ก่อนที่จะถูกกักตัวไว้ในดินแดนแห่งนี้ มังกรไฟเพลซันได้ชื่อว่าเป็นอันธพาลในโลกของเอลฟ์ เพราะเขาหุนหันพลันแล่น และไม่ค่อยปกปิดพลังสักเท่าไหร่ หากมีอะไรทำให้เขาไม่พอใจจะต้องเกิดเรื่องใหญ่
ในวันที่เพลซันสูญเสียสติสัมปชัญญะและโบยบินขึ้นไป หลังจากวันนั้นหลายสิบปีที่แห่งนั้นก็กลับกลายเป็นทะเลทราย ถ้าหากไฟลุกโชติช่วงในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งด้วยฝีมือของเพลซัน พวกพี่น้อง โดยเฉพาะชีคานก็ต้องช่วยดูดซับเปลวไฟนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพลซันนั้นเหนื่อยมากๆ กับการทำให้ดินแดนแห่งหนึ่งแห้งแล้งไป รวมไปถึงการร้องทุกข์ของเหล่าเอลฟ์ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เพลซันมีความสุขกับการได้นอนหลับในถ้ำที่ปลอดโปร่ง ถ้าไม่มีเรื่องอะไรสำคัญ เขาก็จะไม่ออกไปข้างนอก และไม่แปลงกายเป็นมนุษย์ด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาวหรือในฤดูใบไม้ผลิที่อากาศค่อยๆ อบอุ่นขึ้น ผู้คนมากมายตามหาพลังอันอบอุ่นที่มังกรไฟครอบครอง เพลซันซึ่งเกลียดความน่ารำคาญก็ยิ่งไม่ยอมขยับตัวเข้าไปอีก
ดังนั้นสถานการณ์แบบในตอนนี้ทำให้รู้สึกไม่ค่อยดี เขาคิดว่ามันเป็นถ้ำที่ไม่มีใครรู้จักแท้ๆ แต่มังกรเขียวก็ยังตามมาจนได้ ประมาณหนึ่งเดือนก่อนหน้านั้นพวกพี่น้องทุกคนรวมทั้งมนุษย์ได้มารวมตัวกัน
“พี่ลุกขึ้นมาหน่อย จะหวนคืนแล้วรึไง”
“อะไรวะ”
ถึงเพลซันจะรู้สึกได้ตั้งแต่ก่อนที่คนพวกนี้จะเข้ามาในถ้ำ แต่เขาก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ เมื่อพีริดินพูดอะไร เขาก็เพียงแค่หรี่ตามองและเอาแต่นอนอยู่อย่างนั้น เขาเห็นมังกรเขียวผู้มีใจโอบอ้อมอารีกับมนุษย์ที่ยืนมองเขาตาปริบๆ อยู่ข้างหลังนั่น แก้เหงาหน่อยก็ดีเหมือนกัน สุดท้ายก็ขยับเขยื้อนร่างกายเสียที
“ตื่นแล้วนี่”
เสียงที่โพล่งออกมานั้นเต็มไปด้วยความยินดีต่างจากความคิดที่ไม่ค่อยใส่ใจ ด้วยเสียงที่ดังก้องจนถ้ำแทบจะถล่มนั้น มังกรไฟเพลซันจึงค่อยๆ กลายร่างเป็นมนุษย์ แผงคอของมังกรเปลี่ยนเป็นเส้นผม ในระหว่างที่ร่างของมังกรแปรเปลี่ยนไปอย่างน่าตกใจนั้น ก็มีหนุ่มหล่อที่ทำให้หลงรักเอาได้ง่ายๆ ปรากฏขึ้น
แผงคอสีแดงเข้มที่ไม่ถูกจัดให้เป็นระเบียบนั้นเปลี่ยนเป็นเส้นผมยาวลากพื้น ขณะที่เพลซันเดินเนิบๆ ไปหามนุษย์กับพีริดิน เขาก็จับเส้นผมยาวๆ นั้นมาตัดออกจนสั้นด้วยเล็บ แผงคอที่โดนตัดตกลงบนพื้น ไม่กี่วินาทีต่อมามันก็เปลี่ยนเป็นดอกไม้ไฟและสลายหายไปในอากาศ
ริกซ์จ้องมองขั้นตอนพวกนั้นตาไม่กะพริบ เพราะพลังของมังกรไฟหรือเปล่านะ ทันทีที่เข้ามาในถ้ำ เธอรู้สึกถึงความร้อนวูบวาบอย่างหนัก และมังกรสีแดงขนาดใหญ่เท่าถ้ำนั้นได้เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ในชั่วพริบตา
มังกรไฟเพลซันกำลังสวมสิ่งที่หน้าตาเหมือนโค้ทตัวยาวอยู่ ในขณะที่แปลงร่างคงจะใช้เวทมนตร์ในการสร้างเสื้อผ้าด้วย ไม่ว่าจะเป็นแขนเสื้อหรือชายเสื้อก็เป็นรูปร่างที่หรูหราเหมือนที่ราชวงศ์มนุษย์ใช้กัน เป็นไปได้ไหมว่ามนุษย์เลียนแบบพวกเขา
เสื้อที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเวทมนตร์นั้นหากอยู่ห่างไกลจากผู้สร้าง เมื่อเวลาผ่านไป มันก็จะสลายหายไป
“มีอะไรถึงได้มาหาข้าถึงที่นี่”
เพลซันยืนอยู่ตรงหน้าคนทั้งคู่แล้วจับมือริกซ์ก่อนจะลากตัวริกซ์ไป ริกซ์ตกใจกับการกระทำที่กะทันหันนั้นจนถึงกับกลั้นหายใจ
“คือ คือว่า....”
เขาหยุดเดินและหันกลับมาเพราะคำพูดของริกซ์ ดูท่าจะทำให้เขาหงุดหงิด และทำหน้าบึ้งจ้องมองเธอ ริกซ์จึงได้แต่ก้มหน้านิ่ง
สายตาของเขาทำให้เธอเหมือนตัวเล็กลงตั้งแต่ตอนที่เขาอยู่ในร่างมังกรแล้ว แม้กระทั่งตอนที่อยู่ในสภาพของมนุษย์ สายตานั้นก็ยังไม่เปลี่ยนไป สายตาแหลมคมและคุกคามราวกับหนามที่คอยทิ่มแทง
เพลซันทำท่าทางต่างไปจากตอนที่ได้พบกันครั้งแรก เขาลากริกซ์ไปยังที่ที่เขานอนอยู่เมื่อครู่ เดาได้เลยว่าจะเกิดเรื่องอะไร แม้ริกซ์จะจิกปลายเท้าเพื่อไม่ให้ถูกลากไป แต่ก็ไม่มีแรงที่จะเอาชนะได้
สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือคนรูปร่างใหญ่โต ขณะที่มองแผ่นหลังกว้างของเขา ริกซ์ก็สะดุ้งตกใจ ให้ตายเถอะ หรือว่าที่นี่ จะเหมือนกับตอนนั้น
พื้นที่ว่างด้านในถ้ำมีความปลอดโปร่ง แต่อากาศยังคงหนาวเย็น แม้จะมองพีริดินอย่างขอความเห็นใจ แต่เขาแค่มองกลับและยิ้มออกมาเท่านั้น เหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่ต้องการจะสื่อ และพีริดินที่ดวงตาไม่ได้สื่อความหมายพิเศษอะไรก็พูดธุระของตัวเอง
“พี่ ได้ยินว่าพี่พาเอลฟ์มาที่นี่”
“อือ”
หลังจากที่เพลซันตอบอย่างเนือยๆ เขาก็ปล่อยแขนริกซ์ ริกซ์ที่สูญเสียการทรงตัวเพราะจู่ๆ ก็โดนปล่อยแขนถึงกับทรุดลงตรงนั้น ถือว่าโชคดีไหมนะ พื้นดินนี่อุ่นมากกว่าที่เธอเคยกังวล ราวกับเป็นอิทธิพลของมังกรไฟ
“พวกนั้นน่ะ ขอยืมหน่อย”
“ใคร”
“มีไอ้คนที่ใช้ดาบเป็นใช่ไหมล่ะ คนที่ไม่ค่อยเต็มน่ะ ทำไมถึงช่วยไว้วะเนี่ย”
“อ๋อ หมอนั่น ก็เรื่องของข้าไหม ว่าแต่ทำไมเหรอ”
แขนที่ถูกจับอย่างแรงเหมือนจะมีรอยฟกช้ำ เธอทรุดตัวลงและลูบไล้ข้อมือ ไม่นานนักมังกรไฟก็ทาบทับลงมาบนร่างกายของเธอ เธอถูกจับที่ท้ายทอย และฟันที่แข็งแกร่งก็ก้มลงมาทางต้นคอ แค่มองสายตาก็พบว่ามันเปล่งประกายราวกับว่าจะถูกฆ่าเสียเดียวนั้น ริกซ์กลืนน้ำลายลงคอด้วยความหวาดกลัว
“มนุษย์บอกว่าอยากเรียนฟันดาบน่ะ”
เพลซันที่ใช้ฟันเขี้ยวงับเข้าที่คอระหงของริกซ์อย่างจงใจหยอกล้อนั้นได้สบตากับริกซ์เป็นครั้งแรก ดวงตาสีแดงเข้มเต็มไปด้วยประกายวิบวับ
วินาทีนั้นริกซ์รู้สึกว่านั่นเป็นครั้งแรกที่เธอได้รับความสนใจจากเขาในฐานะสิ่งมีชีวิตหรือคนๆ หนึ่ง
เพลซันหยุดสายตาที่ริกซ์และขยุ้มเส้นผมของริกซ์ด้วยมืออีกครั้ง เขาพลิกคอเธอไปคนละทางกับต้นคอที่ถูกกัด แล้วเธอก็ส่งเสียงครางออกมาเพราะการขบเบาๆ นั้น
“อ้า อื้ม...”
รู้สึกเจ็บมากกว่ารู้สึกดี เพลซันที่ไม่รู้สึกถึงความต่างของเสียงครางนั้นยังคงลูบไล้ด้วยความใคร่และทำไม้ทำมือไปบนอากาศ เอลฟ์ตนหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่แถวนั้นปรากฏตัวขึ้นโดยไม่รีรอ และก้าวออกมาหนึ่งก้าว
ทันทีที่เห็นเอลฟ์ ริกซ์ก็หน้าแดงขึ้นมาทันที ถึงแม้กับมังกรจะไม่เป็นอะไร แต่เธอไม่อยากให้คนอื่นมาเห็นเธอด้วยสภาพแบบนี้ พีริดินเอียงคอมองริกซ์ที่ตกใจและหลบสายตา
“ต่อจากนี้ไปเจ้านายของเจ้าคือมนุษย์ผู้นี้”
“...ขอรับ”
เพลซันพูดขณะที่ฉีกเสื้อของริกซ์ด้วยเล็บอย่างไม่สนใจ
เอลฟ์มองไปยังริกซ์และสะดุ้งเฮือกตกใจ เขาคือเอลฟ์ที่มังกรไฟเรียกมา ดังนั้นจึงมีดวงตาสีแดงเหมือนกับเขา เส้นผมมีสีทองแบบที่พบเห็นได้ทั่วไปในอาณาจักร
เมื่อเอลฟ์ได้สบตากับริกซ์ครู่หนึ่งเขาก็ทำหน้าเหยเก ก่อนจะซ่อนตัวไปตามเดิม ต่อให้หลอกตาด้วยอุบายง่ายๆ แต่ถ้าหากไม่เห็นตัวก็คงจะดีกว่า ริกซ์มีท่าทีสบายใจมากขึ้น
ระหว่างที่ปล่อยมือ ร่างเปลือยเปล่าของริกซ์ก็เผยออกมาให้เห็นจนหมด เขี้ยวของเพลซันสัมผัสลงบนตัวเธอบ่อย ทำให้เธอรู้สึกเจ็บมาก รู้สึกไม่สบายใจทั้งเรื่องท่าทางและสถานที่ แม้จะลองผลักไหล่นั้นออก แต่เพียงแค่เพลซันเอามือจับขาเธอให้อ้าออก เธอก็จะถอยหลังไป แล้วถ้าถูกจับให้คว่ำตัวลง เธอก็จะคลานหนีไป ชิ เสียงเพลซันเดาะลิ้นราวกับไม่พอใจอยู่ทางด้านหลัง
เพลซันจับข้อเท้าของริกซ์ และคิดว่าจะทำอย่างไรดี เขาไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงอยู่อย่างสงบเสงี่ยมไม่ได้ เพลซันจึงรู้สึกรำคาญและหงุดหงิด
มีอะไรไม่พอใจหรือเปล่า ทำยังไงถึงจะอยู่นิ่งๆ ตอนที่คิดไปถึงตรงนั้นพีริดินก็พยุงริกซ์ที่นอนอยู่และถูกเพลซันจับข้อมือให้ลุกขึ้น ตอนนี้ต้องสุภาพหน่อยแล้ว มุมปากของเพลซันยกขึ้นข้างหนึ่ง พีริดินจับแขนริกซ์จากทางข้างหลังล็อคไว้ และใช้ปากเลียติ่งหูเธอ
“อ๊ะ อย่า อย่าทำ”
ริกซ์ขยับอะไรไม่ได้นอกจากปาก
“นี่ไง... เสียงเพราะแบบนี้ไง พูดต่อไปสิ”
พีริดินเข้ามากระซิบใกล้ๆ หู ด้วยเสียงเนิบนาบ เธอเริ่มรู้สึงได้ถึงความร้อนจากทางด้านหลัง
ท่อนบนตกเป็นของพีริดิน ท่อนล่างนั้นกลายเป็นของเพลซัน ปลายลิ้นละมุนของพีริดินเลียที่ต้นคอ นิ้วมือยาวและนุ่มนวลกำอยู่ที่หน้าอก เขาใช้เล็บสะกิดที่ยอดอกจนห้อเลือด ทันใดนั้นเขาจึงเริ่มใช้มือทั้งสองข้างบดขยี้มัน ริกซ์เริ่มเกร็งเพราะรู้สึกว่าความวาบหวิวแล่นจากด้านล่างขึ้นมาด้านบน
“อือ... อื้อ...!”
ริกซ์หุบปากลง เพราะมือของพีริดินนั้นทำรุนแรงมากขึ้น ทันทีที่ได้ยินเสียงครางที่ตัวเองต้องการ พีริดินที่รู้สึกพึงพอใจจึงส่งเสียงหัวเราะแผ่วๆ ข้างหูริกซ์
“ยัยมนุษย์ เธอเองก็ อื้มม อยากมีทายาทเร็วๆ ใช่ไหม”
“ไอ้บ้านี่ พูดเรื่องนั้นได้ด้วยเหรอ”
“คะ คือว่า ไม่ ไม่ได้พูดแบบนั้นนะ...!”
เสียงร้องของทั้งสามคนในถ้ำ ในบรรดาสามเสียงนั้น ริกซ์ได้ยินเสียงครางของตัวเองสะท้อนกลับมาชัดเจนที่สุด เธอหน้าแดงจัดขึ้นมา อารมณ์ของมังกรเขียวและมังกรไฟยิ่งโหมขึ้น ทำให้มีลมร้อนพัดโอบล้อมจุดที่ทั้งสามคนอยู่ มีกลิ่นของดอกไม้อะไรไม่ทราบปะปนอยู่ในลมนั้นด้วย
“อืออ อื้ม...”
ในตอนที่พีริดินงับติ่งหูและดึงใบหู ริมฝีปากของเพลซันก็เบนไปยังหน้าอกของริกซ์ ตอนที่พีริดินเลียที่ต้นคอกับตอนที่เพลซันเลียนั้น ริกซ์ส่งเสียงครางต่างกันมาก
เพลซันที่รับรู้ถึงสิ่งนั้นได้จึงลองใช้เพียงปากดุนดันตุ่มนูนนั้นดู ริกซ์สะดุ้งขึ้นวูบหนึ่ง เสียงครางที่ออกมานั้นทั้งรุนแรงและอ่อนหวานราวกับถูกมัวเมา ขณะที่จ้องมองดูดวงตาสีเงินที่เลือนรางของริกซ์ จู่ๆ เพลซันก็นึกอะไรขึ้นมาได้
“ชอบแบบคราวก่อนไหม”
“อะไร”
“คราวก่อนไง”