คฤหาสน์หลังใหญ่กับคุณชายมาเฟีย
ปริ๊น! ปริ๊น! ปรี้นนนนนนนนนน!
พี่แจสเปอร์กดแตรรถยนต์รัวๆ หลังจากเค้าขับรถยนต์พาฉันมาจอดอยู่หน้าคฤหาสน์สีขาวหลังหนึ่ง ที่ฉันเรียกว่าคฤหาสน์ก็เพราะบ้านตรงหน้าของพวกเราหลังใหญ่โตโอ่อ่ากว่าบ้านธรรมดาในหมู่บ้านแห่งนี้ สนนราคาคาดเดาตามความคิดของฉันน่าจะเกินสามสิบล้านบาท มองจากในห้องโดยสารรถยนต์ออกไปประตูหน้าคฤหาสน์ห่างจากตัวบ้านเกือบร้อยเมตร สนามหญ้าสีเขียวกว้างใหญ่ พื้นที่โดยรอบกว้างขวางห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ซึ่งเป็นไม้ประดับตกแต่งอย่างสวยงามลงตัว
“มาหาใครครับคุณ ทำไมต้องบีบแตรเสียงดังขนาดนี้”
เสียงพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ประจำอยู่ป้อมบริเวณหน้าประตูเดินหน้าบึ้งออกมาดู เขาเป็นผู้ชายรูปร่างผอมสูงหน้าตาบ่งบอกว่าอายุน่าจะเลยห้าสิบปีขึ้นไป
“เปิดประตู”
พี่แจสเปอร์ลดกระจกแล้วยื่นหน้าออกไปพูดกับคุณลุงพนักงานรักษาความปลอดภัย ฉันเห็นสีหน้าของคุณลุงตกใจเมื่อรู้ว่าพี่แจสเปอร์เป็นใคร
“คุณแจสเปอร์!”
คุณลุงหน้าเหวอขั้นสุด เขายื่นนิ่งเป็นใบ้กินเหมือนคนที่ช็อกจนทำอะไรไม่ถูก
“จะเปิดประตูได้เหรอยัง หรือว่าต้องให้ฉันลงไปเปิดเอง”
พี่แจสเปอร์ถอดแว่นตากันแดดออก ก่อนจะพยักหน้าให้กับคุณลุงคนนั้น
“ครับๆๆ รอสักครู่นะครับคุณแจสเปอร์ ผมจะไปเปิดให้เดี๋ยวนี้แหละครับขออภัยด้วยนะครับ”
คุณลุงก้มหน้าค้อมตัวให้อย่างนอบน้อมท่าทางเหมือนเขาจะกลัวพี่แจสเปอร์มาก นั่นยิ่งเพิ่มความงงให้ฉันไปกันใหญ่ ทั้งคฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับวังตรงหน้ารวมไปถึงท่าทางที่คุณลุงปฏิบัติต่อพี่แจสเปอร์ พอคุณลุงพนักงานรักษาความปลอดภัยเดินเข้าป้อมไปพี่แจสเปอร์ก็เลื่อนกระจกรถยนต์ขึ้น เค้าทำหน้านิ่งๆ ดุๆ เหมือนที่ปกติชอบทำเป็นประจำ
“พี่แจสเปอร์คะบ้านหลังนี้”
“ฉันเคยอยู่ที่นี่” เค้าพูดกับฉันสั้นๆ จังหวะนั้นเองประตูบานใหญ่เบื้องหน้าของพวกเราก็ค่อยๆ เลื่อนเปิดออกช้าๆ
“คฤหาสน์หลังนี้สวยมากเลยนะคะ”
ฉันพูดตามที่คิดเมื่อรถยนต์เคลื่อนตัวไปด้านหน้าผ่านเข้าประตูไปภายในคฤหาสน์ ด้านหน้าคฤหาสน์ปลายสุดของสนามหญ้าสีเขียวมีน้ำพุขนาดใหญ่สามชั้นลดหลั่นกันลงมา และรูปปั้นม้าสีขาวขนาดเท่าม้าจริงสี่ตัวพวกมันยืนด้วยสองขาหลังทำท่าเหมือนจะกระโจนทะยานไปข้างหน้า โรงจอดรถขนาดใหญ่อยู่ทางซ้ายมือซึ่งมีรถยนต์หรูจอดอยู่ภายในโรงจอดรถห้าถึงหกคัน
“ใช่มันสวย แต่ไม่น่าอยู่เลยสักนิด”
“เอ๋ ทำไมละคะ”
ฉันถามออกไปประสาซื่อสำหรับที่ประเทศของฉันหากมีบ้านหลังใหญ่โตขนาดนี้ เจ้าของบ้านจะต้องมีเงินทองมากมายระดับมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของประเทศทีเดียว แล้วทำไมพี่แจสเปอร์ถึงได้เลือกที่จะไปอยู่ห้องพักที่คอนโดล่ะ ในเมื่อเค้ามีคฤหาสน์หลังใหญ่โตแบบนี้ หรือว่าจะเป็นเรื่องความขัดแย้งในครอบครัวระหว่างพี่แจสเปอร์กับพี่เจไดที่ครั้งหนึ่งวาวาเคยเล่าให้ฉันฟัง
พี่แจสเปอร์หันมามองฉันแวบหนึ่งท่าทางเค้าเปลี่ยนเป็นเข้มขรึมมาก มากจนฉันรู้สึกว่าอาจถามอะไรโง่ๆ ออกไป บางทีคฤหาสน์หลังนี้อาจจะเป็นของพี่เจได พอพ่อของพี่แจสเปอร์เสียชีวิตเค้าเลยออกไปพักอยู่คอนโดเหมือนที่ฉันรู้มา
“มินนี่ขอโทษนะคะที่ถามซอกแซกออกไป”
“ช่างมันเถอะ อีกเดี๋ยวเธอก็รู้คำตอบเอง”
พอรถยนต์จอดสนิทอยู่หน้าบันไดหินอ่อน ฉันก็เห็นคนในบ้านเดินออกมา ผู้หญิงวัยเลยกลางคนไปเล็กน้อยแต่งกายภูมิฐานอยู่ตรงกลางมีหญิงสาวสองคนคาดว่าน่าจะเป็นเด็กในบ้านขนาบซ้ายขวา คนพวกนั้นมองมาที่ฉันและพี่แจสเปอร์ตาเขม็ง
พี่แจสเปอร์เปิดประตูรถลงไปก่อน ฉันเลยรีบตามลงไปติดๆ
“มาทำไมไม่ทราบ ที่นี่ไม่ต้อนรับเธอ”
ผู้หญิงซึ่งน่าจะเป็นเจ้านายเอ่ยขึ้นก่อน เธอหน้าตาสะสวยสมวัยแต่งเนื้อแต่งตัวเหมือนพวกคุณหญิงคุณนายในซีรีย์เกาหลีที่ฉันเคยดู ลักษณะท่าทางของคนในบ้านหลังนี้ดูไม่เป็นมิตรเลยสักนิดเดียว จนฉันสัมผัสได้ถึงความขัดแย้งที่กำลังก่อตัวปะทุขึ้น
“เหอะ!”
พี่แจสเปอร์ส่ายหน้าอมยิ้มกวนๆ ส่งกลับไป
“ฉันเพิ่งจะรู้ว่าคนอาศัยมีสิทธิ์ไม่ต้อนรับเจ้าของบ้านได้ด้วย”
“แจสเปอร์! เธอต้องการอะไร”