บทที่ 12
ช่วงเวลาอันแสนสงบ
ทุกอย่างเป็นเพียงเรื่องขำขันที่ไม่ต้องเก็บเอาไปใส่ใจ ฉันโล่งอกที่เห็นเจย์เดนร้องเพลงประสานเสียงกับฉัน เขาคงก้าวผ่านความรู้สึกผิดเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้แล้ว
...ใช่ เพราะมันเหมือนกับเอ็มวีและสีผมแสนเพี้ยนของนักร้องเคที่ เพอร์รี่ผู้ร้องเพลง พวกเรามีเซ็กส์กันในแคลิฟอร์เนีย และพวกเรากำลังนั่งรถปอร์เช่ ไม่ใช่รถจิ๊บถูกๆ
ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นจึงไม่มีอะไรเป็นจริงเป็นจัง เปรียบเสมือนเสียงเพลงที่ดังมาแล้วก็เงียบหายไปตามสายลม
...ไม่ต้องไปคิดมากอะไร
“ถ้าอยากช้อปปิ้ง ผมว่าไปวอลมาร์ต (Walmart) น่าจะดีนะครับ”
“จัดไป”
ฉันทำมือให้สัญญาณผ่าน รถปอร์เช่หักเลี้ยวเข้าวอลมาร์ตทันที
วอลมาร์ตคือชื่อของห้างสรรพสินค้า ขายของราคาถูกในอเมริกาคล้ายๆกับแมคโคร บิ๊กซีบ้านเรา
“แด๊ดให้บัตรเครดิตมา ตามสบายนะฮะ”
เจย์ชูการ์ดสีทองขลิบเงินโบกหยอยๆไปมาในอากาศ ฉันถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจพลางวางกระเป๋าเงินตัวเองทิ้งไว้ในรถ
...ครอบครัวนี้ใจป้ำไม่เลวแหะ ซื้อข้าวของเครื่องใช้ให้กับเด็กแลกเปลี่ยนฟรีๆด้วย
“งั้นพี่ไม่เกรงใจนะ”
“ฮ่าๆ ต่อให้เหมาหมดวอลมาร์ต ขนหน้าแข้งแด๊ดก็ไม่ร่วงหรอก”
เจย์เดนกลั้วหัวเราะแล้ววิ่งไปหยิบรถเข็นมาเตรียมพร้อม ฉันหวนคิดถึงบ้านหลังใหญ่ในเขตเบเวอร์ลี่ฮิลส์
...ก็น่าจะจริงอย่างที่เจย์พูด
“พี่ดารินทร์ ไหนๆมาที่ห้างแล้วก็ซื้อพวกวัตถุดิบอาหารเอเชียไปด้วยเลยเป็นไง จะได้ทำอาหารไทยกิน ถ้าผมเป็นพี่นี่คิดถึงอาหารบ้านเกิดตายชัก”
ฉันมองตามน้องชายที่โยนข้าวพองรสมาร์ชเมลโล่ลงตะกร้ากล่องแล้วกล่องเล่าอย่างจับผิด
“พอดีพี่เป็นคนทานง่าย อยู่อเมริกาก็ควรกินอาหารสไตล์อเมริกันให้หนำใจสิ อาหารไทยไว้ค่อยกินตอนกลับไปเมื่อไหร่ก็ได้”
“ว้า!”
เสียงร้องด้วยความเสียดายของเขาทำให้ฉันยิ้มขัน พลางดันหลังแกร่งให้เข็นรถไปทางโซนขายอาหารเอเชีย
“แต่ถ้าน้องชายที่น่ารักบอกอยากทานอาหารไทยดีๆ พี่สาวคนนี้มีหรือจะปฏิเสธ จริงไหมคะ?”
จุ๊บ!
เจย์เดนก้มลงฝังจมูกลงบนแก้มฉันหนักๆด้วยความดีใจ เขารีบเปิดโทรศัพท์ให้ฉันดูรูปภาพอาหารไทยที่เขาเล็งเอาไว้ทันที
...ต้มข่าไก่?
“หืม ได้สิ”
ฉันพาเขาเดินเลือกซื้อวัตถุดิบอย่างสนุกสนาน นี่ถ้าฉันไปประเทศอื่นมีหวังหาซื้อเครื่องปรุงอาหารเอเชียยากกว่านี้ ดีนะที่มาอเมริกา
“ทั้งหมด $840.5 ค่ะ”
เจย์ยื่นบัตรเครดิตให้พนักงานเคาน์เตอร์ด้วยใบหน้าปกติ ในปากเขากำลังอมลูกอมจูปาจุ๊บส์ (Chupa Chups) กลิ่นสตอร์เบอร์รี่
“ขอบคุณครับ”
เขารับบัตรกลับคืนมาหลังเซ็นลายเซ็นเรียบร้อยแล้ว ว่ากันตามตรง ข้าวของเครื่องใช้ที่ฉันต้องการซื้อมีไม่ถึงครึ่งของรถเข็น ที่เหลือเป็นขนมเคี้ยวเล่น แชมเปญยี่ห้อดี เบียร์หนึ่งลังและวัตถุดิบทำอาหารไทยตามที่เจย์อยากทานล้วนๆ
...เชื่อแล้วว่ารวยจริง
ฉันลองคิดคำนวณราคาที่ใช้จ่ายไป ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน พอฉันแปลงค่าเงินดอลล่าร์มาเป็นเงินบาทไทยเสร็จก็ถึงกับต้องตื่นตระหนกในราคาที่รับทราบ
...3 หมื่นกว่าบาท!
ตอนอยู่ไทยฉันเคยรูดการ์ดทานอาหารในราคาหมื่นห้าตัวคนเดียวโดยไม่กระพริบตา แต่นี่เขาเล่นซื้อขนมในราคาสามหมื่นกว่าบาทเชียวเหรอ
“...”
“พวกเราไปซื้อคริสปี้ครีม (Krispy Kreme) กันก่อนกลับบ้านนะฮะ ผมอยากทาน”
“ดะ ได้สิ พี่ก็อยากลองทานรสต้นตำรับของอเมริกาเหมือนกัน ที่ไทยก็มีขายนะ ไม่รู้ว่ารสชาติแตกต่างกันรึเปล่า”
“รับรองของอเมริกาอร่อยกว่าชัวร์”
เจครับข้าวของทุกอย่างไปถือตัวคนเดียว ในสายตาฉัน มันดูพะรุงพะรังอย่างบอกไม่ถูก
“แบ่งของมาสิ เดี๋ยวช่วยถือ”
ฉันพูดออกไปโดยไม่คิดมาก หากแปลกใจที่อยู่ๆร่างสูงที่กำลังเดินนำอยู่ด้านหน้าถึงกับหยุดชะงัก เขาเอี่ยวคอกลับมาพร้อมรอยยิ้มที่สว่างไสวจนดวงตาฉันถึงกับพร่าลาย
“ใจดีจัง...ใครได้เป็นแฟนนี่โชคดีตายเลย”
ความร้อนขุมหนึ่งวูบไหวขึ้นมาบนใบหน้า ลามไปจนถึงใบหู เปลี่ยนให้หน้าทั้งหน้าร้อนฉ่าราวกับมีคนเอาไฟมาอัง
“เงียบไปเลย!”
ฉันก้มหน้าหนีพร้อมพึมพำตอบในลำคอ เจย์เห็นแล้วจึงกระชับถุงในมือแน่นขึ้น เขาก้าวเดินต่อ อารมณ์ดีถึงขนาดผิวปากเป็นเพลง California Gurls ตามที่ร้องไปก่อนหน้านี้