ตอนที่ 5
พาร์ท ทราฟ ::
“แล้วมันเป็นใครครับ” เสียงเข้มของลูกพี่ลูกน้องผมมันชื่อน็อตเรียนช่างกลที่วิทยาลัยแถวนี้ที่บ้านรวยนะครับแต่มันเป็นประเภทติดดินมากกว่าปีนี้ก็เรียนปีสุดท้ายแล้วละ
“มันเป็นรุ่นน้องกู พอใจแล้วก็กลับไปได้แล้ว”
“ห๊า”
“จะ...จริงหรอเฮีย”
“อืม”
“ทราฟค่ะ เดี๋ยวใกล้ถึงรอบหนังเราแล้วนะคะ รีบไปกันเถอะค่ะ” ผมพยักหน้านิ่งๆให้เพลสผู้หญิงที่ผมเพิ่งไปเด็ดมา เธอก็สวยดี ผมหันไปมองร่างเล็กของไอ้เด็กนั่นก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเพราะมันทำหน้าตาตลกโคตรๆ อย่างกับกำลังเพ้อฝันอะไรสายตาเหม่อลอยแถมปริ่มด้วยน้ำตามันคงกำลังคิดอะไรประหลาดๆอีกแน่ครับ เพราะตั้งแต่ที่มันบอกว่าชอบผมแล้วมาตามตื้อทุกการกระทำของมันออกจะเหนือความคาดหมายผมแทบทุกอย่าง
“เดี๋ยวผมขอจัดการอะไรซักอย่างก่อน” ผมพูดบอกเพลสก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างเล็กนั่น คนอะไรตัวเล็กยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก อาจจะเท่าๆกับพิ้งค์เพื่อนสนิทผม ...
“แล้วนี่มึงเป็นอะไร”
ผมอดจะตะลึงกับอาการมันไม่ได้ ทุกครั้งที่เห็นมันมักจะทำอะไรแปลกๆเสมอ ผมมองหน้ามันใกล้ขึ้นอีกนิดเมื่อสีหน้ามันเริ่มเปลี่ยนเป็นเหมือนกำลังมีความสุข...ตื่นเต้น? นี่มันเห็นผมจริงๆรึเปล่าเหมือนจะมองผมนะครับแต่ก็ไม่ได้มอง ดวงตาที่มีแววซุกซนอยู่ตลอดหลับตาลงช้าๆพร้อมกับเผยริมฝีปากขึ้นมา.... ผมยกยิ้มทันทีอยากจะขำแทบตายเมื่อรู้ว่ามันกำลังเป็นอะไร……..
โป๊ก!
“เอ๊อะ!!!!!” ร่างเล็กร้องเสียงหลงทันทีที่ผมดีดหน้าผากมันไปแรงๆ ขนาดเสียงหรือคำที่เผลออุทานออกมายังผมอึ้งแล้วอึ้งอีก! ผมมองหน้ามันนิ่งๆมือเล็กยกมือกุมหน้าผากตัวเองก่อนจะทำสีหน้าเจ็บปวดจนผมแอบรู้สึกผิดอยู่ลึกๆ ใบหน้าโทรมๆของมันเงยหน้ามองหน้าพวกผมก่อนจะอ้าปากเหวอแดก แต่ด้วยสกิลความแถของร่างเล็กที่มีอยู่ มือเล็กยกมาเกาท้ายทอยตัวเองก่อนจะทำสีหน้าที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนเลยว่า.....
“แฮะๆ....เกิดอะไรขึ้นหรอครับ”
“อย่ามาเนียน...........”
ผมพูดบอกมันเสียงติดจะเอือมไปนิด จนร่างเล็กเริ่มหน้าเสียก่อนจะก้มหน้าลงอย่างซึมๆ
“เฮีย งั้นผมไปก่อนนะเพื่อนเรียก แล้วก็มึงฝากไว้ก่อนเห็นว่าเป็นรุ่นน้องเฮียกูหรอกถึงปล่อยไป” ไอ้น็อตพูดเร็วๆก่อนจะไหว้ผมแล้วเดินกลับไปหาเพื่อน ไอ้ชามมันเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะทำหน้าไม่เข้าใจกับคำพูดของไอ้น็อต แต่ผมเห็นแววตามันสั่นไหววูบนึงก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้ผมเหมือนอย่างเคย
“ทราฟค่ะ ไปกันเถอะคะ” เพลสพูดขึ้นมาสีหน้าเธอเริ่มจะหงุดหงิดแล้ว ผมมองหน้าไอ้ชามที่เศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมไม่ได้คิดอะไรกับมันนี่คือเรื่องจริง ...ผมไม่ชอบให้ความหวังใครถ้าผมจะชอบผมก็คงสนใจมันตั้งแต่แรก อีกอย่างผมคิดว่ายังไงผู้หญิงก็ต้องดีกว่าอยู่แล้ว ผมเดินกลับไปหาเพลสที่ยืนรอก่อนจะยิ้มบางๆให้เธอเพื่อให้คายอารมณ์เสียบ้าง แต่อย่าเข้าใจผิด ผมไม่ได้รักเธอ...ก็แค่คู่ควง
ทุกคนก็คงจะรู้จักผมแล้วแต่ขอบอกว่าผมชื่อทราฟ หลายคนคงลืมชื่อผมไปแล้วละเพราะเรียกเสี่ยน้อยตามคนอื่นๆ แต่ชื่อนี้มีเฉพาะคนที่บ้านผมเท่านั้นที่เรียก ตอนแรกๆก็ไม่ชอบใจเท่าไหร่แต่ไปๆมาๆดันชินไปซะแล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าคนจะมาชอบผมเยอะแยะแบบนี้ แต่ไอ้ชามเป็นผู้ชายคนแรกที่มาชอบผม...ตอนแรกก็ตกใจและอยากจะดูความพยายามของมันซะหน่อย ...ตั้งแต่ที่ผมทิ้งมันไว้หน้าโรงยิมวันนั้นมันก็ไม่มาเซ้าซี้ผมอีกเลย แต่ไม่นานมานี้ผมได้ยินผู้หญิงแถวนั้นพูดถึงมันที่ชอบหลบอยู่มุมตึก และผมก็ได้รู้เลยว่ามันแอบมองผมมาตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ผมละนับถือมันจริงๆ........ถ้าเป็นคนอื่นคงหมดหวังไปตั้งนาน..
“ทราฟ คิดมากอะไรรึเปล่าคะ” เสียงของเพลสดังขัดผมขึ้นจากความคิดตัวเอง ผมหันไปมองหน้าเธอนิดๆก่อนจะหันไปมองทางตรงหน้าต่อก่อนจะตอบเธอไป
“หืม เปล่านี่ครับ”
“แต่หน้าทราฟดูเครียดนะคะ” เครียดงั้นหรอ..... ผมขมวดคิ้วเข้าหากันนิดๆ ก่อนจะมองกลับไปทางด้านหลังตัวเองที่มีอีกคนยืนอยู่ด้านหลังพร้อมกับมองมาทางผมอย่างซึมๆจนใจผมมันกระตุกวูบไหวแปลกๆ
“เด็กคนนั้นเพลสเห็นตอนเรานั่งทานข้าวกันนะคะ ....เอ...ใช่รึเปล่านะ มากับผู้ชายอีกคนอ่ะค่ะทราฟเห็นมั้ย มองมาทางเราตลอดเลยนะ” ผมหันไปมองหน้าเพลสทันทีก่อนจะส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย อย่าบอกว่าเป็นมันจริงๆแล้วมันก็เห็นผมมาตั้งแต่แรก
“แล้วยังไงต่ออีก”
“คะ?” เพลสทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยเมื่อผมถามประโยคกำกวมออกไป
“ผมถามว่าแล้วเด็กนั่นทำอะไรต่ออีก” ผมถามเสียงติดจะหงุดหงิดเล็กน้อย ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองหงุดหงิดอะไร เพลสทำหน้าคิดสักพักก่อนจะตอบออกมา
“ก็คงจะทานเสร็จแล้ว เพลสคิดว่าน่าจะกลับบ้าน แต่คิดว่าคงไม่ใช่เพราะผู้ชายอีกคนไม่ได้อยู่ด้วย”
“แต่ก็ช่างเถอะคะ รีบไปดูหนังกันดีกว่านะ” ผมพยักหน้านิ่งๆก่อนจะเดินตามแรงดึงจากแขนเล็กๆของเพลส ไม่หันหลังไปมองไอ้ชามอีกเลย แต่มันคงจะกลับบ้านได้เอง แล้วผู้ชายคนที่มากับมันผมคิดว่าน่าจะเป็นพี่หมอของมันตอนเช้าที่เจอกัน
Shit! แล้วผมจะหงุดหงิดทำไมว่ะ....
........................................................
เช้าวันนี้ผมมีโปรเจ็คจบแล้วก็จะสอบไฟนอลในวันพรุ่งนี้ เพื่อนๆผมมันก็นัดกันอย่างดีว่าจะไปเที่ยวทะเลกัน ผมกำลังจะเดินขึ้นตึกแต่ก็ต้องชะงักเท้าพร้อมกับมองไปที่มุมตึกที่มักจะมีคนตัวเล็กๆถ้ำมองผมอยู่ ผมเผลอยยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวก่อนจะรีบหุบยิ้มก้าวขึ้นห้องทันที
..
..
..
.
“เยส!! ในที่สุดก็ผ่านเว้ยยยยยย!!!” ไอ้อชิตะโกนออกมาอย่างสุดจะทนเมื่อมันกำลังจะจบแล้ว อารมณ์พวกผมทุกคนก็เป็นแบบมันนั่นแหละครับ
“ดีใจจริงๆ เหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลย~~~ ไม่สิเหมือนได้อ่านโดจินวายมากกว่า คึคึ” เสียงเล็กๆของพิ้งค์พูดพร้อมกับทำหน้ามีความสุขเต็มที่ คนที่คิดว่าพิ้งค์เรียบร้อยนี่คิดใหม่นะครับ ส่วนไอ้เฟสมันก็นิ่งๆเหมือนเคยถ้าอยู่ด้วยกันเฉพาะกลุ่มเรามันถึงจะพูด แต่ติดตรงนี้เป็นมหาลัยมันถึงได้พูดน้อยขนาดนี้ ถ้าได้รู้จักมันจริงๆจะรู้ว่ามันเป็นพวกมึนๆอึนๆ กวนตีนนิ่งๆ
“อ๊ะ! ทราฟ! น้องชามมา” ผมมองหน้าพิ้งค์ที่ทำหน้าตื่นเต้นนิ่งๆก่อนจะหันไปมองทางด้านหลังตัวเอง มองเห็นร่างเล็กวิ่งเข้ามาหาผมพร้อมกับกล่องแซนวิชและนมอยู่ในนั้นครบชุด
“พี่ผมทำมาให้”
ชามยื่นกล่องมาให้พร้อมกับนั่งลงข้างผมอย่างถือวิสาสะ แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรติดใจตรงที่มันกล้ามาหาผมแล้ว แถมยังมาแบบมีกำลังใจล้นปรี่อีกอดจะทึ่งกับความคิดในด้านบวกของมันไม่ได้จริงๆร่างเล็กส่งยิ้มให้ผมเหมือนอย่างเคยหน้าตาก็ยังโทรมเหมือนเดิม ....ติดใจอีกอย่างคือมันบอกว่าทำเอง....
“ระวังตายนะไอ้ทราฟ กูว่าแม่งใส่ยาพิษแน่ๆ” ไอ้อชิเริ่มกัดกับน้องมันทันที ไอ้ชามมันก็ไม่ยอมหันไปแวดๆใส่กัน ผมไม่สนใจเสียงพวกมันก่อนจะมองกล่องในมือตัวเองพร้อมพลิกดู ผมชะงักมือตัวเองที่ถืออยู่ทันทีก่อนจะเอากล่องแซนวิชที่มันบอกว่าทำเองเคาะหัวคนให้ไม่แรงมากนัก
“โอ้ยย! เจ็บนะ” ไอ้ชามทำหน้ายุ่งๆ ยู่จมูกจนย่นเลยครับผมชูกล่องให้มันดูก่อนจะเอาวางไว้ที่โต๊ะตรงหน้า
“อะไรของพี่เนี่ยย ขอโทษผมเลยนะ” เสียงเล็กๆของมันพูดออกมาอย่างงอนๆ จนผมเริ่มหมั่นไส้มันแทน ผมถอนหายใจเบาๆก่อนจะมองหน้ามันพร้อมเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“ลืมแกะราคาออกนะ แถมยังมีโลโก้รูปแซนวิชอีก”
“เห๊ะ.....” ไอ้ชามมันทำหน้าเหวอจนผมอดจะขำในใจ(?)ไม่ได้ ก่อนจะมองไปที่ไอ้อชิที่มันเล่นขำซะจนต้องกุมท้องตัวเองไว้ พิ้งค์เองก็ยังขำไม่หยุดจนไอ้ชามเริ่มหน้างอง้ำ
“แต่ผมก็ตั้งใจ....ซื้อมาให้นะครับ” มันทำหน้าเริ่มจะร้องไห้ผมถึงได้พยักหน้าให้มันนิ่งๆ ก่อนจะยิ้มบางออกมา
“ขอบใจ” หึหึ ตลกชิบหาย... พอผมพูดไปมันก็เปลี่ยนสีหน้าทันทีก่อนจะบังคับให้ผมทาน ผมจึงต้องทานไม่ใช่เพื่อให้มันสบายใจ ผมยังไม่ทานอาหารเช้าไงล่ะ.....
นั่งเล่นด้วยกันสักพักไอ้ชามก็ขอตัวไปเรียน ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมีแค่มันที่พูดคนเดียวไม่หยุด แต่ก็แปลกที่ผมเริ่มจะไม่รำคาญมัน ทั้งๆที่รู้ว่ามันเข้ามาหาผมเพื่ออะไร และมันก็เป็นเพศที่ผมไม่คิดจะชอบกลับ ...แต่อะไรไม่รู้ทำให้ผมคิดแบบนั้น..
“น้องชามเขาก็น่ารักนะ ทราฟ” ผมเงยหน้ามองพิ้งค์อย่างแปลกใจ แต่ก็ต้องหรี่ตามองใบหน้าน่ารักนั่นเพราะเริ่มมีลางบอกว่าเธอจะต้องทำอะไรสักอย่างที่ผมจะเดือดร้อนแน่ๆ
“พิ้งค์ อย่าแม้แต่จะคิด ไอ้เด็กนั่นมันไม่เหมาะกับเพื่อนเธอหรอกน่า”
“อชิ! แล้วใครละเหมาะกับเพื่อนนาย ไม่รู้ห้ามพูดเลยฉันจะคุยกับทราฟ เนาะเฟส” พิ้งค์พูดรัวๆใส่อารมณ์เต็มที่ก่อนจะหันไปหาไอ้เฟสที่นั่งฟังเงียบๆแต่มันก็ยอบพยักหน้าเห็นด้วยกับพิ้งค์ ไอ้อชิมันทำท่าฮึดฮัดเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เถียงอะไร พิ้งค์จึงหันมาสนใจผมต่อ
“ว่าไงละทราฟ น้องชามน่ารักเปล่า” พอเจอคำถามนี้ก็เล่นผมแทบจะไม่กล้าตอบอะไรกลับไป ถ้าพูดถึงหน้าตามันก็ธรรมดา ...แต่นิสัยจากที่เห็นก็ น่ารักดี …
“ก็น่ารัก...” เสียงเบาไปมั้ยว่ะ .......
แปะ!!
“กรี๊ดดด นั่นไงละ!! ฉันว่าคนนี้แหละเนื้อคู่นาย!!!!” พิ้งค์ตบมือเสียงดังถูกใจทันที ไอ้อชิกับไอ้เฟสถึงกลับหันมามองหน้าผมอย่างไม่อยากจะเชื่อ เออ กูเองก็ไม่เชื่อตัวเองครับ ผมตอบเองแท้ๆยังอึ้งกับคำพูดตัวเอง
“เพ้อเจ้อน่าพิ้งค์ แล้วไปอ่านหนังสือได้ยัง” ผมพูดพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องนี้เต็มที่จนพิ้งค์ทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมลุกเดินออกมาพร้อมกันเพื่อที่จะกลับบ้านไปอ่านหนังสือแต่ก็ไม่วายพูดไปตลอดทางเดิน
“โถ่ อะไรอ่ะ แต่เดี๋ยวไม่นานพวกนายสองคนต้องได้คบกันแน่ๆ ฟันธง!”
“เอาเรื่องนี้ออกจากสมองแล้วไปเรียนเถอะว่ะ พิ้งค์” ไอ้อชิเองก็เหมือนจะไม่ชอบไอ้ชามเท่าไหร่ แต่มันคงแค่อยากแกล้งน้องมันเล่นแค่นั้น จากนั้นสองคนนี้ก็ทะเลาะกันมาจนสุดทาง ผมรีบขึ้นรถตัวเองทันทีก่อนที่เรื่องของไอ้ชามมันจะเข้ามาแทนเรื่องเรียนผมตอนนี้
...............................
Rrrrrrrrrr Rrrrr Rrrrr
“ฮัลโหล”
(เตรียมของยังว่ะ!)
“ยัง มึงจะรีบไปไหนห้ะ”
(โถ่ ก็กูอยากไปแล้วนี่นา หึหึ เออๆ แค่นี้แหละเว้ย) ผมชิงกดตัดสายก่อนไอ้ริโซ่ที่โทรเข้ามาถามคำถามที่ปัญญาอ่อนสุดขั้ว ก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ พรุ่งนี้เราก็จะได้ไปเที่ยวทะเลตามที่พวกมันนัดกันกว่าทุกคนจะว่างมันหาโอกาสยากนักไม่แปลกใจที่พวกมันจะตื่นเต้นกัน ผมเพิ่งสอบเสร็จก็รู้สึกอยากพักผ่อนเช่นกันงานนี้ไปเป็นเกือบอาทิตย์เลยมั้ง จะว่าไปผมก็ไม่ได้เจอหน้าไอ้ชามมันมาหลายวันแล้วเพราะผมเอาแต่สนใจเรื่องเรียน เห็นมันมาหาแต่ก็ไม่ได้ออกไปเจอเพราะยังไงเรื่องเรียนก็สำคัญกว่า ผมยิ่งจะได้ไปทำงานที่บริษัทพี่ชายตัวเอง ผมลืมบอกไปรึเปล่าว่าผมมีพี่ชายหนึ่งคนเป็นผู้บริหารบริษัทนำเข้ารถยนต์จะว่าคู่แข่งของไอ้ริโซ่ก็ได้แต่เราค้าขายคนละประเทศกัน พี่ชายผมก็มีลูกมีครอบครัวแล้วครับ ผมเป็นลูกคนเล็กบ้านเราทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับรถไม่แปลกใจที่จะถูกเรียกว่าเสี่ย ผมกำลังจะลุกขึ้นไปจัดกระเป๋าแต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นซะก่อน ผมกรอกตาเซ็งๆเพราะคิดว่าน่าจะเป็นไอ้ริโซ่ แต่พอหยิบมากลับไม่ใช่ มันเป็นเบอร์แปลก
“ครับ” ผมกดรับสายก่อนจะเลิกคิ้วๆงงเพราะเสียงจากทางนั้นเหมือนจะสั่นๆ
(พะ....พี่ทราฟรึเปล่าครับ)
“หืม ....ใครครับ”
(เยส! .....เอ่อ ....ผมชามไงครับบบ!) จากเสียงสั่นๆตอนแรกแต่ตอนนี้กลับมาเสียงใสแจ๋ว แต่ก็ทำผมแปลกใจอีกไม่ได้เพราะมัน ...ไปเอาเบอร์ผมมาจากไหน
“เอาเบอร์กูมาจากไหน”
(ไม่บอก คึคึ)
“ยัยพิ้งค์....”
(อ้ากกก โดนจับได้แล้วว) เสียงใสๆของมันตะโกนออกมาจนโอเว่อร์ผมถึงกับต้องยกโทรศัพท์ออกจากหู ทำไมจะเดาไม่ออกก็มีแค่พิ้งค์ที่อวยมันให้ผมอยู่เนี่ย แต่การที่พิ้งค์กล้าให้แบบนี้ไอ้ชามมันคงจะขอร้องอ้อนวอนอย่างหนักเพราะผมไม่ชอบให้เบอร์ใครมั่วๆ
“ช่างเถอะ แล้วมีอะไร” ผมถอนหายใจเซ็งๆก่อนจะเริ่มถามถึงประเด็นที่อีกคนโทรเข้ามา ไอ้ยินเสียงตะกุกตะกักจากทางนั้นคงเป็นเสียงเปลี่ยนท่านอน
(พี่พิ้งค์ชวนไปเที่ยวด้วย ....พี่ให้ผมไปด้วยป่ะ ผมว่างนะไปได้ อยากไปอยากเจอพี่ โคตรคิดถึงเลย)
หึ
ผมอดจะยกยิ้มออกมาไม่ได้กับความเด็กน้อยของมัน แต่ก็ต้องรีบหุบเมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอดีใจไปกับคำพูดของมัน ...คิดถึงหรอ เด็กนี่มันจะเพ้อเจ้อเกินไปแล้ว แล้วทำไมใจผมมันไม่คิดแบบนั้นว่ะ!
“ไปทำไม ลำบาก” ผมพูดออกไปตรงๆ อันที่จริงผมไม่ชอบให้ใครมากวนตัวเองเท่าไหร่ ถ้ามันไปด้วยมีหวังเกาะผมแจแน่นอน
(แต่ผมอยากไป .....ก็ผมไม่ได้เจอหน้าพี่หลายวันแล้ว ...) เสียงอ่อนเสียงอ่อยมากครับ จนกระทั่งได้ยินเสียงมันสะอื้นออกมาไม่รู้ว่าแกล้งทำหรือของจริงแต่ใจผมอยู่ๆมันก็อ่อนยวบลงไปครึ่ง ไอ้ชามพูดไปสะอื้นไปขอผม นะๆๆๆ อยู่นั่นจนผมต้องให้มันไปด้วยถึงยอมหยุดพูด
(ให้ผมไปด้วยจริงนะ!)
“อืม แล้วไม่ร้องไห้แล้วหรอวะ”
(ไม่อ่ะ ดีใจ เดี๋ยวผมเก็บของแปบนะครับแล้วจะโทรมาใหม่ คึคึ)
ผมว่าผมคงโดนมารยามันเข้าแล้วละ ....แต่ก็ต้องหลุดจากความคิดนึกหมั่นไส้ร่างเล็กกว่า เสียงโทรศัพท์โชว์เบอร์เดิมก็ดังขึ้นอีก ผมกดรับสายทันทีก่อนจะรอให้มันพูดออกมาเอง
(พรุ่งนี้มารับผมด้วยนะครับ ...นะ...) อือหือ เมื่อกี้มันเสียงอ่อยมาคราวนี้เสียงอ้อนมาเชียว ผมยกมือขึ้นกุมขมับตัวเองไม่ยอมพูดบอกมันออกไป พยายามสงบอารมณ์ตัวเองที่ตอนนี้เริ่มจะไม่คงที่ ใจกระตุกทุกครั้งที่มันพูดอะไรแบบนี้ใส่ตอนแรกๆยังไม่เป็น แล้วตอนนี้ผมเป็นอะไร!
(นะครับ ...มารับผมนะพี่ทราฟ…..)
“shit! เออๆ”
(เยส!!! คึคึ)
แค่มันเรียกพี่ทราฟ ......ทำไมกูตอบกลับง่ายจังว่ะ .........ถึงผมจะไม่รู้ว่าใจตัวเองเป็นอะไรตอนนี้ แต่ที่รู้แน่ๆคือ ผู้ชายมันมีมารยาแบบนี้ด้วยหรอครับ หรือมีแค่ไอ้ชามมัน .....แค่คิดชีวิตผมก็สีม่วงแล้วครับ
*******************************************
เม้นให้เข้าด้วยน๊า อย่าลืมกดไลค์เพจเข้าที่หน้านิยายเรื่องนี้นะคะ เค้าสร้างเพจแล้วนะจ๊ะฝากติดตามด้วยค่า
TBC.