"คารอน ฟื้นสิคารอน"
"คุณจะทิ้งผมไปแบบนี้ไม่ได้นะคารอน"
"ฟื้นสิ ถ้าไม่ฟื้นผมทิ้งคุณไว้ที่นี่จริงๆนะ"
ทิวาเริ่มทำCPRให้คารอนอีกครั้ง
แขนแกร่งยกขึ้นรวบตัวคนตัวเล็กกว่าลงมากอด
"ตาช้ำหมดแล้วร้องไห้ทำไม" ปากหยักเปล่งเสียงออกมาเนือยๆ
"ก็คุณไม่ตื่นสักทีหนิ"
"ขออยู่แบบนี้อีกสักพักนะ" คารอนที่ยังหลับตาอยู่พูดขึ้น
"อือ" ทิวาเงยหน้ามองเสี้ยวหน้าคมคนหลับนิ่ง
30นาทีผ่านไป...
"คุณไหวแน่นะ" ทิวาถามร่างสูงที่เดินข้างๆ
"อืม" คารอนตอบทิวาเสียงเรียบ
"แต่เลือดคุณ" ทิวาหยุดเดินดึงชายเสื้อร่างสูงให้หยุดตาม
"เดินต่อเถอะ" คารอนเลื่อนมือมากุมมือเล็กเอาไว้แล้วออกแรงดึงเบาๆคล้ายเป็นคำสั่งกลายๆว่าให้เดินตามมา
"อือ" ทิวามองเสื้อสูทของร่างสูงที่ย้อมไปด้วยเลือดอย่างกังวล มือบางกระชับมือหนาให้แน่นขึ้นดีหน่อยที่วันนี้เป็นคืนเดือนหงายเขาจึงไม่มีปัญหาในการเดินทางในป่ารกๆแบบนี้มากเท่าไหร่
ตาคมสีแดงเหลือบมองร่างเล็กข้างหลังเล็กน้อยแล้วหันกลับไปมองทางต่อ
"คุณนั่นบ้านคนใช่มั้ย" ทิวาชี้ไปที่บ้านสภาพโทรมขนาดเล็กบนเนินเขาเล็กๆ
"......." คารอนไม่ตอบ เขาเดินนำทิวาไปที่บ้านหลังนั้นช้าๆเพราะตอนนี้เรี่ยวแรงของเขานั้นช่างเหือดแห้งซะจริง ดีหน่อยที่ได้กินเลือดของคนพวกนั้นมาก่อนหน้านี้ไม่อย่างนั้นเขาได้คลุ้มคลั่งอาละวาดไล่จับคนตัวเล็กข้างๆกินไปแล้วแน่ๆ
"พวกนั้นจะไม่ตามเรามาใช่มั้ย" ทิวาถามขึ้นพร้อมกับ เหลียวมองไปข้างหลังอย่างหวาดระแวง
"ไม่รู้" คารอนพูดพร้อมกับผลักประตูไม้เก่าๆเข้าไปข้างใน
ตาคมมองสำรวจอย่างละเอียดเมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรเป็นอันตรายจึงโบกมือเรียกทิวาให้เดินตามเข้าไป
ร่างสูงนั่งลงบนพื้นไม้ผุเก่าแล้วหลับตาลงช้าๆ มือหนายกขึ้นมาแตะที่ปากแผลหวังจะใช้พลังดึงกระสุนเงินอาคมของพวกนักล่าแวมไพร์เหล่านั้นออกจากไหล่แต่เห็นทีคงจะยากเพราะตอนนี้พลังของเขานั้นแทบจะไม่เหลือเลยแม้แต่นิดเดียว
ถ้าตอนนี้ได้กินเลือดมนุษย์สักสิบคนเรี่ยวแรงเขาคงจะฟื้นตัวดีไม่น้อย......
ทิวานั่งดูคารอนอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอกพักหนึ่งก็กลับเข้ามาพร้อมกับมีดปลายแหลมและเตาถ่านสำหรับก่อไฟเล็กๆ
"โชคดีที่ข้างนอกมีไม้ขีดไฟ " ทิวาวางเตาถ่านลงแล้วเดินไปค้นตู้ไม้เก่าๆแถวมุมห้อง
"ปกติในหนังเวลาพระเอกกับนางเอกติดเกาะหรือหลงป่าด้วยกันฉากแบบนี้มันต้องมีเทียนซุกเอาไว้ในที่แบบนี้สิ" ทิวาพึมพำเบาๆ คารอนหัวเราะแห้งในลำคอให้กับความคิดเด็กน้อยของอีกฝ่าย
'นี่ใช่หนังที่ไหนกัน' คารอนคิดในใจเอือมๆ
"มองผมแบบนั้นกำลังคิดว่าผมเพ้อเจ้ออยู่ใช่มั้ย" ทิวายักคิ้วถามคารอน
"..."
"มันมีเทียนจริงๆแล้วกัน อ้ะ" ทิวาจุดเทียนยื่นไปให้คารอน คนตัวเล็กยกเตาถ่านเดินออกไปข้างนอกพักใหญ่ก็กลับเข้ามาพร้อมกับถ่านแดงในเตา
" ก่อไฟเป็นด้วยหรอ " คารอนถามอย่างแปลกใจ ลูกคุณหนูคุณชายอย่างทิวาดูยังไงก็ไม่น่าจะก่อไฟเป็น
"เป็นสิ นี่เป็นวิชาเอาตัวรอดชั้นสูงตอนเข้าค่ายลูกเสือเลยนะคุณ คุณไม่เคยเข้าค่ายหรอตอนเด็กๆ" ทิวาถอดเสื้อสูทตัวนอกออกให้คารอน
"ไม่เคย" คารอนตอบเสียงเรียบตั้งแต่จำความได้เขาก็ใช้ชีวิตอยู่แต่บ้านโรงเรียนไม่ก็บริษัท
" วัยเด็กมันต้องเข้าค่ายลูกเสือสิคุณไม่เข้าถือว่าเชยมากเลยนะ มีเล่นฐานไต่เชือกโหนลวดสะลิงข้ามน้ำตอนเย็นก็มีก่อไฟทำอาหารดึกๆก็ชุมนุมรอบกองไฟสนุกจะตายคุณ"
ทิวาพูดเสียงเจื้อยแจ้วด้วยท่าทางสนุกสนานจนร่างสูงอดจะยิ้มตามไม่ได้
'ดูท่าทางนายเล่าคงจะสนุกอย่างที่นายว่าจริงๆนั่นแหละ'
แคว๊กกกก!!
ทิวาใช้มีดถากกระโปรงยาวของตัวเองออกเป็นแถบยาวไปผึ่งไฟให้แห้งแล้วนำมีดปลายแหลมไปเผาไฟ
"เดี๋ยวผมจะผ่าเอากระสุนเงินพวกนี้ออกให้ ผมนั่งดูคุณทำท่าพิลึกๆแบบนี้อีกสักสิบปีนู้นแหละผมว่ามันถึงจะออก " คารอนเงยหน้าขึ้นมองทิวา
"เชื่อใจผมเถอะผมเป็นหมอ หมอไม่อยากเห็นคนตายต่อหน้าต่อตาแบบไม่ช่วยหรอกนะ อีกอย่างเดี๋ยวพี่สาวผมจะเป็นม้ายเอา"
ทิวายิ้มน้อยๆให้คารอนเหมือนเวลายิ้มให้คนไข้ตอนรอผ่าตัด มันเป็นรอยยิ้มที่ดูจริงใจอ่อนโยน เป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนมองรู้สึกสบายใจ
คารอนชะงักเล็กน้อยก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น 'ทำไมหัวใจของเขาถึง......เต้นแรงอีกแล้วนะเพราะอะไรกัน'
"ฉันไม่มีวันตาย"
"ผมรู้แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็ไม่แน่ ถ้าคุณยังไม่เอากระสุนพวกนี้ออกจากตัวคุณ อย่าดื้อหน่อยเลยคุณแวมไพร์ขี้เก๊กเจ็บจะตายอยู่แล้วก็ไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัว" ทิวาปลดกระดุมเสื้อคารอนออกแล้วจับคนตัวใหญ่นอนคว่ำหน้าลงบนฟูกเก่าๆ
"เจ็บหน่อยนะ"
"อืม" ทิวาจับมีดที่แดงได้ที่แล้ว กรีดลงบนไหล่ด้านหลังของคารอนอย่างเบามือ
"ผมจะพยายามเบามือนะคุณเจ็บก็กัดฟันอดทนเอา" เมื่อได้ขนาดปากแผลที่ต้องการแล้ว ทิวาใช้นิ้วคลี่ปากแผลออกจากกันแล้วใช้ปลายมีดแหลมปลายเล็กเขี่ยลูกกระสุนออกมา
มือบางหยิบใบสาบเสือที่บดละเอียดโปะที่ปากแผลสดแล้วใช้กระโปรงที่ตัดออกเป็นชิ้นยาวเมื่อครู่มาพันแผลที่ไหล่ให้คารอน
3 ชั่วโมงผ่านไป
แอดดด มือบางค่อยๆเปิดประตูเข้ามาในกระท่อมหลังเล็ก
"ไข้คงจะสูงแฮ่ะ" มือบางใช้มืออังหน้าผากร้อนของร่างสูงที่นอนคว่ำหน้าหลับสนิทบนฟูกเก่าๆ
"แวมไพร์ก็ป่วยเหมือนชาวบ้านเขาด้วย หึ แปลกชะมัด" พอเช็ดตัวให้คารอนเสร็จทิวาก็เดินออกไปนั่งข้างนอก
"ตอนนี้คงเป็นเวลาสี่-ห้าทุ่มแล้วมั้ง" ทิวาเงยหน้ามองหมู่ดาวระยิบระยับบนท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย
"พี่จะเป็นยังไงบ้างนะ พี่ว่าน"ทิวาพึมพำเบาๆแล้วเจ้าตัวก็หลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยความอ่อนเพลีย 'เจ็บจัง'
อีกด้าน....
"คิดว่าจะหนีฉันพ้นงั้นหรอไม่มีทาง!!! ไปตามจับตัวเธอมาให้ได้!!!ไป ถ้าพวกแกเอาตัวเธอกลับมาไม่ได้ฉันจะฆ่าพวกแกทิ้งซะ ไป!!"
"ครับนายท่าน"
"ฉันจะแย่งทุกอย่างที่เป็นของแกมาเป็นของฉันให้หมดคารอน!!!" ชายหนุ่มร่างสูงตะโกนออกมาอย่างเดือดดาล
ตุ้บ ทิวาที่กำลังจะเดินเข้าไปเช็ดตัวให้คารอนอีกครั้งล้มลงไปนอนนิ่งบนพื้นนิ่ง
"ใครน่ะ" เสียงทุ่มต่ำดังขึ้นพร้อมกับเปลือกตาคมค่อยๆขยับเปิดออก
"....."
"ฉันถามว่าใคร" แขนแกร่งค่อยๆยันตัวเองลุกขึ้นนั่งบนฟูกเก่าๆ
"นายไปนอนอะไรตรงนั้นน่ะ" ดวงตาคมดุเพ่งไปที่คนตัวเล็กที่นอนแน่นิ่งบนพื้นไม้เก่าๆ
"ทิวา"
"....."
"ทิวา"
"....."
คารอนคิ้วขมวดทันทีที่เรียกเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ไม่ขยับตัวหรือตอบเขา ร่างสูงค่อยๆยันตัวลุกขึ้นตอนนี้ร่างกายของเขาเริ่มมีเรี่ยวแรงขึ้นมามากแล้วหลังจากผ่าเอากระสุนออกมาได้
"ทิวา" คารอนเขย่าไหล่ทิวาเบาๆ
"......"
"ทิวา" คารอนก้มลงฟังเสียงหายใจของร่างเล็ก
" ทิวาได้ยินฉันมั้ย"
"ทิวา" คารอนเขย่าตัวเรียกสติทิวาอยู่นานสองนานเจ้าตัวก็ไม่มีท่าทีจะตื่นร่างสูงจึงตัดสินใจอุ้มคนตัวเล็กขึ้นพาดบ่าแล้ววิ่งกลับบ้านของตัวเองที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่มากนัก
..............
คารอนวางทิวาลงบนเตียง หลังจากนั้นก็กดต่อสายหาเซทเพื่อนสนิท
"โทรตามอยู่ได้" ไม่นานร่างของชายหนุ่มก็โผล่ออกมาจากหลังม่านผืนใหญ่ พร้อมกับกดตัดสายทิ้ง
"จะมีสักอาทิตย์มั้ยที่ไม่โทรเรียกกูมา"
"เร็ว"
"จับน้องมันนอนคว่ำช่วยกูหน่อย" เซทเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงแล้วเริ่มจัดแจงอุปกรณ์
"คว่ำทำไม"
"ไอ้ห่าจมูกมึงดับไปแล้วหรอกลิ่นเลือดน้องมันคลุ้งขนาดนี้ มึงไม่ได้กลิ่น? "
"......."
" ไปตัดจมูกทิ้งได้แล้วนะคารอนกูแนะนำ" เซทรูดซิบชุดเดรสเปื้อนเลือดออก ตามด้วยปลดตะขอชั้นในผู้หญิงออก
"นี่ไง" เซทชี้ให้คอรอนดูรูกระสุนที่ฝังอยู่บนหลังของทิวา
" มึงไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวทางนี้กูจัดการเอง"
"....."
( -..-)
"กูไม่ทำอะไรน้องมันหรอกไอ้สัส กูรู้ว่าหวงแต่สารรูปมึงตอนนี้โคตร(ผี)เลยว่ะ ไปเหอะเสร็จจากน้องมันกูจะทำแผลให้"
คารอนก้มมองดูตัวเองก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องน้ำ
-----------------------------------/----////---------/----
"นั่งนิ่งๆสิวะกูเย็บแผลยังไม่เสร็จ" เซทโวยใส่เพื่อนสนิทรอบที่ร้อยของวัน
"อืม"
"อืมเหี้ยไร อืมแล้วก็นั่งลงดีๆกูรู้มึงเป็นห่วงน้องวาแต่ตอนนี้น้องมันปลอดภัยแล้วช่วยนั่งลงด้วยครับเพื่อน "
"......." เมื่อคารอนได้ยินอย่างนั้นก็ยอมนั่งลงบนเก้าอี้นิ่งๆให้เซททำแผลให้
"มึงจะเอายังไงกับพวกมัน" เซทถามพลางใส่สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็กรอบปากแผลที่เหลืออยู่เล็กน้อยบนไหล่ของคารอน
"......."
"มีไรให้พวกกูช่วยก็บอกแล้วกันกูไปละจะเช้าแล้ว ยาแก้ปวดกับยาอักเสบกูวางไว้ที่หัวเตียงนะไปละน้องมันอาจจะมีไข้หน่อยนะอย่าลืมเช็ดตัวให้น้องมันด้วย"
"...." หลังจากเซทกลับไปได้สักพักคารอนก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอนที่มีเจ้าของหัวใจของเขาหลับอยู่
"ช่วยคนอื่นทั้งที่ตัวเองเจ็บใครกันแน่ที่ไม่เจียม" มือหนาลูบหัวทิวาอย่างเอ็นดูเบาๆ
เช้า....
"มีใครอยู่มั้ยจ้ะ" สาวอวบตะโกนถามขึ้นทันทีที่เดินทางมาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่
"มาหาใครคะ" ปริกเดินออกมาถามหญิงสาวคนแปลกหน้า
"มาหาคุณวาจ้ะมีคนฝากของมาให้" พูดจบหญิงสาวก็ยื่นซองสีน้ำตาลให้กับหัวหน้าแม่บ้านอย่างปริก
"ให้บอกว่าใครฝากมาค่ะ"
"พี่สาวของคุณเขาน่ะจ่ะ ฉันกลับก่อนนะจ้ะ"
"โชคดีจ้ะ"
"ใครมาหรอครับป้าปริก" คารอนเดินลงมาข้างล่างถามปริกอย่างแปลกใจ
"มีคนฝากของมาให้คุณวาน่ะค่ะ"
"อ้อครับ" พูดจบคารอนก็เดินถือหนังสือพิมพ์กลับเข้าไปในบ้าน
"เป็นยังไงบ้างคะเจ็บมากมั้ย" มะปรางเดินเข้ามาเกาะแขนคารอนพร้อมกับถามขึ้นอย่างสุภาพ
"ไม่เป็นอะไรมากแล้วล่ะ" คารอนตอบพร้อมกับแกะมือของเธอออกจากแขน
"พี่จะทานข้าวเลยมั้ยคะปรางทำข้าวต้มเสร็จพอดี"
"พี่ว่าจะขึ้นไปทานกับคุณเขาบนห้องน่ะ กินกันเลยนะไม่ต้องรอ" พูดจบคารอนก็เดินกลับขึ้นไปข้างบน
ตาหวานสวยมองตามแผ่นหลังสูงนิ่ง นิ้วเรียวยาวค่อยๆกำเข้าหากันแน่น
"ว้ายตายแล้วได้ยินเสียงอะไรแตกนะดังเพล้ง!" เลนน่าพูดกระแนะกระแหนขึ้น
"เดี๋ยว " เลนน่าเอื้อมมือไปจับแขนมะปรางเอาไว้
" หึ มารยาทของผู้ดีพ่อแม่เธอคงไม่ได้สอนมาสินะ"
"เอ๊ะ แกด่าฉันหรอนังมะปราง" เลนน่าง้างมือขึ้นจะตบมะปรางแต่มือของอีกคนเร็วกว่า เพี้ยะ!!!
"ตรงนี้มีแค่เธอกับฉันอย่าคิดว่าฉันจะยอมให้เธอทำฉันฝ่ายเดียวจำไว้" มะปรางพูดจบก็เดินผ่านเลนน่าไป
กรี๊ดด!!!
เลนน่ากรี๊ดออกมาเสียงดังแล้ววิ่งไปจิกหัวมะปราง
"คิดว่าฉันจะยอมหรอแกตบฉัน" เพี้ยะ เพี้ยะ มะปรางหันมาตบหน้าเลนน่าแล้วตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ
"โอ๊ยยช่วยมะปรางด้วยค่ะ คุณเลนน่าปล่อยมะปรางนะคะ"
"เธอทำบ้าอะไรย้ะ ฉะ..ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!" เลนน่าอึ้งค้างกับสถานการณ์ตรงหน้าไม่คิดว่ามะปรางจะเป็นคนแบบนี้
เลนน่าวิ่งเข้าไปจับมือของมะปรางที่กำลังทำร้ายตัวเองไว้
"หยุดเดี๋ยวนี้นะทำบ้าอะไรของเธอ"
"ฉันก็จะทำให้แกถูกไล่ออกไปจากบ้านหลังนี้ยังไงล่ะ หึ อีโง่" มะปรางพูดจบก็ตบเข้าที่หน้าของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า
"โอ๊ยยคุณเลนน่าคะมะปรางเจ็บนะคะ โอ๊ย" หญิงสาวแสยะยิ้มออกมาอย่างสะใจ
"จำไว้คนอย่างแกไม่มีวันชนะฉันเลนน่า"
"โอ๊ยยย ช่วยด้วยค่ะ "
"ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลยนะยัยบ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ"
หึ ปากสวยยกยิ้มขึ้น
"ฉันก็กำลังทำให้อยู่นี่ไง โอ๊ยยย"
"โอ๊ยยคุณเลนน่าคะหยุดเถอะนะคะมะปรางขอร้อง" มะปรางกระชากตัวเลนน่าให้ขึ้นมานั่งคร่อมตัวเธอเอาไว้
"เกิดอะไรขึ้น" คารอนที่ได้ยินเสียงโวกเวกโวยวายจึงเดินลงมาดูเพราะเกรงว่ามันจะรบกวนคนหลับบนเตียงในห้อง
ภาพตรงหน้ามันทำให้ชายหนุ่มกระจ่างหายสงสัยทันทีว่ามันคือเสียงดังเอะอะโวยวายอะไรกัน
"เลนน่า" คารอนกระชากตัวเลนน่าให้ลุกออกจากตัวมะปราง
"เลนเปล่านะคะ เลนไม่ได้ทำ"
"งั้นหรอแล้วดูสภาพเธอตอนนี้สิ" คารอนพูดเสียงเย็น
"ออกไป"
"แต่เลนยังไม่ได้ทำอะไรเลนนะคะ ก็อี...เอ่อมะปรางเค้าทำร้ายตัวเองนะคะเลนไม่ได้ทำ"
"ผมเชื่อในสิ่งที่ผมเห็นจะไปไหนก็ไปอย่าให้ผมต้องไล่คุณเป็นครั้งที่สองเลนน่า"
"ค่ะเลนไปก็ได้ เชิญคุณอยู่กับผู้หญิงเรียบร้อยจอมปลอมของคุณต่อไปเถอะคะ หึ คุณจะต้องเสียใจที่เลี้ยงยัยงูพิษนี่ไว้ ฉันสวย ฉันรวย เชอะมีคนมาต่อแถวรอจีบฉันตั้งเยอะ ฉันไม่แคร์คุณหรอก " พูดจบเลนน่าก็เดินออกไปที่รถตัวเองแล้วขับออกไป
"เจ็บตรงไหนรึเปล่า" คารอนนั่งลงข้างมะปรางที่ยังนั่งร้องไห้อยู่ที่เดิม
"เจ็บเท้านิดหน่อยค่ะ" โอ๊ยย มะปรางที่กำลังพยายามลุกขึ้นแสร้งล้มลงไปทางคารอน
"อยู่นิ่งๆ" แขนแกร่งสอดเข้าไปใต้ร่างของหญิงสาวแล้วค่อยๆยกขึ้นเดินเข้าไปในห้องของหญิงสาว มะปรางลอบมองเสี้ยวหน้าคมก่อนจะยกยิ้มเคอะเขินออกมา
"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวพูดขึ้นเมื่อคารอนวางเธอลงบนเตียง
"....." แขนเรียวรั้งคอร่างสูงเข้ามาหาตัวเองแล้วเริ่มกดจูบบดขยี้ปากหนา
หึ คารอนยกยิ้มเบาๆก่อนจะกดจูบอย่าร้อนแรงตอบเธอ มือหนาค่อยๆลูบขาเรียวเบาๆแล้วกระชากกระโปรงยาวของเธอออก
อื้อ....
"หยุดตอนนี้คงไม่ทันแล้วล่ะ"คารอนพูดพร้อมกับไซร้คอขาวเนียน
"ฉันรักพี่นะคะ"
"......" คารอนไม่ตอบตอนนี้ความต้องการของร่างสูงนั้นมันเกินลิมิตที่จะหยุดแล้ว
อ๊าา แท่งร้อนยาวพุ่งพรวดเข้าไปในตัวเธอแล้วค่อยๆขยับเข้าออกช้าๆ....CUT
ว้อยย อย่าเพิ่งใจแตกเด้อ😂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂
หลายวันผ่านไป......
"อื้อ" ร่างเล็กดิ้นดุ๊กดิ๊กพลิกตัวหนีแสงสีส้มอ่อนตอนเช้าที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง
"ตื่นไปแปรงฟันได้แล้วจะได้กินข้าวกินยา" เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหูคนตัวเล็ก
"อื้อ ไม่กิน" ทิวาดึงผ้าห่มมาคลุมโปงหนีร่างสูง
"ลุก!" คารอนพูดเสียงแข็งพร้อมกับกระชากผ้าห่มของทิวาออก
"ไม่ลุก จะนอน!" ตาคมสีดำดึกเย็นยะเยือกมองลูกแมวน้อยกำลังนอนขดตัวขมวดคิ้วไม่พ่อใจอยู่บนเตียงอย่างอดที่จะโมโหไม่ได้ที่ทิวาไม่เชื่อฟังตนแถมยังดื้อด้านเอาแต่ใจตัวเอง
"ก็บอกว่าผมจะนอนไงฟังภาษาคนไม่เข้าใจหรอห้ะ" ทิวายื้อแย่งผ้าห่มคืนมาจากมือใหญ่มาคลุมหัวตัวเองแล้วล่มตัวนอนลง
"ทิวาอย่าให้ฉันต้องโมโหไปมากกว่านี้ลุกขึ้นมานี่!" คารอนกระชากแขนอีกฝ่ายขึ้นอย่าแรงลืมนึกไปว่าแผลที่หลังคนตัวเล็กยังไม่หายดีเท่าไหร่ดีหน่อยที่รอยเย็บสมานกันแล้ว
" โอ๊ย " ทิวาครางโอดโอยทันทีที่คารอนกระชากตัวเองขึ้นจากเตียง
"นี่! คุณบอกกันดีๆก็ได้ไม่เห็นต้องใช้กำลังเลย ฮั่นแน่ชอบซาดิสต์นะเราอ่ะ" ทิวาพูดน้ำตาซึมแต่ไม่ลืมที่จะพูดติดตลกเงยหน้าขึ้นมาแซวร่างสูง
"......." คารอนปล่อยมือออกจากแขนทิวาแล้วเดินไปยกถาดข้าวต้มมาวางไว้ที่หัวเตียง
"ไปแปรงฟันอย่าให้ต้องพูดซ้ำ" น้ำเสียงที่เรียบกว่าปกติบ่งบอกได้ว่าร่างสูงตรงหน้าตอนนี้เริ่มอารมณ์ไม่ดีแล้ว
"ก็จะไปแล้วนี่ไงทำไมต้องอารมณ์เสียด้วย กินรังแตนมาหรอเมื่อเช้า " ทิวาเดินเข้าไปจัดการธุระในห้องน้ำไม่นานก็เดินออกมาจัดการข้าวที่คารอนยกมาให้
"คารอนเค้าไปทำงานหรอคะป้า" ทิวาหันไปถามปริกที่กำลังยกชามไปเก็บข้างล่าง
"รถยังจอดอยู่สงสัยคงอยู่ในห้องทำงานค่ะ"
"ป้าคะของใครคะ" ทิวาหยิบซองจดหมายยับๆขึ้นมาพลิกดู
"อ้อมีคนเอามาให้คุณวาเมื่อหลายวันก่อนค่ะ"
"จากใครคะ"
"เค้าบอกว่าพี่สาวของคุณวาส่งมาให้ค่ะ"
"งั้นหรอคะ" ทิวารีบฉีกซองออกมาอ่านทันทีที่ปริกบอกว่าคนส่งมาให้คือพี่สาวของเขา
ร่างสูงเพรียวลุกขึ้นเดินไปหาคารอนที่ห้องทำงานอย่างรีบร้อนแต่แววตานั้นกลับแฝงไปด้วยความดีใจ
แอดด......
"คุณคือว่าผ..ม......เอ่อขอโทษนะคะที่ไม่ได้เคาะประตูคือฉันจะมาบอกว่าฉันขอยืมรถออกไปข้างนอกหน่อยนะ แค่นี้แหล่ะเชิญตามสบาย " ปัง
ทิวารีบวิ่งลงไปข้างล่างทันทีที่พูดจบ
ไม่น่าพรวดพราดเข้าไปเลยไอ้วาเอ้ยคนเขากำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกัน....
"คุณวาจะไปไหนคะแผลยังไม่หายดีเลยนะคะ"
"เอ่อวาว่าจะไปธุระเย็นๆก็น่าจะกลับฝากบอกนายหัวของป้าด้วยนะคะตอนนี้เขาคงกำลังยุ่งๆวาไม่อยากรบกวน ไปนะคะ"
ปึก!! ทิวาบึ่งรถออกไปทันทีพร้อมกับปาดน้ำตาออกจากหน้า
'มึงจะร้องไห้ทำไมไอ้ทิวา นั่นมันสามีของพี่สาวของมึงนะ มึงมีสิทธิ์อะไรไปร้องไห้ไปหวงเค้ากะอีแค่เขามีอะไรกับคนอื่น เค้าจะทำอะไรจะมีอะไรกับใครมันก็เรื่องของเขาสิวะ' ทิวาคิดในใจ
"ป้าปริกคุณหนูของป้าเอารถออกไปไหนครับ"
คารอนทันทีที่ได้สติรีบวิ่งตามทิวาลงมาแต่ก็ไม่ทัน รถหรูวิ่งออกไปจากเขตรั้วไร่ไกลมากแล้ว
"เอ่อ คุณวาฝากบอกว่าจะออกไปทำธุระข้างนอกค่ะไม่ต้องเป็นห่วงเย็นๆก็กลับ"
"ให้มันได้อย่างนี้สิวะ" คารอนสบถออกมาอย่างหัวเสีย
"แล้วเค้าบอกป้ารึเปล่าครับว่าจะไปไหน"
"เอ่อ...ไม่ได้บอกค่ะ"
"ทำไมไม่ถามล่ะครับ!" คารอนอารมณ์เสียใส่ปริกอย่างห้ามไม่ได้
"ป้าขอโทษค่ะ"
โว้ยย! โครม!เพล้ง! คารอนปัดแจกันดอกไม้ลงจากโต๊ะแถวนั้น
ผมกดโทรออกเบอร์ที่พี่ให้ผมไว้หลายวันก่อนแต่ก็ไม่มีใครรับ พี่ผมจะเป็นอะไรมั้ยนะพวกนั้นจะทำอะไรพี่ผมรึเปล่า
เฟอรารี่สีขาววิ่งมาจอดที่นอกรั้วคฤหาสน์ใหญ่หลังหนึ่ง รอบๆคฤหาสน์ค่อนข้างทึบเพราะรอบบ้านมีแต่ต้นไม้ใหญ่
"ใช่หลังนี้มั้ยนะ" ทิวาลงจากรถแล้วเดินไปที่ประตูรั้วหน้าบ้าน
"มาหาใครคะ" สาวใช้อายุราวๆ30ปีแต่งตัวดูเรียบร้อยในชุดแม่บ้านเดินออกมาถามทิวา
"เอ่อฉันมาหาคนนี้น่ะค่ะ" ทิวาเปิดรูปพี่สาวตัวเองให้อีกฝ่ายดู
"ที่นี่ไม่มีคนหน้าเหมือนคนในรูปนะคะคุณคงมาผิดบ้านแล้วค่ะ" สาวใช้ตอบด้วยวาจาฉะฉานชัดถ้อยชัดคำ
"อ้าวเป็นไปได้ยังไงคะฉันคิดว่าฉันมาไม่ผิดนะคะ" ทิวาหยิบกระดาษยับสีขาวขึ้นมาดูอีกครั้ง
"ไม่มีจริงๆค่ะคงมีอะไรเข้าใจผิด กรุณากลับไปสอบถามคนที่ให้ข้อมูลคุณใหม่อีกครั้งเถอะนะคะ"
"งั้นขอโทษด้วยนะคะที่รบกวน" ทิวาเดินกลับมาที่รถ
"หรือพี่จะเขียนที่อยู่ให้เราผิด รอสักพักหน่อยแล้วกัน"
หลังจากทิวาเดินพ้นจากประตูใหญ่หน้าบ้าน สาวใช้คนดังกล่าวรีบกดโทรหาเจ้าของคฤหาสน์หรือเจ้าของชีวิตของเธอทันที
" เมื่อกี้มีคนมาถามหาคุณว่านค่ะ"
"หึ แล้วแกตอบไปว่ายังไง" ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเย็นไร้ความตกอกตกใจในเรื่องที่สาวใช้รายงาน
"บอกว่าที่นี่ไม่มีคนหน้าตาเหมือนคุณว่านค่ะ"
" หึ ดี แล้วลักษณะท่าทางของมันล่ะเป็นยังไงคนที่มาถามหาว่าน "
"ตัวสูงๆผมยาวขาวทรวดทรงองค์เอวหรือหน้าตาที่โผล่พ้นกรอบแว่นตาออกมามีส่วนคล้ายๆคุณว่านอยู่นะคะ"
"ไปกำชับทุกคนอย่าปากพล่อยปริปากเรื่องที่วานิสาอยู่ที่นี่ "
"ค่ะ" ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปากก่อนจะกดตัดสาย
"ฉันไม่ปล่อยให้เธอหนีฉันอีกแน่ว่าน" ตาคมมองคนที่นอนบนเตียงนิ่ง
"คนหน้าเหมือนอย่างนั้นหรอ หึ ชักอยากเล่นสนุกแล้วสิ" ปากหยักยกยิ้มเหี้ยมขึ้น
หลายชั่วโมงผ่านไปก็ไม่มีใครออกมาจากคฤหาสน์ผีสิงนั่นเลยสักคนหรือพี่ผมจะให้ที่อยู่มาผิดจริงๆ
เฮ้อ~ อยู่ดีๆภาพพวกนั้นก็ไหลเข้ามาในสมองผมอีกแล้วให้ตายสิเปลืองพื้นที่สมองจริงๆ ภาพของสองคนนั้นภาพของคุณคารอนกับคุณมะปรางที่กำลังฟีเจอริ่งร้องเพลงประสานเสียงกันในห้องทำงาน
' เขาจะทำอะไรก็ก็เรื่องของเขาสิวะทิวามึงจะรู้สึกเสียใจน้อยใจทำไมไอ้บ้าเอ้ยนั่นมันสามีพี่สาวมึงนะทิวา ท่องไว้ๆสามีพี่สาว' ทิวาสะบัดหัวไปมาเพื่อไล่ภาพพวกนั้นออกไปจากหัว
"สมาธิ สมาธิโว้ยยยยทิวามึงเป็นบ้าอะไรวะเค้าจะทำอะไรมันก็เรื่องของเขาดิมึงมีสิทธิอะไรไปหวงเค้า!พอๆเลิกๆ!!" ทิวาทุบพวงมาลัยรถไปทีหนึ่งก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมาใส่แล้วเปิดเพลงฟังดังๆ
นิ้วเรียวกดสตาร์ทรถแล้วขับออกไป
'ทัวร์เมืองหน่อยละกัน'
บ่ายสี่โมงกว่า ทิวาถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างตัดใจก่อนจะขับรถกลับไร่ คงจะใช้เวลานานหน่อยในการขับรถกลับไร่ก็เล่นชมวิวเพลินขับรถข้ามจังหวัดมาซะหลายจังหวัดขนาดนี้ทิวาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
'ทำไมรู้สึกเจ็บแปลกๆนะเวลานึกถึงภาพเขาสองคน' มือขวาละจากพวงมาลัยเลื่อนขึ้นมาจับที่หัวใจของตัวเอง
.........................
เย็น....
"อ้าวคุณวามาทันข้าวเย็นพอดีเลยค่ะ" ปริกเดินเข้ามาหาทิวา
"วาไม่ค่อยหิวบอกทุกคนให้ทานกันเลยนะคะไม่ต้องรอ"
หลังจากบอกป้าปริกเสร็จผมก็เดินขึ้นห้อง ไม่ใช่ว่าผมหนีหน้าคารอนหรอกนะผมแค่ไม่รู้สึกหิวเท่านั้นเองจริงๆ
"ค่ะได้ค่ะป้าจะบอกให้" อยากออกไปจากทร่นี่เร็วๆจัง
Rrrr >> sun J <<
"ฮัลโหล"
"Yo man! หายไปไหนตั้งนานอ่ะติดต่อไม่ได้เลย"
" อยู่ในใจเสมอฮู้บ่~" เคยฟังมั้ยครับของพี่ต่ายอรทัยฮ่าๆผมก็จำชื่อเพลงไม่ได้หรอก
"คนกำลังจริงจัง"
"โอ๋เอ๋"
"ชิ พรุ่งนี้วาว่างมั้ย"
"ก็ว่างนะทำไมมีอะไรให้วาช่วยหรอ " วาว่างหลายเดือนแล้วล่ะซันตั้งแต่มาอยู่ไร่บ้านี่
"ไปดริ้งกัน"
" ดีเหมือนกันซันวากำลังเบื่อๆพอดีแล้วที่ไหนดีล่ะ"ตานั่นจะยอมให้ผมไปรึเปล่านะ
"ตอนนี้วาอยู่ไหน"
"เชียงใหม่อ่ะ"
"ไกลเวอร์แต่ไม่เป็นไรพรุ่งนี้เย็นๆเจอกันนะ ในตัวเมืองน่าจะมีสักร้าน"
"ซันว่างขนาดนั้นเลยหรอหรือโดนพ่อวาไล่ออกแล้ว" ที่จริงผมก็ไม่ได้อยากถามออกไปแบบนั้นหรอกนะแต่มันสงสัยจริงๆ
"เห็นซันเป็นคนยังไง ถ้ามีก็แค่ให้ไนล์กับอิลจัดการไปสิทำงานมาจะ10ปีแล้วนะขอพักบ้างสักวันเถอะคุณลุงคงไม่ว่าอะไร"
"ระวังโดนตัดเงินเดือนไม่รู้ตัวนะคุณหมอนิติเวชคนหล่อ"
"วาคงไม่ใจร้ายกับซันหรอกโน๊ะ"
"ไม่" ผมแกล้งตอบเสียงห้วน
"หูยยได้ไงนี่เพื่อนรักวานะเห็นหน้าค่าตากันมาตั้งแต่น้องชายตัวเท่าหนอนชาเขียวจนตอนนี้กลายเป็นเตรียมอนุบาลชีเมโจได๋"
"เคยได้ยินเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดมั้ยซัน"
"เอ้อลืมบอกไอ้ตะวัน ไอ้ติน ไอ้แมททิวก็จะไปด้วยนะ" เนียนเปลี่ยนเรื่องจริงๆเลยนะไอ้เพื่อนบ้า
"มาทำไมเยอะแยะเปลืองพื้นที่ร้านเหล้า"
"ของฟรีใครๆก็ชอบ"
"ใครจะเลี้ยงซันเลี้ยงอ่อ" ถ้าซันมันบอกว่าให้ผมเลี้ยงนี่ไม่ต้องเปลืองน้ำมันหรือเปลืองค่าตั๋วเครื่องบินมาเลยครับ ผมเซโนแน่ๆ
"เปล่าไอ้ตะวันน่ะ"
"เนื่องในโอกาสอะไรอ่ะซัน ตะวันมันถูกหวยหรอ"
"สละโสดอะดิ ปู่มันจับมัดมือมัดเท้าใส่พานเงินพานทองประเคนให้น้องอาหมวยลูกเศรษฐีห้างใหญ่ ฮ่าๆๆขอบอกเลยเว้ยคนนี้แจ่มมาก ขาว สวย หมวย ที่สำคัญซาลาเปาสองลูก-ละ-บะ-ฮึ่ม-บึ้ม-มาก ซันเห็นแล้วยังอิจฉามันเลย ได้เมียสวยฮ่าๆ"
"บรรยายซะเห็นภาพเลยนะ ซันก็รีบหาสิ "
"เฮ้อชีวิตนี้จะมีคานทองเป็นเพื่อนตาย555"
"เดี๋ยวก็มีเถอะไว้เจอกันนะเดี๋ยววาจะอาบน้ำละ"
"ได้ๆไว้เย็นๆจะติดต่อไปอีกทีนะ" สงสัยใช่มั้ยครับผมเอาโทรศัพท์มาจากไหน ก่อนจะมาที่นี่คารอนเขาหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าเงินผมติดมาด้วยแต่เพิ่งให้ผมเมื่อวาน น่าดีใจใช่มั้ยครับเฮ้อ ให้ช้าแต่ก็ดีกว่าไม่ให้แหละเนาะ
"วันนี้ไปไหนมา" เสียงนิ่งๆเย็นๆแบบนี้คงไม่ต้องบอกว่าใครนะครับ ขอเมินหน่อยละกันเห็นหน้าเค้าแล้วคิดถึงฉากที่ผมเปิดประตูไปเจอเมื่อเช้าพูดแล้วขนลุกยังไม่หาย
"ไม่ได้ยินหรอที่ถาม" พูดซะเสียงเข้มเชียวแล้วไงอ่ะจะเมินซะอย่างใครสนไปหาคุณมะปรางนู้นไป
"ทิวาอย่าดื้อ" มือหนากระชากแขนเล็กอย่างแรง
"โอ๊ยนี่คุณทำบ้าอะไรมันเจ็บนะ" ทิวาสะบัดแขนออกจากมือใหญ่
"วันนี้ไปไหนมา"รู้สึกเหมือนผมเป็นคนผิดทั้งที่เขาด้วยซ้ำที่เป็นคนผิด มีภรรยาเป็นตัวเป็นตนแล้วแท้ๆถึงจะไม่จริงก็เถอะยังจะไปทำแบบนั้นกับคนอื่นอีก ชิ
[ หึง ? ].........
"ปล่อย" ผมพูดเสียงเย็นปั้นหน้านิ่งมองเขา ไอ้นี่ก็มือปลาหมึกจังโว้ยยยกูเจ็บไอ้ฟาย
"วันนี้ไปไหนมา" ตาคมจ้องมองเสี้ยวใบหน้าขาวของอีกฝ่ายนิ่ง
"ขับรถเล่น " ทิวาตอบเสียงห้วน
ไม่รู้สิเห็นหน้าเขาแล้วฉากเลิฟซีนของคุณมะปรางกับเขาที่ผมบังเอิญเห็นเมื่อเช้าอยู่ดีๆมันก็ผุดขึ้นมาในหัวของผม พาลให้อารมณ์เสียขึ้นมาเฉยๆอ่ะ ผมไม่ได้หึงเขานะจริงๆอย่าเข้าใจผมผิด? ผมแค่ แค่ แค่ ช่างมันเถอะ
"โกหก" คารอนจับต้นแขนของทิวานั่ง
"จะเชื่อไม่เชื่อมันก็เรื่องของคุณ" ไม่เชื่อก็เรื่องของเมิงครับ ผมสะบัดแขนออกจากมือเขาแล้ววิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำ
คารอนจ้องหลังเล็กของอีกฝ่ายนิ่ง กลิ่นที่เขาเกลียดที่สุดทำไมเขาถึงได้กลิ่นนั้นบนตัวของทิวา
"นายไปทำอะไรมากันแน่" มือหนากำเข้าหากันแน่น สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือ คนทรยศยิ่งเป็นคนใกล้ตัวเขาแล้วเขายิ่งเกลียด เกลียดที่จะต้องฆ่าคนที่ตัวเองรักด้วยมือสองข้างนี้ ยิ่งกับทิวาแล้วเขายิ่งไม่อยากทำ
"คิดว่าประตูบานเล็กแค่นี้จะหนีฉันพ้นหรอ หึ " คารอนถอดเสื้อยืดสีดำออกก่อนจะเดินโทงๆเปลือยท่อนบนทะลุผ่านประตูห้องน้ำเข้าไป
"อาบด้วยคนสิ" เสียงเข้มดังขึ้นข้างหูคนตัวเล็กที่ยืนหันหลังให้เขา
แขนแกร่งค่อยๆสอดเข้าไปโอบกอดคนตรงหน้าเอาไว้จากด้านหลังแล้วดึงเข้ามาประชิดตัว
"อาบด้วยคนสิ" เสียงเข้มดังขึ้นอีกครั้ง
"เฮ้ย!!เข้ามาได้ไง โอ๊ยยแสบๆ" ทิวาตกใจเสียงของคารอนเผลอเลอลืมตาขึ้นมาโดยลืมไปว่าตัวเองนั้นกำลังสระผมอยู่ เรียวหน้ารูปไข่เชิดขึ้นเพื่อล้างฟองบนหน้าออก
คารอนกลืนน้ำลายลงคอดังเฮือกขณะมองฟองยาสระผมค่อยๆไหลลงตามคอเรียวขาว
อุณหภูมิในร่างกายของร่างสูงค่อยๆปะทุร้อนขึ้นทีละนิดทีละนิดภาพเย้ายวนตรงหน้านี้มันช่างเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาปลุกเร้าเจ้าสิ่งนั่นของเขาได้ดียิ่ง
"คุณเข้ามาได้ยังไง" หลังจากกำจัดฟองยาสระผมออกจากหน้าหมดทิวาก็เปิดปากถามร่างสูงทันที
"เดิน"
"....." กูรู้ไอ้ฟายไม่เดินจะคลานมาเรอะ ตรูหมายถึงเปิดประตูเข้ามาได้ไง เมื่อกี้ผมกดล็อกแล้วนะถ้าจำไม่ผิด
"หลับตาลง"
"จะ...จะทำอะไร" ทิวาพูดเสียงสั่นทันทีที่มองลึกเข้าไปในดวงตานิ่งแต่ลึกๆกลับมีแววเจ้าเล่ห์คู่นั้น
"คิดว่าฉันจะทำอะไรนาย" คารอนยกยิ้มที่มุมปากอย่างผู้ชนะมองคนตรงหน้าที่ตัวลีบลงจากเสือน้อยที่เอาแต่กัดฟันขู่ฟู่ๆกลายเป็นลูกแมวตัวเล็กที่กำลังขมวดคิ้วมองหน้าเขาอย่างกับจะกัดคอเขาให้ตาย
ทิวาที่ได้สติก็หลบตาคารอนแล้วกล่าวปฏิเสธเสียงแข็ง
"เปล่าซะหน่อย ออกไปได้แล้วไปผมจะอาบน้ำ" ทิวาหันหลังให้ร่างสูงอีกครั้ง
"ก็บอกอยู่นี่ไงจะอาบด้วย" แขนแกร่งสอดเข้าไปรัดเอวร่างบางไว้แล้ววางคางเกยไหล่คนตัวเล็ก
"พูดบ้าอะไรออกไปได้แล้ว"
หึ "ขออาบด้วยคนนะครับ" ฟันขาวกัดเข้าที่หูแดงเบาๆ
"ออกไปโว้ยย! โอ๊ยยแสบๆ" ทิวาโวยวายออกมาเสียงดัง อาบน้ำด้วยกันครั้งก่อนร่างสูงก็ฉวยโอกาสกัดหูเขาไปแล้วครั้งนึง ไอ้บ้าเอ้ยย
"ก็บอกแล้วไงว่าหลับตาลง"
ไม่แปลกทำไมยังมีฟองยาสระผมเข้าตาเมื่อกี้แทนที่จะล้างที่ผมออกด้วยก็เลือกล้างหน้าอย่างเดียวนี่นา
หึ คารอนส่ายหัวน้อยๆก่อนจะจับเด็กดื้อหันหน้ามาหาตัวเองแล้วดันคางให้ทิวาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยจากนั้นก็จัดการล้างฟองยาสระผมออกให้ทิวา
"ตาผมด้วยคุณมันยังแสบๆอยู่" คารอนค่อยๆใช้นิ้วโป้งเกลี่ยฟองยาสระผมออกจากเปลือกตาทั้งสองข้างอย่างเบามือ
"เสร็จแล้ว" เปลือกตาขาวบางค่อยๆเปิดขึ้นมาช้าๆ
ทิวากระพริบตาสองสามครั้งก่อนจะเดินไปที่ส่องกระจกในห้องน้ำแต่เดินยังไม่ถึงสองก้าวคารอนก็ฉวยโอกาสคว้าตัวอีกฝ่ายไปกอดไว้เสียก่อน
"เฮ้ย ทำบ้าอะไรปล่อย!"ทิวาพยายามดิ้นไปมาหวังจะหลุดออกจากอ้อมแขนปลาหมึกแต่เปล่าเลย ยิ่งดิ้นร่างสูงยิ่งรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆสุดท้ายก็ได้แต่ยืนนิ่งๆให้คารอนกอด
"หายใจ..ไม่ออก" คารอนเมื่อรู้ตัวก็คลายกอดออก ปากหยักยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจทันทีที่กลิ่นๆนั้นจางหายไป
"ดิ้นแรงๆสิเจ้าโลกของฉันมันจะได้ตื่นขึ้นมาเล่นกับนาย"
กึก......ทิวายืนตัวแข็งทื่อไม่ใช่เพราะกลัวคำขู่ของอีกฝ่ายแต่ความรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังขยายใหญ่ขึ้นทิ่มบริเวณหน้าท้องของเขา
"ปล่อยได้แล้วอึดอัด"
"นี่รู้ตัวมั้ยนายกำลังทำให้ฉันบ้า" น้ำเสียงโทนต่ำเปล่งออกมาเนิบนาบ
'ห้ะ'
"อะไรนะ"
"เปล่าอาบน้ำเถอะ ตัวเปียกนานแล้วเดี๋ยวจะเป็นหวัด" คารอนคลายอ้อมแขนออกแล้วเดินออกไปจากห้องน้ำ
'คิดจะออกก็ออกไปง่ายๆแบบนี้เลยหรอ' ทิวาคิดในใจ
'ช่างเขาสิไปหาคุณมะปรางนู้นไป' ร่างบางสะบัดหัวสองสามครั้งแล้วหันกลับไปอาบน้ำต่อ
1ชั่วโมงต่อมา......
"นี่คารอนพรุ่งนี้ให้ผมไปหาเพื่อนหน่อยนะ" ผมนั่งพูดประโยคนี้ฉีกยิ้มแห้งๆแบบนี้มาแล้วหนึ่งชั่วโมง จะยังไงดีล่ะคือตั้งแต่เขาเดินออกมาจากห้องน้ำเขาก็ไม่ปริปากพูดกับผมสักคำ ไอ้เจ้าชายดอกทอง! เอ้ย! พิกุลทอง
"นี่คารอนนะนะให้ผมไปเถอะนะ"
"......" คารอนไม่ตอบชายหนุ่มทำเพียงแค่นั่งทำงานนิ่งๆบนเตียงเสมือนว่าทิวาเป็นเพียงธาตุอากาศมวลน้อยที่ลอยไปลอยมา
"นี่คุณ" ทิวาค่อยๆขยับตัวเข้าไปนั่งขัดสมาธิข้างร่างสูงที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานไม่สนใจตัวเอง
"ให้ผมไปเถอะนะ นะ สัญญาจะไม่กลับดึกนะคุณนะ"
"....." คารอนยังคงนั่งรัวแป้นพิมพ์ไม่สนใจคนข้างๆ
"ผมจะนั่งเฝ้าคุณทั้งคืนจริงๆด้วยนะถ้าคุณเอาแต่เงียบแบบนี้อ่ะ" เออ! เอาสิถ้าไม่ตอบจะกวนแม่งทั้งคืนเลยคืนนี้
"....." ร่างสูงก็ยังคงนั่งนิ่งทำงานต่อไปไม่สนใจทิวา
'ได้จะเล่นแบบนี้ใช่มั้ยได้นายคอยดูฉันเถอะจะนั่งเฝ้านายอยู่ตรงนี้แหละคอยดูใจแข็งนักใช่มั้ย ให้มันรู้กันไปนายกับฉันใครจะแพ้ใครจะชนะ! '
ทิวามองเสี้ยวหน้าคมพร้อมกับแสยะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหยิบนวนิยายแนวฆาตกรรมขึ้นมาอ่านต่อ
ให้มันรู้กันไปว่าไผเป็นไผ.........
5 ชั่วโมงผ่านไป
ตุ้บ! หนังสือหล่นจากมือเรียวตกลงบนเตียงพร้อมกับความรู้สึกหนักๆที่ไหล่ขวาของร่างสูง คารอนพับโน้ตบุ๊คลงแล้วจับหัวทิวาไปพิงหัวเตียง
เก็บคอมเสร็จร่างสูงก็เดินไปกดปิดสวิตช์ไฟในห้องเหลือไว้เพียงแสงสลัวๆจากโคมไฟหัวเตียงเท่านั้น
แขนแกร่งช้อนตัวอุ้มคนอวดดีลงมาจัดแจงให้นอนท่าดีๆ ที่จริงเขาก็อยากตอบอยู่หรอกแต่วันนี้งานเขานั้นมากจริงๆก็เพราะใครล่ะที่ทำให้เขาว้าวุ่นใจจนไม่เป็นอันจะทำงานต้องเก็บมาทำที่บ้าน ก็ไม่ใช่เพราะคนตัวเล็กคนนี้หรอกหรอ
"ไปหาคุณมะปรางเลยปายยชิ้ววๆ" คนตัวเล็กละเมอพูดออกมาเสียงยาน คารอนที่กำลังจะล้มตัวลงนอนก็กลับมานั่งขัดสมาธิเหมือนเดิมมองหน้าคนตัวเล็ก
"ไปรักกันไกลๆเลยไป ฮึก ไอ้โคนหลายจาย" คารอนใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาออกจากหน้าทิวา
"โผมมานไม่ใช่ผู้หญิงหนิ ทำอาหารก็ไม่ด้ายเรื่องสู้คุณมะปรางก็ไม่ได้สักอย่าง....ที่สำคัญผม....อื้อ.." คารอนโน้มตัวลงไปประกบปากกดจูบทิวาอย่างรวดเร็วก่อนที่เจ้าตัวจะละเมอว่าตัวเองไปมากกว่านี้
อื้ออ~ ปลายลิ้นของร่างสูงค่อยๆละเมียดไล่ชิมริมฝีปากบางหวานฉ่ำช้าๆแล้วสอดเข้าไปหยอกเย้ากับปลายลิ้นหวานของอีกฝ่ายข้างใน
มือหนาเริ่มไม่อยู่นิ่งซุกซนเลื้อยเข้าไปลูบวนหน้าท้องแบนราบใต้สาบเสื้อปลุกปั้นอารมณ์ของอีกฝ่ายให้รู้สึกเสียวซ่านเล่นๆซึ่งผลลัพธ์มันค่อนข้างดีเยี่ยมคนหลับเริ่มมีอารมณ์ร่วมกับเขาแล้ว หึ ปากเรียบตึงยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย มือใหญ่ดึงกางเกงของคนตัวเล็กออกแล้วโยนลงไปข้างเตียง
อื้อ ร่างบางเริ่มบิดเร้าตัวไปมาด้วยแรงอารมณ์ที่ทวีคูณขึ้นอันเนื่องมาจากร่างสูง
อื้อ คารอนละจากปากเรียวเล็กไปขบกัดที่ติ่งหูของอีกฝ่ายเบาๆหลังจากนั้นก็ใช้ปลายลิ้นลากสัมผัสลงมายังต้นคอขาวดูดเม้นเบาๆลากลงมาที่ไหปลาร้าไล่ต่ำลงมาเรื่อยๆจนถึงส่วนนั้นส่วนที่ไวต่ออารมณ์ของทิวามือหนาดึงกางเกงชั้นในออกแล้วใช้ปากกอบกุมส่วนนั้นเอาไว้ อื้อ~
มือเล็กเลื่อยมาจิกหัวของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น ขาเรียวยาวค่อยๆอ้าออกให้อีกฝ่ายเข้าไปรุกล้ำได้สะดวกขึ้น
คารอนรูดปากขึ้นลงช้าแล้วเร่งความเร็วขึ้นไม่นานทิวาก็ปลดปล่อยออกมา คารอนละออกจากส่วนอ่อนไหวของอีกฝ่ายแล้วเลื่อนขึ้นไปปะกบปากบางปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นรสหวานเฝื่อนอีกครึ่งหนึ่งไหลเข้าไปในปากของอีกฝ่าย
ปากหยักกดจูบซับน้ำรักที่ไหลออกมาเปรอะที่ข้างมุมปากของอีกฝ่าย จากนั้นก็ค่อยๆอุ้มอีกฝ่ายเดินเข้าไปล้างตัวในห้องน้ำ ทุกอย่างจบลงแค่นั้นเพราะเขาก็ไม่อยากฝืนใจอีกฝ่ายเท่าไหร่ เขาจะทำก็ต่อเมื่อทิวาเต็มใจเท่านั้น
(อันนี้แกไม่เรียกว่าลักหลับเรอะ?)
//แลดูไรท์โรคจิต//
เช้า..... อื้อ...ร่างบางพลิกตัวหาหมอนข้างจำเป็นทุกเช้าที่เจ้าตัวชอบทำจนติดเป็นนิสัยแต่วันนี้ทำไมเตียงมันดูโล่งๆว่างๆ
ตาสวยเปิดขึ้นมาเล็กน้อยหรี่มองเตียงฝั่งตรงข้าม เมื่อไม่เห็นสิ่งที่กำลังตามหา แขนเรียวค่อยๆยันกายลุกขึ้นนั่งบนเตียง
"ไปไหนแต่เช้า ทำไมรู้สึกวันนี้ตัวเบาแปลกๆ " ทิวาลุกขึ้นจากเตียงอย่างอ้อยอิ่งเดินเข้าไปทำธุระในห้องน้ำไม่นานเกินรอก็เดินใส่ชุดคลุมอาบน้ำออกมา
(-0-!)"เฮ้ย!!!หายไปไหนหมด"
ชุดชั้นใน ชุดกระโปรง เสื้อบลาๆๆๆ หายไปไหนหมด ผมกระชากลิ้นชักออกมาดู หายไปไหน ซิลิโคน ชุดชั้นในผมหายไปไหนหมด!
เขาเป็นคนทำแน่ๆ .......
แกล้งกันแรงไปแล้วนะ ..นายตายแน่คารอน
ผมเดินไปหาเขาที่ห้องทำงาน แต่ก็ไม่เจอ ห้องนั่งเล่นก็ไม่เจอ สวนหน้าบ้านก็ไม่เจอ โว้ยยยอย่ามาเล่นอะไรบ้าๆแบบนี้นะ
"อ้าวคุณผู้หญิงกำลังหาอะไรหรอคะ" อ้อยหนึ่งในสาวใช้พูดขึ้น
"คารอนเค้าไปไหนคะ"
"คุณท่านออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่แล้วค่ะ"
"อ้อค่ะ" ไอ้ฟายเอ้ยยยยแล้วงี้จะแต่งตัวยังไงเนี้ย ปกติตอนนอนผมไม่ได้ใส่ซิลิโคลนครับ ตอนนี้เลยไม่มีอะไรจะยัด เอาวะแบนๆแบบนี้แหละค่อยออกไปซื้อ คิดได้แบบนั้นทิวาก็เดินกลับขึ้นห้อง
หลังจากแต่งตัวเสร็จทิวาก็เดินลงมาชั้นล่างด้วยอารมณ์ครุกกรุ่น
'อย่าให้พ่อเจอตัวเชียว พ่อจะตัดหนอนน้อยชาเขียวแกจิ้มน้ำพริกโยนให้เป็ดกิน!เลยคอยดู!'
คิดได้แบบนั้นรอยยิ้มเหี้ยมปนโรคจิตเหมือนตัวร้ายในละคร
คนใช้แถวนั้นเมื่อเห็นบรรยากาศอันไม่พึงประสงค์รอบตัวนายหญิงของบ้านก็มุดหน้าหนีกันแทบไม่ทัน
... ไม่ใช่ว่าคุณท่านของพวกหล่อนไปทำอะไรให้นายหญิงโกรธหรอกนะ..
' ฮ่าๆๆๆแกเสร็จฉันแน่! ไอ้หนอนน้อยเอ้ยฮ่าๆๆๆ' ทิวาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง(ในความคิด)
ทิวาที่กำลังสนุกกับความคิดบ้าๆของตัวเองก็ต้องชะงักเมื่อปริกหัวหน้าแม่บ้านผู้ใจกล้าเดินเข้าไปถามทิวาอย่างกล้าหาญ
"คุณวาจะทานข้าวเลยมั้ยคะ"
"ห้ะ เอ่อค่ะรับค่ะ" ทันทีที่หลุดจากภวังค์ทิวารีบปรับสีหน้ายิ้มแย้มตามปกติทันที
//เร็วกว่ากิ่งก่าเปลี่ยนสีก็ทิวานี่แหละ//
"มาทานด้วยกันสิคะ"
"ค่ะ" ผมรับยิ้มคุณมะปรางแล้วนั่งลงโต๊ะตรงข้ามเธอ มะปรางผมว่าเธอเป็นคนค่อนข้างเก็บอารมณ์ครับจริตเธอดูกุลสตรีไทยขนานแท้ทั้งกิริยาวาจา การพูด การวางตัว หลายอย่างครับ ผมว่าคารอนเขาตาถึงนะครับถึงคว้าเธอมาเป็นภรรยาได้ยินมาว่าเค้าสองคนรักกันก่อนที่จะมาแต่งงานกับพี่ผมด้วยซ้ำ เมียน้อยที้แท้ทรูก็ต้องเป็นผมสินะ คิดแล้วก็อิจฉาคารอนเค้านะครับผมจะมีวาสนามีภรรยาแบบนี้มั้ยนะ
ผมลอบมองเธอทานข้าวได้แบบว่าสีหน้าดูฝืนกินแปลกๆใช่ว่าอาหารไม่อร่อยหรอกนะมันอร่อยมากต่างหาก
"อาหารไม่ถูกปากหรอคะ" ผมถามเธอออกไป
"เปล่าค่ะแต่ปรางแค่รู้สึกมึนหัวนิดหน่อยขอตัวขึ้นห้องนะคะ" พูดจบเธอก็ลุกออกไปทิ้งผมไว้ตัวคนเดียวผมยกถ้วยข้าวต้มขึ้นมาดมดูก็ปกติดีนี่นา
แกร็ก! ผมหันไปมองแก้วน้ำสีแดงที่ป้าปริกวางลงบนโต๊ะเมื่อกี้
"คุณท่านสั่งให้เอามาให้คุณวาดื่มทุกวันค่ะ"
"ทำไมต้องดื่มคะ"
"บำรุงร่างกายน่ะค่ะ" ทำไมฟังแล้วมันดูทะแม่งๆเฮ้ย!มีแผนอะไรซ่อนไว้รึเปล่า "อ้อค่ะขอบคุณค่ะ"
_____________________________________
" ฆ่าคารอนซะ "
"ไม่ ฉันไม่ทำ"
" หึ งั้นรอรับศพน้องชายเธอที่อยู่กับคารอนได้เลย"
"คุณรู้ได้ยังไง"
"มีอะไรบ้างที่ฉันจะไม่รู้ ทำตามที่ฉันสั่งซะถ้าไม่อยากให้น้องชายสุดที่รักของเธอตาย"
"ทำ ฉันจะทำ" หญิงสาวหน้าตาสะสวยรับคำชายชุดดำอย่างไว
"ดีมากเตรียมตัวให้พร้อมฉันให้เวลาเธอเตรียมตัวไม่มาก ภายใน1เดือนฉันต้องได้รับข่าวดีว่าคารอนมันตาย"
ครั้งนี้ไรท์หายหน้าหายตาไปนานมั่ก!ขอโทษนะครับโผม😂🙏 ไม่โกรธกันเนาะ
ชอบกดไลค์ใช่กดเม้นรัวๆ555 ไรท์ขอโทษนะครับที่อัพช้า