กาลครั้งหนึ่งมีเด็กผู้หญิงคนนึงที่รักในการเเข่งขันเเต่เราก็ไม่เข้าใจเลยว่าเเข่งไปเพื่ออะไรนับตลอด3ปีเธอชนะเสมอ จนในปีที่เธอได้เข้าศึกษาต่อระดับม.ต้น เธอก็พบว่าคนที่เก่งไม่ได้มีเเค่เธอ เธอเฟลมากจนกลัวการเเข่งขันเเละไม่เเข่งอีกจนกระทั่งเข้าศึกษาต่อที่รร.ใหม่ในระดับม.ปลาย
ซึ่งถ้าเรายังเล่าเเบบนี้มันจะเป็นดราม่าทันที55555
เอาละ!เริ่มใหม่ เรื่องที่เราเล่าให้ฟังนั้นเป็นเรื่องเราเอง เเละอาจจะเหมือนกับคนอื่นๆด้วยเช่นกัน ตอนม.4 เราได้เริ่มเเข่งภาษาของสายเราเว้ย เเล้วฝึกเเบบเคร่งเครียดมาเเต่ก็ไม่ชนะ นั้นมันทำให้เรายิ่งกลัวการเเข่งขันเข้าไปอีกจนเเบบถ้ามีการเสนอให้เเข่งเราก็ไม่กระดิก ถ้าไม่มีเงินมาล้ออะนะ555
จนวันนึงม.5 ครูก็มาชวนว่ามาเเข่งพูดกันไหม เราตกใจเเละกลัวมากๆ กลัวจนพ่อเราเห็นได้ชัดมากเขาก็บอกว่าครูให้โอกาสเรา เราก็เลยตกลงเเล้วก็........เครียดเเม่งดิ ซ้อมก็หนักกดดันก็กดดัน ทางฝ่ายก็เเซะเก่ง อยากจะกรี้ดเป็นภาษาฝรั่งเศส---
จนวันนึง
"พ่อ!"
"ว่าไงหมอ..เรียกเหมือนจะกระทืบพ่องั้นอะ"
"เครียดอะ ทำไมเราต้องเเข่งกันอะ เเข่งเเล้วก็เเพ้เเล้วจะเเข่งทำไม ถ้าเเพ้ก็เฟลเหมือนเดิม"
"55555เป็นคนที่มีเครื่องหมายเควชั่นมาร์คเต็มหน้าจริงๆลูกชั้น"
"พ่ออาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา"
"อาๆเดี๋ยวพ่อตอบให้"
"มันเป็นอย่างนี้การที่มีการเเข่งขันเเบบหมอเเข่งเพื่อเป็นการเทียบว่ารร.ไหนมีประสิทธิภาพมากเเค่ไหน เเต่หารู้ไม่ว่าการที่เอาเด็กมาเเข่งกันมันทำให้เด็กเครียดเเต่เเข่งเสร็จมันก็มีความสุขดีไม่ใช่รึ"
"หึ......ดีตรงไหนถ้าเเพ้"
"ก็นี่ไงหมอ!ที่เขาบอกว่าการเเข่งต้องมี เเพ้ ชนะ เสมอกัน เเละต้องมีนำ้ใจนักกีฬา การที่เราเเพ้ไม่ได้เเปลว่าเราด้อยหรอกนะ เเต่อาจจะหมายถึงอีกรร.เขาอาจมีทีเด็ดที่ต่างออกไปเเละเหมาะที่จะไปต่อไง"
"ออ......เเต่หมอว่าหมอฝึกไม่พอรึยังไงไม่รู้รู้สึกไม่มั่นใจอาาาาาเเพ้เเน่ๆอะพ่อ"
"ไม่หรอก เพราะหมอจะเเพ้ชนะรร.อื่นขึ้นอยู่กับกรรมการเเต่หมอชนะเเล้วตอนนี้"
"ชนะอะไรอะพ่อ....."
"ชนะใจตัวเองที่สามารถหลุดจากตรงที่ตัวเองกลัว อีกอย่างหมอคือคนเก่งคนนึงที่เขาเลือกเเล้วเเสดงว่าหมอไม่ธรรมดา ชนะอะไร
ก็ไม่ภูมิใจเท่าชนะใจชนะความขี้เกียจ ความกลัวหรอก"
"จริงด้วย งั้นหมอไปซ้อมก่อนนอนก่อนนะพรุ่งนี้เเข่ง!"
"จำไว้นะหมอ!จะชนะหรือเเพ้ขึ้นอยู่กรรมการถ้าทำเต็มที่ก็ไม่ต้องกลัวอะไรเเล้วเพราะพวกหนูคือที่สุด"
ในวันเเข่งเรากับคู่ของเราก็พูดได้เต็มที่ไม่ผิด ไม่สะดุด ฉันดีใจมาก จนรู้สึกว่าเราต้องชนะเเน่ๆ สนุกสนานกับคู่เเข่งรร.อื่น จนผลออกเราได้ที่2.
"....."
เราอึ้งไปเลยรู้สึกว่าเราทำดีที่สุดจนนึกคำของพ่อ เราก็เย็นลงไม่โวยวายเเค่จะพูดความจริง เพราะเราไปได้ยินมาว่ารร.ที่ได้ที่1เขาพูดเบาเเละไม่ชัดผิดเเต่อะ....ถ้าจะว่าอย่างนั้นก็จบกับกรรมการ หากเขาบอกจบฉันก็จบ
"ถ้าจะเเข่งเเบบนี้ ปีหน้าพวกเราขอพอค่ะ เเต่สอบวัดระดับพวกเราไม่เเพ้เเน่นอนค่ะ อิอิ"เเล้วก็ยิ้มเเล้วเดินออกมาจากห้องไป
ตอนนั้นรู้สึกอย่างเดียว "กูคูลมาก---"เท่อะคือเท่มากสะบัดบ็อบใส่ทีนึงด้วยอะ
เเละการเเข่งนั้นก็จบไปด้วยดี ถ้ามีคนถามว่าทำไมมึงไม่ชนะ มึงเเม่งกาก เเพ้หลายปีกากมาก อะไรประมาณนี้ฉันก็คงตอบเขาเเบบนางเอกช่อง5ว่า--
สาดไฟมา!!!!!
"เเพ้เเล้วพระบิดาประชาชีใครตายหรอ เเพ้ในการเเข่งไม่ได้หมายถึงว่าการทำงาน การสอบ จะเเพ้นะเห้ยทางเดินชีวิตก็ต้องมีตกหลุมบ้างดิไม่ใช่เอาเเต่ชนะๆเเล้วเเม่งพอเจอสถานการณ์ที่เฟลเเล้ววิ่งไปเอาริบบิ้นมาเชือดขอตัวเอง คนเราต้องมีการเรียนรู้เเต่คำว่า เรียนรู้กับประสบการณ์ไม่ใช่เอาไว้พูดเเล้วนอนเกาก้นนะเว้ย ก่อนถามอะช่วยเอาหัวมุดโอ่งเเล้วดูตัวเองด้วย ขอบคุณค่ะ!"
มิสไทยเเลนด์ก็ตอบไม่ได้เท่านี้----
เอาเป็นว่า การที่เราชนะก็ไม่ได้หมายถึงว่าเราประสบผลสำเร็จในชีวิตหมดเเล้ว มันยังมีอะไรอีกเยอะเเต่ที่สำคัญเราเอาชนะใจตัวเองเเล้วรึยัง พร้อมที่จะเเก้ไข เพิ่มเติมเเล้วหรือยัง จุดหมายอาจจะถึงเมื่อไหร่ก็ได้เเต่ประสบการณ์ที่ได้มาจากความตั้งใจ นัน้ยิ่งใหญ่เเละควรเก็บไว้ นั้นเเหละคือผลสำเร็จเเละความสนุกสนานของชีวิตค่ะ!