ยั ก ษ์ ท มิ ฬ
ธงก์แปลว่าคนใจร้าย
สองอาทิตย์ต่อมา ร้านกาแฟตรงข้ามตึกราพณาสูร
“รับอะไรดีคะ ?”
“อย่าพูดคะเลย แม่งไม่เข้ากับหน้ามึง...” ผมพูดออกก่อนจะชี้นิ้วสั่งกับพนักงานอีกคนข้างๆไอ้ปลายฉัตรว่าเอาคาปูชิโน่ แล้วหันกลับมามองสีผมเหลืองอ๋อยของมัน
ผมก็เพิ่งรู้ว่ามันมาทำงานร้านกาแฟตรงข้ามที่ทำงานของผม...
มันเหมือนคงที่ยังเพิ่งตื่น มันมองผมแบบเอ๋อๆเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูดซักทีจนพนักงานสาวคนนั้นเดินกลับมา
“สีผมเหมือนเด็กแว้นฉิบหาย...” ผมพูดเปรยๆก่อนที่เพียงไม่นานพนักงานสาวคนนั้นก็ยื่นแก้วคาชิโน่ให้ผม ผมเลยขยิบตาให้ “ลงบัญชีรายจ่ายของพนักงานจากราพณาสูรเลยครับ”
ไม่ได้ชักดาบนะเว้ย... ลืมเอากระเป๋าตังมา
อีกอย่างร้านกาแฟตรงข้ามตึกราพณาสูรนั้นก็เป็นหุ้นส่วนกับเหล่ายักษ์ขาวอยู่แล้ว แต่พอผมฉีกยิ้มให้พนังงานสาวที่อยู่มาก่อนหน้าไอ้ฉัตรก่อนที่เธอจะทำหน้าเจื่อนๆแล้วจดลงในสมุดว่ามียักษ์มาเบี้ยวกินกาแฟฟรีอีกแล้วก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นข้างๆผม
“ขอน้ำเปล่าขวดนึงค่ะ เดี๋ยวจ่ายให้รวมกับคาปูชิโน่เมื่อกี้เลย” เสียงหวานคุ้นหูนั้นเลยทำให้ผมหันหน้าไปมองเธอ
พริ้มพริ้งไม่ได้มองหน้าผม เธอเคาะนิ้วระหว่างที่รอไอ้ฉัตรมันเดินไปหยิบขวดน้ำมาพร้อมคิดเงิน เธอก็จ่ายค่ากาแฟให้ผมไปด้วยตามที่พูด
ให้ผู้หญิงจ่ายเงินให้ โคตรแมนเลยมั้ยล่ะกู...
พริ้มพริ้งรับใบเสร็จพร้อมเหน็บขวดน้ำเปล่าของเธอไปก่อนจะหันมองมาผมแล้วพูด “ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ”
ก่อนจะเดินผ่านไปทิ้งให้สายตาของผมไปสนใจบั้นท้ายงอนๆของกระโปรงทรงเอที่รัดรูปอวดสะโพกสวยในชุดทำงานของเธอ
ผมยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินตามก้นงอนๆของยัยตัวเล็กนั้นไปจนถึงตึกราพณาสูร
ผมตั้งใจเดินตามเธอจริงๆก็กะจะให้หันกลับมาโวยวายแต่ว่าแม่คุณนั้นกลับก้าวขาเดินหนีเร็วขึ้นแทน แล้วยังไงพี่ธงก์ขายาวกว่าครับ ผมเลยเดินตามเธอได้อย่างสบายๆ
“คุณธงก์ !” คนร่างบางที่ทนไม่ไหวแล้วนั้นพูดออกมาก่อนจะหันหลังกลับมาประจันหน้ากับผม เพราะว่าเธอตัวเตี้ยกว่าผมเลยต้องเงยหน้าขึ้นมองผม “เดินตามฉันมาทำไมคะ ?”
“ก็ไหนว่าเป็นกระหรี่ ที่เดินตามกะจะซื้อไง” ผมปล่อยหมาออกมาจากปากตัวเองพูดจาว่าร้ายเธอทันที เพราะรู้ดีว่ายังไงยัยเด็กนี่ก็ไม่ตบหน้าผม
แต่ว่าผิดคาดเว้ย...
เพี้ยะ!
พริ้มพริ้งกับฟาดฝ่ามือเล็กนั้นที่แก้มของผมจนหน้าผมหันไปตามแรงตบของเธอท่ามกลางสายตาของบรรดาบุคคลากรในราพณาสูร
เมนส์มารึไงทำไมวันนี้ถึงตบกูล่ะ... !?
“คุณมัน... คนใจร้าย” เสียงหวานนั้นพูดออกมา ดวงตากลมโตสีน้ำตาลจ้องผมก่อนจะเดินหนีไปที่ลิฟต์ส่วนตัวของบอสเพื่อไปทำงานเลขาของเธอ
“เหอะ...” ผมยกมือขึ้นมาลูบแก้มตัวเองที่รู้สึกเจ็บแปร๊บๆก่อนจะหันมองประตูลิฟต์ที่มีร่างบางอยู่ในนั้นปิดลงก่อนจะพูดกับตัวเอง “ด่ากูว่าเหี้ยยังไม่รู้สึกเจ็บเท่านี้เลย...”
พริ้มพริ้งทอร์ค
ยักษ์ขาวคนอื่นเขายังใจดีกับฉัน แต่ทำไมผู้ชายคนนั้นต้องคอยจะพูดจาทำร้ายจิตใจย่ำยีศักดิ์ศรีของฉันอยู่เรื่อยเลย !
ฉันก้มมองฝ่ามือที่ขึ้นแดงเป็นปื้นและแสบแปร๊บๆเพราะเพิ่งฟาดเข้าไปที่ใบหน้าของเขาเต็มแรง
สิ่งที่อยู่ภายในตัวฉันมันบอกว่าเขาสมควรได้รับแล้ว
...มันชอบที่ฉันได้ทำร้ายใครสักคน
ไม่... ฉันจะต้องข่มตัวเองในอารมณ์สงบมากกว่านี้สักหน่อย ฉันต้องใจเย็นมากกว่านี้
ใจเย็นมันแทบไม่ช่วยอะไรเลยเพราะเสียงเพลงที่เปิดดังทำให้ฉันนั้นเสียสมาธิเอามากๆ ...
เหล่ายักษ์ขาวนั้นเรียกประชุมที่ผับแห่งหนึ่ง อันที่จริงพวกเขาหาเรื่องกินเหล้าเมามายกันมากกว่า แล้วฉันก็ปฏิเสธไม่ได้ซะด้วยเพราะต่อให้มาเมาหัวราน้ำ พวกเขาก็ชอบพูดเรื่องงานกับตอนเมานี่แหละ
มันจะดีมากกว่านี้ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่มาเมาสลบคาอกฉันแบบนี้
แล้วไหนยักษ์ขาวทุกคนจะปัดความรับผิดชอบคนตัวใหญ่ยักษ์ที่หลับเป็นตายไปแล้วด้วย
พวกเขาให้บททดสอบรับน้องกับฉันในฐานะที่ไม่ยอมดื่มกับเหล่ายักษ์
โดยการดูแลรุ่นพี่ยักษ์ที่เมาแอ๋คนนี้น่ะสิ !
...ฉันต้องพาเขากลับไปที่ห้องด้วยรึไง วันนี้มีนัด LIVE หารายได้ที่เว็บไซต์ของดาวเหนือด้วยนะ แล้วฉันจะจัดการกับเขายังไงล่ะเนี้ย !
“คุณธงก์เมามากแล้วนะคะ” พริ้มพริ้งพูดออกมาขณะที่ขาของเธอสั่นและตัวโงนเงนเพราะต้องแบกรับน้ำหนักตัวอันมหาศาลของยักษ์หนุ่ม
เธอย่นจมูกด้วยความเหม็นฉุนกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ออกมาจากลมหายใจร้อนๆของคนที่เมาไม่ได้สติ
“อือ...” ร่างสูงนั้นครางออกมา ก่อนจะส่งเสียงจิ๊จ๊ะเมื่อพริ้มนั้นทิ้งให้เขาล้มลงนอนกับพื้นแม้จะเกือบถึงโซฟาแล้ว
“เฮ้อ” ร่างบางนั้นถอนหายใจออกมาพร้อมยกมือขึ้นมาเท้าเอว
เธอจับขายาวๆของเขาพาดขึ้นโซฟา ครั้นเมื่อมือเล็กสอดใต้วงแขนของชายหนุ่มหมายจะยกเขาขึ้นแต่ว่าตัวของเขานั้นมันหนักเกินคาด พริ้มพริ้งเลยตัดสินใจที่จะเดินเข้าห้องนอนของเธอไปหยิบหมอนและผ้าห่มออกมาให้เขา
เมื่อค่อยๆประคองให้หัวของธงก์วางลงบนหมอนสีชมพูนั้นพร้อมห่มผ้าห่มสีหวานไม่แพ้กัน แขนเรียวของพริ้มก็ยกขึ้นมาดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ
“ยังทัน...” เธอพึมพำบางอย่างก่อนจะรีบกลับเข้าไปในห้องนอนของเธอ หญิงสาวก้มๆเงยๆเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และวิ่งวุ้นหาชุดที่เธอจะใส่ทำงาน
วันนี้เอาเป็นสีดำแล้วกัน...
พริ้มพริ้งมองชุดนอนซีทรูสีดำมีลายลูกไม้ประดับที่ชายขอบกระโปรงก่อนที่นิ้วเรียวนั้นจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเธอออกไปพร้อมด้วยเลย
ร่างบางนั้นโยนเสื้อเชิ้ตกับกระโปรงทรงเอที่สวมใส่ทำงานลงข้างๆเตียงแล้วรีบสวมชุดนอนวาบหวิวนั้นในทันทีทันใด
“ฮู่ว...” ริมฝีปากรูปกระจับที่แต่งแต้มด้วยลิปสีแดงนั้นเป่าลมหายใจออกมาราวกับว่าเธอกำลังรวบรวมสมาธิ เธอไม่ลืมที่จะหยิบหน้ากากกระต่ายสีชมพูของเธอมาสวมก่อนทุกครั้งที่ทำงาน
พริ้มเช็คกล้องเว็บแคมของเธอและดูสัญญาณของไมค์ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่มีพนักพิงและหมุนได้ของเธอ
หญิงสาวเปิดหน้าเว็บไซต์เถื่อนนั้นก่อนจะคลิกไปที่บางอย่าง ไม่นานมันก็ทำการเชื่อมต่อกับกล้องของเธอและไมค์ตั้งโต๊ะที่อยู่ตรงหน้า
ปิ้ง !
เสียงแจ้งเตือนดังมาจากในโทรศัพท์ของอีกคนหนึ่งข้างนอกห้อง การสั่นของเครื่องอิเล็กทรอนิกนั้นปลุกชายหนุ่มให้ตื่นอย่างงัวเงียเล็กน้อย
เขาได้งีบพักไปครู่หนึ่ง อันที่จริงเขาไม่ได้เมาหนักหรอก แค่ดื่มๆจิบๆอยู่แล้วมึนหัวหน่อยๆก่อนจะฝุบหลับไปในทันที
ช่วงนี้เขาเหนื่อยกับเรื่องบางเรื่องเป็นพิเศษ
แล้วยิ่งอายุมากขึ้น บางอย่างก็ยิ่งถดถอย...
ธงก์คำรามในลำคอก่อนจะล้วงโทรศัพท์มือถือของมาดูว่าข้อความอะไรเข้ามา แต่แล้วแสงสว่างวาบของหน้าจอที่ม่านตาของเขาค่อยๆปรับรับแสงให้มองเห็นพอดีนั้นกลับเป็น LIVE ของน้องต่ายตัวเล็ก
“ดีนะตื่นมาทัน...” ชายหนุ่มพึมพำพลางยกยิ้มก่อนจะรีบกดจิ้มเข้าไปดู LIVE ของสาวสวยในดวงใจของเขาทันที
“ว้า... พี่หมีหายไปไหนน้า” เสียงหวานนั้นถามหาพลางมองดูบรรดาคนที่เข้ามารอรับชมสิ่งที่น่าสนใจนั้นก่อนจะพบว่าชายหนุ่มคนนั้นเพิ่งออนไลน์และเข้ามาดูเธอเมื่อครู่ “สวัสดีค่ะพี่หมีตัวใหญ่...”
ร่างบางบนหน้าจอของเขากรีดนิ้วทักทาย ธงก์ที่นอนอยู่นั้นก็กรีดนิ้วทักทายเธอกลับไปทั้งๆที่เขารู้อยู่แก่ใจว่าเธอมองไม่เห็นแต่ก็ยังอยากจะทำมัน
“น่ารักจัง...” ธงก์พึมพำออกมาก่อนจะขยับตัวมานอนตะแคง “หืม ? วันนี้ใส่สีดำงั้นเหรอ... ก็เซ็กซี่ไปอีกแบบ”
ปกติที่เขาจะให้เธอนั้นใส่ชุดสีชมพู สีหวานๆอะไรประมาณนั้น แต่สีดำนี้ก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
ครั้นดวงตาคมคู่นั้นมองลงมาที่ผ้าห่มของเขาชายหนุ่มก็เด้งตัวขึ้นมานั่ง มือข้างหนึ่งเธอโทรศัพท์ อีกข้างยกขึ้นมาเกาหัวอย่างงุนงง
“แล้ว... กูอยู่ที่ไหนเนี่ย ?” เขาพึมพำออกมาก่อนจะมองไปรอบๆ
ห้องรุ่นน้องที่เป็นยักษ์สักคนมั้ง...
เท่าที่จำได้ว่าคนที่ไปดื่มด้วยกันนั้นก็มีพวกไอ้ดาวเหนือ แต่มันมาแล้วก็แวบกลับไปเพราะคุณหนูอสุราโวยวายจะให้มันมาคอยอยู่เอาใจด้วยตลอด แล้วก็มีไอ้ขุน อืม... ไม่น่าใจมันที่จะพาเขากลับ
ไอ้อิฐงั้นเหรอ... มันมีโรงเรียนสอนศิลปะป้องกันด้วยที่เป็นบ้านของมันเอง ฉะนั้นถ้าจะเป็นมันที่พาเขากลับมาที่นี่ก็ต้องเป็นโรงเรียนของมัน
แต่นี่มันเหมือนเป็นห้องในคอนโดมากกว่า...
“คอแห้งว่ะ” ยักษ์หนุ่มวัยกลางคนนั้นบ่นออกมาก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เย็น
“วันนี้อยากให้ทำเป็นอะไรดีล่ะคะ ?” เสียงหวานนั้นดังออกจากโทรศัพท์ของเขา ธงก์เหลือบมองก่อนจะเอื้อมหยิบขวดน้ำเปล่าออกมาจากตู้เย็น แต่เขาก็เปิดตู้เย็นค้างไว้สายตานั้นจดจ้องไปที่ร่างบางที่ลุกจากเก้าอี้ของเธอ “เดี๋ยวน้องต่ายมานะคะ ขอไปหยิบน้ำก่อน”
“อูย...” ธงก์ร้องออกมาเบาๆเมื่อเห็นว่าเธอนั้นหายไปจากหน้าจอ ยักษ์หนุ่มวัยกลางคนนั้นเอาแขนหนีบขวดน้ำเอาไว้แล้วใช้มือปิดประตูตู้เย็นก่อนจะหันกลับมา
เขามองเห็นเท้าเรียวที่ยืนชะงักอยู่ข้างหน้า ชายหนุ่มละสายตาของหน้าจอแล้วแหงนมองเจ้าของห้อง
หญิงสาวนั้นยืนอึ้งใบหน้าครึ่งบนของเธอสวมหน้ากากน้องต่ายสีชมพูเอาไว้ สองมือของเธอยกขึ้นมาปิดปากตัวเองอย่างตกใจ ธงก์เองก็ยืนนิ่ง เขาอ้าปากค้างออกมาปล่อยให้ขวดน้ำนั้นตกลงพื้น
ครั้นน้องต่ายนั้นรีบวิ่งกลับเข้าห้อง ยักษ์หนุ่มนั้นกลับเร็วกว่าที่จะรีบวิ่งเข้ามาคว้าประตูห้องของเธอเอาไว้แล้วรีบแทรกตัวเข้ามา
ธงก์ก้มมองฉากในวิดีโอ LIVE ที่เขากำลังดูพร้อมเทียบกับภาพตรงหน้าที่เขากำลังเห็น พริ้มพริ้งนั้นทำอะไรไม่ถูก เธอรีบคว้าสายปลั๊กไฟที่เสียบเครื่องคอมพิวเตอร์เอาไว้ออก เพียงพริบตาที่หน้าจอคอมของเธอดับไป วิดีโอที่ LIVE สดของน้องต่ายคนนั้นก็ตัดขาดสัญญาณไปด้วยทันที
“นี่มัน...”
___________________________