ตอนที่ 16 อีกครั้ง
“จะพาไปไหน ?”
“เดี๋ยวก็รู้”
“ไปไหนเล่า”
“อย่าลืมเอาบัตรประชาชนไปด้วยนะ”
“เสือ” ผมเอ่ยเสียงเข้ม ถามไม่ไหนไม่บอกแต่ให้เอาบัตรประชาชนไปด้วยนี้มันหมายความว่ายังไง พอผมตื่นขึ้นมาและดูเหมือนภูมิคุ้มกันเรื่องโดนจนถึงเช้านี้มันจะเริ่มมีแล้วทำให้จากปกติจะเป็นไข้ตลอดตอนนี้เป็นเพียงหวัดธรรมดา หลังจากที่มือหนาจับปรอทวัดไข้ยัดเข้าปากผม พอได้คำตอบที่น่าพอใจเสือจึงให้ผมไปอาบน้ำ แต่งตัวแล้วมาทานข้าวและยากันไข้หวัด หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจทุกอย่างเสือก็ควงกุญแจรถแล้วบอกว่าจะพาไปข้างนอก แต่พอผมถามว่าจะพาไปไหนเขากลับไม่ยอมตอบ
ใบหน้าหล่อเหลาหันมา
“หือ” แล้วกะพริบตาปริบๆใส่
“…”
“ไปรอที่รถ”
เขาบอก ผมจึงส่ายหน้าเดินไปหยิบกระเป๋าตังแล้วตรวจดูว่ามีบัตรประชาชนหรือเปล่าก่อนจะลงลิฟต์ไปรอยังรถคันหรูของเสือ สักพักร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงยีนส์สีเข้ม พร้อมด้วยนาฬิกาเรือนหรูแม้มันจะเป็นชุดธรรมดาแต่กลับหล่ออย่างน่าประหลาด อีกอย่างคือปกติแล้วเสือไม่ใส่สีดำหรอกนะ เขาใส่แต่สีขาว ผมก้าวขาขึ้นรถขณะคาดเบลล์ก็สังเกตเห็นความผิดปรกติที่ร่างสูง ยั้งมือตัวเองไม่ทันมันก็เคลื่อนไปแตะจุดที่ผมไม่ค่อยจะได้เห็นเขาใส่
“วันนี้ใส่ตุ้มหูด้วย ?” เป็นตุ้มหูสีดำธรรมดาที่เสริมเซ็กแอพพีลได้อย่างน่าประหลาด เสือยกยิ้มแล้วยกมือขึ้นมาขยี้หัวผมเบาๆหากไม่ได้พูดอะไรตอบ ตัวรถเคลื่อนออกจากที่จอดมุ่งตรงสู่ถนนกรุงเทพมหานครฯ ผมมองไปตามทางแม้จะคุ้นตาบ้างแต่ก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าเขาจะผมไปไหนกันแน่
จนกระทั่ง…
“เดี๋ยวๆมาที่นี้ทำไม” ผมถามขึ้นเมื่อตัวรถเลี้ยวเข้ามายังสถานที่แห่งหนึ่ง อาคารขนาดใหญ่สไตล์โมเดิร์นสมัยใหม่ที่หรูหราและดูน่าทันสมัยรวมถึงคนปกติไม่ค่อยเข้าบ่อยเพราะของที่นี้น่ะมันโคตรแพง รถหรูแล่นเข้ามาจอดตรงลานจอดรถ ผมปลดสายคาดออกก่อนจะเดินลงจากรถกระทบกับแสงแดดเจิดจ้าที่ร้อนราวกับว่าจะเผาตับให้สุก “แดดชะมัด” ผมบ่นขณะยกมือให้บังหน้า พอเสือล็อครถเสร็จ ร่างสูงก็จับมือผมเดินมุ่งตรงเพื่อเข้าไปยังด้านในแต่เดินยังไม่ถึงผมก็พึ่งนึกได้ว่า…
“เสือ กูลืมเอากระเป๋าตังค์บนรถออกมาด้วยวะ”
ใบหน้าหล่อเหลาเลิกคิ้ว ผมจึงรีบว่าต่อ “ในนั้นมันมีบัตรประชาชน”
เขาปล่อยมือที่จับผมอยู่ออกแล้วบอก
“เข้าไปรอนานใน เดี๋ยวตามไป” มันบอกก่อนจะเดินกลับไปที่เดิมคงจะไปเอากระเป๋าสตางค์ให้ ผมมองตามหลังแกร่งตอนแรกว่าจะรอ แต่ทนความร้อนของแดดไม่ไหวจึงตัดสินใจเดินเข้าไปยังด้านใน แอร์เย็นฉ่ำกระทบกับใบหน้าให้ความรู้สึกต่างจากแดดข้างนอกลิบลับ แต่พอเข้ามาแล้วก็ได้แต่ยืนเงอะๆงะๆอยู่ใกล้ๆกับประตูมองซ้ายมองขวาเพราะไม่กล้าเดินไปสุ่มสี่สุ่มห้ารอเสือดีกว่าเยอะ จะว่ายังไงดีล่ะ…
เพราะของของที่นี้เงินในบัญชีผมทั้งหมดยังอาจจะซื้อไม่ได้เลยมั้ง!!!
มองซ้ายเจอรถหรู มองขวาก็เจอรถหรูที่นำเข้าเหมือนกัน ยี่ห้อดังแถมราคาแพงแสนแพงขนาดนี้ใครมันจะมีปัญญาไปซื้อวะ ผมก็รวยนะ(นี้ลืมกันไปหรือยัง)แต่รถราคาห้าล้านสำหรับผมนี้ก็เกินพอแล้ว
ใช่แล้วล่ะ… ที่ที่เสือพาผมมาคือโชว์รูมรถ
เป็นโชว์รูมที่ใหญ่มากแถมใหญ่โคตรๆ เจ้าของบริษัทคงจะรวยน่าดู
ผมถอนหายใจยืนรอเสือก็เมื่อยเปล่าๆเลยตัดสินใจเดินดูรถไปเรื่อยๆ แอร์เย็นอีกเดินได้สบายครับ เหมือนที่นี้จะมีลูกค้าเยอะนะครับ โชว์รูมใหญ่แถมแพงขนาดนี้ยังเห็นลูกค้าหลายคนกำลังสอบถามพนักงานอยู่เลย “คันนี้สวยจัง” ผมเผลอพึมพำกับตัวเองเมื่อเห็นเจ้ารถหรูสีแดงและออกจะดูดีสำหรับผม แต่พอเหลือบไปเห็นป้ายราคาก็ต้องเปลี่ยนสีหน้าเป็นเหยเกทันที
“แพงโคตร” สี่สิบสองล้านนี้ซื้อข้าวให้ผมกินได้หลายมื้อเลยนะ ผมขยับตัวออกจากห่างรถแล้วหมุนตัวกลับหลังหันในจังหวะนั้นสายตาก็ดันเหลือบไปเห็นร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำคนหนึ่งที่กำลังยืนกอดอกพิงราวเหล็กมองมาทางผมอยู่ ผมเผลอสบตากับร่างสูง ทันใดนั้นริมฝีปากบางก็กระตุกยิ้มเพียงชั่ววูบเหมือนผมลืมวิธีการหายใจไปเลย…
หล่อ
หล่อมาก
พระเจ้า!!!!!!!!!!!!!!!!
ผมพึ่งเคยเห็นคนที่หล่อทัดเทียมกับเสือได้ขนาดนี้!!!!!!!!!
ผมได้สติตอนที่รู้สึกถึงแรงกอดจากทางด้านหลัง พอเงยหน้าขึ้นก็พบกับใบหน้าหล่อเหลาของเสือ พบได้มาสังเกตอีกครั้งก็เล่นเอาหยุดหายใจไปเหมือนกัน ดูเหมือนว่าผมจะอยู่กับเสือมากจนความหล่อของมันกลายมาเป็นเรื่องปกติสำหรับผมแล้ว แต่พอได้มาเปรียบเทียบกับคนอื่นและได้สังเกตใบหน้าหล่อเหลานั้นอีกที…
นี้กูทำบุญมาด้วยอะไรทำไมได้ผัวหล่อขนาดนี้!!!!!!!
“มองอะไรเมีย” มันกระซิบที่ข้างหู ผมส่ายหน้ารัวๆแล้วกระโดดหลบไปด้านหลังเข้าเมื่อร่างสูงที่เคยยืนกอดอกพิงราวเหล็กอยู่เดินมาทางเรา ร่างสูงสองคนมองหน้ากันนิดหน่อยก่อนยกยิ้มออกมาทั้งสองฝ่าย เหมือนผมถูกแรงดึงดูดให้มองซาตานสองตนจนละสายตาออกไปไม่ได้ หัวใจสั่นระทึกไม่รู้ว่าทำไมแต่หยุดให้หัวใจเต้นแรงไม่ได้จนต้องเอามือมาจับไว้ที่อกข้างซ้าย พวกเขามัน…
สมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติ เป็นชายหนุ่มที่หล่อได้อย่างร้ายกาจอย่างแท้จริง!!!
“ไง”
“ไง”
“กูบอกแล้วว่าถ้าจะมาที่นี้ต้องบอกก่อนหนึ่งอาทิตย์ งานกูมันเยอะนะ”
“กู VIPP อย่าบ่น”
ผมมองสองคนที่พูดคุยกันเหมือนรู้จักกันมาก่อน แถมสรรพนามแบบนี้ก็คงจะสนิทกันอยู่ในระดับหนึ่งด้วย เผลอมองทั้งสองคุยกันจนเพลิน แถมยังเหมือนกันมากชนิดที่ว่าถ้ามองใกล้ๆผมก็คงจะนึกว่าเป็นแฝดกันไปแล้ว ทั้งหน้าตาแบบหล่ออันตราย ส่วนสูงที่เท่าเทียมกัน ผิวพรรณ ลักษณะภายนอก ภาพโดยรวมมันเหมือนกันไปหมดทุกอย่าง
“ตี้” เสือหันมาทางผมแล้วจับอีกฝ่ายให้เดินมายืนหยุดอยู่ตรงหน้า “ฮิม เพื่อนกู”
คำอธิบายสั้นๆที่ทำให้ผมสามารถเข้าใจได้ง่าย ผมโค้งเป็นการทักทาย
“ธามครับ”
“อือ” พี่แกตอบรับสั้นๆ แล้วหันไปมองเสือ “ตามกูมา”
ว่าจบร่างสูงก็เดินนำส่วนพวกผมเป็นคนเดินตาม เราเดินออกมาทางด้านหลังโชว์รูม แล้วขึ้นรถกอล์ฟมาหยุดตรงหน้าโกดังขนาดใหญ่มากแห่งหนึ่ง ย้ำอีกทีว่ามันใหญ่มากจริงๆ ผมเดินลงจากรถกอล์ฟพอดีกับที่ประตูโกดังเปิดออกเผยให้เห็นสิ่งของด้านใน
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ผมเบิกตากว้าง ตกใจจนต้องยกมือขึ้นมาปิดปากในขณะที่ร่างสูงสองคนยังคงสภาพนิ่งไม่รู้สึกตื่นเต้นหรืออะไร
สิ่งของด้านในมันคือ …รถ ถ้ามันเป็นรถเฉยๆผมไม่แปลกใจหรอกแต่เพราะมันมีโคตรเยอะ!!!!!!!!!!!!!
มีเป็นร้อยๆคันอาจจะเกินสองร้อนคันเลยด้วยซ้ำ
ผมได้สติเมื่อตอนมือหนาโอบเอวแล้วให้เดินเข้าไปด้านในก่อนจะสตั้นรอบสองเมื่อเสือบอกว่า
“เลือก”
เลือก ? อะไรคือเลือก
“เลือกอะไร ?”
“เลือกรถ” ผมยังงงมันเลยกระซิบบอกที่ข้างหู
“อยากได้คันไหนเลือกมา จะซื้อให้ ไม่จำกัดจำนวนคัน”
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“แม่งเลือกยากชิบหาย”
ผมบ่นกับตัวเองขณะปาดเหงื่อบนหน้าผาก นี้เลือกเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้วยังเลือกไม่ได้เลย เสือให้ผมเลือกคนเดียวมันบอกอยากได้คันไหนเอาคันนั้น อยากได้สองคันเอาสองคัน เพราะมันไม่จำกัดจำนวน ตอนแรกผมปฏิเสธไม่เอานั้นแหละครับ(แต่ละคนแม่งโคตรแพง และผมยังมีความเกรงใจมันอยู่) แต่พอเห็นเสือทำหน้าเริ่มงอนเลยตัดสินใจรับความของที่มันอยากซื้อให้จนในที่สุดก็ต้องตระเวนหาคันที่อยากได้ ส่วนสองหนุ่มก็หลบมุมไปคุยกันตรงไหนแล้วก็ไม่รู้ทิ้งให้ผมเดินหารถที่ชอบคนเดี๋ยว แต่ขอโทษเถอะ รถที่มึงให้กูเลือกมีเป็นร้อยๆคันแต่ละคันก็สวยๆทั้งนั้นจะให้เลือกยังไงล่ะเนี้ย แถมยังไม่มีคันไหนโดดเด่นที่สุดสำหรับผมเลย
“เฮ้อ” ผมถอนหายใจทำหน้าอมทุกข์ ก่อนจะเดินตรงไปยังที่มีร่างสูงยืนอยู่ เสือหันหลังให้ผมเพราะกำลังคุยกับพี่ฮิม ผมจึงกอดมันจากทางด้านหลังแทน ซุกหน้าลงแผ่นหลังกว้างแล้วบอกเสียงอู้อี้ในลำคอ “เลือกไม่ถูก”
มือหนาจับเอวผมจากทางด้านหลังแล้วบังคับผมเบี่ยงตัวมาด้านหน้า
“เอาที่ชอบที่สุดสิ”
“ก็ที่ชอบที่สุดมันยังหาไม่เจอนี้ มันสวยเหมือนกันหมดเลย” ผมบ่นขณะกำลังกอดมัน เสือลูบหัวผมเบาๆเหมือนให้คิดก่อนจะไปคุยกับพี่ฮิมต่อ ผมตกอยู่ในห้วงภวังค์ได้แต่ซุกหน้าเข้ากับอกแกร่งทว่าพอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอะกับรถคันหนึ่งที่สะดุดสายตาผมเหลือเกิน
สวย…
อยากได้…
พรึบ!!
ผมละออกจากอ้อมกอดของเสือทันที แล้วรีบจ้ำอ่าวไปยังรถคันนั้นโดยมีสายตาคมที่มองตามมา ผมเดินวนมองรอบรถไปมา เมื่อแน่ใจว่าตัวเองคงเลือกไม่ผิดก็ตะโกนบอกร่างสูงทันที “เสือกูอยากได้คันนี้”
นัยน์ตาคมมองตัวรถสีเทาเงินแล้วพยักหน้าเบาๆก่อนจะหันไปพูดอะไรสักอย่างกับพี่ฮิม แล้วเหมือนจะยื่นบัตรประชาชนของผมไปให้ (กระเป๋าตังค์ผมยังอยู่กับเสือ) เขาคุยกันต่อในขณะที่ผมมองเดินวนรอบรถไปมาราวเจอของเล่นถูกใจมารู้ตัวอีกทีร่างสูงเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่คล้ายคลึงเสือก็เดินมาประชิดตัวแล้วกระซิบลงข้างหู “ตาถึง”
ตาถึง ?
หมายความว่ายังไง
ว่าจบพี่ฮิมก็เดินออกจากโกดังไม่ได้อธิบายอะไรให้เข้าใจเพิ่มมากกว่าเดิม ผมหันไปมองเสือขณะเดียวกันที่ร่างสูงเดินมาทางผมพอดี “ตาถึงนี้มันหมายความว่าไง”
มันส่ายหน้าไม่ตอบแต่กลับเหล่สายตามองไปยังโทรศัพท์ประหนึ่งให้ไปเช็คราคาเอาเอง
ผมขมวดคิ้วกำลังจะหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าทว่ามือหนาก็ดันตัวผมให้เดินออกจากโกดังเสียก่อน เราขึ้นรถกอล์ฟกลับส่วนที่เป็นโชว์รูม นั่งดื่มน้ำรอที่โซฟาหรูสักครู่พี่ฮิมก็เดินออกมาพร้อมกุญแจรถในมือ กุญแจรถกับบัตรประชาชนของผมถูกยื่นมาให้ผมทันที
“ชื่อรถเป็นของเมียมึง ส่วนเงินหักเอาจากเลขบัญชีมึง” มึงที่ว่าคือเสือครับ “ต้องตรวจสภาพอีกนิดหน่อยเดี๋ยวพรุ่งนี้ให้คนขับไปให้ที่คอนโด” ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองผมเสียงแหบพร่าบอก “กุญแจมีสองดอก เอาดอกเดียวไปก่อนนะเพราะอีกดอกต้องเอาไว้เวลาขับรถไปส่ง”
ผมพยักหน้าหงึกๆเป็นการรับทราบไม่มีปัญญา
“หมดธุระแล้วงั้นกูไปนะ”
“เออ” เสือตอบ
“อ้อ! กูลดให้มึงล้านหนึ่งโทษฐานที่กูแพ้พนัน” ทำไมคิ้วผมกระตุก ลดให้ล้านหนึ่งเลยหรือวะจะเอากำไรมาจากไหนล่ะนั้น ใบหน้าหล่อเหลาหันมาทางผมอีกครั้ง “ว่างๆเปิดโทรศัพท์เช็คราคามันก็ดีนะ” ว่าจบพี่ฮิมก็เดินออกไปทันทีผมมองตามแผ่นหลังกว้างดูดีจนลับสายตาแล้วตวัดมามองคนข้างกาย
“มึงพนันอะไรกัน”
“พนันว่ามึงจะซื้อรถราคาถึงเลขไหน”
“แล้วมึงพนันกูเท่าไหร่”
“เปิดราคาในเน็ต แล้วลองทายดูสิ”
มันเป็นปริศนาฟ้าแลบหรือสัส! ผมหน้าบึ้งขณะเสือพาเดินไปที่รถเพื่อกลับคอนโด เข้ามาในรถไม่สนใจคาดเบลล์จนร่างสูงต้องคาดให้เพราะมือผมมัวแต่พิมพ์ยึกยักหาราคารถในเน็ตอยู่ รอไม่นานนักพบลัพธ์ก็ออกมา
ราคาของมันสูงมากจนทำให้ผม…
“อี้เหี้ย!!!!” เผลอตะโกนเสียงดังแถมตกใจจนทำโทรศัพท์หลุดออกจากมือก่อนจะรีบหันมามองร่างสูงทันควัน ก่อนเอ่ยเสียงหวานใส่ทันที “ผัวครับ~” ผมเบี่ยงตัวเข้าไปกอดเอาแขนโอบรอบคอแล้วหอมแก้มสากฟอดใหญ่
“ตี้ออกก่อน ขับรถก่อน” มือหนาพยายามดันตัวผมออกแต่ผมยั้งเอาไว้ นาทีนี้ความตกใจกลบทับความกลัวจนมิด ผมปลดเซฟตี้เบลท์ออกแล้วเคลื่อนตัวมานั่งคร่อมบนตักร่างสูงที่กำลังขับรถอยู่ ก่อนซุกใบหน้าเข้าซอกคอแกร่งแล้วขบเม้มเบาๆ นาทีนี้กูรักมึงมากเลยเสือ “เมียไม่เล่น ออกไปก่อน”
ผมไม่ตอบแต่ก็ไม่ยอมทำตามที่เสียงทุ้มบอก จนท้ายที่สุดเสือต้องเลี้ยวรถเข้าซอยแล้วหาที่จอดเพราะถ้าเกิดขับไปจนถึงคอนโดคงไม่รอดที่จะถูกรถชนแน่นอน เมื่อกะว่ารถหยุดแล้วผมถึงเงยหน้าขึ้นจากลำคอแกร่งแล้วแนบหน้าผากติดกันแทน ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ในระยะประชิด ผมจูบริมฝีปากมันเบาๆแล้วถาม
“กล้าซื้อให้ได้ไง”
มันแพง…
เรียกได้ว่าแพงมาก…
แพงชนิดที่ว่าซื้อ Lamborghini Aventador ได้ถึง 4 คัน
แพงกว่า Lamborghini Veneno ลูกรักของเสือถึง 25 ล้าน
โชคดีที่ยังสู้ราคา Bugatti Veyron สีควันบุหรี่ของเสือไม่ได้
เสือหัวเราะ มือหนายกขึ้นลูบศีรษะผมเบาๆ
“ให้เมียทำไมจะซื้อให้ไม่ได้”
ผมยิ้มตามก่อนก้มลงไปขบริมฝีปากแรงๆ แทรกลิ้นร้อนเข้าไปด้านใน สอดนิ้วทึ้งกลุ่มผมสีดำแล้วละออกมาเพราะแรงผลักจากร่างสูง ผมเลิกคิ้วแปลกใจเล็กน้อยหากไม่ได้พูดอะไร “ไปนั่งดีๆ นั่งคร่อมแบบนี้ไปไม่ถึงคอนโดแน่ๆ”
“อือ” ผมตอบรับอย่างว่าง่ายพร้อมเคลื่อนตัวลงจากตักแล้วกลับไปนั่งที่เหมือนเดิม พอผมนั่งที่เรียบร้อยแล้วเสือจึงเคลื่อนรถออกจากซอยในจังหวะนั้นเองผมก็ปลดสายเซฟตี้เบลท์ที่แสร้งทำเป็นคาดออกจากตัวแล้วรีบก้มหน้าลงบนตักแกร่ง ล้วงมือเข้าไปหยิบแท่งเอ็นร้อนออกมาแล้วครอบครองด้วยริมฝีปากท่ามกลางเสียงทักท้วงจากร่างสูง
“เมีย!!! อึก!”
“…” ผมตอบไม่ได้เพราะปากยังติดพันกำลังมังกรยักษ์ที่มีท่าทางว่าจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผมช้อนตามองขึ้นเห็นเสือกำลังทำหน้าเคร่งมองลงมาแต่สักพักก็หันกลับไปมองทางเหมือนเดิม ลิ้นร้อนเลียไปตามลำแท่งดูดวนที่ส่วนปลายจนน้ำสีขุ่นเริ่มปริ มือบางประกบทางลากเล็บยาวเสียดสีเบาๆในอีกคนซีดปาก ลัมโบกินี่คันหรูเร่งเครื่องขึ้นผมมองเข็มหน้าปัดที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งรถติดไฟแดง เสียงแหบพร่าและลมหายใจหอบสะท้านของเสือจึงดังขึ้น
“เมียเลิกเล่นได้แล้ว อึก!”
ผมละจากการครอบครองแล้วให้มือตัวเองทำหน้าที่นั้นแทนชั่วขณะ ผมเงยหน้าขึ้นแนบหูเข้ากับอกด้านซ้ายของอีกฝ่าย “หัวใจเต้นแรงจังนะ” ก่อนเลื่อนขึ้นจูบซบเหงื่อที่เริ่มไหลออกมาจากใบหน้าหล่อเหลาพอดีกับที่สัญญาไฟเขียวขึ้น “ถือเป็นค่าตอบแทนก็แล้วกันครับ”
“ตี้!! สัสเอ้ย!!” เสือสบถเมื่อผมก้มลงไปครอบครองมันด้วยปากอีกครั้ง แถมเมื่อกี้จังหวะออกรถผมหักพวงมาลัยเข้าเลนส์กลางจะเลี้ยวเข้าซอยคงไม่ทันเพราะมีรถขนาบอยู่สองข้างทาง ผมหัวเราะหึลำคอขณะเลียลูกชายของเสือไปมา ได้ยินเสียงครางทุ้มต่ำมาเป็นระยะๆ กลิ่นฟีโรโมนอ่อนเป็นตัวกระตุ้นให้ผมเริ่มรู้สึกร้อนหายตามไปด้วย ใบหน้าหล่อเหลารวมถึงตามตัวชื้นไปด้วยเหงื่อ ผละใบหน้าออกแล้วเลื่อนขึ้นกัดยอดดอกเขาแรงๆขณะกำลังชักมือรูดไปตามจังหวะ “อาส์ เมีย”
ผมเลียยอดดอกที่มีเสื้อกั้นอยู่จนมันชื้นแฉะ ก่อนเคลื่อนใบหน้าไปที่หูเลียติ่งหูเบาๆพร้อมกับจังหวะของมือที่เริ่มเร็วขึ้น “แตกสิครับ” กระซิบด้วยน้ำเสียงเย้าหยอก ได้ยินเสียงลมหายใจเสือหอบสะท้านชัดเจนและในจังหวะที่เขาใกล้จะปล่อยผมก็ปล่อยมือออกทันที
“เมีย…” เสียงทุ้มว่าข่ม ยังโชคดีที่เสือไม่ตวาดใส่ผมเพราะผมปล่อยให้เขาไม่ถึงจุดสูงสุด มือบางจับแล้วชักอีกครั้งคราวนี้ผมเร่งตั้งแต่ตน เข็มหน้าปัดเริ่มเคลื่อนไปทางขวาตามความเร็วของรถจนเสียววาบไปทั่วหน้าท้อง ผมเร่งจังหวะอีกครั้งพอดีกับที่รถหรูเคลื่อนเข้ามาในส่วนของบริเวณคอนโด เราหายใจหอบสะท้าน และในจังหวะที่เสือหักรถเข้ามาจอดน้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งทะยานออกมาเลอะเต็มมือผมพอดี
…ตัวเครื่องรถดับลง
ผมละมือออกอย่างไม่ทุกข์ร้อน ค่อยๆเลียน้ำคาวออกจากซอกมือ
ในขณะที่เสือฟุบหน้าลงกับพวงมาลัย แต่ไม่นานนักเขาก็เงยขึ้น มือหนายกปัดผมที่ปรกหน้าออกแล้วหัดมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงแหบพร่าหากดูจริงจัง
“ตัวแสบ”
ผมยิ้มรับด้วยความเต็มใจ J
“เย็นจังเลย” ผ้าขนหนูขนาดกลางสีขาวถูกนำมาเช็ดผมหลังจากอาบน้ำ เสร็จตอนนี้ผมเลยยังอยู่ในชุดคลุมอยู่เลย ร่างเล็กนั่งลงบนโซฟาหรูเป็นจังหวะเดียวกันที่โทรศัพท์สั่นบ่งว่ามีคนสักคนโทรเข้ามา ผมขมวดคิ้วเมื่อเห็นชื่อของคนที่โทรเข้าก่อนจะหยิบขึ้นมากดรับ
“ฮัลโหล” ผมรับสายอย่างอารมณ์ดี ทว่าเหมือนปลายสายจะไม่อารมณ์ดีด้วย
(อีธาม คราวนี้กูโกรธมึงจริงๆละ) น้ำเสียงวีนๆทำให้ผมขมวดคิ้ว
“อะไร” ผมบอกงงๆ ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปตรงกำแพงใสเพื่อมองทัสนียภาพด้านนอก
(โอ้ยอีดอก โปรเจ็กไงสัส! อีเลวหนีกลับบ้านก่อนได้ไงวะ!!)
“ชิบหาย!!!!!!!!!!!!!!!” ผมตะโกนเสียงดัง ซวยล่ะกูลืมเรื่องโปรเจ็กไปซะสนิท “เฮ้ย!! เป็นไงบ้างวะ”
(ราบรื่นดี)
“ราบรื่น ?” ผมทวนคำ งงหนักกว่าเดิม โทรมาบอกผมลืมทำงานโปรเจ็กแต่งานกลับราบรื่นดีนี้มันออกจะขัดแย้งกันอยู่มากโขนะ
(ก็ราบรื่นดี เพราะพระเจ้าประทานเทพบุตรสุดประเสริฐอย่างสิงห์มาทำงานของมึงที่เหลือไงคะ อีดอก!! ถ้าสิงห์ไม่ทำให้นะกูว่ามึงโดนทั้งสองคณะรุมด่าชัวร์ป้าบ!ๆๆ เลยว่ะ)
“มึงว่าไงนะสิงห์ทำอะไรนะ”
ผมเม้มปากแน่น ได้ยินชัดเจนแค่ยังไม่มั่นใจ สิงห์ทำงานที่เหลือให้ผม ? เป็นไปได้เหรอ
(ก็สิงห์…)
ใครสักคนสวมกอดมาจากทางด้านหลัง ผมสัมผัสได้ถึงไอเย็นจากเขาคงจะพึ่งอาบน้ำเสร็จเหมือนกัน ริมฝีปากร้อนไล่ไปตามซอกคอเป็นผลให้ผมต้องเอียงคอไปทิศทางนั้นเล็กน้อย เสียงทุ้มตัดบทก่อนที่ผมจะว่าต่อ
“ตี้วางสาย”
เสือบอกแต่ผมไม่…
“เอาใหม่ได้ไหมกิ้งเมื่อกี้กูไม่ได้ยิน”
(กูบอกว่าสิงห์ช่วยทำ…)
“เมีย”
“เสือ” ผมแกะอ้อมกอดเขาออก แล้วละตัวออกจากร่างสูง “ให้กูคุยธุระก่อน” ว่าจบก็เดินลิ่วๆออกมาตรงระเบียบริมสระน้ำด้านนอกเพ้นเฮาส์ผมนั่งลงบนที่นอนริมสระแล้วว่าต่อ “เอาใหม่เมื่อกี้กูยุ่งอยู่”
(กูได้ยินเสียงจ๊ะ ออกจากผัวมาแบบนี้จะดีเหรอ)
ผมหันไปมองทันทีที่ได้ยินคำว่าผัว เห็นนัยน์ตาคมกำลังมองมาทางนี้แล้วถอนหายใจ
“เอาเรื่องนี้ก่อนก็แล้วกัน”
(ก็อย่างที่พูดสิงห์ทำงานของมึงแทนมึง แล้วกูถามจริงๆเหอะ สรุปวันนั้นมึงไปไหน ปกติแล้วมึงไม่ใช่คนอู้งานนะธาม)
“พูดอย่างนี้แสดงว่ายังไม่เห็นคลิป”
(คลิป ? คลิปอะไร)
ผมเดินออกจากที่นอนแล้วไปนั่งตรงริมสระเอาขาแกว่งน้ำเล่นแทน
“ก็…”
ก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง…
“เลว!!”
“…” ใช่ไหม
“เลวมาก!! ไอ้เชี่ย”
“เออ”
“แต่ก็ยังหล่ออยู่ดีว่ะ”
ผมแทบจะสะดุดล้มกะทันหันหลังจากที่กิ้งมันพูดจบ
“เฮ้อ กูเสียดายหล่อชิบหายทำไมเป็นคนแบบนี้วะ”
“มึงไปถามเขาสิ”
“มึงจะให้กูไปให้เขาถีบส่งกลับน่ะสิไม่ว่า” ผมยักไหล่ “ดีนะที่พี่เสือของมึงสั่งลบคลิปได้ทัน”
สาเหตุที่กิ้งกับคนอื่นๆไม่เห็นคลิปก็เพราะแบบนี้แหละคำ ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่ามันหายไปได้ยังไง เลยลองเนียนๆถามเสือดูปรากฏว่าเจ้าของใบหน้าหล่อเหลานั้นใช้อำนาจเงินในทางมืดสั่งลบคลิปไปหมดแล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้แต่ก็ถือว่าโชคดีไปเพราะทุกคนในมหา'ลัยเลยยังมองผมแบบปกติอยู่ อ้อ! มีมองแบบแปลกๆอยู่ครั้งหนึ่งตอนเดินลงมาจากรถที่เสือซื้อให้ (วันนี้ผมขับรถมาเรียนเองเพราะเสือไม่มีเรียน)
“แต่ถึงไม่ถ่ายกูก็บอกอยู่ดีอ่ะ”
“จ๋า คุณธามผู้ซื่อสัตย์กับสามี แต่กูอิจอ่ะ พอเกิดเรื่องแบบนี้ควักเงินในบัญชีซื้อรถให้เลย กี่ชาติฉันถึงจะได้คนแบบนี้มาเป็นผัววว— อ๊ะ!!อีดอก”
“เหอะ!” ที่กิ้งหยุดพูดกะทันหันเพราะว่ามีแก็งผู้หญิงหลายคนเดินแทรกผ่านพวกเราไปครับ ผมทำหน้างง มองตากับกิ้งในขณะที่มันกำลังพ่นคำหยาบด่าพวกเธอเป็นไฟแลบ ตอนแรกก็งงเพราะผมว่าผมไม่เคยมีเรื่องกับผู้หญิงกลุ่มนี้ แต่พอเห็นร่างเล็กในชุดนักศึกษาเรียบร้อย แต่คุ้นหน้าชิบหายเลยได้ร้องอ๋อในใจ
…คงจะเป็นแก็งใหม่มันตา
ในแก็งนี้เธอก็ยังไม่ได้เป็นคนหาเรื่องผมตรงๆเหมือนเดิม (ส่วนแก็งเดิมนั้นผมไม่เห็นพวกเธอมาตามราวีอีกแล้วครับ)
มันตาฉลาดมากที่มักให้เพื่อนตัวเองหาเรื่องผมแทนที่เป็นเธอ เพราะถ้าเสือจับได้เธอคงไม่ผิดมากเนื่องจากเธอไม่ได้เป็นคนหาเรื่องผม อย่างเช่นคราวก่อน ที่เพื่อนมันตาทำผมเกือบตาย ผมว่าเธอคงเป็นคนบงการแต่เธอกลับไม่ได้รับผิดเพราะคนทำไม่ใช่เธอ
ผู้หญิงคนนี้มารยาร้อยล้านเกวียนจริงๆ
“โชคร้ายที่วันนั้นมีพวกวิศวะอยู่ด้วย พวกฉันเลยวางยาพี่เสือไม่ได้ผล แต่เหมือนสวรรค์เข้าข้างเพราะเพื่อนในกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในงานด้วยดันเจอช้อตเด็ดตอนที่แกกำลังจูบกับสิงห์น้องชายพี่เสือพอดี ก็อย่างว่าทำเลวมันก็ต้องได้รับผลกรรมโดนการถ่ายคลิปประจานความเลวของมันเอาไว้ พี่เสือจะได้เห็นสักทีว่าเมียแสนรักน่ะร่านแค่ไหน”
คล้ายเป็นคำพูดลอยๆทว่าเหมือนจงใจพูดให้ผมได้ยิน
วางยา ? ถ่ายคลิป ?
ผมคิดไม่ผิดจริงๆว่าคนที่เกี่ยวข้องกับมันตาเป็นคนทำ
“อีดอกทอง” กิ้งสบถเบาๆ
“แต่น่าเสียดายแฮะ ที่พี่เสือสั่งลบคลิปไปก่อนไม่งั้นคงจะมีคนเกลียดแกทั้งมหา’ลัยไปแล้ว”
“…” ผมไม่ตอบ
“แต่ก็เอาเถอะ สักวันพี่เสือก็คงเฉดหัวแกทิ้งอยู่ดีนั้นแหละ”
“ห—” ประโยคนี้แทบทำให้ผมจะหลุดขำออกมาโชคดีที่กลั้นใจไม่ขำเอาไว้ก่อน เฉดหัวทิ้งเหรอ ?
ถ้าตั้งใจจะเฉดหัวทิ้งคงไม่ซื้อรถราคาร้อยกว่าล้านให้หรอกมั้ง
“ไปเหอะพวกเรา” ว่าจบพวกเธอก็เดินขึ้นตึกไปเพราะใกล้จะถึงเวลาเรียนแล้ว ผมยิ้มกรายมองหน้ากับกิ้ง หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วกดปิดการบันทึกเสียงที่ผมแอบกดเริ่มบันทึกตั้งแต่ตอนที่สบตากับกิ้งครั้งแรกที่โดนแทรกผ่านเข้ามากีดเราสองคนออกจากกัน การโดนหลายๆครั้งมักทำให้เรามีประสบการณ์ในการเอาคืนมากขึ้น
…หนูติดกับดักเสียแล้ว
ตกเย็น
ผมขับรถกลับคอนโดเร็วกว่าปกติเพราะวันนี้เลิกเรียนเร็ว แล้วก็ไม่ได้ไปส่งกิ้งด้วย (ใครมีรถในกลุ่มต้องรับหน้าที่เป็นสารถี) ดูเหมือนว่ามันจะไปกับแก็งทึกและบึกบึนหรือแก็งสาวประเภทของมันนั้นแหละไปซื้อชุดราตรีเพื่อมางานสวมหน้ากากที่จะถึงนี้
งานสวมหน้ากากเป็นงานที่คนใหญ่คนโต ผู้สนับสนุนมหา’ลัยรวมถึงพวกรุ่นพี่ศิษเก่าจะมาสังสรรค์กันครับ เป็นงานที่ใหญ่และสำคัญมาก จัดขึ้นทุกๆปีและแต่ละปีงานก็อลังการกันทั้งนั้น มันเป็นงานเต้นรำด้วยดังนั้นเราต้องหาคู่ไปงาน ไม่จำกัดว่าจะเป็นชายหญิงเพราะให้เสรีทางเพศเต็มที่ มีหลายคู่พบรักกันที่งาน ดังนั้นนักศึกษาหลายคนจึงมักแต่งองค์ทรงเครื่องเพื่อมางานนี้กันสุดๆมีข้อบังคับคือคนมางานต้องสวมหน้ากากแต่ไม่ได้บังคับให้มาครับ ทว่าส่วนมากแล้วจะมากันทุกคน เพราะตอนดึกๆหน่อยจะมีการ ‘ปล่อยผี’ ปล่อยความบ้านั้นแหละ เปิดเพลงมันส์ ซึ่งมันมาก ถ้าไม่ติดว่ามีธุระคนจึงมางานนี้จนห้องโถงเต็มตลอด ซึ่งมันก็ไม่ได้สลักสำคัญกับผมนักหรอกผมไม่ค่อยชอบออกงานสักเท่าไหร่ยกเว้นตอนเด็กๆพ่อกับแม่พาออกงานบ่อย ข้อมูลที่ว่ามาทั้งหมดนั้นก็ฟังมาจากคนที่เคยไปเล่าให้ฟังมาอีกที
ทันที่รถหรูสีเทาเงินหาที่จอดได้ผมก็หอบชีททั้งหลายลงจากรถ (ต้องเอาไปอ่านด้วยเพราะใกล้จะมีควิซ)
ผมขึ้นลิฟต์กดหมายเลขชั้นที่ต้องการใส่รหัสผ่าน (เพ้นเฮาส์ผมไม่มีประตู ลิฟต์เปิดก็เข้าถึงบริเวณเพ้นเฮาท์เลยถึงต้องมีรหัสผ่าน) ยืนรอสักพักประตูลิฟต์ก็เปิดออกเผยความหรูหราด้านใน ผมถือของเข้าไปวางแล้วเบี่ยงตัวเลี้ยวเข้าไปยังส่วนของห้องครัวก่อนเพราะหิวน้ำ ผมดื่มน้ำแต่สายตามองลอดเคาน์เตอร์บาร์เห็นร่างสูงกำลังจิบไวท์อ่านชีทในมืออยู่คาดว่าคงจะอ่านเพราะมีสอบย่อยเหมือนกัน
งั้นยังไม่กวนดีกว่า
ผมคิดแล้ววางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะก่อนรีบเดินไปยังห้องที่ไม่ค่อยจะได้เข้าเท่าไหร่ เป็นห้องทำงานครับ (คิดว่างั้นนะเห็นมีโต๊ะ) แต่ผมเอามันไว้ใช้สำหรับอ่านหนังสือ ใจกลางห้องมีโซฟา ผมไม่รอช้ารีบหยิบชีทจากที่เรียนขึ้นมาแล้วกระโดดไปนอนอ่านบนโซฟาทันที
แต่แล้วทำไม…
ผมถึงมานอนอยู่บนเตียงได้ ?
“อือ” ผมลืมตาขึ้นสัมผัสได้ถึงแอร์เย็นๆที่กระทบกับใบหน้าทว่าส่วนตัวกลับอุ่น ผมหลุบตามองก็พบว่าผ้านวมผืนหนาถูกห่มให้อย่างดี นาฬิกาดิจิดอลที่ติดบนฝ่าผนังบอกเวลาสองทุ่มสี่สิบแปด ความทรงจำล่าสุดของผมคือตัวเองนอนอ่านชีทอยู่แต่สงสัยจะหลับแล้วเสือเป็นคนอุ้มเข้ามานอนในห้องล่ะมั้ง ทว่าตอนนี้ร่างสูงที่ว่ากลับไม่ได้อยู่ในห้อง ผมขมวดคิ้วหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินไปอาบน้ำทำหัวให้โล่ง
ก่อนจะเดินออกมาในสภาพที่มีแค่ชุดคลุมปกปิดร่างกาย สาเหตุที่ผมกับเสือชอบใส่ชุดคลุมหลังอาบน้ำเสร็จ ไม่รีบแต่งตัวสักทีก็เพราะเราเป็นคนขี้ร้อนทั้งคู่เลยครับ แต่ปกติผมก็มักโดนบังคับให้ไปใส่เสื้อผ้าเวลาอาบน้ำเสร็จทันที ผมเป็นขี้ร้อนแต่ไม่รู้ทำไมร่างกายมันไม่ร้อนด้วย ไม่ใส่เสื้อผ้าหลังจากอาบน้ำเสร็จแปปเดียวผมก็เป็นหวัดแล้วครับ ผมมัดปมเชือกหลวมๆก่อนจะเดินออกมาจากห้องสอดสายตามองหาร่างสูงก็เจอเขากำลังนั่งอยู่ที่เดิม กำลังนั่งอ่านชีทเหมือนเดิม จิบไวท์เหมือนเดิมที่แปลกคือเสื้อผ้า เสืออยู่ในชุดคลุมเส้นผมชื้นที่ยังแห้งไม่สนิทบ่งว่าเขาพึ่งอาบน้ำเสร็จ คงจะก่อนที่ผมตื่นไม่กี่นาที
ผมเดินตรงดิ่งไปนั่งข้างๆ นัยน์ตาคมเหล่มองไม่ว่าอะไร แต่ก็ไม่พูดอะไร
เงียบสนิท
“…”
“เสือ” ผมลองเรียกเขาดู
“…”
“เสือ”
“…”
…เงียบ
ผมเม้มปากคล้องแขนแล้วถูไถใบหน้าใส่เบาๆ
“ยังงอนเรื่องเมื่อวานอยู่เหรอครับ”
ปกติเวลากลับเสือจะมาหาผมตลอด ไม่จูบหัวก็ทำอะไรสักอย่างแต่มาตลอด แต่วันนี้กลับไม่แสดงว่าเขากำลังงอนอะไรบางอย่าง ผมรู้ว่าเขางอนอะไรนะแต่ไม่คิดว่าจะงอนนานขนาดนี้ ก็เมื่อวานผมผลักเขาเดินออกไปคุยโทรศัพท์ด้านนอกกับกิ้งใช่ไหมครับ ก็นั้นแหละเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เขายังไม่คุยกับผมเลยตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้ (ไม่นับตอนเช้าที่ไปส่งขึ้นรถกับคำพูดประโยคเดียวคือขับรถดีๆ)
มือหนาวางชีทลงทันทีที่ได้ยิน นัยน์ตาคมสีครามเข้มตวัดมองผม
“กูงอนไม่ได้เหรอ”
“แล้วทำไมต้องงอนเล่า!!” ผมว่าพลางยู่ปาก เสือมองผมนิ่งๆสักพักก็หยิบชีท(ที่ผมเหล่ตามองแล้วพบว่ามันเป็นภาษาอังกฤษล้วน)ขึ้นมาอ่านต่อ
เขากล้าเมินผม!!!
“เสือหยุดอ่านเดี๋ยวนี้เลย” ผมแย่งแผ่นชีทออกจากมือหนา ว่าต่อ “ทีกูต้องมาช่วยมึงจนโปกเจ็กกูไม่เสร็จแถมเป็นไข้อีกกูยังไม่เห็นงอนมึงเลยนะเสือ อย่างอนเรื่องเล็กๆสิ”
“…” มันไม่ตอบแต่มองผมนิ่งๆเหมือนเคย
“อ้อ! อีกอย่างเรื่องมึงโดนยานี้กูยังไม่ทันเคลียร์ด้วยซ้ำ”
ทว่าเรื่องนี้เขาสวนกลับ…
“กูเป็นฝ่ายโดนกระทำนะเมีย”
“ไม่รู้ กูจะวีน” ผมยักไหล่อารมณ์มันกำลังขึ้นพอดี เสือหัวเราะเบาๆมือหนายื่นมาลูบหัวผม
“มึงอยากลงโทษกูเหรอ ?”
“ลงโทษ ?” ผมขมวดคิ้วคิดตามคำพูด จริงๆก็ไม่ได้คิดเรื่องลงโทษนี้เอาไว้แต่ก็พยักหน้าตกลงไปงั้น
ฉับพลันใบหน้าเฉยชาเมื่อสักครู่เปลี่ยนมาเป็นเจ้าเล่ห์ทันใด เสือถามอีก
“จริงเหรอ ?”
“เออดิ”
“แน่ใจ ?”
“แน่ใจ!!”
“หึ!” ผมสะดุ้งกับเสียงหัวเราะเผลอถอยขยับห่างมันไปหน่อยนิด
ทะ… ทำไมมึงทำหน้าเหมือนอยากให้กูลงโทษมึงมากขนาดนั้นล่ะเสือ
ผมงุนงงแต่สักพักก็ได้คำตอบ เมื่อร่างสูงดื่มไวท์ที่เหลือในแก้วรวดเดียวจนหมดก่อนจะยืนขึ้น นิ้วเรียวกระตุกเชือกที่ชุดคลุมออกจนมันหลุดไปถึงปลายเท้า ผมเบิกตากว้างมองร่างสูงที่กำลังยืนโดยไร้อาภรให้ผมดู
“จะลงโทษกูเหรอเอาสิ”
เสือเดินเข้ามาใกล้แล้วเอามือดันกับโซฟาทำให้เหมือนกำลังคร่อมผมที่นั่งบนโซฟาอยู่ ใบหน้าหล่อเหลาก้มต่ำเลียที่ติ่งหูคล้ายเย้าหยอก ก่อนโอบเอวบางขึ้นยืนขึ้น ผมมองอกแกร่งไม่กล้าก้มลงไปมองด้านล่างทว่าบางอย่างที่ผงาดขึ้นแทรกดันตรงหว่างขาผมเป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าเขา…
“กูเต็มใจถวายกายให้มึงลงโทษเลยเมีย J”
[100%]
ก่อนอื่นต้องขอบอกเอาไว้ก่อนเลยว่า
รถราคา 1XX ล้านบาทน้องธามมันมีอยู่จริงๆนะคะ
นักเขียนไม่ได้มโนสร้างราคามันขึ้นมาแต่อย่างใด
(แต่ถ้าใครอยากรู้ราคาไปบวกลบคูณหารเลขกันเอานะคะ)
แต่ความรวยของเสือนี้มโนมาแบบอลังการเว่อร์วังจริงๆค่ะ
คำเตือน : อย่าหาความเป็นจริงจากนิยายเรื่องนี้ 55555555
อิพี่เสือแร๊ดแรดเนาะ 55555555