หลังจากกลับมาจากที่ทำงาน มิวก็ตรงไปอาบน้ำก่อนทันที ส่วนเก่งนั้นก็กำลังวุ่นวายอยู่กับการเลือกเกมส์สำหรับคืนนี้ เด็กสาวนึกนับถือร่างกายของพี่ชายคนนี้จริงๆ เมื่อวานนี้เธอมั่นใจว่าเขาไม่ได้นอน และวันนี้ก็ไปทำงานตั้งแต่เช้า ตกดึกก็ยังไม่วายเล่นเกมส์อีก บางทีไม่แน่ว่าต้องมีส่วนไหนของร่างกายเขาที่กลายเป็นอลูมิเนียมไปแล้วแน่ๆ
ฝ่ามือเรียวสวยหยิบแปรงสีฟันขึ้นมาก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงคว้าหลอดยาสีฟันขึ้นมาป้ายบนขนแปรง ก่อนที่จะเอาแปรงเข้าปากสายตาก็เลื่อนขึ้นไปจับจ้องดูเรือนร่างของตนที่สะท้อนมาจากกระจกเงา
ผลันภาพของชายคนหนึ่งก็แทรกเข้ามาในหัว ความรู้สึกร้อนผะผ่าวบนใบหน้าปรากฏชัด อีกทั้งริมฝีปากที่ยังบวมอยู่นั้นก็คล้ายกลับกำลังกระตุกน้อยๆ ยามเธอนึกถึงต้นต่อสาเหตุที่ทำให้กลีบปากบางบวมฉึ่งเหมือนโดนผึ่งต่อย
ทว่ามันกลับไม่ได้หยุดแค่เพียงริมฝีปาก ทุกจุดที่ถูกฝ่ามือหนาคู่นั้นสัมผัสผ่าน คล้ายกับกำลังเห่อร้อนและคอยย้ำเตือนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องนั้นเป็นเรื่องจริง
เด็กสาวยัดแปรงเข้าปากก่อนจะถูซี่ฟันอย่างเดือดดาล ซอกซอนซ้ายขวาเสียจนเลือดตามร่องเหงือกไหลซึมออกมา เท่านั้นยังไม่พอ หล่อนสะบัดปลายขนแปรงไปตามกระพุ้งแก้มและปลายลิ้นคล้ายกับต้องการลบสัมผัสอันร้อนผ่าวที่ยังตราตรึงอยู่ให้หายไป
จบลงด้วยเธอรู้สึกผะอืดผะอมจนต้องหยุดการกระทำดังกล่าว ทว่าเท่านั้นก็ยังไม่สาแก่ใจ เด็กสาวหันไปหยิบขวดน้ำยาบวมปากแล้วเปิดฝากระดกน้ำยาใส่ปาก กลั้วอยู่เป็นนานหนแล้วหนเล่าจนทั่วทั้งปากเริ่มด้านชาจึงได้ยอมหยุด
ถัดมาหล่อนก็เดินเข้าไปอยู่ใต้ฝักบัว ถอดเสื้อผ้าออกจนเผยให้เห็นเรือนกายขาวผ่องในวัยสาวกำลังเต่งตึงชูช่อน่ามอง มิวลงทุนขัดถูร่างกายของตนอยู่เป็นนาน ทุกซอกทุกมุมราวกลับว่าการกระทำเช่นนี้จะช่วยทำให้ผิวสัมผัสของเธอหลงลืมการถูกกระทำอันหยาบช้าก่อนหน้าลงไปได้
แต่ยิ่งขัดยิ่งถู ก็คล้ายกลับว่าจะได้ยินเสียงลมหายใจของเขาที่กระทบข้างใบหูอยู่ตลอดเวลา
คนบ้า! ตามหลอกหลอนไม่เลิกรา
เมื่อออกจากห้องน้ำแล้วก็ยังไม่อาจลืมสัมผัสของ ‘คนโรคจิต’ ผู้นั้นได้ มิวจึงเลือกทำบางสิ่งที่จะทำให้เธอลืมทุกเรื่องภายในพริบตา
นั่นก็คือการ ‘เปิดกล่องเก็บเงินของตัวเอง’ ภาพของธนบัตรเปื่อยๆหลายใบถูกพับเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย บางส่วนทำเป็นปึกใหญ่แล้วใช้หนังยางรัดเอาไว้อีกที นับๆรวมกันแล้วแม้จะยังไม่พอหมื่น ทว่าก็เป็นเงินเก็บที่เธอเหลืออยู่
ก่อนย่าจะเสียนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นการจากไปแบบปัจจุบันทันด่วน ก่อนหน้านั้นย่าเธอป่วยและต้องใช้ค่ารักษาบวกกับค่าเดินทางจากต่างอำเภอเข้ามาในตัวเมือง เงินเก็บของเธอถูกใช้ไปจนเกือบหมด แต่ก็ไม่สามมารถยื้อชีวิตของย่าได้อยู่ดี
ทว่ามิวถูกเลี้ยงมาให้เป็นคนเข้มแข็ง อีกทั้งเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อนทำให้เธอไม่มีเวลาเศร้านาน หลังจากเงินประกันถูกพ่อและแม่ใหม่กวาดเข้ากระเป๋า เธอจึงเริ่มเก็บซ่อนเงินส่วนนี้และหนีออกจากบ้านพ่อในที่สุด คิดว่าอย่างไรเสียก็คงจะได้ใช่เป็นค่ากินค่าอยู่ก่อนที่จะหางานดีๆทำได้
แต่พอถึงตอนนี้ อีกเรื่องที่มิวเพิ่งจะตระหนักได้ นั้นก็คือค่าเทอม แม้ผลสอบจะยังไม่ออกทว่าถึงอย่างไรเธอก็คิดว่าอย่างน้อยๆก็ควรจะมีเงินสำรองเอาไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องการศึกษา
งานที่เธอกำลังทำอยู่ตอนนี้เป็นงานที่เก่งชักชวนเพราะเขาเป็นผู้จัดการร้าน รายได้บวกทริปก็นับว่าดีไม่น้อยทีเดียว แต่หากเธอจะต้องใช้เงินก้อนเพื่อจ่ายค่าเทอม คิดว่าลำพังทำงานที่เดียวคงจะไม่พอแน่ๆ
บางทีพรุ่งนี้เธออาจจะลองไปหางานเสริมในช่วงเช้า...
คืนนั้นมิวหลับไปพร้อมกับความกังวล กล่องเก็บเงินถูกสอดเอาไว้ใต้เตียงเรียบร้อย ท่ามกลางความมืดยามในค่ำคืน แสงกระพริบเล็กๆตรงมุมห้องยังคงดำเนินต่อไปโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
ช่วงเวลาประมาณตสอง ขณะที่เก่งกำลังนั่งเล่นเกมส์จนสายตาเริ่มล้า เขาตั้งใจว่าจะนอนหลังจากจบตานี้ แต่แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอย่างหนักหน่วงหลายครั้ง
สายตาของชายหนุ่มมองไปยังนาฬิกาแขวนข้างผนัง พบว่าตอนนี้เกือบจะเข้าตีสามแล้ว ยังมีใครที่ไร้มารยาทถึงขนาดบุกมาหาตอนดึกดื่นเช่นนี้ได้อีก
แต่พอเขาทำเป็นไม่สนใจ เสียงเคาะก็ดูเหมือนจะดังหนักขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่เกรงใจห้องข้างๆ
เก่งได้แต่ถอนใจก่อนจะเดินไปเปิดประตูอย่างเสียไม่ได้ ครั้นบานประตูถูกเปิดออกร่างของคนผู้หนึ่งก็ยืนจังก้าอยู่หน้าห้องด้วยสีหน้าเอาเรื่อง
“มาได้ไง?” เก่งถามด้วยความสงสัย มือแกร่งเริ่มลังเลว่าจะปิดประตูดีไหม ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้คิด ร่างของคนผู้นั้นก็เดินเข้ามาเสียแล้ว
“หนีมาไกลเหมือนกันนี่” หญิงสาวคนนั้นพูดพลางใช้สายตามองประเมินภายในห้อง
“พี่ว่าเราคุยเรื่องนี้กันรู้เรื่องแล้วนะขิม” เก่งบอกพลางเดินไปยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนอย่างระมัดระวัง
ขิม เป็นแฟนเก่าที่เขาเคยคบสมัยเรียน แต่ด้วยนิสัยขี้หึงและตามราวีเพื่อนผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้เขา ทำให้เก่งเริ่มเบื่อและหาทางหลบหน้าเธอ จนครั้งสุดท้ายเขาย้ายที่อยู่และไม่กลับไปที่บ้าน ทำให้แฟนเก่าคนนี้ไม่สามารถตามราวีเขาได้อีก
แต่แล้วทำไมวันนี้เธอถึงตามมาได้ถึงหน้าห้อง ทั้งๆที่เขาก็ใช้ชื่อพี่ชายในการเช่าซื้อคอนโดนี้แท้ๆ
“รู้เรื่องอะไร เรายังไม่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ พี่ก็หนีขิมมาแล้ว!” หล่อนเริ่มขึ้นเสียงพร้อมจ้องชายหนุ่มด้วยแววตาเคืองขุ่น
“นี่ขิม เราจบกันไปนานแล้วนะ” เก่งยังพยายามจะใช้น้ำเย็นเข้าลูบ แม้จะรู้ดีว่าแฟนเก่าของเขาคนนี้ ต่อให้ใช้น้ำแข็งหล่อนก็ยากที่จะระงับอารมณ์ได้
สองกำปั้นทุบหน้าอกชายหนุ่มอย่างเดือดดาล หญิงสาวคล้ายกับทั้งรักทั้งแค้น แม้มือจะทุกตีแต่น้ำตาก็ยังไหลอาบแก้มจนดูน่าสงสาร
“ขิมบอกแล้วว่าขิมไม่เลิก ขิมไม่เลิก” ใบหน้าเล็กของหญิงสาวเห่อแดงเพราะการร้องไห้ หล่อนทั้งทุบทั้งตีกายแกร่งอย่างไม่ยอมความ
“พี่ว่าขิมพูดไม่รู้เรื่องแล้ว กลับไปเถอะ” เก่งบอกพลางใช้สองมือกำรอบข้อมือเล็กของอีกฝ่ายเอาไว้ ไม่ให้เธอทุบตีร่างกายตนไปมากกว่านี้
“ไม่! หรือเพราะพี่มีคนอื่น พี่แอบมีคนอื่นใช่ไหม!” เจ้าหล่อนสะบัดตัวออกจากการจับกุมของชายหนุ่ม พลางใช้สายตากวาดไปรอบห้องอย่างเดือดดาล
เมื่อเห็นว่าทั่วห้องไม่มีสิ่งใดทว่าร่างใหญ่ของเก่งกลับยืนบังประตูห้องนอนเหมือนต้องการจะปกป้องบางสิ่ง ประกายตาของหญิงสาวก็รุกวาวก่อนที่หล่อนจะพุ่งเข้าไปหมายจะผลักชายหนุ่มให้พ้นจากทาง
เก่งโอบรอบตัวของหญิงสาวเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้เธอพังประตูเข้าไปง่ายๆ เสียงกรีดร้องของขิมดังลั่นห้อง หล่อนทั้งขัดขืนและดึงดันจะไปให้ถึงประตูให้ได้
เก่งที่เห็นท่าไม่ดีจึงรวบร่างของหญิงสาวขึ้นพาดบ่าก่อนจะพาเธอออกจากห้องไปพร้อมเสียงกรีดร้อง
ชายหนุ่มปวดหัวจนเส้นเลือดข้างขมับบีบรัดตัวเป็นจังหวะหนักหน่วง เสียงแหลมๆของเธอทำให้เขาแทบบ้า ได้แต่สงสัยว่าเหตุใดแฟนเก่าที่เขาหนีรอดมาได้เป็นปี จู่ๆถึงได้ตามมาราวีกันถึงที่
หรือนี่จะเป็นเรื่องบังเอิญ...
**************************************************************************************************************************************************************************
บังเอิญกว่านี้ก็ผีแกล้งแล้วพี่เก่งงง
มาบ่ายเพราะเมื่อคืนเกเร นอนแต่หัวค่ำเลยไม่ได้แต่งเผื่อไว้เลยยย ตอนเช้างานก็เข้าทั้งวัน ไม่ได้หยุดหย่อนเลยค่ะพี่ตา งอแงใส่รีดแป๊บบบ
เรื่องนี้น่าจะยาว เริ่มชอบนิยายโรคจิตอีโรติกแล้วจิ แต่งง่ายมากเลย 555
อ้อนขอคอมเม้นต์หน่อยน่าาา เวลาอ่านละมันมีแฮงงง จุป