ตอนที่ 3
"แม็คกูว่ามึงทำเกินไป" ไรอันมองหน้าเพื่อนสนิทที่ทำเกินไปกว่าเหตุพลันมองสลับกับร่างเล็กที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียง "น้องเขาไม่รู้เรื่อง"
"แล้วไง! ต่อให้มันไม่รู้เรื่องมันก็ผิดเพราะมันทำกูเจ็บตัว" แม็คตอบมาด้วยน้ำเสียงยียวน
"เออ เป็นกูนะกูจะตีให้ตาย มึงไปทำน้องเขาไว้เยอะ"
"กูไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แค่...ขมขืนแล้วก็ซ้อมนิดหน่อย"
"นิดหน่อยบ้านมึงสิ เขาเพิ่งจะสิบเจ็ด ถ้าน้องไปแจ้งความจับมึงข้อหาพรากผู้เยาว์ทำไง?"
"กูไม่กลัว กูรวย"
"สัสนี่! กูไม่คุยด้วยแล้ว"
"ไอ้แม็ค ไอ้ไรอัน ดูท่าจะตื่นแล้วว่ะ" ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยดังขึ้นเมื่อเห็นว่าร่างบางกำลังเริ่มขยับร่างกายทีละนิด
.
เฮือก!
เป็นหนึ่งลืมตาตื่นโผลงเสียงที่ได้ยินทำเอาสะดุ้งตัวตื่น เขาภาวนาขอให้เสียงที่คุ้นหูมันเป็นเพียงฝันร้ายที่คอยตามหลอกหลอน ถ้าทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่ความฝันก็คงจะดี ทว่า...มันก็เป็นความจริงที่ตรงกันข้าม
คนสามคนที่กำลังยืนมองอยู่อย่างไม่วางตา เตียงที่นุ่มนิ่มขยับเมื่อเป็นหนึ่งเริ่มดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง เสื้อผ้าที่ฉีกขาดถูกเปลี่ยนให้ใหม่แต่มันกลับไม่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาเลย ร่างบางถอยหลังไปจนชนตัวเตียงอย่างเร็วเพราะความกลัว
"ผมมาอยู่นี่ได้ไง" เป็นหนึ่งถามเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
"คอนโดเพื่อนกูเอง มึงมันโชคร้ายเอง ที่เลือกหนีแล้วดันไปเจอคนผิด โทษตัวมึงเองล่ะกันที่ดวงซวย"
คนร่างสูงที่คุ้นตายืนยิ้มเหี้ยมมาให้ เป็นหนึ่งเริ่มเกร็งตัวโดยอัตโนมัติ หางตาหันไปมองอีกคนอย่างตัดพ้อจนไรอันต้องหลบสายตา
หนีเสือปะจระเข้โดยแท้...
แม็คไม่รอให้เป็นหนึ่งตั้งตัวเขาเดินไปที่เตียงอย่างไว จับกระชากผมให้เป็นหนึ่งเงยหน้าขึ้นมองสบตา
"โอ๊ย! เจ็บ ปล่อย" เป็นหนึ่งน้ำตาเล็ด แม็คจับเขาไว้แน่นมากจริงๆ จนกระดูกแทบแหลกคามืออยู่แล้ว
"มึงเจ็บ แต่กูรู้สึกสะใจ"
"แม็ค" ไรอันกำลังจะร้องห้าม
"มึงไม่ต้องยุ่ง! ไรอัน...มึงด้วยไอ้ขุนแผน"
"แต่มึง..." ขุนแผนร้องท้วงขึ้น
"กูบอกว่าไม่ต้องมายุ่ง ถ้าไม่อยากให้มันเจ็บตัวไปมากกว่านี้ กูจะจัดการเองรับรองไม่ทำให้มันตายหรอก"
แม็คพูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยม แต่มือก็ยังคงไม่ปล่อยจนเป็นหนึ่งกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่พยายามดึงมือที่จับผมตัวเองออกแต่ดูเหมือนแม็คไม่ยอมปล่อยง่ายๆ ใบหน้าหวานมองแม็คก่อนที่จะร้องขออีกครั้งให้ปล่อยด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
"เจ็บ! ปล่อยเถอะ ขอร้อง"
แม็คยิ้มแต่ก็ยอมปล่อยมือง่ายๆ จนร่างบางแปลกใจแต่ก็โล่งอก ไม่ทันที่จะเอื้อนเอ่ยหรือขยับตัว แม็คก็ตบไปที่ใบหน้าของร่างเล็กอย่างจัง
เพียะ***!***
"ฮือ เจ็บ"
"กูปล่อยแล้วไง มึงร้องขอเองนะ" แม็คแสยะยิ้ม
"ไอ้แม็ค! มึงทำอะไร?" ขุนแผนตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนอ้าปากค้าง
"ไอ้แม็ค" ไรอันร้องเรียก
เป็นหนึ่งยังคงสะอื้นไม่หยุด ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ ขาดพ่อ ขาดแม่ ไร้ญาติขาดมิตรยังไม่พอใช่ไหม? ถึงต้องมาถูกข่มขืนจากผู้ชายด้วยกัน แถมเขายังทำร้ายร่างกายสารพัด
แค่คิดถึงโชคชะตาตัวเองก็ยิ่งทำให้เป็นหนึ่งร้องไห้หนักกว่าเดิมจนตัวโยน ดูเหมือนมันกลับยิ่งทำให้แม็คไม่พอใจกระชากแขนเป็นหนึ่งอย่างแรงและลากลงมาจากเตียง
ร่างเล็กที่ไร้เรี่ยวแรงไม่ยอมพยายามขัดขืนคนตรงหน้าอย่างสุดกำลังแต่เพราะแรงลากที่มากกว่าจึงทำให้ล้มไปพื้นอย่างจัง
"กูบอกแล้วใช่ไหม! ว่าถ้ามึงหนี ถ้ากูจับได้มึงจะเจ็บตัว มึงไม่ฟังเอง จะโทษกูไม่ได้" แม็คตบไปที่ใบหน้าเป็นหนึ่งอีกครั้ง และชกไปทั่วลำตัวอย่างไม่ปรานี พร้อมกับเสียงร้องอย่างดังเพราะความเจ็บปวดของคนตัวเล็กแต่แม็คก็ไม่คิดที่จะหยุด
เป็นหนึ่งมองคนสองคนตรงหน้าที่ไม่ยอมมาช่วยเหลือแต่กลับยืนดูอยู่นิ่งเฉย เขาได้แต่กัดฟันทนความเจ็บที่ได้รับและความน้อยใจในโชคชะตาจนในที่สุดก็เริมทนไม่ไหวร้องขออย่างช่วยไม่ได้
"ขอโทษ...จะไม่หนีแล้ว ยอมแล้ว...ยุดตีผม ฮือ" เป็นหนึ่งร้องอ้อนวอนให้หยุด ขอให้สงสารกันบ้าง
"ไอ้แม็คพอๆ เดี๋ยวมันก็ตายหรอก" ขุนแผนร้องห้ามพร้อมไปจับตัวแม็คออก
"ปล่อยกู" แม็คร้องลั่น
"ใจเย็นๆ มึงทำน้องเขาเกินไป" ไรอันปรามอีกครั้ง
แม็คกัดฟันทน จ้องมองเป็นหนึ่งด้วยความโกรธ ไม่เคยมีใครหนีคนอย่างเขาและไม่เคยมีใครทำให้เขาต้องเลือดตกยางออกมาก่อน แค่คิดก็ยิ่งทำให้โกรธและต้องการระบายมากขึ้น
"เป็นไงบ้าง" ไรอันเข้าไปประคองร่างบางอย่างเบามือ เป็นหนึ่งสะดุ้งตัวแรงหนี เสียงร้องไห้ที่ดังไม่หยุดมันทำให้เขารู้สึกสงสารแต่ช่วยอะไรมากไม่ได้ คิดผิดจริงๆ ที่พาเป็นหนึ่งมาพบแม็ค
ดูเหมือนร่างเล็กสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พยายามหนีคลานไปที่มุมห้องอย่างเร็วพร้อมกับเสียงร้องที่ดังอย่างไม่ขาดสายทั้งหมดแน่นิ่งไปกับการกระทำของคนตรงหน้า
อารมณ์โกรธของแม็คก็เหมือนจะเบาลงขุนแผนจึงปล่อยมือออก ร่างสูงยังคงมองไปที่เป็นหนึ่งความคิดชั่ววูบเกิดขึ้นมากะทันหัน เขาเดินไปกระชากร่างบางที่อยู่มุมห้องอีกครั้งให้ยืนขึ้น เป็นหนึ่งหน้านิ่วไปด้วยความเจ็บปวดแต่กลับหมดเสียงที่จะร้อง ได้แต่เปล่งเสียงแหบพร่าอ้อนวอนขอความเห็นใจให้ปล่อยเท่านั้น
"ฮือ ไม่เอาแล้ว ยอมแล้ว" เป็นหนึ่งร่ำร้องยกมือขึ้นบังตัวเอง ยอมรับว่ากลัวคนตรงหน้าอย่างจับใจ แม็คแสยะยิ้มกับความอ่อนแอของคนร่างบาง และด้วยความสูงที่แตกต่างจึงต้องทำให้คนที่สูงกว่าต้องก้มมองหน้าและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"เป็นหนึ่ง...นับจากนี้ไปมึงต้องมาอยู่กับกู คอยรับใช้กู ทำตามที่กูสั่ง"
"ไม่!" เป็นหนึ่งส่ายหน้ารัว เขาไม่อยากอยู่กับแม็ค
“มึงว่าอะไรนะ!”
“ไม่...”
“มึงนี่มัน!” แม็คง้างมือขึ้นสูง ทำท่าทางจะทำร้ายเป็นหนึ่งอีก ร่างเล็กก้มหน้าหลับตายอมรับชะตากรรม ทว่ากลับไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย พอลืมตามองก็พบเพียงแค่แววตาดุร้ายของคนตรงหน้าเท่านั้น
"มึงไม่ยอม กูไม่ห้าม แต่..." แม็คแสยะยิ้ม "เพื่อนมึง...ไอ้ต้นกล้ามันจะต้องเจ็บตัวและบ้านมึงจะไม่เหลือซาก"
"พี่คงไม่กล้าทำ…ขนาดนั้น..."
"หึ กูกล้าทำว่ะ"
สิ่งที่เป็นหนึ่งได้ยินแทบจะลมจับเพราะแม็คคิดที่จะทำร้ายเพื่อนที่เขารักที่สุดกับบ้านหลังเดียวที่มีอยู่ ก็ทำให้เป็นหนึ่งทำอะไรไม่ถูก ได้แต่อ้าปากค้างอย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าอีกคนจะโหดร้ายขนาดนี้
"ว่าไง กูให้มึงเลือกแล้วนะ" แม็คเรียกเตือนสติอีกฝ่ายที่ยังนิ่ง
"ขอร้อง...อย่าทำร้ายเพื่อนผม อย่าทำบ้านของผมเลยนะ"
ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ต้องยอมแพ้...
"ผมยอมทุกอย่าง ยอมแล้ว...ยอมแล้ว...กลับบ้านพากลับบ้านที ขอร้อง ฮึก"
“แม็ค กูว่าพาน้องกลับบ้านก่อนเถอะว่ะ” ไรอันเสนอ เริ่มใจไม่ดีที่คนร่างบางไม่หยุดร้องไห้
“เออว่ะ กูเห็นด้วย” ขุนแผนเอ่ย แล้วมองไปที่แม็คพร้อมกับพยักหน้า
เป็นหนึ่งร้องไห้จนตัวโยน เขาอยากกลับบ้านใจจะขาด แม้ว่าจะไม่มีใครอยู่ แม้ว่าต้องอยู่ตัวคนเดียวแต่ก็ยังมีความทรงจำของแม่กับเขาอยู่ บ้านที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียว บ้านที่เขารักที่สุด
แม็คยังคงจ้องเป็นหนึ่งไม่ห่างสายตาเริ่มเห็นด้วยกับไรอันและขุนแผน ตอนนี้เป็นหนึ่งกำลังขวัญเสียยอมรับว่าตัวเองก็ทำเกินไปเพราะอารมณ์ที่โกรธจนหน้ามืดจนลงมือทำร้ายร่างบางอย่างหนัก เนื้อตัวที่ขาวเริ่มเป็นรอยช้ำเด่น
“กูจะพามึงกลับบ้าน“ แม็คพูด
“จะ จริงนะ ฮึก”
“แต่กูให้มึงอยู่แค่วันเดียวเท่านั้น เก็บของให้เสร็จ พรุ่งนี้กูจะไปรับ”
“ไม่เอาจะอยู่ที่บ้าน”
“พูดให้รู้เรื่องอย่าให้กูโกรธ! แล้วก็หยุดร้องได้แล้ว รำคาญ!” แม็คพูดขู่
เป็นหนึ่งหน้านิ่งได้แต่ทำใจยอมรับ น้ำตาก็ยังคงไหลไม่หยุดไม่กล้าส่งเสียงร้องออกมาเพราะกลัวคนร่างสูงจะทำร้าย ได้แต่คิดน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองเท่านั้น ถ้าทั้งหมดมันเป็นฝันก็คงดีไม่น้อยเพราะอย่างน้อยเขาก็ยังตื่นจากฝันร้ายแล้วหลงลืมไปในที่สุด
*********************************
ถึงเป็นหนึ่ง
วันที่ลูกเจอจดหมายนี้ แม่อาจไม่อยู่กลับลูกแล้วนะ แม่ขอโทษที่เคยทำร้ายหนึ่ง ขอโทษที่บางครั้งเป็นแม่ที่ไม่ดี เงินที่อยู่ในบัญชีนี้ แม่เก็บไว้เพื่อเป็นทุนให้ลูกได้เรียนหนังสือจนจบปริญญา มันคงมากพอที่จะเลี้ยงหนึ่งได้สบายไปอีกนาน จนกว่าหนึ่งจะโตเป็นผู้ใหญ่ แม่ไม่อยู่แล้วหนึ่งต้องอยู่ให้ได้ ต้องเข้มแข็ง อย่ายอมแพ้นะลูก
ลายมือที่คุ้นเคยกับจดหมายหนึ่งฉบับ และสมุดบัญชีอีกหนึ่งเล่ม มือทั้งมือกำลังสั่นอย่างเห็นได้ชัด เนื้อความข้างในจดหมายทำให้น้ำตาที่น่าจะหมดไปไหลออกมาอย่างง่ายดาย
เป็นหนึ่งไม่เคยคิดว่าแม่จะเก็บเงินมากมายเพื่อเขาขนาดนี้ แม้ว่าจะเคยสงสัยว่าแม่เอาเงินจากไหนมาใช้และจ่ายค่าเล่าเรียนให้แต่ตอนนี้มันไม่จำเป็นสำหรับเขาแล้ว เป็นหนึ่งอยากกอดแม่ อยากเห็นแม่ยิ้ม อยากให้แม่อยู่ด้วย ถึงแม่จะตีเขาแต่แม่ก็มักจะกอดเขาเสมอๆ
“แม่เป็นแม่ที่ดีที่สุดสำหรับหนึ่ง แม่เลี้ยงหนึ่งตัวคนเดียวมาตลอด หนึ่งรักแม่ครับ ฮือ”
ร่างบางร้องไห้จนตัวโยนกอดจดหมายไว้แน่นกับอกก้มตัวลงบนหมอนใบที่แม่เคยหนุน น้ำตาที่ไหลรินตกลงไปบนหมอนจนเปียกชุ่ม ด้วยความเหนื่อยและเพลียทำให้หลับไปในที่สุด
“...หนึ่ง...เป็นหนึ่ง...เป็นหนึ่ง...” เสียงเรียกที่ดังและร่างกายที่สั่นเพราะแรงปลุกจากใครบางคน ทำให้ร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างเร็ว เขางัวเงียเหมือนกำลังเมาขี้ตาอย่างเห็นได้ชัด
“นอนทำไมไม่ปิดบ้าน ถ้าโจรขึ้นมาจะทำไง” ต้นกล้าเอ็ดเป็นหนึ่งเล็กน้อย
“กล้ามาเมื่อไหร่”
“เมื่อกี้ กล้าเห็นหนึ่งไม่ไปเรียนสองวันเลยเป็นห่วง ทำไมหน้าเป็นอย่างนี้ล่ะหนึ่ง”
สิ่งที่ต้นกล้าถามทำเอาเป็นหนึ่งหน้าเปลี่ยนสีนึกอยากให้สิ่งที่เจอเป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้น ความเจ็บปวดและสิ่งที่ได้รับมันมากเหลือเกินที่คนอย่างเขาจะรับไหว หยาดน้ำตาก็ร่วงพรูอาบแก้ม
“เฮ้ย! หนึ่งเป็นอะไร? ร้องไห้ทำไม? ใครมันทำอะไรหนึ่งบอกกล้ามา!”
ยิ่งถามมากเท่าไหร่เป็นหนึ่งยิ่งไม่กล้าที่จะตอบ ต้นกล้าที่เห็นเพื่อนรักกำลังเริ่มร้องไห้ก็ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่กอดคนตรงหน้าอย่างเบามือเป็นการปลอบใจ นึกแค้นใจคนที่ทำให้เป็นหนึ่งเป็นถึงขนาดนี้
“เป็นหนึ่ง! ออกมา”
ร่างบางสะดุ้ง รีบผละตัวออกมาจากร่างของต้นกล้า หน้าตาบ่งบอกได้ว่ากลัวเสียงที่ได้ยินจับใจ เป็นหนึ่งลนลานและเริ่มทำอะไรไม่ถูกได้แต่นั่งปิดหูและส่ายหน้าเหมือนไม่อยากได้ยินเสียง จนต้นกล้ารู้สึกผิดสังเกต
“เป็นหนึ่ง! เปิดประตู แล้วออกมา”
เสียงที่เหมือนคำสั่งยังคงเล็ดลอดให้ได้ยิน ต้นกล้าทนไม่ไหวเป็นฝ่ายไปเปิดประตูเสียเอง คนร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าบ้านทำเอากล้าแทบอยากจะโดดถีบหน้าอย่างแรง
“ไอ้แม็ค! มึงมาทำอะไรที่นี่” ต้นกล้าถามเสียงดัง
“ทำไมจะมาไม่ได้” แม็คตอบทันควัน “มันบ้านเมียกู”
ต้นกล้าอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินเป็นจังหวะที่เป็นหนึ่งวิ่งตามออกมาพอดีแต่ก็ไม่ทันห้ามร่างสูงไว้ได้ เมื่อแม็คเห็นอาการที่ตกใจของต้นกล้าเขายิ้มเหี้ยมอย่างผู้มีชัย พร้อมกับยกคิ้วเป็นเชิงที่ตนเองเหนือกว่า
“มึงโกหก!”
“แล้วแต่มึงจะคิด...เป็นหนึ่งกูมารับ”
เป็นหนึ่งลังเล เขาไม่อยากไปกับแม็คเลย
“อย่าทำให้กูโกรธเป็นหนึ่ง” แม็คขู่
“หนึ่ง…เกิดอะไรขึ้น” ต้นกล้าถาม หันไปมองพร้อมส่งสายตาสงสัยไปให้ด้วยความสงสัย
“เพราะมึงไง ไอ้กล้า” แม็คกล่าวแทน จนกล้าทำหน้างง เชิงสงสัย
“กูเคยบอกแล้วว่ามึงจะต้องเสียใจถ้าไม่ใช่เพราะมึง! เพื่อนมึงคงไม่ต้องเป็นเมียกู”
“ไอ้สัส! ไอ้เหี้ย! มึงทำแบบนี้ได้ไง เป็นหนึ่งไม่เกี่ยวข้องด้วย กูทำของกูคนเดียวทำไมมึงไม่มาลงที่กูแทน” ต้นกล้าถามอย่างเหลืออด ไม่ต้องสงสัยว่าใครที่ทำให้เพื่อนรักเขาเป็นขนาดนี้
“มันไม่สะใจว่ะ” แม็คตอบอย่างกวนๆ และยิ้มที่มุมปากแสดงการเยาะเย้ย
ต้นกล้าไม่รอช้าพุ่งเข้าไปที่ตัวของแม็คอย่างเร็วกระชากคอเสื้อของแม็คแล้วง้างหมัดที่จะต่อยเต็มที่แต่ก็ต้องชะงักเมื่อแม็คขู่กลับอีกครั้ง
“ถ้ามึงยังต่อยกูอีก กูไม่รับรองความปลอดภัยของเป็นหนึ่ง”
ต้นกล้ากัดฟันกรอดเพราะแค้นที่ไม่สามารถทำอะไรได้ รู้ว่าไม่มีทางสู้คนตรงหน้าได้ จึงคลายมืออกจากคอเสื้อ ไม่ใช่เพราะกลัวแพ้หรือกลัวเจ็บแต่กลัวว่ามันจะทำร้ายเป็นหนึ่งมากกว่านี้ ถึงแม้จะไม่เห็นข้างในเสื้อผ้า แต่ต้นกล้าก็รับรู้ได้ว่าเป็นหนึ่งคงโดนหนักไม่ใช่น้อย ทั้งหมดเป็นความผิดของเขาเอง
“หนึ่ง กล้าขอโทษ กล้าขอโทษที่ทำให้หนึ่งต้องเจอแบบนี้”
“กล้า...หนึ่งไม่เป็นไร” เป็นหนึ่งเดินไปหาต้นกล้า พยายามทำเสียงเป็นปกติ
แม็คที่ยืนฟังอยู่นานเดินตรงดิ่งไปกระชากร่างบางออก เป็นหนึ่งหน้านิ่วด้วยความเจ็บจากแรงบีบแขนที่ได้รับ หันมองร่างสูงด้วยแววตาตื่นกลัว
“ไปเอาของมาจะได้ไปสักที”
“หนึ่งจะไปไหน” ต้นกล้าเอ่ยถาม
“มันจะไปอยู่กับกู”
“ไม่! หนึ่งจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ปล่อยหนึ่งนะ” ต้นกล้ากระชากแขนเป็นหนึ่งกลับ
“ก็ถามเป็นหนึ่งสิ ว่าจะไปกับใคร...ว่าไงเป็นหนึ่ง” แม็คยกยิ้มที่มุมปากเชิงถาม
“หนึ่งจะไปกับพี่แม็ค...ขอโทษนะกล้า” เป็นหนึ่งก้มหน้าตอบ เขาพยายามฝืนยิ้มสุดฤทธิ์เพื่อไม่ให้คนตรงหน้าเป็นห่วง เพราะเขารู้ดีว่าถ้าร่างสูงโกรธจะเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนตัวเอง เป็นหนึ่งไม่อยากให้ต้นกล้ามีอันตราย เพื่อนเพียงหนึ่งเดียวที่มีนอกจากแม่ เป็นหนึ่งอยากจะปกป้องเหมือนที่ต้นกล้าดูแลตนเองมาโดยตลอด
“ไม่ต้องห่วง หนึ่งไม่เป็นไรจริงๆ ขอบคุณนะกล้าที่ดูแลหนึ่งมาตลอด เจอกันที่โรงเรียนนะ” เป็นหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติที่สุดส่งยิ้มบางๆ มาให้ แม้ว่าข้างในจะเจ็บเจียนตาย
แม็คยังคงแสยะยิ้มเยาะเย้ยอย่างสะใจที่ต้นกล้าเจ็บปวด แค้นที่ถูกชกแม้ว่าจะแค่หนึ่งหมัดที่ต้นกล้าชกมา ไม่เคยมีใครทำให้เขาเจ็บคนที่ทำเขาเจ็บมันต้องเจ็บกว่าเป็นร้อยเท่า สายตาเลื่อนมาจับจ้องร่างบางอีกคนรู้ว่าเป็นหนึ่งเป็นเพื่อนที่กล้ารักที่สุดจึงต้องลงมือทำร้าย
‘หึ ช่วยไม่ได้ นายมันดวงซวยเองเป็นหนึ่ง’