"ไม่ได้!!/ไม่ได้!!"
หลังจากที่บาสและเนตรดาวโพล่งออกไปเสียงดังลั่น
คนที่เหลือก็พากันขมวดคิ้ว
"อย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลยยู เราไปดูของพวกเรากันดีกว่า" แนนท้วงขึ้น
ยูไม่ได้หันไปมองมองแต่กลับพูดออกมาแทน
"แนน...เราไม่ได้ชวนพวกเธอมา เพราะฉะนั้นพวกเธออยากไปดูอะไรก็ไปดูกันเถอะ แต่เรามากับไอ้ไม เราจะดูอะไรมันก็เรื่องของเรา" คำพูดนี้จะเรียกว่าาหักหน้าแนนก็ว่าได้ และคำพูดของเขายังสื่อออกมากลายๆให้เนตรดาวได้รับรู้ว่าพวกเขาไม่ได้มาด้วยกัน
"เอ่อ เรา....เราดูเรื่องเดียวกันกับน้องเขาก็ได้" แนนยังคงไม่ลดละความพยายาม
ส่วนเนตรดาวกลอกตามองบนจนลูกตาแทบจะขยับลงมาไม่ได้อยู่แล้ว
"เอางี้งั้นพี่เลี้ยงทุกคนเอง โอเคนะ" เป็นยูที่เสนอความคิดนี้ออกมา
"ไม่โอเค!!/ไม่โอเค!!"
ยังคงเป็นบาสและเนตรดาวที่ตอบออกมา เด็กสาวเห็นว่าตอนนี้แผนที่เธอและบาสวางไว้กำลังพังลงมาเพราะแขกไม่ได้รับเชิญตรงหน้า
ในขณะเดียวกันอะตอมกลับสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล จึงเสนอทางเลือกออกมา
"เราไม่ดูหนังแล้ว ไปกินไอติมกันดีกว่า"
"ไม่ได้!!/ไม่ได้!!"
บาสกับเนตรดาวประสานเสียงกันออกมาอีกครั้ง
"เอางี้ ผมเลี้ยงเอง" พูดจบบาสก็เดินไปที่เคาน์เตอร์อีกครั้ง ได้บัตรมาทั้งหมด7 ใบ
"เนตรลำบากแกแล้วล่ะ โชคดีนะ" ในตอนแรกเนตรดาวก็ไม่เข้าใจความหมายของบาส แต่เมื่อเด็กหนุ่มยัดตั๋วหนังที่มีที่นั่ง 5 ใบติดกันใส่มือเธอ เด็กสาวพลันตรัสรู้ในทันที
ไอ้เชี่ยบาส!!
เนตรดาวสบถในใจ
"บาส แล้วเนตรล่ะ ทำไมไม่เข้ามาพร้อมพวกเรา" อะตอมถามพลางมองไปที่เนตรดาว แต่บาสเองก็ดันหลังให้เธอเดินเข้าไปในโรงหนัง
"เนตรมันปวดขี้เดี๋ยวมันก็ตามมา"
บาสหันมาขยิบตาให้เนตรดาวที่ยืนหน้าบิดเบี้ยวอยู่หน้าโรงหนัง
"เอามา"
ยูแบมือทั้งยังยิ้มกริ่มให้คนตัวเล็กเบื้องหน้า เด็กสาวดึงตั๋วหนังออกมาหนึ่งใบอย่างรวดเร็วก่อนจะส่งสี่ใบที่เหลือให้รุ่นพี่
ยูขมวดคิ้ว เพราะเมื่อครู่เขาไม่ทันมองว่าเนตรดาวดึงส่วนหัวหรือส่วนท้ายออกมา
แน่นอน...เขาอยากนั่งข้างเธอ
ตอนนี้เด็กสาวซื้อขนมกับน้ำเสร็จก็เดินลิ่วเข้าไปในโรงหนังไม่ได้สนใจรุ่นพี่ทั้งสี่เลยสักนิด
ไมตรีเองก็เป็นอีกคนที่เดินมาดึงตั๋วหนังในมือของยูออกไปใบนึง เหมือนจะดึงสุ่มๆเอา
แต่สุ่มหรือไม่เรื่องนี้ไมตรีรู้ดีที่สุด
เขาเดินไปซื้อน้ำและป๊อปคอร์นเดินเข้าไปด้านในไม่รอใคร
"ไอ้ไม ไอ้ไม รอด้วย" ยูรีบดึงตั๋วหนังออกมาหนึ่งใบ ที่เหลืออีกสองใบส่งให้ข้าวฟ่าง
ตอนที่เนตรดาวเดินเข้ามาหนังก็เริ่มฉายพอดิบพอดี เธอวางแก้วน้ำและเสบียงอาหารที่ขนเข้ามาวางไว้ หยิบโทรศัพท์ออกมาดูข้อความแชทของบาส
่ เนตรเรากับอะตอมนั่งอยู่หน้าสุด เมื่ือยคอชิบ!! ่
่ เนตรถ้าอะตอมปฏิเสธเรา เราค่อยแลกที่กับแกนะ ทำใจไม่ได้ว่ะ ่
เนตรดาวทยอยอ่านข้อความของเพื่อนพร้อมกับล้วงลงไปในถังเอาป๊อบคอร์นส่งเข้าปาก
่ เนตรเราเริ่มหูอื้อแล้วว่ะ ถ้าเราบอกชอบอะตอมไปแล้วอะตอมได้ยินไม่ชัดทำไงดีวะ ่
เนตรดาวนั่งขำไปอ่านไป มืออีกข้างก็ไม่ว่างล้วงป๊อบคอร์นกินจนเกือบอิ่ม จนกระทั่งมานึกขึ้นได้ว่า ตัวเองซื้อขนมถุงไม่ได้ซื้อป๊อบคอร์นเข้ามา
รอยยิ้มของเธอแข็งค้างไปในทันที.....
ไมตรียื่นถังป๊อบคอร์นมาให้
"อิ่มแล้ว....ขอบคุณ" เนตรดาวตอบเสียงเบา เธอเอียงคอมองไปทางด้านขวาเล็กน้อย ถัดจากไมตรีเป็นข้าวฟ่าง แนน และยูตามลำดับ
เธอเพิ่งเห็นว่าในโรงนี้จุคนไว้เต็มทุกที่นั่ง บาสมันหาที่นั่งคู่ได้ถือว่าเป็นบุญ ส่วนกรรมนัั้นเธอจะรับไว้เอง
เธอได้ยินเสียงหวานใสของข้าวฟ่างชวนไมตรีคุยอยู่เป็นระยะ แต่เขากลับเพียงแค่ครางรับในลำคอออกมาเท่านั้น
เนตรดาวดูหนังพร้อมกับความเบื่อหน่าย เมื่อวานซืนเธอก็ดูเรื่องนี้ไปแล้วรอบนึง ดูกับคนข้างๆนี่แหละ
หนังบู๊ดุเดือดยิงกันเลือดพล่านตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบ ไอ้บาสมันคิดยังไงถึงเลือกหนังเรื่องนี้มาเป็นฉากหลังในการขอสาวเป็นแฟน ความโรแมนติกสักนิดก็ไม่มี
ครึ่งหลังของหนังเนตรดาวเลือกที่หลับเพราะเธอกินอิ่มไม่สนใจคนที่นั่งข้างๆอีกต่อไป
ตอนนี้เธอตัดใจจากไมตรีแล้ว ตั้งแต่วันที่เขาห้ามเธอไม่ให้ตบกับยัยหน้าสวยนั่น แต่จะตัดใจได้หรือไม่นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง
ชาอึนอูเราขอโทษ ไม่มีใครดีกับเราเท่านายอีกแล้ว...
เนตรดาวพร่ำเพ้ออยู่ในใจ
บาสเดินออกมาจากโรงหนังพร้อมใบหน้าที่บานราวกับกระด้ง ส่วนอะตอมก้มหน้างุดเพราะความเขินอาย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสถานะตอนนี้ของทั้งสองเป็นอะไรกัน
"เนตรแกกลับเองนะ เราไปส่งอะตอมที่บ้านก่อน"
"บาส.....ข้ามสะพานเสร็จก็รื้อทิ้งเลยนะ แหมๆๆ" เนตรดาวแซว
"นั่นสิบาสไปส่งเนตรก่อนก็ได้" อะตอมพูดเสียงเบาทว่ากลับอ่อนหวานกว่าก่อนหน้านี้นัก
"เตง ก็ถ้าเตงกลับช้า แม่จะว่าเอาใช่ป่าว....."บาสหันไปพูดกับอะตอม
"อิบาส!! เตง...... เราขนลุก" เนตรดาวลูบแขนเอาขนที่ตั้งชี้ให้ราบลง ก่อนจะอาสาพาตัวเองกลับบ้านไม่ต้องให้บาสไปส่ง ส่วนรุ่นพี่สี่คนนั้นหายไปไหนเธอก็สุดรู้
สงสัยคงจะจับคู่กันไปส่งที่บ้านเหมือนบาสกับอะตอมล่ะมั้ง....
เนตรดาวรู้สึกขมฝาดในอกขึ้นมาเมื่อนึกภาพที่ไมตรีขับรถและมีข้าวฟ่างนั่งซ้อนท้ายโอบเอวไมตรีไว้
เนตรดาวขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้านทันที เย็นวันนั้นเธอได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาสามคนพ่อแม่ลูกในรอบเกือบหนึ่งเดือน วันนี้พ่อเข้ามานอนในกรุงเทพๆเพราะว่าพรุ่งนี้ต้องพาแม่ไปฉะเชิงเทรา เนื่องจากมีปลาสองบ่อครบกำหนดจับ
"หายปวดฟันแล้วเหรอเนตร" แม่ถาม
"หายแล้วค่ะ" เนตรตอบออกมาหน้าตายทั้งที่ในใจก็เก้อกระดากอยู่บ้างที่ต้องโกหก
"เออเนตรพรุ่งนี้ไม่ไปไหนใช่มั้ยลูก" แม่วางช้อนก่อนจะหันมาถาม
"ค่ะ ไม่ได้ไปไหน"
"งั้นพรุ่งนี้หนูเอาปลากระพงที่พ่อเอามาไปนึ่งสักสองตัว ทำน้ำจิ้มแบบที่หนูเคยทำน่ะ เอาไปให้ลุงสมโชคที่โรงพยาบาลหน่อย อ่อผักลวกด้วยนะ ซื้อผลไม้ไปสักตะกร้าด้วยล่ะ"
"สมโชค ...ลุงสมโชคข้างบ้านเนี่ยนะ"
"อืม วันนี้เข้าโรงพยาบาลอีกแล้ว แม่เห็นลูกชายลุงสมโชคเขารีบกลับมาพาไปโรงพยาบาลก่อนหน้าที่หนูจะมาถึงไม่นาน"
"พี่ไมน่ะเหรอ"
"ใช่ๆๆ พรุ่งนี้อย่าลืมไปเยี่ยมล่ะ แม่ตั้งตังค์ไว้ให้สองพัน บ้านนั้นเขาดีกับเรามากเลยนะเนตร เวลาพ่อกับแม่ไปบ่อปลาก็ได้ฝากฝังบ้านนั้นให้ช่วยดูแลหนู บ้านใกล้เรือนเคียงเราก็ต้องพึ่งพากัน"
"ค่ะ" เนตรดาวตอบเสียงเบา หวนนึกไปถึงวันนี้ หลังจากที่หนังจบเธอก็ไม่เห็นพี่ไมอีก
เป็นแบบนี้นี่เอง..........
..............................................................
ผัวไรท์คนนี้มีนามว่า ซ่งเว่ยหลงนะคะอายุ19 เท่านั้น แต่หน้าตาชวนให้ป้าอยากพรากผู้เยาว์มาก
19 นี่ป้ารอดคุกยัง....
วันนี้อีกเรื่องไม่อัพนะคะ เขียนไม่ทันลูกพันแข้งพันขาหนักมากค่ะ(นุ้งซ่งต้องกลับมาดูลูกของเราบ้างนะ)