04
กว่าจะถึงบ้านก็ปาไปเกือบตีหนึ่งเพราะที่ร้านปิดห้าทุ่มครึ่ง
ล้าไปทั้งตัว…
ทิ้งตัวลงบนที่นอนตัวจมหายลงไปในฟูกนุ่มๆ เปลือกตาก็รู้สึกหนักขึ้นเรื่อยๆ
Nice PART
หลังจากกลับมาจากคลับแล้วผมก็เข้าบ้านมาอาบน้ำ ไม่วายมองหาจ๊ะจ๋าที่บอกว่าจะไปธุระตั้งแต่ช่วงค่ำ
ซ้ำยังโทรมาถูกจังหวะที่ผมกำลังหาความสุขจากสาวในคลับ
แถมแทนที่จะทำเพิกเฉยกลับพูดเสียงขำล้อผมอีกต่างหาก!
“ป้าอรครับ วันนี้มีอะไรกินบ้างอ่ะ หิวมากกกกกก”ลากเสียงยาวบ่งบอกว่าหิวจริงๆ
“วันนี้มีไก่ต้มโคล้งของโปรดหนูไนท์เลย” ป้าอรยิ้มแปล้ ยกสำหรับอาหารออกมาวางเรียงราย
“น่าอร่อยทั้งนั้นเลยครับป้าอร” นานๆทีจะได้อยู่บ้านเงียบๆคนเดียว จึงไม่รีรอที่จะตักน้ำต้มเข้าปากตามด้วยข้าว
“ค่อยๆกินสิ เดี๋ยวก็สำลักหรอก” ถือแก้วไปรินน้ำมาวางทางด้านข้างตัว
“อร่อยมากกกก” นานแล้วที่ผมไม่ได้กินข้าวที่บ้าน เพราะตั้งแต่รับช่วงต่อกิจการคลับของพี่ชายที่ตอนนี้ไปอยู่ส่วนไหนของอเมริกาแล้วก็ไม่รู้ ผมก็เอาแต่ดูแลเรื่องที่ร้านตลอด
“แล้ววันนี้น้องจ๊ะจ๋าไม่กลับหรอ” มองหาคนอาศัยที่มาอยู่ได้ไม่นาน
“ไม่รู้ครับป้า ผมขอตัวขึ้นห้องก่อนนะครับ” พูดอย่างสุขุมแล้วขึ้นห้อง
นอนหลับไปแล้วรู้สึกคอแห้งขึ้นมา แหงนดูนาฬิกาที่หัวเตียงก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งเศษๆแล้ว เลยเดินก่อกแก่กลงไปหาน้ำดื่มแก้กระหาย
เสียงรถมาจอดลงตรงหน้าบ้านแสงสว่างจากไฟหน้ารถบ่งบอกว่ามีบางคนเพิ่งกลับถึงบ้าน เพราะขี้เกียจจะต่อกรเลยเดินเลี่ยงเข้าห้องครัวเพื่อหาน้ำในตู้เย็นต่อ
สักพักเสียงเปิดประตูเช้าบ้านก็ดังขึ้น บอกตรงๆว่ามันดึกเกินไปที่จะทำธุระแต่ก็ไม่อยากไปยุ่ง
เพราะคำว่า’บอกแม่แล้ว’มันทำให้รู้ว่าอาจเป็นเรื่องที่ร้านของแม่จ๊ะจ๋า
ดื่มน้ำเสร็จเลยกลับขึ้นห้องหวังจะนอนต่อแต่ก็เหลือบไปเห็นประตูห้องที่เปิดแง้มไว้พร้อมกับแสงไฟสว่างรอดออกมา
ชะเง้อเข้าไปดู ไม่อยากจะเชื่อง่ายัยจ๊ะจ๋าจะหลับทั้งสภาพที่ยังไม่อาบน้ำ แถมอีกนิดเดียวก็จะหล่นลงมาที่พื้นอยู่แล้ว
“กลับบ้านก็ช้าน้ำก็ยังจะไม่อาบอีก ซกมกจริงๆ” ช้อนตัวจ๊ะจ๋าลอยจากเตียงแล้ววางลงจัดท่าทางให้ดีจึงดึงผ้ามาห่มให้ เสร็จแล้วเลยปิดไฟก่อนออกจากห้อง
นึกย้อนไปถึงเมื่อคืนก่อนที่ผมเปิดเข้าไปหาจ๊ะจ๋าที่ห้องแล้วเจอเธออาบน้ำอยู่ ใครจะไปคิดล่ะนึกว่าจ๊ะจ๋าจะแกล้งเปิดน้ำทิ้งไว้ซะอีก
ถ้าจะบอกว่าผมไม่เห็นอะไรเลยก็จะดูเกินจริงเพราะวันนั้นผมเห็นเธอทั้งตัว ทรวดทรงได้รูปทำผมสะบัดหัวไล่ความคิดกามๆออกไปตั้งหลายครั้ง
มองหน้าพริ้มหลับที่เตียงแต่ก็ไม่ได้ดูใสซื่อจนหลอกอะไรง่ายๆ
แค่สีผมก็แรงแสบตาแล้วอย่าถามถึงนิสัยเลย เสียสุดๆ
ปัดปรอยผมที่ลงมาปรกหน้าก็ต้องแอบหมั่นไส้ เด็กอะไรถึงดื้อได้ขนาดนี้กัน
ไม่อยากคิดว่าต่อไปผมจะต้องอยู่ร่วมกับจ๊ะจ๋ายังไงเลยจริงๆ
กลับมาที่ห้องตัวเองบ้าง เพราะมีเอกสารบางอย่างเกี่ยวกับคาสิโนที่ต้องเซ็นอนุมัติ แอบเหนื่อยเหมือนกันที่ต้องมารับภาระหนักๆนี่
แต่พอเห็นหน้าแม่เรื่องต่างๆที่สั่งสมมาก็มลายหายไปทันที
หลังจากนี้ผมคงต้องเหนื่อยอีกเยอะเพราะยัยจ๊ะจ๋า ผมรับประกัน
.
.
.
เช้า
วันนี้ จำได้ว่าจ๊ะจ๋าไม่มีเรียน แต่เจ้าตัวกลับแต่งตัวลงมาจากห้องตั้งแต่เช้าซะงั้น
“ไปไหนแต่เช้า วันนี้ไม่มีเรียน” จิบกาแฟมองคนที่ลงมาจากบันไดไม่กี่ก้าว
“ไปร้าน ขอยืมรถหน่อยคงกลับดึก ค่ะ!” ผมรู้ว่าการที่ต้องรายงานเรื่องราวในชีวิตเป็นเหมือนกรงน้อยๆที่กักขังความเป็นส่วนตัว
แต่นั้นก็เพราะว่าผมสัญญากับคุณน้าและแม่ไว้แล้ว
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง” วางแก้วกาแฟแล้วเดินไปหยิบกุญแจรถ ทั้งที่ยังใส่ชุดนอน
“ไปส่งชุดนี้หรอ” มีสักครั้งมั้ยที่จ๊ะจ๋าจะพูดเพราะๆใส่ผมบ้างพูดจาไม่มีหางเสียงตลอด
“ ...” แม้จะรู้ว่าอยู่ในสภาพที่ไม่ควรไปไหนแต่ก็ยังดึงดันเดินนำไปยังรถ “อืม”
ได้ยินคนเดินตามบ่นพึมพำซึ่งผมก็เลือกไม่ใส่ใจ ขึ้นประจำที่นั่งคนขับ ประตูด้านข้างก็เปิดตามพร้อมร่างจ๊ะจ๋าที่เข้ามานั่งในรถ
เคลื่อนตัวมาได้สักพักจึงหาเรื่องชวนคุย
“ที่ร้านมีปัญหาหรอ” ระหว่างที่ตีไฟเลี้ยวตรงสี่แยกช่วงติดไปแดงจึงเอ่ยถาม
“คงงั้นแหละ..” ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่อยากพูดถึง เลยเสหน้ามองออกนอกหน้าต่างก่อนที่จะกดเลื่อนกระจกลง”น้องๆ”
กวักมือเรียกเด็กที่ยืนอยู่ข้างถนนทั้งสองมือถือถุงใส่บางอย่างไว้
“ขายอะไรจ๊ะ” ใบหน้าด้านข้างยิ้มให้เด็กแบบที่ไม่ค่อยให้ผมได้เห็นบ่อยนัก
“โดนัทค่ะ ถุงละยี่สิบ” ใบหน้ามีเหงื่อเกาะหลายเม็ดทว่ากลับยิ้มส่งให้จ๊ะจ๋า
“พี่เอาสองถุง” ควักเงินในกระเป๋าส่งให้เป็นแบงค์ห้าสิบ ผมได้แต่มองการกระทำนั้นเงียบๆ “อีกสิบบาทเอาไปซื้อน้ำกินนะ”
ยกมือขึ้นลูบหัวเด็กน้อยแล้วโยกไปมา พอเด็กคนนั้นเดินกลับไปประจำที่เดิมแล้วจ๊ะจ๋าจึงยื่นถุงใบนึงส่งให้ผม
“ตอบแทนที่มาส่ง” แม้ว่าน้ำเสียงจะไม่ได้อ่อนหวานนักแต่ก็รู้สึกว่าคนข้างๆอยากจะให้
ผมยื่นมือรับถุงโดนัทแล้วเอื้อมไปวางไว้ที่เบาะหลัง
“อ๊ะ! ไฟเขียวแล้ว เดี๋ยวจ๊ะจ๋าวางให้” เพราะรีบจ๊ะจ๋าจึงดึงถึงออกจากมือผมที่กำลังจะเหลียวหลัง หันกลับมาปะทะกับใบหน้าเรียวระยะห่างไม่ถึงคืบ
แค่เสี้ยววินาทีจ๊ะจ๋าก็เบนหน้าออกปล่อยให้ผมหันกลับมาเคลื่อนตัวรถออกจากแยกส่วนตัวเองค่อยเอาถุงโดนัทไปวางตรงเบาะหลัง
“แล้วจะกลับกี่โมงล่ะเดี๋ยวพี่จะให้คนมารอรับ” ไม่รู้ว่าจ๊ะจ๋าจะกลับตอนไหนเกรงว่าในตอนนั้นผมอาจจะไปดูแลคลับอยู่หากจ๊ะจ๋ากลับในช่วงดึก
“ยังไม่รู้อ่ะ อาจจะดึกๆ” คำตอบที่คาดไว้ ทำผมลอบถอนหายใจ ถ้างั้นผมคงดูแลร้านอยู่ “ต้องรอร้านปิด”
แล้วถ้ารอร้านปิดทำไมถึงต้องไปตั้งแต่เช้าล่ะ
“แต่ตอนเช้าจะเข้าไปเช็คความเรียบร้อย” กระชับกระเป๋าข้างกายก่อนเปิดประตูหลังจากรถผมจอดเทียบที่หน้าโรงแรม
รีบดึงแขนไว้ก่อนกำชับ “เสร็จแล้วอย่าลืมโทรมาหาพี่”
อีกฝ่ายไม่ตอบรับเพียงพยักหน้างึกงัก
ปล่อยมือเสร็จจ๊ะจ๋าก็ปิดประตูรถแล้วเดินเข้าไปด้านใน ผมจึงขับรถกลับมาที่บ้าน อาบน้ำแต่งตัว
วันนี้ผมมีนัดกับวิศวกรเรื่องตึกคาสิโนที่กำลังก่อโครงในตอนนี้
“จืด วันนี้ไปรอรับจ๊ะจ๋าที่ร้านแม่น้องทีนะถ้าผมไม่ว่าง” หันไปสั่งกับคนขับรถประจำของผม จืดโค้งหัวให้ผมแล้วเดินไปรดน้ำต้นไม้ต่อ
พอขับมาสักพักจึงนึกได้ว่ามีโดนัทอยู่หลังรถเลยหยิบติดมือลงมาที่ไซต์งาน
“สวัสดีครับคุณกฤตรินทร์” เสียงทักทายแจ่มใสดังขึ้นตรงมาทางผม
“สวัสดีครับคุณศรุต โครงเป็นยังไงบ้างแล้วครับ” ใบหน้าอ่อนเยาว์ของวิศวกรฝีมือดีทว่าอายุเพียงยี่สิบกว่าๆ เท่ากันทำผมชั่งใจหลายครั้งว่าจะดีหรือไม่ที่จะจ้าง
สุดท้ายรุ่นพี่ที่รู้จักกันก็แนะนำว่ายังไงก็ต้องคนนี้สิ จึงเลี่ยงไม่ได้แต่พอได้ทำงานจริงๆแล้วก็ควรค่าแก่ค่าจ้างที่จ่ายไป
“เรียบร้อยดีครับตอนนี้กำลังวางโครงของชั้นสองอยู่” ตอนนี้มีเพียงแค่โครงเหล็กที่ยังไม่เป็นรูปร่างเท่าไหร่นัก แต่มั่นใจว่าอีกสักพักคงดูเป็นดีขึ้น “ว่าแต่คุณกฤตรินทร์มีอะไรอยากเพิ่มเติมดีมั้ย….”
“ป๊ะป๋าาาาา จุ๊บแจงหิวว” จู่ๆเด็กผู้หญิงถักเปียสองข้างใส่ชุดกระโปรงน่าตาอายุคงไม่เกินห้าหกขวบ
“เอ่ออ...เดี๋ยวป๊ะป๋าพาไปซื้อนะคะ แต่ตอนนี้ป๊ะป๋าไม่ว่าง…” วิศวกรหนุ่มทำหน้าเลิ่กลั่ก “แล้วมีนไปไหน”
ก้มลงให้อยู่ระดับพื้นแล้วค่อยๆถาม
“ม่ะม๊าปวดท้องนอนอยู่” มือชี้ไปยังรถที่มีผู้หญิงคนหนึ่งขดตัวนอนอยู่บนเบาะ
เห็นแบบนั้นผมจึงยื่นถุงโดนัทที่หยิบติดมาให้เด็กตัวน้อย อ่า...สุดท้ายก็ไม่ได้กินเองสินะ
“อาให้ กินแล้วอย่าดื้อนะคะรู้มั้ย” ยกมือขึ้นลูบหัวเด็กเบามือแล้วหยัดตัวขึ้นเต็มความสูง แล้วมองหน้าคุณศรุตที่บัดนี้โบกมือให้เด็กน้อย
ทำผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเด็กคนเมื่อกี้นั้นเป็นล๓กของวิศวะอายุน้อยจริงหรือ
“เอ่อ….ลูกพี่ชายน่ะครับ ไม่ใช่ลูกผมหรอก” พอเห็นแบบนั้นจึงรีบแก้ “ผู้หญิงคนนั้นผมจ้างมาเลี้ยงหลาน”
“ครับ” แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของผมอยู่แล้วจึงไม่ใส่ใจ
เราสองคนเดินตรวจโครงสร้างไปอีกพักเมื่อเห็นว่าถึงเวลาต้องเข้าไปที่คลับจึงกล่าวลา “ขอตัวก่อนนะครับ” โค้งหัวให้วิศวกรหน้าใหม่ไฟแรงเสร็จจึงเดินกลับมาที่รถ
---------------------------------------------------------------------------------------------
ขอโทษที่อัพช้าค่ะ ตอนนี้เปิดเทอมแล้วจะยุ่งๆนิดหน่อยเนอะ
แต่อย่าเพิ่งเลิกติดตามไรท์น้าาา
ถ้าชอบก็เม้นพูดคุยกันได้นะคะ
#รักทุกคนน