อีกชื่อหนึ่งของยูฮันจูคือ ‘ตัววุ่นวาย’
ยองจีสรุปแล้วเอนหัวไปด้านข้าง เขานั่งอยู่ในห้องอ่านหนังสือตั้งแต่เมื่อครู่แล้วตกอยู่ในห้วงความคิด จริงๆ เขาไม่ได้คิดอะไรแบบนี้มานานมาก หลังจากฮันจูออกไปวันนั้นยองจีก็นอนไม่หลับไปหนึ่งคืน พอถึงวันต่อมาซึ่งก็คือวันนี้ คำถามต่างๆ นานาก็ลอยไปลอยมาในหัว
แต่นอกจากความสับสนวุ่นวายแล้ว เขายังคงอึดอัดใจเพราะสรุปอะไรไม่ได้ มีอะไรบางอย่างติดอยู่ข้างในเหมือนใครบางคนปั้นสำลีให้เป็นก้อนแล้วเอามาอุดสักที่ระหว่างหน้าอกจนถึงหลอดลม อะไรที่ว่าทั้งแข็งและเปียก
ถ้าจะมีเซ็กซ์ก็ต้องใช้ช่องทางด้านหลังงั้นเหรอ หมายความว่ายังไงนะ วิธีการมีเซ็กซ์ที่ไม่เคยทำเลยแม้แต่ครั้งเดียวทำให้ยองจีอยากรู้และอึดอัดไปพร้อมๆ กัน ในทางกลับกันก็ไม่เคยคิดเรื่องอะไรแบบนี้เลย พวกข้อยกเว้นหรือตัวแปรต่างๆ เหล่านั้นเหมือนเป็นเรื่องที่ไกลตัวยองจีอย่างไม่น่าเชื่อ ชีวิตของเขาเป็นชีวิตที่ถูกวางแผนขึ้นมาราวกับเป็นตารางประจำวัน
จนกระทั่งมาเจอฮันจู
ใบหน้าของยองจีไม่สบอารมณ์เพราะอยู่ๆ ก็นึกถึงจูบของอีกฝ่าย ถึงจะไม่ได้เกลียดแล้วก็ไม่ได้ทรมานแต่มันก็เป็นปฏิกิริยาตอบสนองแบบอัตโนมัติที่ทำออกมาโดยไม่รู้ตัว เป็นเรื่องต้องห้าม แน่นอนว่ามันเป็น ‘การกระทำที่ไม่ดี’ เดาไม่ถูกเลยว่าถ้าคุณปู่รู้แล้วจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
ความรู้สึกขณะร่างกายมีปฏิกิริยาต่อลิ้นเรียวที่กวาดต้อนไปทั่วปาก เขาเริ่มสั่นตั้งแต่กระดูกสันหลังลงไป ลำแขนกอดรัดตัวแน่นขึ้น ช่างเป็นร่างกายที่แน่นหนาจริงๆ จะจับตรงไหนก็แข็งไปหมด
แม้แต่ความเป็นชายที่อยู่ติดกับร่างกายส่วนล่างด้วย
พอนึกมาถึงตรงนี้ยองจีก็สะดุ้งแล้วดีดร่างกายส่วนบนที่เอนพิงอยู่ขึ้นมา จนการ์ดที่ยืนอยู่ด้านข้างมองเขาสะดุ้งตกใจราวกับคนฝันร้ายเอ่ยถามไถ่ออกมา ‘ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ คุณชาย’
ถึงจะน่าขำ แต่ในขณะนั้นยองจีถึงนึกขึ้นมาได้ว่าที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่เขาคนเดียว
“การมีเซ็กซ์ผ่านช่องทางด้านหลังคืออะไรน่ะ”
ในที่สุดความกลุ้มใจที่ติดค้างอยู่ในหัวก็ออกมาจากปากของยองจี มันเป็นเรื่องที่เขาสรุปเพียงคนเดียวไม่ได้ ดวงตาของการ์ดฉายแววตกใจกับคำถามเป็นอย่างมาก และกะพริบตาสองครั้งแทนคำตอบ
“รู้ไหมว่ามันรู้สึกยังไง”
เขาถาออกมาอย่างชัดเจนและไม่สะทกสะท้าน ก็แค่สงสัยและไม่รู้เลยถามออกไปเท่านั้น ตอนแรกอีกฝ่ายก็ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคำถามที่ทำให้ทำตัวไม่ถูกขนาดนี้
ความกลุ้มใจเป็นอาการที่ยองจีไม่คุ้นเคย การปรึกษาและการพูดคุยเรื่องแบบนั้นก็ยิ่งไม่คุ้นเคย ไม่เพียงแค่ไม่รู้สึกถึงความจำเป็นที่จะต้องพูดเท่านั้น แต่เขาไม่มีกระทั่งคนจะพูดคุยด้วย ถึงคนพวกนั้นจะเป็นการ์ดที่ตัวติดกับยองจีตลอดทั้งวัน แต่ยองจีก็ไม่เคยพูดคุยกับพวกเขาอย่างจริงจัง ไม่เคยแม้แต่คุยเล่นด้วย
พอได้รับคำถามก็รู้สึกเหงื่อซึมไปทั่วแผ่นหลัง ดวงตาสีดำสนิทของยองจีกำลังบังคับให้เขาตอบ สิ่งสำคัญคือตัวเขามีหน้าที่ที่จะต้องตอบคำถามของคุณชายตามความจริง
“…คือว่า ถ้าตอนนี้คุณชายกำลังพูดถึงเซ็กซ์ทางประตูหลังล่ะก็...”
“นายก็เคยทำเหรอ”
“…”
“มันเป็นยังไงล่ะ”
พอได้ถามออกมาแล้วก็มีคำถามตามมาเรื่อยๆ ต้องตอบตั้งแต่คำถามไหนกันนะ การ์ดนึกถึงประสบการณ์ของตัวเอง แน่นอนว่าเขาต้องเคยมีเซ็กซ์ทางประตูหลังอยู่แล้ว เขาเป็นอัลฟ่าและไม่ใช่คนซีเรียสเรื่องเพศสภาพของโอเมก้า บางครั้งถ้านอกเหนือจากพวกโฮโมโฟเบียที่ทำตัววุ่นวาย เพศก็ไม่ได้มีความหมายมากมายอะไรเลยในโลกของพวกเขา
“ก็ต้อง... เคยอยู่แล้วสิครับ แต่คุณชายก็...น่าจะเคยทำเหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ”
“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น”
แน่นอนว่าการ์ดพูดออกมาด้วยความที่ตนเองก็อยู่ฝ่ายที่จะ ‘สอดใส่’ ยองจีส่ายหัวราวกับอึดอัด
“ฉันหมายถึงนายเคยมีเซ็กซ์ด้วยช่องทางด้านหลังไหม ไม่ใช่ตรงด้านหน้า”
เขาอธิบายจุดประสงค์ของคำถามอย่างชัดเจน พอการ์ดได้ยินก็ทำสีหน้าเหรอหรา แต่หลังจากเข้าใจคำถามของยองจีก็ตื่นตระหนกเป็นอย่างมากพร้อมกับจ้องมองมาที่เขาอีกครั้ง ใบหน้าของยองจีเต็มไปด้วยความสงสัย
“ไม่ครับ ผมไม่เคยมี... ประสบการณ์อะไรแบบนั้น”
“แล้วไม่สงสัยเหรอ”
ยองจียังคงยืนกรานถาม เพราะมีเรื่องอยากรู้มากมาย เสียงของฮันจูที่บอกว่าถ้ามีเซ็กซ์ทางช่องทางด้านหลังจะรู้สึกดีมากลอยไปมาในหัว แถมยังบอกว่ารู้สึกดีกว่าจูบด้วย ทันทีที่นึกถึงคิ้วก็ขมวดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ แต่ปฏิกิริยาตอบสนองแบบนั้นเป็นนิสัยอย่างหนึ่งของเขา สุดท้ายแล้วแม้แต่นิสัยของเขาก็ยังระงับความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองไม่ได้
สำหรับยองจีผู้ไม่มีมาตรฐานในการแยกแยะได้ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องปกติหรือไม่ปกติ มีเรื่องสงสัยมากมาย เขารู้อยู่ในหัวว่าพวกอัลฟ่าไม่มีทางมีเซ็กซ์ทางประตูหลัง ‘อย่างแน่นอน’ แต่สงสัยในเรื่องนี้ก็แปลกด้วยเหรอ ก็แค่สงสัยเองนะ
นี่เหมือนกัน แค่เขาถามออกไปใบหน้าของการ์ดก็ซีดเผือด
“ผม...ไม่ได้หรอกครับ ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ยิ่งกว่านั้นคือผมรู้สึกต่อต้านมาตั้งแต่เกิดแล้ว...”
“อะไรนะ”
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่งข้อโต้แย้งของการ์ดก็เพิ่มมากขึ้นและตอบออกมาอย่างชัดเจน ยองจีฟังแล้วขมวดคิ้วในชั่วพริบตา ดูเหมือนอีกฝ่ายคงคิดว่าคุณชายอาจจะบังคับมีเซ็กซ์ทางประตูหลังกับตน ยองจีหรี่ตาลง เขาไม่มีความคิดแบบนั้นและไม่มีความคิดจะขืนใจใครด้วย ถึงไม่ได้แย่งชิงมาเขาก็มีทุกอย่างแล้ว ทำไมถึงจะต้องทำแบบนั้นกัน
แต่ถ้าลองคิดอีกอย่าง ปฏิกิริยาที่ได้เห็นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรมากมายถ้ายองจีจะกำลังสงสัยเรื่องการมีเซ็กซ์ทางประตูหลังที่ไม่สามารถเกิดขึ้นกับตัวเขาเองได้ เขาคือผู้ครอบครองลักษณะทางพันธุกรรมที่อยู่สูงไปอีกขั้น มันคงเป็นเรื่องที่จินตนาการไม่ออกจริงๆ
มันเป็น ‘เรื่องปกติ’
ยองจีตกอยู่ในห้วงความคิดอีกครั้งแล้วถอนหายใจออกมา เขามั่นใจจากปฏิกิริยาของการ์ดว่าเรื่องที่ตัวเองกำลังกลุ้มใจอยู่ในตอนนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ ไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับชายที่วันข้างหน้าจะต้องกลายเป็นบรรทัดฐานของทุกสิ่ง เรื่องนี้เป็นปัญหาที่สำคัญมาก