออกมาจากความเคว้งคว้างแบบนั้น
-
รัม
เขาแทบไม่จำเป็นที่จะต้องถามเพื่อความมั่นใจแล้วว่า..นี่มันจริง ๆ งั้นหรอ คนที่เขาเจอในเกมมาตลอดนี่.. แค่อ้อมกอด เสียงพูด..ทุกอย่างมันก็ดูใช่ไปทั้งหมดแล้ว ไหล่เขาสั่น..สั่นไปหมดถึงหัวใจ ทรมานแทบตาย
-
รัม
แต่มันก็มีความสุขจนเขาไม่อยากคิดถึงความกลัวที่ผ่านมาอะไรอีกแล้วทั้งนั้น "...หาย..ไปไหน....." พยายามกล้ำกลืนก้อนสะอื้นในคอแล้วเอ่ยถามมันออกไป
-
รัม
อา..ความประทับใจแรกในโลกของความจริงคือร้องไห้ใส่กันงั้นหรอวะ..
-
ติม
"อืม...ขอโทษที่ไม่บอกก่อน.." เอียงไปจูบขมับอีกคนเบาๆ หางคิ้วลู่ลงอย่างรู้สึกทั้งเอ็นดูทั้งอยากดูแลเมื่อได้ยินเสียงเครือนั่นถามขึ้นมา
-
ติม
"ทำงาน..โดนกักตัวสามวัน...แต่กลับไปก็ไม่เจอแล้ว" พูดทั้งๆที่กอดอีกคนโยกไปมาน้อยๆ...แต่ถึงจะไม่อยากจะผละออกมา แต่ก็ต้องถอยออกมาเมื่อมีเงาคนเดินมาไกลๆ
-
รัม
ตลกดี..พวกเขาไม่ได้รู้จักกันในโลกของความจริงเลยด้วยซ้ำ แต่กลับเหมือนว่ารู้จักยิ่งกว่าใคร เหมือนว่าทั้งเขาและมันต่างใส่ความเป็นตัวตน นิสัย ลักษณะ หน้าตาเข้าไปในนั้นเกือบทั้งหมดแล้ว
-
ติม
"ที่บอกให้ไม่ต้องรอ....ไม่ใช่ว่าจะหายไปสักหน่อย" คลายอ้อมกอดแล้วมองหน้าอีกคนชัดๆ ทาบมือข้างนึงกับใบหน้า ไล้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยซับน้ำตาออก ตาแดงๆที่กำลังมีน้ำตาหยดลงมันทำให้หัวใจของเขาอ่อนยวบ
-
รัม
เขาแทบลืมไปด้วยซ้ำว่านี่อยู่ที่ไหน พวกเขาอยู่ในสวนของบริษัท..แต่ดันทำเหมือนในโลกเกมส่วนตัวของพวกเขา เหตุผลของมัน..คือเรื่องงานงั้นสินะ แต่เขาก็ไม่มีทางรู้เรื่องส่วนตัวพวกนั้นได้เลย
-
รัม
"แล้ว...ใครจะไปรู้" หลุบสายตาลงหลังจากที่ผละออกมาจากอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดในโลก ..ที่สุดในโลกของความจริง
-
รัม
ฝ่ามือ ปลายนิ้ว ที่อ่อนโยน...ทำให้เขาต้องหลับตาลงเพื่อรับและซึมซับสัมผัสพวกนั้นซ้ำ ๆ มันคือความจริง
-
ติม
"อืม.." คลี่ยิ้มมุมปากและฮัมรับคำที่เถียงกลับมาในแบบฉบับของอีกคน น้ำตานั่นหยุดลงแล้ว แต่เสียงบ่นหงุงหงิงที่ดังเบาๆก็ทำให้เขาไม่ได้พูดเกี่ยวกับประเด็นเดิมอีก
-
ติม
ไม่ว่าจะเพราะอะไร...อีกคนก็อยู่กับเขาที่นี่แล้ว เกลี่ยริมฝีปากอีกคนเบาๆ ก่อนจะช้อนคางขึ้นและโน้มใบหน้าไปหาเมื่อรอบข้างไม่มีคนอีกรอบ
-
ติม
ซบหน้าผากหากัน...แต่ก่อนที่จะยื่นริมฝีปากลงไปแตะ ก็เอ่ยถามขึ้นมาก่อน "ต้องจีบก่อนไหม?" สายตาคมมองสบอีกคนด้วยแววตาหยอกล้อ
-
รัม
เขาโล่งอก...เหมือนยกภูเขาหนัก ๆ ที่ถ่วงทั้งร่างกายและจิตใจมาตลอดหลายวันนี่ออกไปสักที ได้ด้วยสินะ.. มีวันนี้ได้ด้วย
-
รัม
ผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ ตอนที่ปลายนิ้วนั่นเกลี่ยลงมาที่ริมฝีปากของเขาแล้วยืนหน้ามมใกล้จนหน้าผากสัมผัสกัน "ถามอะไร...." ดวงตาที่ลืมขึ้นมองอีกคนก็หรี่ลงอีกครั้งตอนได้ยินเสียงหยอกล้อนั่น
-
รัม
นิสัยนี่..ไม่ต่างกันเลยดินะ แต่..เขาเองก็คงต้องปรับตัวจริง ๆ ในเกมน่ะจะปากเก่ง ทำตัวยังไงก็ได้ แต่นี่ชีวิตจริงนี่นะ
-
ติม
หัวเราะในลำคอเบาๆเมื่อสบตาที่หรี่มองเขา ฉกริมฝีปากแนบกันสนิทโดยที่ไม่ต้องถามอะไรอีก
-
ติม
"อืมม...งั้นก็จองแล้วนะ" ปรือตาลงมอง..เอ่ยคำพูดพร้อมกับอ้าปากงับริมฝีปากอีกคนด้วยความมันเขี้ยว
-
ติม
ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าอีกคนน่ะจะคิดอย่างเขารึเปล่า....ที่เห็นเรื่องในเกมเป็นจริงเป็นจังขนาดนี้ แต่หลังจากเห็นน้ำตาของอีกคน...ท่าทีของอีกฝ่าย เขาก็รู้ชัดเจนเลย... ไม่เคยมั่นใจแบบนี้มาก่อน ทุกอย่างในโลกนั้นแทบจะเป็นตัวของเขาและมันด้วยซ้ำ
-
รัม
ชะงักอึ้งไปนิด ๆ ตอนที่รู้สึกถึงริมฝีปากอุ่นที่แนบฉกเข้ามาอย่างไวนั่นจนทำเอานึกว่าจะมีใครเห็นมั้ย มันก็อยู่ในอาณาเขตบริษัทที่เขาทำงาน.. นะ.. แต่อีกคนนี่ดิ เหมือนไม่ได้แคร์อะไรใด ๆ เลย
-
รัม
"ไม่..เห็นต้องจอง" บ่นพึมพำกับตัวเองแล้วเอาหัวชนกับไหล่ของมัน เขาก็เป็นของมันอยู่แล้ว..ทั้งใจ ให้ตายยังไงเขาก็ไม่อยากไปไหน และไม่ให้มันห่างไปไหนอีกแล้ว เขาจะเก็บมันเอาไว้เป็นของตัวเอง "จองแล้วเหมือนกัน.."
-
ติม
ยืนนิ่งให้อีกคนทำดาเมจกับเขาโดยไม่หลบ "หึหึ...." พอถูกเอาหัวโขกก็หัวเราะออกมาด้วยความรู้สึกโล่งสุดๆ... "ไม่ต้องจองเหมือนกัน" ทั้งคำพูดที่ใจตรงกันนั่นด้วย
-
ติม
เขาไม่เคยคิดว่าจะมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลย มากกว่าตอนที่ได้รักกับอีกคนในโลกนั้น..คือการที่อีกคนมีชีวิตบนโลกนี้จริงๆ ผละออกจากกันแล้วจับมืออีกคนดึงเข้ามาในกระเป๋าเสื้อกันหนาวของตัวเองแล้วเริ่มเดินไปตามทาง
-
ติม
"ดีใจนะที่เจอ..." ปลายนิ้วสอดประสานและกระชับเข้าหา...เหมือนกับจะบอกว่าเขาจะจับมืออีกคนไว้ไม่ปล่อยให้ไปไหนอีกแน่นอน
คลิกบริเวณนี้เพื่ออ่าน
หรือสัญลักษณ์ด้านขวาเพื่ออ่านต่อเนื่อง
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น