“หึ ของเล่นเหรอ งั้นกูขอเล่นหน่อยได้มั้ย” เบนจามินยิ้มเยาะ แล้วหันมามองหน้าฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ พร้อมกับยกมือขึ้นมาจับที่ปลายคางของฉันให้หันไปมองทางเขา
หมับ!
”อึก...” ฉันเบนหน้าหนี และฟินิกซ์ก็จับไปที่ข้อมือของเบนจามินเอาไว้ด้วยความรวดเร็ว จนฉันถึงกับแอบกลืนน้ำลายลงออกอึกใหญ่อย่างฝืดเคืองทันทีที่เห็นสายตาคมดุดันของเขาจ้องมองเบนจามินด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่ดูน่ากลัวมากกว่าเดิม ให้ตายสิ
“อย่าทำเป็นหวงของเล่นไปหน่อยเลยน่า ขนาดลอเรนมึงยังเคยแบ่งกูเล่นเลย" เบนจามินกระชากข้อมือของตัวเองออก พร้อมกับหัวเราะในลำคอ และยักไหล่อยางไม่ใส่ใจ จากนั้นก็มองไปทางฟินิกซ์ที่กำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาคมดุดันน่ากลัว แล้วยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างท้าทาย จนฟินิกซ์ถึงกับขบสันกรามด้วยความโมโหทันที
ฉันเงยหน้ามองฟินิกซ์ และต้องกัดริมฝีปากล่างของตัวเองแน่น ทันทีที่ฝ่ามือใหญ่จับมาที่ข้อมือของฉัน แล้วบีบมันแรงขึ้นกว่าเดิมจนฉันเจ็บไปหมด บ้าชะมัด เขาคิดจะหักกระดูกฉันหรือไงกัน!
"ฉันเจ็บ..."
พรึ่บ!
ฉันหันไปพูดกับฟินิกซ์ได้ไม่กี่คำ เขาก็ปล่อยมือใหญ่ออกจากข้อมือของฉัน แล้วเปลี่ยนมาใช้ท่อนแขนแข็งแรงโอบรอบเอวบางดึงเข้าไปใกล้แผงอกกำยำของเขาด้วยความรวดเร็วจนฉันตั้งตัวไม่ทัน และยืนนิ่งตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกทันที
"ของเล่นชิ้นนี้ไม่ได้ และถ้ายังทำแบบเมื่อกี้อีก กูกับมึงคงต้องคุยกันหน่อย" ฟินิกซ์ยกยิ้มมุมปากขึ้น แล้วหันไปบอกเบนจามินด้วยท่าทางดุดันน่ากลัว พร้อมกับท่อนแขนแข็งแรงของเขาก็กอดรัดรอบเอวของฉันแน่นขึ้นอีก จนฉันต้องจับท่อนแขนของฟินิกซ์เอาไว้ด้วยความรวดเร็ว ให้ตายสิ ฉันจะหายใจไม่ออกอยู่แล้วนะ!
"คุณเบนจามินครับ" เบนจามินที่กำลังยืนจ้องเขม่นกับฟินิกซ์ด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่หันไปคุยกับลูกน้องของตัวเอง ที่เพิ่งเดินเข้ามาเรียกและแจ้งเกี่ยวกับเรื่องบางอย่าง
และฉันก็พยายมดิ้นให้หลุดจากท่อนแขนแข็งแรงของฟินิกซ์อีกครั้ง ถึงเขาจะไม่ได้กอดแน่นแล้วก็ตาม แต่ฟินิกซ์ก็ยังไม่ยอมปล่อยฉันออกจากอ้อมแขนของเขาสักที
"หึ ไว้วันหลังค่อยมาคุยกันใหม่นะฟินิกซ์ กูชักจะอยากได้ของเล่นของมึงแล้วสิ" เบนจามินหันมาบอกกับฟินิกซืหลังจากที่คุยกับลูกน้องของเขาเสร็จ และเหลือบมามองฉันพร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินออกไปกับคนของเขาทันที
"ฟินิกซ์...ฉันเจ็บนะ!" ฉันจับท่อนแขนของฟินิกซ์เอาไว้แน่น เมื่อเขากอดรัดเอวบางของฉันแน่นขึ้นอีกครั้ง และเมื่อเงยหน้าไปมองก็เห็นว่าฟินิกซ์มีท่าทีเหมือนกำลังโกรธจัด และโมโหจนฉันสังเกตเห็นสันกรามของเขาได้อย่างชัดเจน
"กลับไปก่อน" เสียงเข้มต่ำดังขึ้นอยู่ข้างใบหู ฉันขมวดคิ้วมองฟินิกซ์ด้วยความไม่เข้าใจ และจัดชุดเดรสของตัวเองให้เรียบร้อยขึ้นเมื่อเขาปล่อยท่อนแขนออกจากรอบเอวบางของฉัน
"อะไรนะ..." ฟินิกซ์มองฉันด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แล้วเหลือบสายตาคมดุดันไปมองยังลูกน้องอีกคนของตัวเองที่เดินมาทางพวกเราสองคน
"เธอกลับไปพร้อมโทนี่ก่อน อย่าปล่อยให้คาดสายตาล่ะ" หลังจากที่ฟินิกซ์บอกฉันเสร็จ เขาก็หันไปบอกลูกน้องของตัวเองด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอีกครั้ง
"ครับ" โทนี่พยักหน้ารับคำสั่งจากฟินิกซ์ ฉันขมวดคิ้วมุ่นอย่างหงุดหงิด และถอนหายหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความเบื่อหน่ายทันที อยากจะจับฉันไปไว้ตรงไหนตามใจตัวเองแบบนี้ก็ได้เหรอ เหอะ ให้ตายเถอะ!
หลังจากที่ฉันส่งสายตาขุ่นเคืองไปให้ฟินิกซ์ ที่จ้องมองฉันด้วยสายตาคมดุดันไม่เลิก ฉันก็เม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น แล้วเดินตามหลังของโทนี่ออกมาจากในงานที่น่าเบื่อนั่นด้วยความรวดเร็ว
"โทนี่" ฉันหยุดเดิน แล้วหันไปมองโทนี่ที่ยืนเปิดประตูรถยนต์คันหรูให้ด้วยความลังเลเล็กน้อย
"ครับ" โทนี่ตอบรับด้วยสีหน้านิ่งเฉย พร้อมกับมองฉันด้วยความสงสัย ฉันยืนคิดอะไรบางอย่างสักพัก แล้วถอนหายใจออกมาเบา ๆ อีกครั้ง ถึงโทนี่จะดูพูดคุยด้วยยากกว่านาธานก็ตาม แต่ฉันก็ยังคงอยากรู้อยู่ดี...
"ทำไมฟินิกซ์ยังไม่กลับล่ะ" โทนี่มองหน้าฉันด้วยความแปลกใจเล็กน้อย ทันทีที่ฉันถามจบ
"คุณฟินิกซ์มีเรื่องสำคัญต้องคุยกับคุณครูสต่อครับ" ฉันขมวดคิ้วมุ่นขึ้นมาอีกครั้ง
"เรื่องอะไร นายรู้รึเปล่า"
"คุณเมเบลรอถามคุณฟินิกซ์เองดีกว่าครับ" โทนี่บอกฉันเสร็จ เขาก็เปิดประูรถยนต์ให้กว้างขึ้นกว่าเดิม เหมือนกับจะเร่งให้ฉันเข้าไปนั่งในรถ จนฉันต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วพยักหน้ากลับไปให้เขาเล็กน้อย ก่อนจะยัดตัวเองเข้าไปนั่งในรถยนต์ของฟินิกซ์อย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
ฉันนั่งนิ่ง และกุมมือตัวเองเอาไว้แน่นตลอดทางที่โทนี่ขับรถเพื่อมาส่งฉันที่บ้านของฟินิกซ์ สมองก็คิดเรื่องบางอย่างจนปวดหัวไปหมด ฉันเหลือบสายตาไปมองโทนี่ด้วยความลังเลอีกครั้ง แล้วสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ พร้อมกับกระแอมเล็กน้อยอย่างประหม่า
"โทนี่ ฟินิกซ์จะกลับประมาณกี่โมง นายพอจะรู้มั้ย" โทนี่เหลือบสายตามองฉันผ่านกระจก แล้วหันไปตั้งใจขับรถยนต์ต่อ
"อาจจะประมาณสองถึงสามชั่วโมงหลังงานเลี้ยงเลิกครับ" ฉันกะพริบตาปริบ ๆ และพยักหน้ากลับไปให้โทนี่ทันที ถ้าอีกสามสามชั่วโมงก็นานอยู่เหมือนกัน แบบนี้ก็ดีน่ะสิ...
ฉันแอบยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย ในหัวก็คิดหาทางที่จะเข้าไปในห้องของเฟรย่าไปด้วย บางทีให้ห้องของเธออาจจะมีหลักฐานที่บอกได้ว่าฉันไม่ใช่ต้นเหตุการตายของเฟรย่าก็ได้ บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด ซึ่งฉันก็ยังคงคิดไม่ออกสักนิดว่าทำไมฟินิกซ์ถึงคิดว่าฉันทำให้น้องสาวของเขาต้องจากไป ฉันจะไปทำได้ยังไงในเมื่อเฟรย่าเป็นเพื่อนรักของฉัน...