ตอนที่-6-
ความรู้สึกไม่ชอบใจ
"แม่ค่ะ"
((ว่ายังไงลูก))
"หนูกับคุณอาโจอาร์เคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าคะ"ญาลินดาทนสงสัยต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ตัดสินใจโทรถามแม่ของตนที่อยู่ไกลอีกซีกโลก เธอรู้สึกว่าคำว่าดาหลาที่อยู่บนผ้าพันเท้าเป็นอะไรที่รบกวนจิตใจของเธอมาก
((สงสัยจะจำไม่ได้ ตอนเด็กๆ คุณอาโจอาร์มาที่บ้านเราบ่อยๆ หนูลินดายังตามคุณอาเหมือนลูกไก่เดินตามแม่อยู่เลย))ลูกไก่เดินตามแม่หมายความว่ายังไง เด็กสาวรู้สึกงุนงงกับคำที่แม่ของตนพูด
((หนูดาแม่วางก่อนนะลูก น้องร้องเดี๋ยวแม่ดูน้องก่อน))
เอาจริงๆ เธอเองก็ยังไม่รู้เรื่องเท่าไรแต่จะให้ทำยังก็ในเมื่อแม่ของเธอวางสายไปซะแล้ว คุณอาก็ดันไม่อยู่ให้ถามด้วย แล้วอีกอย่างนะ เพื่อนคุณพ่อคุณแม่มีเยอะจะตายแล้วเธอจะไปรู้ได้ยังไงว่าคนไหน ตอนเด็กๆ แล้วเด็กเท่าไรกันล่ะ
.
.
ผ่านไปหลายวัน
วันนี้ญาลินดาไปเรียนตามปกติอาการที่ขาก็หายดีแล้ว ตั้งแต่วันนั้นโจอาร์ก็ไม่กลับมาที่คอนโดอีกเลย เด็กสาวได้แต่ว้าเหว่ใจ เธอไม่ชอบเลยสักนิดกับอาการของตัวเอง เหมือนเป็นเด็กใจแตกที่พอเจอเรื่องแบบนี้แล้วต้องการที่จะสัมผัสมันอีก แต่ตอนนี้เธอกลับไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้น
หากให้คิดเรื่องนี้หนูลินดาเองก็อายจะแย่ แค่ห่วงว่าคุณอาโจอาร์ของเธอจะอยู่ยังไงจะได้ทานอะไรไหม จะให้โทรหาก็ไม่มีเบอร์โทรศัพท์จะขอที่คุณแม่ก็กลัวว่าท่านจะสงสัย ทำไมเกิดเรื่องนี้ขึ้นเราต้องคิดซับซ้อน
"หนูดาเป็นอะไรอะ"
"เป็นอะไรหรอ"ญาลินดาถามเพื่อนสนิทของเธอด้วยความไม่เข้าใจ
"ก็บุ้งเห็นว่าหนูดานั่งเหม่ออะ"
"เปล่าแค่คิดว่าจะสั่งอะไรดี"เด็กสาวทำทีแกล้งเป็นหยิบเมนูขึ้นมาดูเพื่อไม่ให้เพื่อนของเธอสงสัยอะไรมากไปกว่านี้
ผักบุ้งเองก็ไม่เข้าใจเพื่อนตัวเองว่าเป็นอะไรหลังจากที่ไปวิ่งเพื่อนเธอก็ดูเงียบกว่าปกติ พอถามก็บอกว่าสงสัยจะยังไม่หายไม่สบาย
"นั่งด้วยคนได้ไหมครับ"เสียงของผู้มาใหม่ทำญาลินดาและผักบุ้งต้องหันหน้าไปมองเห็นว่าเป็นรุ่นพี่ที่คณะกำลังยืนส่งยิ้มมาให้
"พี่โอมเชิญค่ะ"จะปฏิเสธก็กลัวว่าจะเสียมารยาท ก็ได้แต่ส่งยิ้มตอบกลับ
"พี่โดนเพื่อนทิ้งน่ะครับ น้องดากับน้องผักบุ้งคงไม่รังเกียจใช่ไหมครับหากพี่จะขอนั่งด้วย"
"ไม่เลยค่ะ เราสองคนยินดี"ผักบุ้งผู้สงสารทุกคนพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ผิดกับญาลินดาที่รู้ดีว่ารุ่นพี่คนนี้ต้องการจะจีบเธอ พี่เขาก็ไม่ได้แย่อะไร นิสัยดีมากซะด้วยซ้ำแต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงไม่มีความรู้สึกในเชิงชู้สาวกับพี่เขาเลยนะ เธอไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษกับใครจนกระทั่งเหตุการณ์วันนั้น หรือที่คุณอาไม่อยากเข้าใกล้เธอเพราะ เพราะอะไรนี่เธอยังไม่เข้าใจ
"หนูดา เลือกได้ยังว่าจะกินอะไร"
"อ๋อ เอาอันนี้แล้วกัน"ญาลินดาชี้นิ้วไปมั่วๆ เด็กสาวไม่ได้รู้สึกหิวแค่ไม่อยากกลับบ้านไปอยู่คนเดียว นี่เธอเป็นอะไรกันแน่
"หนูดา ไม่ชอบกินไม่ใช่หรอ"ผักบุ้งมองรูปที่เพื่อนของตนชี้ในเมนูแล้วต้องรีบเอ่ยถามเพราะรู้ดีว่าเพื่อนของเธอไม่ชอบหอยประเภทนี้เท่าไร
"เออ ใช่ๆ ชี้ผิด เอาอันนี้ก็ได้"ญาลินดายิ้มแห้งๆ ให้เพื่อนของตนที่มองเหมือนจับผิด
"ทานเหมือนพี่เลยนะครับ"
"หรอคะ"เด็กสาวหันไปยิ้มให้รุ่นพี่ของเธอ แต่สายตาก็แอบเห็นเพื่อนรักที่มองราวกับว่าเป็นนักสืบก็ไม่ปาน
ญาลินดาจิบน้ำแก้อาการประหม่าของตัวเอง เมื่อเพื่อนของเธอมองจ้องอย่างไม่วางตาทำให้ต้องแสร้งหันไปมองทางอื่นเพื่อกลบเกลื่อน
แต่เพราะเป็นแบบนี้ถึงไปสะดุดเข้ากับร่างคุ้นตาที่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนนอยู่ในร้านอาหารโดยมีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้กำลังแอบอิงคลอเคลียกันอยู่นี่สินะ เพราะเธอไม่เซ็กซี่ขยี้ใจเหมือนแม่สาวเจ้าคนนั้นนะสิ ชิ เด็กสาวนึกหมั่นไส้ ที่ทิ้งเธอไว้กับพยาบาลก็เพราะจะไปอยู่กับเมียนี่เอง แล้วเราจะมาห่วงเขาทำไม
"บุ้งได้ยังอะหิวแล้ว"
"อะไรเมื่อกี้ ยังทำเหมือนไม่อยากกินอยู่เลย"
"ก็ตอนนี้หิวแล้วอะ" ไม่มีอะไรมาขัดขวางความอยากกินไปได้ ญาลินดาคิดฟุ้งซ่านมาหลายวัน การใช้พื้นที่ในสมองเปลืองเกินไปมันทำให้น้ำหนักลด ไม่น่าเอามาใส่ใจเลยแท้ๆ หุ่นเราไม่ล่อตาล่อใจสู้แม่สาวทรงโตนั้นไม่ได้ว่าแล้วว่าทำไมคุณอาถึงได้นิ่งจังไม่สนแล้วชิ
.
.
เวลาต่อมา
"โห เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้น้องดาทานเก่งเหมือนกันนะครับ"
"นิดหน่อยเองค่ะ"ญาลินดายิ้มบางๆ ส่งไปให้รุ่นพี่ของเธอ ชายหนุ่มมองจานอาหารที่อยู่บนโต๊ะแล้วก็บอกกับตัวเองไม่นิดนะ
"นี่ครับ"
"ไม่ต้องค่ะ"เด็กสาวรีบร้องห้ามเพราะรุ่นพี่ของเธอทำเหมือนว่าจะจ่ายแทน ผักบุ้งนั่งนิ่งอยากเลี้ยงก็ดีเพราะจะได้สบายกระเป๋า
"พี่เลี้ยง เพราะอยากเลี้ยงอย่าคิดอะไรมากเลยครับ พี่มีอย่างอื่นที่ต้องทำไปก่อนนะครับ"ทันทีที่พูดจบรุ่นพี่ที่คณะของเธอก็ลุกขึ้นเดินตามพนักงานที่ตนเรียกมาคิดเงินไป
"พี่โอมก็ดีนะ"
"อะไรคือก็ดี"ญาลินดาหันหน้าไปถามเพื่อนรักของเธอ ไม่เข้าใจสิ่งที่เพื่อนพูด
"สายเปย์ดี ถ้าเป็นฉันนะ ชอบไปนานละ"ผักบุ้งแกล้งแย่เพื่อนเธอเล่น
"เอาไปดิ"ญาลินดาขำกับท่าทางที่เพื่อนรักทำ เธอเองก็ไม่เคยเห็นเพื่อนจะคบใคร เห็นมีก็แต่เรื่องกินนี่ละถึงไปกับเธอรอด บางคนเอาไปพูดกันว่าเราเป็นเลสเบี้ยน แอบชอบกันเองคิดไปได้
"ไม่เอาอะ กลับบ้านดีกว่า"ผักบุ้งเดินตรงไปที่รถ ตามมาด้วยญาลินดาที่เดินตามแต่สายตาของเธอดันเหลือบไปมองร้านฝั่งตรงข้ามอย่างลืมตัวสบสายตากับโจอาร์ที่มองมาทางเธอเช่นกัน ชายหนุ่มมองนิ่งๆ ผิดกับญาลินดาที่เบะปากหน้าเชิดไม่สนใจมารยาทที่ควรจะมีต่อผู้ใหญ่ เด็กสาวเดินตามเพื่อนรักไปที่รถขับตรงกลับคอนโดของเธอ
.
.
ทางด้านของโจอาร์
"อะไรคะ"
"......."เขาไม่ได้พูดอะไรเดินออกไปทำให้แม่สาวเจ้าทรงโตงุนงงแต่ตาวาวเมื่อได้เห็นจำนวนเงินที่วางอยู่ตรงหน้า
โจอาร์ร้อนใจถึงขั้นโมโหที่เห็นมีชายหนุ่มอยู่กับญาลินดาความจริงแค่มาทานข้าวเพื่อคิดว่าใกล้ที่เรียนของอีกคนอาจจะทำให้ได้เห็นบ้าง แต่ไม่คิดว่าคู่ขาเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานมากจะบังเอิญมาเจอที่นี่ แต่ยิ่งไปกว่านั้นตรงข้ามกับร้านที่ตนนั่งมีเด็กสาวที่ตนอยากจะเจอนั่งอยู่ก่อนแล้วแถมมีผู้ชายนั่งข้างๆ ดูท่าจะสนิทกันดีทำให้หนุ่มใหญ่วัยทำงานไม่ชอบใจ แต่ตนจะเข้าไปยุ่งในฐานะอะไรคุณอาที่เป็นห่วงหลานสาวอย่างนั้นหรือชายหนุ่มขบคิดก่อนที่เสียงโทรจะดังขึ้น
"อืม ไม่หรอกหนูดาดูแลพี่ดี .......เดี๋ยวพี่ไป"โจอาร์เก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋าเหมือนเดิม พอชายหนุ่มเดินออกมาถึงที่รถที่ลูกน้องตนนั่งรออยู่ก่อนแล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เป็นมาติกาแม่ของญาลินดาที่โทรมาหา โจอาร์รู้สึกใจหายที่ได้ยินคนในสายพูดแบบนั้น ชายหนุ่มนิ่งไปพักนิ่งแต่ก็กลับมาพูดปกติได้ในภายหลัง แต่ทว่าในใจกลับร้อนใจถึงขนาดว่าทนเก็บเอาไว้ไม่ไหว
"ไปคอนโดหนูดา"
"ครับ"เอเดนออกรถไปตามทางที่เจ้านายตนเป็นคนสั่ง มองผ่านกระจกมองหลังดูก็รู้ว่าเจ้านายตนคงจะมีเรื่องร้อนใจ ถึงไม่มีอาการออกมาให้เห็นแต่สายตามันบอกแบบนั้น ด้วยว่าตนทำงานอยู่กับโจอาร์มานาน หากคนทั่วไปมองคงจะคิดว่าก็ดูปกติแต่ไม่ใช่กับเอเดน
.
.
"ถ้าเป็นบุ้งนะจะแกล้งอ่อยให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย"
"ฮะ! "
"กลับบ้านก่อนนะได้เวลานัด"ญาลินดามองเพื่อนสาวของเธอที่รีบร้อนเหลือเกินอะไรมันสำคัญไปกว่าเรา เอานี่ยังไม่ได้อะไรไปซะละ
"เราก็อาบน้ำดีกว่า"เด็กสาวเดินตรงเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย เรื่องนี้ผักบุ้งเพื่อนเธอรู้หมดแล้วไม่ได้อยากจะบอกแต่โดนเซ้าซี้ไม่เลิกหนักสุดก็พูดเชิงตัดพ้อ ชอบใช้มุกนี้ตลอด
ญาลินดาก็เลยเล่าให้ฟังหมดทุกอย่างเพื่อนเธอก็ฟังอย่างใจจดใจจ่อ แล้วก็ให้คำแนะนำมาแบบนี้บ้าหรือไงใครจะไปกล้าทำ เมื่อกลับมาถึงเด็กสาวรีบโทรบอกแม่ของเธอเพื่อวานให้โทรบอกโจอาร์ให้มาเอาของ โดยแกล้งบอกว่าจะจัดห้องใหม่ ความจริงเห็นแล้วมันรกหูรกตาพาให้หงุดหงิด ญาลินดาคิดว่าตนเป็นเอามากเจอคุณอาแค่ไม่กี่วัน แต่เธอเป็นได้ถึงขนาดนี้เพราะอะไรกันนะ แค่จูบหรือเพราะเธอไม่เคยเจออะไรที่วาบหวามแบบนี้พอมาเจอเลยทำให้รู้สึกแปลกๆ
ติ๊งต่อง
เสียงกริ่งหน้าห้องทำให้ญาลินดาที่กำลังทาครีมอยู่รีบเดินไปดู โดยที่เด็กสาวมีเพียงแค่ชุดนอนตัวบาง
"คุณอาโจอาร์"เธอมองลอดช่องตาแมวเห็นเป็นเพื่อนแม่กำลังยืนอยู่หน้าห้องก็ได้แต่ทำหน้าบึ้ง พอบอกให้มาเอาของนี่รีบเลยนะ อาโจ อยากไปมากก็ไม่บอก
"ไม่ต้องกดแล้วค่ะ ของอยู่ตรงโซฟาเดินไปเอาสิคะ"ทันทีที่เด็กสาวเปิดประตูก็รีบห้ามพร้อมทั้งชี้ไปที่ที่ตนวางกระเป๋าเอาไว้ด้วยหน้าตาที่ปั้นปึ่ง จนโจอาร์สังเกตได้ชายหนุ่มชะงักมองชุดนอนตัวบางที่เด็กสาวใส่ปิดบังกายที่แทบจะปิดส่วนเว้าส่วนโค้งไม่มิด แต่เขาก็ยังคงทำท่าทางเรียบเฉยอย่างที่เคยทำ จนญาลินดาไม่ชอบใจที่คุณอาเป็นแบบนี้โดยที่เด็กสาวลืมไปเลยว่าตนมีแค่เพียงชุดนอนคลุมกายเท่านั้น โจอาร์ต้องพยายามข่มใจตัวเองไม่มองชุดที่หนูดาใส่ เดินตรงเข้ามาในห้อง โดยมีญาลินดาที่เดินตามมา
"เธอควรจะไปใส่เสื้อผ้าให้มิดชิดกว่านี้นะ"
"......"ญาลินดาก้มลงมองดูตัวเองตัวก็ได้แต่หน้าเห่อร้อน เธอลืมไปได้ยังไงว่าเธอมีแค่ชุดนอนตัวบางกับกางเกงขาสั้นเข้าชุดเพียงแค่นั้นแถมตัวเองก็ยังโนบาร์โนซับในอีกด้วย แต่คุณอาก็นิ่งเกินไป
'ถ้าเป็นบุ้งนะจะแกล้งอ่อยให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย'
คำพูดของเพื่อนรักลอยวนอยู่ในหัว หรือเราจะทำอย่างที่ผักบุ้งว่าดี
-----------------------
เอาแล้วหนูดาคิดอะไรแผลงๆ ขอโทษนะคะที่หายไปนาน