ช่อดอกไม้จากผู้ชายรูปหล่อ
[มินนี่ TALKS]
ป้ายรถเมล์หลังเลิกเรียน
ระหว่างที่ฉันนั่งรอรถเมล์เพื่อเดินทางกลับห้อง จู่ๆ ก็มีรถยนต์หรูขับมาจอดเทียบริมทางเท้า กระจกของรถยนต์เลื่อนลงมา แล้วเจ้าของรถหรูคันนั้นก็ยื่นหน้าออกมาทักทายฉัน
“น้องมินนี่ครับให้พี่ไปส่งนะครับ”
พี่เจไดนั่นเอง ฉันแปลกใจนิดๆ ที่เจอเขาเพราะหลังจากเรื่องในผับคืนนั้น พี่เจไดก็เหมือนหายเข้ากลับเมฆไปเลย
“ไม่เป็นไรค่ะมินนี่กลับเองได้ ขอบคุณมากนะคะ”
มันเป็นสิ่งที่ฉันควรปฏิเสธเมื่อรู้เรื่องราวในผับคืนนั้นอย่างกระจ่างแจ้ง แต่ฉันก็เชื่อนะว่าคงมีสาวๆ ในมหาลัยหลายคนแหละที่ยินยอมพร้อมใจให้กับหนุ่มรูปหล่อเดือนมหาลัยอย่างพี่เจได โดยที่เขาไม่ต้องเหนื่อยวางแผนอะไรร้ายๆ
“ขึ้นมาเถอะครับ พี่มีเรื่องอยากจะคุยด้วยนะครับ น้องมินนี่ มาสิครับพี่ขอร้อง”
พี่เจไดกวักมือเรียกฉัน ฉันพยายามมองเข้าไปในรถยนต์แล้วก็พบว่าพี่เจไดมาเพียงคนเดียว แต่ความตะขิดตะขวงใจกับเรื่องคราวก่อนมันทำฉันระมัดระวังตัวมากขึ้น พี่เจไดก็เหมือนเสือผู้หญิงทั่วไป เขามีข่าวกับสาวๆ หลายคน คบๆ เลิกๆ แต่ก็ไม่เคยขาดคนควงแถมหญิงสาวทุกคนก็ล้วนหน้าตาสะสวยน่ารักด้วยกันทุกคน
“ไม่ดีกว่าค่ะ มินนี่อยากกลับบ้าน”
“พี่ขอร้องนะครับ พี่จำเป็นต้องคุยกันน้องมินนี่จริงๆ”
เขายังตื้อฉันไม่หยุด จนคนอื่นๆ ที่ยืนรอรถอยู่หันมามองฉันเป็นตาเดียวกัน เท่านั้นยังไม่พอยังมีรถเมล์ที่จะเข้าจอดรับผู้โดยสารที่ป้ายบีบแตรไล่รถยนต์ของพี่เจไดอีก
“พี่เจไดขับรถออกไปเถอะค่ะมีรถจะเข้าจอดที่ป้าย ตอนนี้รถติดกันใหญ่แล้ว”
“พี่จะไม่ไปไหนทั้งนั้นครับ จนกว่าน้องมินนี่จะยอมขึ้นรถมากับพี่”
ดูเอาเหอะ เขาโยนความกดดันทั้งหมดมาลงที่ฉัน เสียงบีบแตรไล่ดังลั่นจากรถยนต์หลายคันที่จอดติดอยู่จนแถวยาวขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับคำสบถหยาบคายก็ดังตามมาอีกทำให้ฉันต้องเดินไปขึ้นรถยนต์ของเขา ก่อนจะเกิดเรื่องบานปลายไปใหญ่โต
“ขอบคุณนะครับที่น้องมินนี่ยอมขึ้นรถมากับพี่ นี่ครับดอกไม้แทนคำขอโทษจากพี่”
พี่เจไดเอื้อมไปหยิบช่อดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ยื่นให้ฉัน ฉันรับมันมาอย่างงงๆ ระหว่างที่เขาขับรถออกมาจากป้ายรถเมล์
“พี่เข้าใจว่าน้องมินนี่อาจจะเข้าใจผิดพี่อยู่เรื่องในผับคืนนั้น พี่ขอโทษจริงๆ นะครับที่เพื่อนนิสัยแย่ๆ ของพี่คิดเรื่องชั่วร้ายกับน้องมินนี่แบบนั้น พี่ไม่รู้มาก่อนเลยจริงๆ ว่าจะมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น”
พี่เจไดวางมือลงบนฝ่ามือของฉัน
“ถ้าเป็นเรื่องคืนนั้นละก็ มินนี่ไม่ได้คิดอะไรมากแล้วละค่ะอยากให้มันจบไปแค่นั้น”
ฉันค่อยๆ ชักมือออกช้าๆ
“น้องมินนี่รู้ไหมครับ พอรู้เรื่องแผนการชั่วๆ ของเพื่อนพี่ พี่ก็เลิกคบกับเพื่อนสองคนนั้นทันทีเลย เพื่อนเลวๆ แบบนั้นคบไปก็มีแต่จะทำให้พี่ดูแย่ไปด้วย พี่ทำใจอยู่นานกว่าจะกล้าออกมาขอโทษน้องมินนี่เพราะพี่กลัวว่าน้องมินนี่จะเข้าใจผิดว่ารู้เห็นเรื่องนั้นด้วย”
“ค่ะ อย่างที่บอกว่ามินนี่ไม่อยากจะนึกถึงมันอีก”
“ขอบคุณมากนะครับที่น้องมินนี่เข้าใจพี่”
พี่เจไดพูดเองเออเองคนเดียว ฉันยังไม่ได้บอกเขาสักคำว่าฉันเข้าใจเรื่องที่เขาโบ้ยความผิดไปให้เพื่อนของเขาสองคน แล้วตัวเขาเองก็กลายเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่คนเดียว บางทีการที่ฉันเลือกที่จะเก็บความลับบางอย่างเอาไว้มันอาจจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย เรื่องในคืนนั้นสอนบทเรียนให้ฉันได้หลายอย่าง
บางคนหน้าเนื้อใจเสือ บางคนดุอย่างกับเสือแต่ใจดี
ฉันก้มลงมองช่อดอกไม้ แต่ในหัวดันคิดถึงหน้าผู้ชายปากร้ายใจดีคนนั้น
“ดอกไม้สวยจังเลยนะคะ”
ฉันพูดออกมาลอยๆ ก็ดอกไม้มันสวยจริงๆ ถึงแม้นว่าฉันจะไม่ได้ชอบดอกกุหลาบสีขาวก็เหอะแต่พอมันมาอยู่ด้วยกันหลายดอกแล้วถูกจัดแต่งให้เข้าที่เข้าทางก็สวยมากทีเดียว
“พี่ดีใจนะครับที่น้องมินนี่ชอบ ดอกไม้ช่อนี้พี่สั่งจากร้านดอกไม้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเลยนะครับ เพื่อแสดงความจริงใจของพี่ หวังว่าจากนี้ไปเราสองคนจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้นะครับ”
เพื่อน… เพื่อนเขาคงไม่คิดจะมอมยาเพื่อนแล้วพาไปรุมโทรมหรอกมั้งคะพี่ ฉันคิดในใจแล้วส่งยิ้มกลับไปให้พี่เจได รูปหล่อ อ่อนโยน ปากหวาน ทำตัวแสนดีแบบนี้เองสินะ สาวๆ หลายคนก็เลยกลายเป็นเหยื่อให้เสือตัวนี้ขย้ำ
“ค่ะ”
ฉันตอบกลับไปห้วนๆ
“น้องมินนี่อยู่คอนโด… ใช่ไหมครับ”
“เอ๋ พี่รู้จักด้วยเหรอคะ”
“อ้อ พอดีเพื่อนน้องมินนี่ที่ชื่อวาวาเลยเล่าให้พี่ฟังน่ะครับพี่ก็เลยจำได้”
วาวา…
“อ่อ ค่ะ” ฉันเลือกที่จะไม่ซักถามอะไรเขาต่อ ระหว่างทางพี่เจไดก็ชวนฉันคุยมาตลอดทางจนกระทั่งมาถึงที่พัก
“ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง”
“ด้วยความยินดีครับน้องมินนี่”
ฉันเปิดประตูรถแล้วก้าวลงไป
“น้องมินนี่ครับ ลืมช่อดอกไม้”
พี่เจไดลดกระจกพร้อมกับยื่นช่อดอกไม้ออกมา
“ขอบคุณค่ะ ขับรถกลับดีดีนะคะ”
ฉันยืนมองจนรถยนต์ของพี่เจไดขับออกไป ช่อดอกไม้แทนคำขอโทษงั้นเหรอ?