EP 09
แหลก Loading…50%
Disuke’s Part :
“ฉันเหลือเวลากี่นาที” ผมถามอย่างไม่ยี่หระเมื่อไอ้คิราวะเรียกผมเสียงดังเหมือนกลัวว่าผมจะฆ่าไอ้ยามาดะ ซึ่งผมไม่รับรองอะไรทั้งนั้น ตอนนี้ยังไม่ฆ่า แต่ไม่ปฏิเสธว่ากำลังคิดจะทำ
“สองนาที”
พอถมเถไป!
“ตอบคำถามฉัน” ผมพูดกับคนตรงหน้าที่มันเองก็ไม่ได้มีแววตาของความหวั่นเกรงผมเลยสักนิดเหมือนกัน
ปัง!
“ไอ้...”
“มือลั่นน่ะ” ผมพูดกับไอ้คิราวะที่คงกำลังหัวเสียกับผมพอสมควร ก่อนจะช้อนตามองไอ้ยามาดะที่ตอนนี้กำลังข่มอารมณ์เจ็บปวดเพราะผมเพิ่งทำปืนลั่นใส่ขามันเมื่อครู่
“ระหว่างที่นามิอยู่กับแก...”
“หึ!” ยังไม่ทันที่ผมจะถามจบ ไอ้ยามาดะก็กระตุกยิ้มมุมปากแล้วทำเสียงน่ารำคาญออกมา ซึ่งถ้ามันยังไม่เลิกกวนตีน เดี๋ยวผมคงได้มือลั่นอีกรอบ
“อยากรู้เหรอว่ายัยนั่นนอนกับฉันกี่ครั้ง”
ปัง!
“สามสิบวินาที” ไอ้คิราวะรีบส่งเสียงเตือนเมื่อรู้สึกได้ถึงสัญญาณอันตรายหลังจากที่ผมทำปืนลั่นใส่ขาอีกข้างหนึ่งของไอ้ยามาดะไปเรียบร้อย
น่าแปลกที่มันกลัวผมฆ่าไอ้ยามาดะ ทั้งที่เจ้าตัวดูเหมือนจะไม่ได้กลัวตายเลยสักนิด
ผมกำคอเสื้อไอ้ยามาดะแน่นขึ้นเรื่อยๆ มันคงรู้ว่าผมกำลังพยายามข่มอารมณ์อยู่ เพราะตอนนี้มือของผมสั่นจนจะห้ามไม่อยู่แล้ว
กึก!
ผมกดปลายกระบอกปืนในมือลงที่กลางหน้าผากของไอ้ยามาดะอีกครั้งจนมันต้องนิ่วหน้า แม้ว่ามือทั้งสองข้างของมันจะเป็นอิสระ แต่มันไม่มีทางกล้าใช้มือสกปรกๆ ของมันแตะต้องตัวของผมแน่ ลำพังแค่ป้องกันตัวเองตอนนี้คนอย่างมันก็ไม่มีสิทธิ์
ฟู่~
หลังจากจ้องมองหน้าของไอ้ยามาดะสักพัก ผมก็เหวี่ยงมันออกแรงๆ ก่อนจะถอยหลังออกมา
ผมคิดว่าผมได้คำตอบแล้ว ไม่สิ ผมคิดว่าคำตอบนั้นไม่จำเป็นสำหรับผมแล้วต่างหาก ผมไม่น่าเสียเวลามาที่นี่เลย
“อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยให้แกทำสำเร็จไอ้ยามาดะ คนอย่างแก แค่ทำให้นามิเปลื้องผ้าต่อหน้าได้ ฉันก็นับถือแล้ว” ผมบอกอย่างมั่นใจ
ปัง!
พูดจบผมก็ยิงเข้าที่ไหล่ด้านขวาของไอ้ยามาดะอีกหนึ่งนัด ก่อนจะหันกลับมามองไอ้คิราวะที่ช้อนตามองผมเหมือนไม่พอใจที่ผมยืมคำพูดที่ครั้งหนึ่งมันเคยพูดกับผมเรื่องริโกะแบบนี้มาก่อน
ยืมนิดยืมหน่อยทำเป็นไม่พอใจ เหอะ!
“หมดเวลาพอดี”
“ไม่ได้ฆ่า แต่ถ้ามันตายเพราะใจเสาะทนพิษบาดแผลไม่ไหวก็ช่วยไม่ได้” ผมบอกก่อนจะเก็บปืนไว้ทางด้านหลังแล้วเดินกลับออกมา ได้ยินเสียงไอ้คิราวะถอนหายใจนิดหน่อยแล้วถึงได้เดินตามหลังผมออกมาเงียบๆ
ผมรู้ว่าไอ้โอยามะมันไม่ปล่อยให้ไอ้ยามาดะตายง่ายๆ หรอก ต่อให้ผมจะยิงมันอีกสองสามนัดก็อาจจะแค่พิการ เพราะที่นี่มีหมอฝีมือดีที่สุดในมารุคอยดูแล ไม่ว่าจะใครที่ถูกจับมาที่นี่ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ตายก็ตายไม่ได้ทั้งนั้น
ติ๊ง!
บ้าชะมัด ผมเสียเวลามาที่นี่ทำไมวะ!
“ขอถามอะไรหน่อย” อยู่ๆ ไอ้คิราวะก็พูดออกมาระหว่างที่เราอยู่ในลิฟต์
ผมชำเลืองหางตามองมันนิดหน่อย ไม่ได้พูดอะไรเพราะกำลังรอฟังคำถาม ตอนนี้ต่อให้ผมจะบอกมันว่าผมไม่อยากพูดกับมันก็คงห้ามไม่ให้มันพูดไม่ได้อยู่ดี
“คิดว่าคุณนามิกับยามาดะมีความสัมพันธ์กันจริงรึเปล่า”
คำถามของไอ้คิราวะทำให้ผมถอนหายใจอย่างนึกอารมณ์เสีย เพราะเหตุผลนี้ผมถึงมาที่นี่ นั่นทำให้ผมกำลังถามตัวเองอยู่นี่ไงล่ะว่าผมเสียเวลามาทำไมทั้งที่ผมน่าจะรู้ดีว่าคำตอบคืออะไร
ทั้งที่ควรจะมั่นใจแต่สารภาพตรงๆ ว่ามันก็มีแวบหนึ่งที่ลังเล ซึ่งตอนนี้ผมไม่คิดแบบนั้นแล้ว ผมคิดว่าคำตอบที่ผมมั่นใจตั้งแต่แรกมันถูกที่สุดแล้ว คนอย่างไอ้ยามาดะมันไม่มีทางได้แตะต้องนามิหรอก ยัยนั่นมันเสือที่มีแต่ผมที่ปราบได้
“ตอนที่แกเห็นฉันเดินออกมาจากห้องของริโกะแกคิดว่าไงล่ะ” ผมแสร้งย้อนถาม
“คิดว่าริโกะไม่มีทางเลือก”
“เหอะ งั้นนามิก็คงไม่มีทางเลือกเหมือนกัน” ผมตอบอย่างมั่นใจ ทั้งที่ไม่ได้รู้สึกมั่นใจเลยสักนิดว่าแท้จริงแล้วที่นามิไปกับไอ้ยามาดะเป็นเพราะเธอไม่มีทางเลือกจริงรึเปล่า หรือเธอแค่เลือกใครก็ได้...ที่ไม่ใช่ผม
“ไม่เหมือนหรอก” ไอ้คิราวะแย้งขึ้นมาอย่างนั้น น้ำเสียงมั่นใจของมันทำให้ผมต้องจ้องมองเงาสะท้อนของมันบนประตูลิฟต์เต็มๆ ตา
“ถึงตอนนั้นฉันจะคิดว่าริโกะไม่มีทางเลือก แต่ลึกๆ แล้วฉันรู้ว่าเธอมี และเธอรู้ว่าเธอมี”
อะไรของมันวะ
“ทางเลือกที่ริโกะมีเสมอคือฉัน”
ติ๊ง!
ไอ้คิราวะพูดจบพร้อมกันกับที่ลิฟต์พาเรากลับขึ้นมาถึงชั้นบนพอดี
ประตูลิฟต์เคลื่อนตัวออกจากกันช้าๆ แต่ทั้งผมและไอ้คิราวะกลับยังไม่มีใครก้าวเท้าออกไปจากลิฟต์เลยสักคน
“ทำไมแกไม่ลองทำให้ตัวเองเป็นทางเลือกเดียวที่เธอมีล่ะ”
ให้ผมเป็นทางเลือกเดียวที่เธอมีงั้นเหรอ แล้วที่ผ่านมา...
Rrrr~
เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นมาแทรกความคิดของตัวเองที่กำลังคิดตามคำพูดของคนอย่างไอ้คิราวะ มันมองหน้าผมนิดหน่อย กระตุกยิ้มมุมปากนิดๆ ก่อนจะเดินออกไปเหมือนหมดเรื่องจะพูดกับผมแล้ว ในขณะที่ผมเองก็ต้องหยุดคิดทุกอย่างชั่วคราวแล้วกดรับโทรศัพท์จากคิเรย์
ลางสังหรณ์บอกว่าไม่น่าเป็นเรื่องดีเท่าไหร่ ซึ่งไม่รู้ว่าผมคิดมากไปเองรึเปล่า หรือไม่ก็คงเป็นเพราะช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยเจอเรื่องดีๆ เท่าไหร่อยู่แล้วก็ไม่รู้
“มีอะไร”
[ผมได้ยินเสียงคุณนามิอาเจียนไม่หยุดเลยครับคุณไดสึเกะ แต่เธอล็อกประตูห้องน้ำเอาไว้ คุณไดสึเกะจะให้ผม...]
“พังเข้าไปเลย ฉันจะถึงภายในสิบนาที” ผมบอกพร้อมกับสองเท้าที่ออกวิ่งในทันที เสียงฝีเท้าของผมทำให้ไอ้คิราวะที่เดินออกไปจากลิฟต์ได้ไม่ไกลต้องหันมามอง แต่ผมไม่มีเวลาจะมองหน้ามันหรอก
“กลับแบล็กซิโนในสิบนาที”
บรื้นนน~~~