“รู้สิครับ คุณฟินิกซ์ให้ผมเอาไปไว้ตั้งแต่วันแรกที่คุณมาแล้วล่ะ” ฉันกะพริบตาปริบ ๆ มองนาธานด้วยความมึนเบลอ และเมื่อรวบรวมสติของตัวเองได้อีกครั้ง ความรู้สึกโกรธฟินิกซ์ก็เข้ามาแทนที่ทันที
“เหอะ เหรอ ฟินิกซ์เองสินะ”
“นาธาน” เสียงเข้มต่ำของฟินิกซ์ดังขึ้น ฉันหันไปมองทางเขาที่ยืนอยู่หน้าบานประตูระเบียงด้วยความโกรธเคืองทันที ที่ฟินิกซ์ยอมปล่อยให้ฉันพยายามหนีในครั้งนั้น ก็เพราะคงรู้อยู่แล้วสินะว่ายังไงฉันก็ไปไหนไม่รอด ให้ตายเถอะ!
“ครับ คุณฟินิกซ์” นาธานหันไปตอบรับฟินิกซ์ พร้อมกับเดินเข้าไปเพื่อรับคำสั่งจากเจ้านายของตัวเองทันที
“ไปจัดการเรื่องที่สั่งให้เรียบร้อย ทางนี้เดี๋ยวจัดการเอง” สายตาคมของฟินิกซ์มองมาทางฉัน และเขายังเดินเข้ามาใกล้ฉันที่นั่งอยู่มากขึ้นเรื่อย ๆ
“ครับ” หลังจากที่นาธานรับคำสั่งจากฟินิกซ์เสร็จแล้วเรียบร้อย เขาก็เดินออกไปจากระเบียงกว้างด้วยความรวดเร็ว ทิ้งให้ฉันอยู่กับฟินิกซ์สองคนจนรู้สึกประหม่าไปหมด ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้ฉันกำลังโกรธเคืองฟินิกซ์อยู่แท้ ๆ แต่ทำไมถึงได้รูสึกหวั่นๆ ก็ไม่รู้สิ
"คุยอะไรกับนาธาน" ฉันเงยหน้า และหันไปมองฟินิกซ์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กับเก้าอี้ที่ฉันนั่งอยู่ พร้อมกับมองมาทางฉันด้วยสายตาคมดุดันอย่างข่มขู่ ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วลุกขึ้นเดินไปยืนพิงขอบระเบียงสีขาวสะอาดตาด้วยความขุ่นเคือง
"นายก็ได้ยินหมดแล้วหนิ จะถามทำไม" ฉันสบสายตาคมของฟินิกซ์พร้อมกับยกยิ้มเยาะเย้ยขึ้นเล็กน้อย
"หึ แค่อยากจะรู้ว่าเธอจะโกหกเก่งสักแค่ไหน" ฟินิกซ์เดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อย ๆ อีกครั้ง ฉันกำมือพร้อมกับเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่นทันที
"ฉันไม่เคยโกหก" ฉันพูดพึมพำออกมาอย่างโกรธเคือง แต่ฟินิกซ์กลับยกยิ้มมุมปาก และหัวเราะในลำคอแกร่งอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อคำพูดของฉันสักเท่าไหร่ ให้ตายสิ ต้องให้ฉันทำยังไงเขาถึงจะเชื่อว่าฉันไม่ใช่คนที่ทำให้เฟรย่าต้องตาย!
หมับ
"ฉันฟังจนเบื่อแล้วเมเบล" ฝ่ามือใหญ่ของฟินิกซ์ยกขึ้นมาลูบไล้ที่ผิวแก้มอย่างแผ่วเบา แล้วปัดเส้นผมที่โดนลมพัดของฉันขึ้นไปทัดหูให้ จากฉันเขาก็จับใบหน้าฉันให้เงยขึ้นไปสบสายตาคมดุดันจนฉันต้องกัดริมฝีปากล่างของตัวเองเอาไว้แน่นด้วยความโกรธที่ทำอะไรคนอย่างฟินิกซ์ไม่ได้สักอย่าง
"งั้นนายคงต้องเบื่อต่อไป เพราะฉันพูดความจริง" ฟินิกซ์สบสายตากับฉันนิ่ง สักพักเขาก็ปล่อยมือใหญ่ออกจากใบหน้าของฉัน ทันที
"เข้าไปในงาน หน้าที่ของเธอยังไม่จบ" ฉันขมวดคิ้วมุ่นมองฟินิกซ์ด้วยความไม่เข้าใจ หน้าที่อะไรของเขากัน ฉันไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรเลย บ้าชะมัด
"ฉันจะอยู่ตรงนี้ นายไปคนเดียวสิ"
หมับ!
"อย่าขัดคำสั่งฉันเมเบล เธอรู้แล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันเป็นใคร" มือใหญ่จับต้นแขนฉันเอาไว้แน่นจนเจ็บไปหมด ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคืองทันทีที่ได้ยินคำพูดข่มขู่ของฟินิกซ์ ไหนใครบอกว่ามาเฟียอย่างเขาไม่ได้โหดร้ายนักไง แล้วที่ฟินิกซ์กำลังทกับฉันอยู่มันคืออะไรกันล่ะ ให้ตายเถอะ!
ฉันจำใจต้องเดินเข้างานมากับฟินิกซ์อีกครั้ง โดยที่เขาก็เอาแต่มองมาด้วยสายตาข่มขู่ตลอดเวลาที่ฉันเดินออกห่างเพียงไม่กี่ก้าว บ้าชะมัดเลย ทำไมฉันต้องมาเดินเคียงข้างฟินิกซ์ในงานที่แสนจะน่าเบื่อ และมีสายตาเยาะเย้ยจากผู้หญิงที่มองมาทางฉันด้วยล่ะเนี่ย
"ไง ฟินิกซ์" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทั้งฉันและฟินิกซ์ต่างหันไปมองเจ้าของเสีงพร้อมกันทันที
"เบนจามิน" ฟินิกซ์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์จนฉันรู้สึกเกร็งขึ้นมาทันที ทำไมท่าทางของสองคนนี้ถึงรู้สึกกดดันได้ขนาดนี้กันนะ
"เปลี่ยนคู่ขาแล้วเหรอ เขี่ยลอเรนทิ้งแล้วสินะ" เบนจามินมองมาทางฉันแล้วหันไปส่งยิ้มมุมปากเยาะเย้ยให่กับฟินิกซ์ ฉันกำลังในมือเอาไว้แน่นอย่างขุ่นเคืองทันที ใครเป็นคู่ขาของเขากันไม่ทราบ!
"ไม่ใช่คู่ขา" ฟินิกซ์ยังคงมองเบนจามินด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่น้ำเสียงของเขาดูเหมือนกำลังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ จนฉันต้องเงยหน้าไปมองฟินิกซ์เล็กน้อย เขากำลังหงุดหงิดอยู่งั้นเหรอ
หมับ
"หึ คนสวยคนนี้ชื่ออะไรล่ะ" เบนจามินยกฝ่ามือขึ้นมาจับที่ปลายคางของฉันด้วยความรวดเร็ว ฉันสะดุ้งเล็กน้อยอย่างตั้งตัวไม่ทัน แต่ฟินิกซ์กลับจับต้นแขนฉันดึงเข้าไปใกล้เขา ก่อนที่เบนจามินจะถึงตัวของฉันซะอีก
"อย่าแตะคนของกู" ฟินิกซ์จ้องเบนจามินนิ่ง มือใหญ่ที่จับต้นแขนของฉันเอาไว้บีบแน่นขึ้น จนฉันต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
"หือ ไหนไม่ใช่คู่ขาใหม่ไง" เบนจามินยกยิ้มมุมปาก แล้วมองมาทางฉันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ จากนั้นเขาก็หันไปเลิกคิ้วถามฟินิกซ์อย่างท้าทาย
“ของเล่นของกู อย่าแตะอีกเป็นครั้งที่สอง” เสียงเข้มต่ำดุดันของฟินิกซ์ที่พูดกับเบนจามินดูหงุดหงิด และไม่พอใจจนฉันเห็นว่าเขากำลังขบกรามเอาไว้แน่น
ฉันกัดริมฝีปากล่างพร้อมกับพยายามดึงแขนของตัวเองออกจากมือใหญ่ของฟินิกซ์ แต่เขาก็บีบต้นแขนฉันมากขึ้น จนรู้สึกเจ็บไปหมดและคำพูดของฟินิกซ์ยังทำให้ฉันโมโหเขามากขึ้นอีกด้วย ให้ตายสิ ใครเป็นของเล่นของเขากัน!