02
คณะอักษร
ไม่ว่าจะตอนไหน ที่ว่างในลานกิจกรรมก็ไม่เคยมี จึงจำใจต้องไปนั่งโง่ๆอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังตึกที่ประจำ
สักพักม่อนเพื่อนคนเดียวที่มีก็เดินมาทรุดลงข้างๆ
“ไงมึง กับพี่ไนท์เป็นไงบ้าง” เสียงห้าวๆตามแบบฉบับถามฉันที่นั่งทำรายงานอยู่
“ปวดหัวฉิบหาย!! วันๆแม่งเอาแต่สั่งๆๆๆ” พูดแล้วหน้าของพี่ไนท์ก็ลอยมา ไม่ใช่เพราะคิดถึง แต่มันสร้างความหงุดหงิดให้ซะมากกว่า
“เออๆ ก็เขารับดูแลมึงก็ทำใจไว้ว่ามึงจะไม่ได้ออกไปไหนแล้วล่ะ” ไอ้ม่อนพูดกลั้วหัวเราะ
“ทำใจบ้านมึงสิ กูไม่ทำใจ และจะไม่ทำตามด้วย เที่ยวได้เที่ยวอ่ะกูบอกเลย” อย่าให้เผลอเถอะเดี๋ยวแม่จะหนีเที่ยวให้ตามไม่เจอเลยคอยดู กักกันดีนัก
ฉันก็แค่เด็กชอบเที่ยวมันจะอะไรนักหนาล่ะถามจริง
“มึงนี่นะ...เออรายงานคู่เดี๋ยวกูช่วยทำ” ม่อนชะโงกหน้ามาก็พบว่าเป็นรายงานที่ต้องทำคู่กันมันจึงดึงโน๊ตบุ๊คไปวางบนตักแทน
“มึงง...กูเลิกกับพี่ท็อปล่ะนะ” จู่ๆก็นึกถึงพี่ท็อปผู้ชายที่รู้จักกันจากแอปในโทรศัพท์ ช่วงแรกๆก็คุยกันถูดคอดีหรอกเป็นเพื่อนไปเที่ยวด้วยกันได้
แต่พักหลังๆรู้สึกว่ามันบ่อยจนกลายเป็นว่าต้องตามใจ มันไม่ใช่แนวอ่ะ!
“อืมม” อ่าวทำไมถึงไม่ตกใจเลยอ่ะ แอบผิดหวังนะเนี่ย “ดูก็รู้ว่าเดี๋ยวก็เลิก”
“แล้วทำไมมึงไม่บอกกูตั้งแต่ก่อนคบเล่า” เหวใส่เพื่อนนิดหน่อย ชิช้ะ แค่นี้ก็ไม่ยอมบอกกัน
“ให้มึงหาประสบการณ์” มันยักคิ้วให้พลางทำหน้ากวนๆ
“ประสบการณ์ห่าไรบ่อยจัง อีคนที่แล้วมึงก็บอกประสบการณ์อีแม่นักรัก”
“หาไว้เยอะๆอ่ะดีแล้วจะได้ไม่โดนหลอก” เอ้า อีนี่ ดึงดราม่าชีวิตตัวเองเฉย
“มึงนี่ ลืมๆไป วันนี้ไปหาไรแดกแถวผับบ้านมึงดีกว่า” กอดคอไอ้ม่อนชี้มือไปบนฟ้าเหมือนว่ามันมีอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่มี
“ไม่เอา เดี๋ยวกูโดนหางเลขไปกับมึงอีก” ไอ้ม่อนส่ายหน้าเร็วๆ
“งั้นจะให้กูไปคนเดียวหรอ” ทำสายตาปิ๊งๆ อ้อนวอนส่งให้ไอ้ม่อนคนใจแข็งที่ไม่มีทีท่าที่จะสะทกสะท้านสักนิด
“กู! ไม่! ไป!”
.
.
.
.
.
ไอ้ม่อนนะไอ้ม่อน
ไม่อยากจะอยู่บ้านก็ต้องอยู่เพราะอะไรหนะหรอ
พี่ไนท์ส่งคนไปรอรับฉันตั้งแต่ยังไม่เลิกเรียน หนีออกไปปุ๊ปคนของพี่ไนท์ก็เห็นปั๊ป
สุดท้ายก็เลยต้องกลับมาที่บ้านเนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่นเหลือให้สักทาง
เผด็จการ!!
นั่งโซฟามองพี่ไนท์ที่ยังอยู่ในชุดเมื่อเช้าแต่ว่ากอดคอมากับผู้หญิงอกตู้มที่ควงแขนเบียดนมเดินลงมาจากห้องนอน
วันๆมีแต่เรื่องกามจริงๆ
คงเห็นว่าฉันด่าทางสายตากลายๆเลยรีบพาสาวของตัวเองไปส่งหน้าบ้านก่อนเดินมาทรุดตัวลงที่โซฟาตัวข้างกัน
“มองทำไม” เปิดประเด็นถามได้ถูกจุดมากกกก ก็อยากจะมองคนโรคจิตไงล่ะ
“ตาจ๊ะจ๋า อยากมองอะไรก็มอง แค่มองก็ไม่ได้หรือไง...ไม่ได้ไปนั่งมองตอนได้กันสักหน่อย”ประโยคหลังเลือกที่จะพูดเบาๆ ไม่ให้พี่ไนท์ได้ยิน
“พูดอะไรให้มันดีๆหน่อย” พี่ไนท์เขวี้ยงหมอนใส่ฉัน แล้วที่พูดมันผิดตรงไหน
“แล้วตัวเองทำดีนักรึไง” รู้ว่าหากนั่งอยู่ต่อคงโดนด่าอีกแน่ๆ เพราะงั้นรีบขึ้นห้องดีกว่า
อาบน้ำเสร็จเลยว่าจะหมักผมสักหน่อย ช่วงนี้รู้สึกว่าผมตัวเองเริ่มจะชี้โด่เด่เพราะมันเสียจากการกัดผมที่ย้อมของตัวเอง
สีน้ำเงินปลายฟ้า สีโปรดฉันเอง
พออยู่ในห้องที่จัดไว้ให้ก็เลยใส่เป็นชุดคลุมอาบน้ำออกมา ล็อกกลอนให้เรียบร้อยเผื่อพี่ไนท์จะโผล่พรวดพราดเข้ามาอีก
“ยังอยู่ใช่มั๊ย” แค่นึกถึงเสียงก็มา ตายยากยิ่งกว่าซอมบี้อีกนะเนี่ย
“เออ ตอนนี้อ่ะยังอยู่ แต่อีกสักพักอะไม่แน่” ตอบเสร็จก็เดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปล้างผม
“จะไปไหนอีกว่ะ” พี่ไนท์ตอบเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย “เอ้าเห้ยยย ตอบดิว่ะ”
พี่ไนท์รัวเคาะประตูโอ้ยย น่ารำคาญญญญญญญ
เสียงเงียบไปสักพัก ก่อนจะตามด้วยเสียงไขกุญแจเข้ามา “จ๊ะจ๋าอยู่ไหน”
“....” แค่ได้ยินเสียงน้ำก็คงจะรู้แล้วมั้งว่าอยู่ในห้องน้ำ เพราะคิดแบบนั้นเลยไม่ตอบอะไรแล้วล้างผมต่อ
“ยัยจ๊ะจ๋า!!!” จู่ๆประตูบานหน้าห้องน้ำถูกกระชากออก ก่อนเสียงฝีเท้าจะย่างสามขุมมารูดผ้าม่าน
“เหี้ยยยย!!!” สะดุ้งจนตัวโยนพอเห็นว่าพี่ไนท์เปิดม่านเข้ามาแล้วค้างเติ่ง “ไอ้โรคจิต”
ไวกว่าสมอง มือกำหมัดพร้อมเสยเข้าใต้คางน็อคกลางอากาศทันใด
รีบเอื้อมมือหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันไว้แน่นหนา ไม่ลืมหยิบชุดคลุมอาบน้ำมาใส่ไว้อีกชั้น
ดีที่ไม่มีแม่บ้านเข้ามาพลุกพล่านในตอนกลางคืน ฉันเลยรีบจัดการกับตัวเองแล้วเข้าไปลาก
เน้นว่าลากพี่ไนท์มากับพื้น ดีที่เพิ่งเก็บกวาดห้องไปไม่อย่างนั้นหน้าของพี่ไนท์คงมีแต่ฝุ่นแน่ๆ
“เข้ามาทำบ้าอะไรเนี่ย” เดินจ้ำๆลงไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กกับน้ำแข็งในตู้เย็นมาเพราะคิดว่าอีกไม่นาน สิ่งที่ทำไปเมื่อกี้ต้องส่งผลให้คางระบมแน่ๆ
“ยัยจ๊ะจ๋า!!!” จู่ๆคนที่หลับตานอนบนเตียงก็ดึงฉันถลาเข้าแนบอกกำยำ
กอดรัดไว้แน่นราวกัยว่าฉันสามารถหนีไปไหนได้
โบราณเขาว่าไว้ว่าตีงูมันต้องตีตายไม่อย่างนั้นมันจะกลับมาทำร้ายเรา มันคงจะจริงสินะ
--------------------------------
เข้ามาในห้องน้องก็อย่าเปิดนั่นเปิดนี่สิค่ะ
เดี๋ยวจะโดนดีนะเอ้อ!!