เจได
พี่เจได
โรงอาหาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
“มินนี่! ฮา ฮา ฮา”
วาวากระโดดเข้ามาแตะตัวฉันพร้อมกับร้องตะโกนเสียงดังลั่นเล่นเอาฉันสะดุ้งโหย่ง งัวเงียลืมตาขึ้นมาจ้องหน้ายัยเพื่อนตัวดี ฉันกับวาวาเราสองคนจะกลับบ้านพร้อมกับเสมอเพราะที่พักของพวกเราไปทางเดียวกัน
“ตกใจหมดเลยวาวา คนยิ่งง่วงอยู่ถ้าฉันหัวใจวายไปทำไง”
ฉันทำหน้ามุ่ย ก่อนจะฟุบหน้าลงกับแขนตัวเองอีกครั้ง ฉันง่วงนอนและอยากนอนอยู่ตลอดเวลาสักนิดสักหน่อยก็ยังดีถือว่าพักเอาแรง เมื่อคืนไม่รู้ว่าผล็อยหลับไปตอนไหน นึกแล้วก็ยังเคืองห้องข้างๆ อยู่ไม่หาย
“โอ๋ๆๆ ไปอดหลับอดนอนที่ไหนมามินนี่ อย่าบอกนะว่าห้องข้างๆ เธอเอาอีกแล้ว”
“อือ”
ฉันปรือตาขึ้นมาพยักหน้าให้วาวา
“ฉันอยากไปฟังบ้างจัง วันหลังได้ยินอีกอัดคลิปเสียงมาให้ฉันฟังบ้างสิ”
“เอาจริงดิ”
“จริง”
“โรคจิต! กี่โมงแล้วเนี่ยวาวา”
ฉันถามออกไปด้วยน้ำเสียงของคนจวนเจียนหมดแรง
“ห้าโมงจะครึ่งแล้ว”
วาวาดูนาฬิกาข้อมือของนางแล้วหันไปดูดน้ำในขวดที่ถือติดมือมาด้วย
“มินนี่ๆ ตื่นเร็ว” วาวาสะกิดฉัน เสียงของนางฟังดูตื่นเต้น
“อะไร ขอนอนแพ็บหนึ่งไม่ได้เหรอ สักสิบนาทีก็ได้ขอร้องละ”
“พี่เจไดกำลังเดินมาทางพวกเรา ตรงดิ่งมาเลย”
“ห๊า” ชื่อของรุ่นพี่สุดฮอตในมหาลัยทำให้ฉันแทบจะหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง เงยหน้าขึ้นมาแล้วใช้มือจัดทรงผมที่ยุ่งเหยิงของตัวเองอย่างไว
“สวัสดีครับน้องมินนี่ แล้วก็น้อง…”
พี่เจไดทำหน้าเหมือนพยายามจะนึกชื่อของวาวา แล้วหันมาทางฉันเพื่อขอความช่วยเหลือ จนฉันต้องทำปากขมุบขมิบส่งซิกไปให้
“อ้อ น้องวาวา”
“แหมนึกว่าพี่จะจำได้แต่มินนี่ซะอีก น่าน้อยใจชะมัด” วาวาทำหน้าเซ็งๆ
พี่เจไดเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ปี3 พี่เขาเป็นขวัญใจของสาวๆ แทบจะทุกคนในมหาลัยเลยก็ว่าได้ รูปหล่อ บ้านรวย โปรไฟล์ดีทุกอย่าง การที่พี่เจไดทำเหมือนตามเทียวไล้เทียวขื่อจีบฉันทำให้เพื่อนๆ ทุกคนพากันอิจฉา แถมฉันยังเคยได้ยินเพื่อนๆ บางคนนินทาว่าฉันเล่นตัวเกินเหตุ เพราะฉันยังไม่ได้ตกลงปลงใจตกปากรับคำเป็นแฟนกับพี่เค้า
“จำได้สิครับน้องวาวาคนสวย พี่จะลืมได้ไง” พี่เจไดนั่งลงตรงข้ามกับฉัน
“ไม่ต้องมาปากหวานให้วาวาหรอกคะพี่เจได รู้ๆ กันอยู่ว่าอะไรเป็นอะไร จากเป็นคนปกติดีดีกลายเป็นก้างซะงั้น วาวาไปดีกว่า”
วาวาทำท่าจะลุกขึ้น แต่ฉันก็รีบคว้าแขนนางเอาไว้อย่างเร็ว การมีวาวาอยู่ด้วยทุกครั้งที่พี่เจไดมาหามันทำให้ฉันรู้สึกหายใจหายคอสะดวกกว่าอยู่กันตามลำพังสองต่อสอง แล้วโดนสายตาบรรดาแฟนคลับของพี่เจไดจ้องมองราวกับจะลากฉันไปฆ่าหมกป่า
“วาวาอยู่เป็นเพื่อนกันก่อน นะนะ”
วาวากลอกตาให้ฉัน
“เดี๋ยวฉันเลี้ยงชาไข่มุก”
“โอเคได้” พอได้ยินว่าชาไข่มุกนางวาวาก็ยิ้มออก
เพื่อนจอมตะกละ!
“แฮร่”
ฉันกับวาวาหันไปยิ้มให้พี่เจไดที่นั่งมองเราสองคนอยู่
“พี่จำได้ว่าวันนี้มินนี่กับวาวาไม่ต้องไปทำงานที่ร้านกาแฟ ใช่ไหมครับ”
ใช่! วันนี้เป็นวันหยุดของฉันกับวาวา
“พี่อยากจะชวนน้องๆ สองคนไปเที่ยวด้วยกัน ผับใกล้ๆ มหาลัยนี่ก็ได้นะครับ ไปกับพี่รับรองสนุกปลอดภัยส่งกลับถึงบ้านแน่นอน”
พี่เจได้เลิกคิ้วขึ้น ริมฝีปากบางสีชมพูดราวกับผู้หญิงของเขาเม้มเข้าหากัน ฉันเชื่อเลยว่าท่าทางแบบนี้ของพี่เค้าคงทำให้สาวๆ ใจอ่อนระทดระทวยมามากต่อมากแล้ว
“เอ่อคือ… มันจะดีเหรอคะ บังเอิญว่ามินนี่กับวาวา”
“ไปค่ะไป เนาะมินนี่เนาะ น่าสนุกดีจะตาย นานๆ ฉันจะได้ออกไปตระเวนราตรีสักครั้ง เราไปกันนะ”
จู่ๆ ยัยวาวาก็ตอบรับคำชวนของพี่เจได้ซะอย่างงั้น
ไม่เอา ฉันไม่อยากไป (ฉันทำปากขมุบขมิบ) วันนี้เป็นหยุดแท้ๆ กะว่าจะกลับห้องไปนอนให้เต็มอิ่มสักหน่อย ไม่รู้เหรอไงว่าฉันต้องอดตาหลับขับตานอนทนฟังเสียงร้องครางจากข้างห้องติดกันมาสองสามคืนแล้วนะ เผื่อว่ากลับไปคืนนี้ฉันจะนอนหลับสนิทยันเช้าบ้าง
“ตกลงน้องสองคนไปนะครับ พี่ดีใจจังเลยนึกว่าพวกน้องจะปฏิเสธซะอีก ไม่ต้องกลัวนะครับพี่กับเพื่อนๆ พี่สุภาพทุกคน” พี่เจไดยิ้มดีใจ
“โอ้ย! มินนี่หยิกฉันทำไมเจ็บนะ”
ฉันอดมันเขี้ยวยัยเพื่อนตัวดีไม่ได้ ดูออกอยู่หรอกว่าวาวาแอบปลื้มพี่เจไดมากขนาดไหน อีกอย่างเพื่อนผู้ชายในกลุ่มของพี่เค้าของรูปหล่อโปรไฟล์ดีทุกคน แต่ขอโทษเหอะ! คนอย่างฉันไม่ได้ปลื้มคนที่รูปลักษณ์ภายนอกสักเท่าไหร่ ไอ้สิ่งที่เคลือบเอาไว้ฉาบฉวยอย่างสวยงามพวกนี้บางทีมันอาจจะซ่อนสิ่งที่น่าเกลียดน่ากลัวเอาไว้ภายในก็ได้ใครจะรู้
“เดี๋ยวพี่โทร.บอกเพื่อนๆ ก่อนนะครับ”
“วาวา”
ฉันหันไปทำหน้ายักษ์ใส่ยัยวาวา แต่ฝ่ายนั้นก็ทำหน้าตาออดอ้อนกลับมาเล่นเอาซะฉันหมดคำพูดไปเลย เอาวะ ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ
“เออ… ไปก็ไป”