ทุกคนตกใจที่การประลองจบลงอย่างรวดเร็ว
เถ้าแก่โรงฝึกรู้สึกว่าเหมือนเคยเห็นภาพตรงหน้ามาก่อน
โหลวหลานเปลี่ยนร่างเป็นมือขนาดใหญ่และพุ่งตรงเข้าหาเถ้าแก่โรงฝึก ใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งถูกัน เมื่อเห็นดังนั้น เถ้าแก่โรงฝึกก็นึกขึ้นได้ในทันทีว่า คู่ต่อสู้ของจู๋เหยี่ยนคือผู้ใช้พลังธาตุดินจากการประลองครั้งก่อน
เถ้าแก่โรงฝึกรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเขาเห็นว่ายอดฝีมือลึกลับได้กลับมาแล้ว ยอดฝีมือลึกลับคนนี้เป็นเหมือนป้ายโฆษณาเดินได้ให้กับโรงฝึกของเขา การพ่ายแพ้ของจู๋เหยี่ยนเมื่อครั้งก่อนสร้างความน่าสนใจให้กับธุรกิจของเขาอยู่เป็นเวลานานทีเดียว
เขารู้สึกตื่นเต้นจนมือไม้สั่น แต่เขาก็ไม่จ่ายเงินเพิ่มให้แม้แต่แดงเดียว
ในตอนนั้นเองเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงก็ดังมาจากด้านหลังเขา “พี่เหยี่ยน! พี่เหยี่ยน!”
พี่เหยี่ยน... จู๋เหยี่ยนหรือ
เถ้าแก่โรงฝึกไม่อยากจะเชื่อในวาสนาของตน มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ หรือ
ณ จุดนี้ เขารู้สึกตื่นเต้นจนลืมหายใจ หันหลังกลับไปมองทางกรรมการที่กำลังเดินมาหาเขา กรรมการที่เพิ่งตรวจอาการบาดเจ็บของจู๋เหยี่ยนกล่าวด้วยเสียงเบาว่า “เป็นจู๋เหยี่ยน เขาหมดสติไปแต่ก็ไม่มีอะไรร้ายแรง”
ช่างโชคดีเสียจริง! เถ้าแก่โรงฝึกส่งเสียงออกมาด้วยความยินดี เขาตื่นเต้นเจียนหมดสติ
ความเป็นปรปักษ์ระหว่าจู๋เหยี่ยนกับผู้ใช้ธาตุดินลึกลับนั้นนับเป็นข่าวใหญ่ของเมือง จู๋เหยี่ยนได้เขียนคำท้าส่งไปยังสถาบันทุกแห่งทั่วทั้งสนามเหนี่ยวนำ การปะทะกันครั้งที่สองนี้เป็นเรื่องบังเอิญอย่างนั้นหรือ และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ผลลัพธ์ก็คือจู๋เหยี่ยนพ่ายแพ้อีกครั้ง!
“ถั่วบันทึกภาพ” เถ้าแก่นึกถึงบางสิ่งที่สำคัญมากขึ้นมาได้ เขารู้สึกเสียดายมากที่เขาไม่ได้บันทึกการต่อสู้ของทั้งคู่เมื่อครั้งก่อน ถั่วบันทึกภาพที่บันทึกการต่อสู้นั้นไว้ต้องทำเงินมหาศาล
กรรมการพยักหน้าอย่างแรงขณะที่เขายื่นมือออกมา แบมือให้เห็นเมล็ดพืชที่มีสีสันสดใสหลากหลายสีบนฝ่ามือ
เถ้าแก่หัวเราะออกมาอย่างยินดี เขากำลังจะรวยแล้ว!
ฝักถั่วเงามายาเป็นพืชที่ผู้ใช้ธาตุไม้ปลูกขึ้น สามารถใช้บันทึกภาพและเก็บเอาไว้ในเมล็ด เรียกว่า ถั่วบันทึกภาพ
ฝักถั่วเงามายานับเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของผู้ใช้ธาตุไม้ในศตวรรษนี้ เมื่อถูกเผยแพร่ก็กลายเป็นที่นิยมไปทั่วอู่สิงเทียนในเวลาอันรวดเร็ว
ฝักถั่วเงามายาก็เป็นเช่นเดียวกับต้นข่าวสาร มันถูกเพาะพันธุ์และปรับปรุงโดยผู้ใช้พลังธาตุไม้จากป่าหยก ตอนนี้มีฝักถั่วเงามายามากมายหลายชนิด บางชนิดมีขนาดใหญ่ สามารถบรรจุเมล็ดถั่วมากกว่ายี่สิบเมล็ด ชนิดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่สาวๆ ก็คือถั่วเหม่ยถู ที่สามารถทำให้ภาพถ่ายออกมางดงามยิ่งขึ้น
เถ้าแก่เห็นเงินกำลังเต้นรำอยู่ตรงหน้าเมื่อเขารับถั่วบันทึกภาพมาถือไว้
จู๋เหยี่ยนถูกกำจัด แพ้นัดล้างตา และทนทุกข์กับความพ่ายแพ้เป็นครั้งที่สอง ใครคือผู้ใช้ธาตุดินลึกลับคนนี้กันแน่
ท่านสงสัยหรือไม่ ท่านไม่อยากเชื่อใช่หรือไม่ ท่านต้องการจะเห็นด้วยตาตัวเองหรือไม่ ซื้อถั่วบันทึกภาพสิ ซื้อไว้เสียจะได้ดูการต่อสู้อันน่าหวาดกลัวนี้! ซื้อไว้เพื่อดูวิชาลับขั้นสูงของตระกูลจู่ ซื้อไว้เพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับผู้ใช้ธาตุดินลึกลับ
เงิน เงิน เงิน...
เถ้าแก่หันไปมองด้านหลังเมื่อเขาสงบลงในที่สุด พยายามมองหาตัวผู้ใช้ธาตุดินลึกลับ เขาหายไปไหนแล้ว เถ้าแก่รู้สึกวุ่นวายใจมาก ทำไมเขาไม่ขอวิธีติดต่อผู้ใช้ธาตุดินเอาไว้ ถ้าหากว่าผู้ใช้ธาตุดินลึกลับยอมอยู่ที่นี่ระยะยาวแล้วละก็...
จะทำเงินได้มากมายเพียงใดกัน!
เถ้าแก่รู้สึกตื่นเต้นน้อยลงมากเมื่อรู้ตัวว่าเขาได้พลาดโอกาสทองไปเสียแล้ว
อ้ายฮุยยังคงทบทวนการต่อสู้เมื่อครู่ในขณะที่เขาเดินออกจากลานประลอง การต่อสู้นั้นใช้เวลาไม่นานแต่เขาก็ไม่อาจละเลยเรื่องของคู่ต่อสู้ที่เขาได้พบเป็นครั้งที่สอง เขาจดจ่ออยู่กับสาเหตุหลักที่ทำให้เขาได้รับชัยชนะ วิธีเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศ
ถึงแม้ว่ามันจะดูมีประโยชน์ แต่การเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศสามารถใช้ประโยชน์ได้น้อยมากในสถานการณ์จริง ยิ่งไปกว่านั้นก็มีอุปกรณ์การบินที่มีประสิทธิภาพอย่างปีกเมฆาที่ผู้ใช้พลังธาตุส่วนใหญ่สามารถใช้ได้แล้ว ผลที่ตามมาก็คือคนจำนวนน้อยมากที่เสียเวลามาเรียนทักษะที่สามาถใช้ได้เพียงผิวเผินก่อนจะฝึกถึงขั้นเกือบสมบูรณ์
คู่ต่อสู้ของเขาถูกโจมตีโดยไม่ตั้งตัว เพราะไม่คิดว่าเขาจะสามารถใช้กระบวนท่าเช่นนั้นได้
อ้ายฮุยค่อนข้าประหลาดใจในประสิทธิภาพของตนเองเช่นกัน ในตอนนี้การเคลื่อนที่เป็นแนวโค้งกลางอากาศของเขานั้นกว้างกว่าที่เขาเคยทำได้มากนัก
ยิ่งวิถีโค้งมีขนาดกว้างขึ้นเท่าไร ประสิทธิภาพและความอัศจรรย์ของกระบวนท่านี้ก็มากขึ้นเท่านั้น
อ้ายฮุยย่างเท้าไปสองสามก้าวก่อนโฉบไปในอากาศ ร่างกายก็เคลื่อนออกจากเส้นทางเดิมของเขาราวกับมีมือที่มองไม่เห็นกระชากเขาจากภายใน
น่าสนใจ!
หัวคิดด้านการต่อสู้ของอ้ายฮุยเริ่มทำงานขึ้นมาในทันใด เขารู้ได้ว่าการเคลื่อนไหวนี้มีศักยภาพที่จะนำมาใช้ในการต่อสู้
เขาวิ่งตรงไปอีกสองสามก้าว ใช้ปลายเท้าแตะพื้นเพียงเล็กน้อยเพื่อส่งตัวเองไปข้างหน้า และก่อนที่เขาจะชนกับกำแพงข้างถนน อ้ายฮุยก็ดีดปลายเท้าเบาๆ ทะยานสูงขึ้นไปอีก ในครั้งนี้ทั้งมุมและความเร็วในขณะที่เขาเปลี่ยนทิศทางลดลง
อ้ายฮุยกระโดดไปรอบๆ บินร่อนไปในอากาศราวกับค้างคาวยักษ์อย่างที่ฝันอยากทำตอนยังเด็ก
โหลวหลานเห็นว่ามันช่างงดงามยิ่งนัก จึงเปลี่ยนร่างเป็นค้างคาวและร่วมบินไปกับอ้ายฮุยบนท้องฟ้า
อ้ายฮุยหยุดลงหลังจากวิ่งเล่นอยู่นานสามนาทีเต็มเพื่อป้องกันไม่ให้หมดแรงจนต้องให้โหลวหลานลากกลับบ้าน การบินนั้นเป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่งอย่างแน่นอน แม้กระทั่งการร่อนเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก็มีความสุขมาก อ้ายฮุยเคยได้ยินผู้ใช้พลังธาตุเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ที่ไม่ยอมหยุดบินหลังจากเรียนรู้วิธีใช้ปีกเมฆาแล้ว
เมื่อโหลวหลานกลับคืนสู่พื้น เขาก็สังเกตเห็นความผิดปกติเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของอ้ายฮุย “อ้ายฮุย ผมของอ้ายฮุย” เขาตะโกน
“ผมของข้ามีอะไรผิดปกติหรือ” อ้ายฮุยถามด้วยความตื่นตระหนก
“ผมของอ้ายฮุยกลายเป็นสีขาว” โหลวหลานบอก
กลายเป็นสีขาวหรือ อ้ายฮุยตกใจเป็นอย่างมาก เขาหยิบมีดเหล็กสั้นจากร้านอาวุธใกล้ๆ ที่ถูกขัดจนขึ้นเงา เอามาส่องต่างกระจก
ผมของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวเงินจริงๆ ด้วย มันมีประกายประดุจโลหะทำให้มันดูคล้ายเส้นด้ายเงิน
หลังจากฟื้นสติจากความตื่นตระหนก อ้ายฮุยก็ถอดหน้ากากออก
ใบหน้าที่เขามองเห็นบนใบมีดนั้นไม่คุ้นตาแต่อย่างใด
มีประกายสีเงินอยู่ทั่วใบหน้า เสริมส่งรูปหน้าให้คมเข้ม แววตาดูคมกล้า ทำให้ท่าทางโดยรวมดูน่ากลัวมากขึ้น
ผู้คนสัญจรต้องหลบทางให้เมื่อทั้งคู่เดินผ่าน
ในที่สุดอ้ายฮุยก็เรียกสติคืนมาได้ ก่อนที่จะพูดออกมาอย่างยินดีว่า “ตอนนี้ข้าสามารถใช้ใบหน้าหาเงินได้แล้ว”
รูปลักษณ์ของเขาขัดแย้งกับบุคลิกเรียบง่ายและสงบเสงี่ยม เส้นผมสีเงินทำให้รูปลักษณ์ของเขาโดดเด่นมากขึ้น เสมือนหนึ่งว่ากระบี่แวววับถูกชักออกจากฝัก
รูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นเช่นนี้ย่อมไม่เหมาะกับการประลอง เขาจะถูกพบเจอได้ง่ายเกินไป
“ความหวังของอ้ายฮุยคงไม่เป็นจริงแล้ว ประกายสีเงินกำลังจางลง” โหลวหลานพูดด้วยดวงตาเป็นประกายสีเหลือง “โหลวหลานเข้าใจแล้ว พลังงานธาตุทองในกายของอ้ายฮุยมีระดับสูงเกินไป เมื่อใช้แล้วจะทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกาย พลังงานเพียงเล็กน้อยก็สามารถแทรกซึมไปทั่วทั้งกายรวมทั้งเส้นผมด้วย ในยามที่อ้ายฮุยไม่ได้ใช้มัน มันจะเรืองแสงออกมาเนื่องจากพลังงานธาตุทั่วร่างของอ้ายฮุยถูกระบายออกช้าๆ และรูปลักษณ์อ้ายฮุยจะกลับเป็นปกติเมื่อพลังเหล่านั้นหมดไป”
“น่าเสียดาย ความฝันที่จะทำเงินของข้าจบลงเร็วเกินไปแล้ว” อ้ายฮุยพูดออกมา แสร้งทำเป็นผิดหวัง “โหลวหลาน เจ้าคิดว่าการประลองเป็นอย่างไรบ้าง”
โหลวหลานตอบ “การต่อสู้ของอ้ายฮุยเร็วเกินไป โหลวหลานต้องฝึกให้หนักกว่านี้”
อ้ายฮุยรู้สึกละอายเมื่อได้ยินคำตอบนี้ เป้าหมายเดิมของเขาคือพาโหลวหลานไปเที่ยวเล่น แต่กลับจบลงด้วยการต่อสู้
เขารีบเปลี่ยนเรื่องพูด ตะโกนว่า “แบ่งเงินกัน แบ่งเงินกัน!”
โหลวหลานเปลี่ยนสภาพเป็นเงินจำนวนมากปลิวอยู่รอบตัวของอ้ายฮุยพร้อมส่งเสียงร่าเริง “แบ่งเงินกัน แบ่งเงินกัน!”
อ้ายฮุยหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างมีความสุข