ภายในคอนโดหรูสูงตระหง่านฟ้า ชายหนุ่มร่างสูงยืนมองทอดออกไปยังนอกหน้าต่าง สายตาของเขาเหม่อมองออกไปยังวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพ ฯ ยามค่ำคืน.....
“ผมเอาของไปส่งให้คุณหนูวันวานแล้วนะครับนายน้อย” อาซานบอดี้การ์ดคนสนิทของต๋าเฉิงเอ่ยบอกกับเจ้านายของเขา หลังจากที่เขาปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จ
“อืม” ต๋าเฉิงพยักหน้ารับคำของลูกน้องคนสนิท นี่ไม่ใช่แค่ครั้งแรกที่เขาให้คนส่งของไปให้วันวาน หญิงสาวที่เขาเฝ้ามองมาตลอด 10 กว่าปี
“แล้วนายน้อยจะไม่ไปเจอคุณหนูวันวานจริง ๆ เหรอครับ ครั้งที่แล้วนายน้อยก็หลบหน้าเธอนะครับ” หยงเต๋อลูกน้องคนสนิทอีกคนเอ่ยถามขึ้นมาอย่างสงสัย
“ไอ้เต๋อ ชู่ว!” อาซานที่เห็นเพื่อนจอมปากมากเอ่ยถามคำถามที่ไม่ควรถามกับเจ้านายของพวกเขาออกไป เลยกระทุ้งซอกใส่ท้องหย่งเต๋อ
“อะไรมึง! ไอ้ซาน อุ๊บบ!” หย่งเต๋อหันไปหงุดหงิดเพื่อนตัวเองก่อนจะนึกขึ้นได้จึงรีบปิดปากอย่างไว และกลืนความสงสัยทั้งหมดลงคอ
“ช่างมันเถอะ ฉันจะเข้านอนแล้ว พวกนายก็ไปพักผ่อนเถอะ” ชายหนุ่มหน้าตี๋เอ่ยบอกลูกน้องทั้งสองของเขาก่อนที่ตัวเองจะเดินแยกตัวเข้าไปภายในห้องนอนส่วนตัว
เมื่อร่างสูงทิ้งตัวลงนอนกับที่นอนนุ่ม ชายหนุ่มหน้าตี๋ขึ้นเงยหน้ามองเพดานสีขาวสะอาดตาอย่างครุ่นคิด ก่อนที่เขาจะพลิกตัวเอื้อมมือไปหยิบกิ๊บติดผมรูปแมวสีชมพู ที่ครั้งหนึ่งเด็กหญิงตัวน้อยเคยมอบให้แก่เขามาตอนที่เขาช่วยแมวของเธอไว้
“วันวานจะลืมน้าต๋าเฉิงคนนี้ไปหรือยังนะ” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาล่องลอย ในห้วงความทรงจำของเขานึกถึงเพียงใบหน้าขาวใสของเด็กหญิงตัวน้อยที่บัดนี้เติบโตเป็นสาวสวย
นับตั้งแต่วันที่เขาและหนูน้อยวันวานนั่งทานบัวลอยที่ในสวนข้างบ้านของ ‘วิน’ หลังจากที่หนูน้อยวันวานกลับบ้านไป พ่อของเธอก็ได้มาคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว และนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาและเธอได้ใกล้ชิดกัน เขาได้แต่อดทนและเฝ้ามองดูเธออยุ่ห่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่เขาอยากจะเขาไปพูดคุยหรือทักทายเธออย่างเคย แต่เขาก็ทำได้แค่แอบมองเธออยู่ในที่ไกลแสนไกลหรือผ่านรูปถ่ายที่คนของเขาส่งมา แต่มันก็ดีแล้วที่เขาและหนูน้อยวันวานไม่ได้พบเจอกันอีก เพราะคงทำให้หนูน้อยวันวานไม่ต้องมองว่าเขาเป็นแค่น้าต๋าเฉิงที่แสนใจดีคนนั้น.......
อีกมุมหนึ่ง..... สองบอดี้การ์ดคนสนิทของต๋าเฉิงที่ยืนมองนายน้อยของพวกเขาเดินเข้าห้องไปอย่างหม่นหมอง ตลอด 11 ปีที่ผ่านมานายน้อยของพวกเขานั้นได้ครองโสดมาตลอดไม่แม้แต่ชายตามองหญิงสาวคนไหน เพราะหัวใจของนายน้อยได้มอบมันให้กับเด็กหญิงตัวน้อยที่ชื่อวันวานไปแล้ว แต่ด้วยเพราะเหตุผลบางอย่างและด้วยอายุที่ทั้งคู่ห่างไกลกันถึง 17 ปี นั้นเลยทำให้ทุกอย่างถึงยังคงเลื่อนรางเรื่อยมา.....
“กูสงสารนายน้อยว่ะ ถ้าไม่ใช่คุณหนูวันวานป่านนี้นายน้อยคงมีความสุขกว่านี้” อาซานมองตามแผ่นหลังกว้างของนายน้อยผู้เป็นที่รักยิ่งของเขา
“นั้นสิวะ! กูอยากให้นายน้อยมีเมียวะ” หย่งเต๋อเอ่ยออกมาพลางครุ่นคิดหาวิธีที่จะทำให้นายน้อยของเขามีความสุข
“พวกเราก็เคยหาให้นายน้อยแล้วไง สุดท้ายนายน้อยก็ไม่เอาอยู่ดี สงสารนายน้อยโว้ย” อาซานเอ่ยออกมาอย่างจนปัญญาที่จะหาหญิงใดมาแทนคุณหนูวันวานได้
“แล้วถ้าเราทำแบบนั้นอีกครั้งละ? หาเมียให้นายน้อยอีกครั้ง! มึงคิดว่ายังไง?” หย่งเต๋อที่คิดอะไรดี ๆ ออก หันไปข้อความคิดเห็นจากเพื่อนคู่คิดของเขา
“แล้วจะไปหาใครมาแทนที่คุณหนูวันวานได้ละ?” อาซานเอ่ยถามอย่างสงสัย ไม่ใช่ว่าเขาทั้งสองคนไม่เคยพยายามหาผู้หญิงที่ดีพร้อมมาเสนอนายน้อยของพวกเขาหรอกนะ แต่ไม่ว่าจะกี่คนต่อกี่คนก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทดแทนหนูน้อยวันวานได้เลย
“ทำไมต้องหาวะ? เราก็พาคนที่นายน้อยเฝ้ารอมาตลอดส่งให้ถึงมือนายน้อยสิวะ!”