[44]
'โอกาสครั้งสุดท้าย'
I-RIS RED
“ของขวัญจะไปไหนวันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ?” ธามเอ่ยถามลูกาวที่แต่งตัวซะสวยเชียวแถมยังฉีดน้ำหอม หอมฟุ้งอีกต่างหาก สภาพนี้คงไม่ได้แต่งตัวอยู่บ้านหรอก
“อ๋อ พอดีหนูนัดมะปรางเอาไว้ค่ะ ว่าจะไปซื้อของที่ห้างค่ะ” ของขวัญตอบพ่อโดยไม่ได้หันไปมองสักนิดเพราะมัวแต่ทาลิปสติกบนริมฝีปากบางอยู่
“ซื้อของอีกแล้วเหรอ ช่วงนี้ออกบ่อยจังเลยนะ”
“ก็เรียนสายอาชีพนิคะงานมันเยอะก็เลยต้องไปซื้อของทำงานไงคะ” ของขวัญหันมาตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋ามาสะพาย “งั้นของขวัญขอตัวไปก่อนนะคะ”
“ให้พ่อไปส่งไหม?”
“...มะ...ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวมะปรางมารับค่ะ”
“มารับยังไง?”
“ก็พ่อมะปรางขับรถมารับไงคะแล้วตอนกลับก็มารับกลับ”
“เหรอ งั้นเดี๋ยวพ่อเดินลงไปส่งนะ”
“ค่ะ” ของขวัญพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะเดินนำผู้เป็นพ่อลงมายังด้านล่างด้วยใจหวั่นนๆ เพราะพ่อของเธออยู่ดีๆ ก็มาถามน่ะสิ ปกติเธอก็ออกไปเที่ยวพ่อก็ไม่เคยถามนะหรือเธอทำให้พ่อสงสัยมากเกินไปนะ เด็กสาวพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ” มะปรางยกมือไหว้พ่อธามด้วยรอยยิ้ม
“จ้ะ” ธามพยักหน้ารับไหว้เล็กน้อยก่อนจะมองเข้าไปในรถก็พบว่าพ่อของมะปรางขับมาจริงๆ และเขาพยักหน้าให้เขาด้วย ธามจึงพยักหน้าตอบกลับไปตามมารยาทเพราะยังไงมะปรางก็เพื่อนสนิทของขวัญและพ่อมะปรางก็รับส่งของขวัญบ่อยครั้งด้วย “อย่ากลับมืดกันมากนักล่ะช่วงนี้กลับมือกันบ่อยเลย เมื่อวานก็กลับตั้งสามทุ่ม โรงเรียนเลิกตั้งแต่ 5 โมง”
“ขอโทษค่ะ พอดีพวกเรากินบุปเฟ่ต์กันก็เลยช้าค่ะ” มะปรางพูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะเขยิบตัวเข้าไปหาของขวัญแล้วคว้าแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ “งั้นพวกหนูขอไปก่อนนะคะเดี๋ยวพ่อต้องไปทำธุระต่ออีก”
ธามพยักหน้ารับเล็กน้อยมะปรางส่งยิ้มให้พ่อธามก่อนจะรีบดึงแขนของขวัญให้เดินไปที่รถในทันที ของขวัญหันมาส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ แน่นอนทันทีที่นั่งบนรถได้เด็กสาวถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างโล่งอกอารมณ์เหมือนเพิ่งเดินผ่านสนามรบมาแล้วไม่บาดเจ็บอะไรเลยอ่ะ
“พ่อธามเนี้ยน่ากลัวชะมัดเลย” มะปรางพูดขึ้นด้วยสีหน้าแหยๆ
“นี่เธอกลัวเหรอฉันเห็นเธอกล้าคุยกล้ายิ้มขนาดนั้น”
“ก็ถ้าฉันไม่กล้าคุยกล้ายิ้มพ่อเธอก็สงสัยป่ะ แต่ถ้าให้คุยบ่อยๆ ก็ไม่ไหวนะบอกตามตรงพ่อเธอนี่หน้าตาไม่เป็นมิตรเลย หน้าตาพร้อมบวกตลอดเวลาอ่ะ”
“พ่อฉันก็เป็นแบบนี้ยังไม่ชินอีกเหรอไง?”
“ถ้าชินแล้วจะกลัวเหรอไงล่ะ พอๆ เลิกพูดเถอะเดี๋ยวจะหมดสนุก”
“นินทาพ่อแม่มันไม่ดีนะ” พ่อของมะปรางหันมาพูดกับเด็กๆ
“โห่พ่อก็พ่อของขวัญน่ากลัวจริงๆ อ่ะ” มะปรางหันไปเถียงพ่อ
“พ่อก็แบบเนี้ยแหละ หวงลูกสาวเป็นเรื่องปกติ ขนาดพ่อยังหวงเราเลย” พ่อมะปรางพูด
“ก็พ่อไม่ได้น่ากลัวเหมือนพ่อของขวัญนี่นา ขับรถไปเถอะค่ะเดี๋ยวก็รถชนหรอก” มะปรางตัดบทสนทนากับผู้เป็นพ่อเพราะไม่อยากให้พ่อสนใจอย่างอื่นมากกว่าท้องถนนเพราะพ่อเธอไม่เก่งขับรถในไทยหรอก เดินทางไปต่างประเทศมากกว่าอยู่บ้านเสียอีกเลยชินกับการขับที่ถนนเมืองนอกมากกว่าและแน่นอนเขามีวินัยกว่าไทยเยอะ
พ่อของมะปรางไม่ได้พูดอะไรอีกและทำตามคำสั่งของลูกสาวจนของขวัญยิ้มออกมาเล็กน้อยเพราะพ่อของมะปรางน่ะใจดีมาก ตามใจมะปรางตลอดแหละแต่มะปรางก็ไม่เคยนอกลู่นอกทางนะหมายถึงไม่เคยทำอะไรที่ไม่ดีหรือเสียหายอ่ะ พอมองพ่อของมะปรางแล้วมองพ่อเธอ ทำไมมันช่างแตกต่างแต่เธอก็ไม่ซีหรอกถึงพ่อเธอจะดุกว่านี้เธอก็รักพ่อเธออยู่ดีนั่นแหละ
@HOTPOT
“ทำไมต้องกินฮอตพอตอ่ะ?” เอฟถามมะปราง
“ก็มันมา 4 จ่าย 3 ไง” มะปรางตอบ
“มันเกี่ยวกันยังไง?”
“ก็ให้พี่จ่ายไงส่วนมะปรางกินฟรี” มะปรางพูดเสียงเรียบก่อนจะคีบปลาหมึกยัดไส้หมูกิน
“โห่ยัยงก บ้านก็มีเงินนะ”
“ทำไมแค่นี้เลี้ยงไม่ได้?”
“เลี้ยงได้ดิ แต่จะดีกว่านี้ถ้าให้เลี้ยงตลอดชีวิต”
“เหอะ! เก็บเงินไว้เลี้ยงสาวๆ พี่เถอะ ไม่อยากเป็นบุญคุณมากขี้เกียจตามไปเจอชาติหน้าอีก”
“โว๊ะ! ทำไมปากร้ายแบบนี้ล่ะห๊ะ?”
“เห้ยมึงจะอะไรนักหนาวะไอ้เอฟชอบชวนน้องทะเลาะ” นายที่นั่งกินอยู่ข้างๆ เอฟพูดปรามเพื่อนเพราะมันจะพาเสียบรรยากาศน่ะสิ
“นั้นน่ะสิ ปัญญาอ่อน” มะปรางพูดเสียงเรียบ
“ก็เพระาปากแบบนี้ไง มึงดูดิไอ้นาย ปากร้ายชะมัด” เอฟชักสีหน้าไม่พอใจ
“ก็มึงไปกวนตีนน้องเขาก่อนอ่ะ แดกไปเลยอย่าพูดมาก” นายยัดหมูใส่ปากเอฟจนเอฟแทบสำลักก่อนจะหันไปหาของขวัญที่เอาแต่นั่งกินเงียบๆ ไม่พูดอะไรเลย ถามว่าตั้งหน้าตั้งตากินไหมก็ไม่นะออกแนวจะกินช้าๆ เชื่องๆ ด้วยซ้ำ หมูชิ้นหนึ่งนี้แบ่งแล้วแบ่งอีกกินคำเล็กๆ พองาม “ของขวัญกินซูชิไหมเดียวพี่ไปเอาให้”
“ไม่ต้องหรอกค่ะเดี๋ยวของขวัญไปเอาเองก็ได้” ของขวัญเกรงใจ
“ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เองเดี๋ยวพี่เดินไปเอาให้นะ”
นายลุกตรงไปยังชั้นวางซูชิในทันทีก่อนจะคีบซูชิหน้าปลาแซลม่อนกับกุ้งใส่จานหกชิ้นแล้วหมุนตัวไปตักปลาหมึกยัดไส้หมูให้ของขวัญเพิ่มหน่อยเพราะของขวัญชอบกินมาก แย่งกับมะปรางอยู่สองคนนั้นนแหละไอ้เอฟนี่ก็ไม่บริการเลยอยากจะจีบสาวแต่นั่งตูดติดโต๊ะเชียวแบบนี้สาวจะประทับใจได้ยังไงกัน นั่งหาเรื่องเขาอยู่นั่นแหละถ้าไม่โดนมะปรางด่านี่สงสัยจะนอนไม่หลับมั้ง
“มาแล้ว พี่เอาปลาหมึกยัดไส้หมูมาให้ด้วยแล้วก็เต้าหู้ของชอบของขวัญ” นายเทของที่ตักมาเพิ่มลงไปในหม้อที่น้ำกำลังเดือดพล่าน
“ขอบคุณนะคะ” ของขวัญส่งยิ้มให้พี่นายก่อนจะเอื้อมมือไปตักลูกชิ้นลาวาให้พี่นาย “นี่ก็ของชอบพี่นายค่ะ ทานเยอะๆ นะคะ ระวังมันลวกปากด้วย”
“แหมๆ จำของโปรดกันได้ซะด้วย” เอฟพูดแหย่จนของขวัญหน้าแดง
“เอ้าก็คนสำคัญกูจะลืมได้ยังไงล่ะ” นายยักคิ้วให้เอฟก่อนจะหันกลับมาส่งยิ้มให้ของขวัญที่หน้าแดงระเรื่อเชียว “หน้าแดงจังเลย ไอมันร้อนเหรอ?”
“...สะ...สงสัยแบบนั้นมั้งคะ” ของขวัญก้มหน้าลงเพื่อหลบความอายก่อนจะคีบบะหมี่หยกกินคำโต
เอฟกระแทกไหล่นายเบาๆ เพื่อบอกเพื่อนผ่านทางการกระทำเป็นนัยๆ ว่าของขวัญเริ่มหวั่นไหวแล้วซึ่งนายเองก็รู้ดีเพราะเขาโตพอจะดูอาการของของขวัญออกนะ แต่ของขวัญก็ยังใจแข็งอยู่ดีนั่นแหละแต่ไม่เป็นไร น้ำเซาะหินทุกวันหินยังกร่อนเลยนี่ใจคนนะไม่ใช่หินทำจากเนื้อบางๆ เดี๋ยวก็อ่อน
หลังจากกินฮอตพอตเสร็จของขวัญกับพี่นายก็ออกมานั่งรอมะปรางกับพี่เอฟที่โต๊ะที่ห้างจัดเอาไว้ให้ลูกค้าพักผ่อนเพราะสองคนนั้นไปดูเครื่องใช้ไฟฟ้ากันเห็นว่าพี่เอฟจะซื้อเข้าคอนโดอ่ะแต่เธอเดินไม่ไหวแหละเพราะจุกมากเลยเมื่อกี้มัวแต่เขินพี่นายจนยัดเอายัดเอาสรุปอิ่มจนจุกอ่ะถ้าเดินคงพุ่งออกมาแน่นอนเพราะฉะนั้นนั่งรอดีกว่า
“กินน้ำไหม?” นายยื่นแก้วน้ำให้ของขวัญ
“ไม่เอาหรอกค่ะ ของขวัญจุกแล้ว” ของขวัญปฏิเสธเพราะตอนนี้ยัดอะไรไม่เข้าเลย
“งั้นอย่าเพิ่งรีบกลับบ้านได้ไหม ไปต่อกันที่ผับไอ้เอฟก่อน”
“แต่ว่าของขวัญต้องรีบกลับบ้านนะคะ ของขวัญบอกพ่อเอาไว้ว่าตอนเย็นๆ จะกลับไม่ใช่มืดๆ ”
“แต่พรุ่งนี้พี่จะกลับชลบุรีแล้วนะกว่าจะได้เจอกันอีกก็เดือนหน้าเลยนะ”
“แต่ว่า” ของขวัญเตรียมจะหันไปปฏิเสธพี่นายแต่พอเจอสายตาอ้อนเป็นประกายของอีกฝ่ายถึงกับทำให้ถ้อยคำที่เด็กสาวเตรียมจะพูดกลืนหายลงไปในลำคอเลย “ก็ได้ค่ะแต่ไม่กลับดึกนะคะ ขอ 3 ทุ่มพอ เดี๋ยวพ่อเป็นห่วงค่ะ”
“โอเคครับ แค่นั้นก็พอแล้วแหละ” นายยิ้มหน้าบานอย่างมีความสุข
ของขวัญได้แต่ยิ้มตอบกลับไปบางๆ โอ๊ย! ทำไมเธอจะต้องใจอ่อนให้ผู้ชายคนนี้ตลอดด้วยนะ เธอไม่เข้าใจเลยเนี้ยไหนว่าจะใจแข็งไงท่องอยู่ทุกวันแต่ทำไมทำไม่ได้สักครั้ง บางครั้งก็หงุดหงิดกับตัวเองชะมัดเลย
20.30 น. @RealF Bar.
“ของขวัญไม่ลองกินนี้ดูล่ะ อร่อยดีนะ” มะปรางโชว์แก้วน้ำพันซ์ในมือให้ของขวัญดู
“มันผสมแอลกอฮอล์เธอก็รู้ว่าฉันไม่ดื่ม” ของขวัญเลือกจะปฏิเสธเหมือนทุกครั้ง
“แล้วแต่นะ แต่ฉันว่ามันต้องอร่อยกว่าน้ำส้มแน่นอน” มะปรางยกแก้วน้ำพันซ์ขึ้นดื่มก่อนจะหันไปตีกับไอ้พี่เอฟที่มาเกาะแกะตัวเองต่อ
ของขวัญถอนหายใจออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพมะปรางกับพี่เอฟที่ชอบตีกันจะมีสักครั้งไหมเนี้ยที่สองคนเนี้ยจะพูดดีๆ กัน จริงๆ พี่เอฟหลายครั้งก็พูดดีกับมะปรางนะแต่มะปรางนั่นแหละที่ไม่เคยพูดดีกับพี่เอฟ แต่ก็นะมะปรางก็แบบเนี้ยแหละคงไม่อยากให้พี่เอฟมาวุ่นวายเลยเลือกจะร้ายใส่พี่เอฟซะเลย
นายเห็นของขวัญกำลังเพลินกับการดูไอ้เอฟตีกับมะปรางเลยถือโอกาสเขยิบเข้าไปใกล้เด็กสาวมากขึ้นจนไหล่แนบชิดกันนั้นทำให้ของขวัญสะดุ้งด้วยความตกใจก่อนจะเอนตัวถอยออกมา “...พะ...พี่นายจะทำอะไรคะ?”
“เปล่าสักหน่อยพี่ก็แค่อยากนั่งใกล้ของขวัญเฉยๆ ” นายส่งยิ้มให้ของขวัญก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปกุมมือของขวัญซึ่งตอนแรกของขวัญก็ทำเหมือนจะปฏิเสธแต่สุดท้ายก็ยอมให้นายกุมมือแต่โดยดีเพราะคงรู้ว่าหนีไม่ได้ “พี่ขอจับมือของขวัญแบบนี้ได้ไหม?”
“พี่น้องเขาจับมือกันแบบนี้ได้ไหมละคะ?” ของขวัญถามกลับ
“ได้สิ พี่น้องจับมือกันทุกวัน”
“งั้นก็จับได้ค่ะ” ของขวัญเขยิบตัวกลับมานั่งที่เดิมก่อนจะใช้อีกมือหยิบแก้วน้ำส้มขึ้นมาดื่มเพราะรู้สึกร้อนผ่าวแปลกๆ
หมับ!
“อ๊ะ!” ของขวัญสะดุ้งเมื่อพี่นายโอบกอดเธอ “...พะ...พี่นายจะทำอะไรคะ?”
“พี่น้องเขาก็กอดกันเหมือนกันนะ พี่จะกอดน้องผิดเหรอ?” นายส่งยิ้มให้ของขวัญ
“...ตะ...แต่ว่า นี่มันที่สาธารณะนะคะ มันไม่ดีหรอก ปล่อยนะคะ” ของขวัญพยายามแกะมือพี่นายออกจนแกะสำเร็จเลยตัดสินใจลุกขึ้นยืน “งั้นของขวัญขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” ว่าจบเด็กสาวก็รีบวิ่งฝ่าผู้คนออกไปในทันที
“ตามไปดิ!” เอฟหันมาพูดกับนาย
“ของขวัญจะไปไหน”
“ไม่ต้องเสือกหรอกอยู่กับฉันนี่แหละ เมาแบบนี้จะเดินไปไหนได้เดี๋ยวก็หกล้มหน้าทิ่ม” เอฟกอดตัวมะปรางเอาไว้เพื่อไม่ให้มะปรางลุกตามของขวัญไป อีกอย่างมะปรางเริ่มเมาแล้วด้วยเพราะไม่ได้กินแอลกอฮอล์บ่อยเลยไม่แปลกที่คอจะอ่อนปวกเปียกขนาดนี้
“มึงดูแลมะปรางดีๆ นะอย่ารุ่มร่าม” นายสั่งเอฟเพราะกลัวเอฟจะทำอะไรไม่ดีกับมะปรางในตอนนี้น่ะสิถ้ามะปรางโกรธเอฟมันจะพาลของขวัญโกรธเขาไปด้วยเดี๋ยวจะหาว่าไม่ห้ามเพื่อน
“เออกูรู้แล้วน่ากูไม่ปล้ำเด็กบ้านี่หรอก เดี๋ยวพาขึ้นไปนอนที่ชั้นสองก่อน” เอฟดึงตัวมะปรางให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะหามปีกเด็กสาวให้เดินไปยังบันไดเพื่อขึ้นไปที่ห้องทำงานของเขาเพื่อให้มะปรางนนอนพักในนั้นก่อนจะได้เคลียร์โต๊ะให้แขกคนอื่นนั่ง
นายลุกเดินตามของขวัญไปยังห้องน้ำก่อนจะยื่นรอเด็กสาวที่หน้าห้องน้ำจนของขวัญเดินออกมาจึงเดินเข้าไปหาและทำให้ของขวัญตกใจไม่น้อยเพราะอุส่าหนีมาหลบภัยแล้วแท้ๆ ยังจะตามเธอมาอีก
“แล้วมะปรางกับพี่เอฟไปไหนคะ?” ของขวัญถามพี่นายเมื่อมองไปที่โต๊ะแล้วไม่เจอใคร
“เอฟพามะปรางขึ้นไปนอนพักที่ชั้นสอง มะปรางเมาแล้วอ่ะ” นายตอบตามความจริง
“งั้นเหรอคะ งั้นก็กลับบ้านเลยดีกว่าค่ะ พาของขวัญกับมะปรางไปส่งบ้านนะคะ”
“จะรีบกลับไปไหนล่ะ อยู่คุยกับพี่ก่อนไม่ได้เหรอแค่ครึ่งชั่วโมงก็ได้”
“...ตะ...แต่ว่า”
“นะ นะ พรุ่งนี้พี่ก็กลับแล้วกว่าจะได้เจอกันก็เดือนหน้าเลยนะ”
นายใช้ลูกอ้อนแบบเดิมและท่าทางเหมือนเดิมแน่นอนมันใช้ได้ผลเพราะของขวัญใจอ่อนอีกแล้ว เด็กสาวถอนหายใจออกมาเบาๆ “ก็ได้ค่ะ แต่ครึ่งชั่วโมงนะคะ”
“อืม งั้นไปคุยกันบนรถนะ มันเงียบดี”
“ก็ได้ค่ะ”
นายยกยิ้มออกมาในทันทีก่อนจะพาของขวัญเดินออกมายังลานจอดรถแล้วตรงไปยังรถของตัวเองที่จอดอยู่ตรงมุมด้านในุสดที่มันค่อนข้างเงียบสงบเพราะข้างๆ เป็นรถไอ้เอฟเลยไม่มีใครมายุ่งวุ่นวาย ชายหนุ่มเปิดรถให้ของขวัญขึ้นไปนั่งก่อนจะขึ้นมานั่งทางฝั่งคนขับแล้วหันไปส่งยิ้มหวานให้เด็กสาวที่นั่งหลังพิงเบาะอยู่
“พี่นายมีอะไรจะคุยคะ?” ของขวัญเป็นคนพูดขึ้นก่อนเพราะไม่อยากปล่อยเวลาให้เสียเปล่า
หมับ!
“อ๊ะ!” ของขวัญสะดุ้งเมื่อถูกพี่นายกุมมือเอาไว้
“ของขวัญรู้ใช่ไหมว่าพี่ยังรักของขวัญเหมือนเดิม” นายจ้องมองของขวัญด้วยแววตาจริงจังแต่ก็มีความอ่อนไหวอยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน
“ของขวัญรู้ค่ะ” ของขวัญก้มหน้าลงเล็กน้อยเพราะไม่กล้าสบตากับพี่นายกลัวจะใจอ่อนอีก
“แล้วทำไมของขวัญถึงไม่ยอมคืนดีกับพี่สักทีล่ะ?”
“ถึงเราคืนดีกันตอนนี้เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีกนั่นแหละค่ะ ในเมื่อสิ่งที่พี่นายต้องการของขวัญให้ไม่ได้” ของขวัญพูดเสียงเรียบก่อนจะพยายามดึงมือกลับแต่พี่นายกลับยิ่งกำมือเธอจนแน่น
“พี่รอได้ ครั้งนี้พี่จะรอจริงๆ ” นายกำมือของขวัญแน่น
“ครั้งก่อนๆ พี่ก็พูดแบบนี้” ของขวัญพูดเสียงเรียบ
“แต่ครั้งนี้พี่สัญญาว่าพี่จะรอ จะไม่งอแงเลย”
“แล้วของขวัญจะเชื่อพี่นายได้ยังไงคะ?” ของขวัญหันมาสบตากับพี่นาย
“ครั้งสุดท้าย พี่ขอครั้งสุดท้ายนะ” นายกุมมือของขวัญแน่น ดวงตาคู่คมจ้องมองเด็กสาวอย่างเว้าวอน
ของขวัญจ้องมองสบตากับพี่นายด้วยหัวใจที่เต้นระรัวก็เธอยังรู้สึกดีกับเขานิพอเขามาทำแบบนี้กับเธอคิดว่าเธอจะไม่รู้สึกอะไรเหรอและมันกำลังทำให้เธอใจอ่อน เด็กสาวก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อคิดทบทวนกับสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมา นี่มันก็ผ่านมาปีหนึ่งแล้วนะที่เธอกับพี่นายเลิกกันและตลอดเวลาที่ผ่านมาพี่นายก็พยายามตามง้อเธอมาตลอดไม่มีวันไหนเลยที่เขาไม่ง้อเธอ เขายังคงเป็นพี่นายของเธอเสมอยังคงทำหน้าที่ดูแลเธอเสมอถึงแม้จะเลิกกันไปแล้วก็ตาม เขาไม่เคยนอกลู่นอกทางให้เธอเห็นแต่ลับหลังเธอ เธอก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขาทำไหมแต่ต่อหน้าเธอเขาไม่เคยทำและก็ไม่เคยมีเรื่องราวแบบนั้นมาให้เธอต้องหนักใจเลยด้วย
พอเอาองค์ประกอบทุกอย่างมารวมกันหักลบกับสิ่งที่พี่นายทำกับเธอมันก็เหมือนจะหักล้างกันได้นะเพราะตอนนี้พี่นายก็พยายามกับเธอมาตลอด พยายามมาเป็นปีๆ โดยที่เขาไม่เคยลดละความพยายามเลย เสมอต้นเสมอปลายตลอด บางทีมันอาจจะถึงเวลาที่เธอควรจะให้อภัยเขาแล้วก็ได้ ในเมื่อหัวใจของเธอก็รักเขาอยู่เหมือนกันเธอควรเลิกทรมานหัวใจตัวเองสักที บางทีการกลับไปเริ่มต้นใหม่ครั้งนี้มันอาจจะดีกว่าเดิมก็ได้นะเพราะต่างคนต่างโตและผ่านความเจ็บปวดมาแล้วทั้งคู่ ครั้งนี้อาจจะรักกันมากกว่าเดิมก็ได้เพราะกลัวว่าจะต้องกลับไปจบลงแบบเดิมอีก
“นี่จะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของพี่นะคะ” ของขวัญเงยมองหน้าพี่นายด้วยสีหน้าจริงจัง
“...มะ...หมายความว่าของขวัญยอมกลับมาคบกับพี่แล้วใช่ไหม?” นายถึงกับเสียงสั่น
“ค่ะ เราจะกลับมาคบกันอีกครั้งเพราะฉะนั้นรักษาโอกาสนี้ไว้ให้ดีๆ นะคะ” ของขวัญจ้องมองนายด้วยสีหน้าจริงจังก่อนจะหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นท่าทางของพี่นายที่ยิ้มหน้าบานตัวแข็งทื่ออย่างกับโดนสาปให้เป็นหินอย่างงั้นแหละนี่คืออาการอึ้งใช่ไหม “...พะ...พี่นายโอเคไหมคะ อย่าเพิ่งตายก่อนนะคะ”
หมับ!
“อ๊ะ!” ของขวัญร้องอุทานด้วยความตกใจเมื่อถูกพี่นายดึงตัวเข้าไปกอดจนแน่นจนแทบหายใจไม่ออกจนต้องพยายามดันตัวอีกฝ่ายเอาไว้ไม่งั้นเธอตายคาอ้อมแขนแกร่งๆ ของเขาแน่นอน
“ขอบคุณนะครับ ขอบคุณจริงๆ ที่ให้โอกาสพี่อีกครั้ง ครั้งนี้พี่สัญญาเลยว่าจะทำให้ดีกว่าเดิม พี่รักของขวัญนะรักมากๆ เลย มากๆ มากๆ มากๆ ” นายพร่ำพูดออกมาหลายต่อหลายคำพูดจนลิ้นพันกันไปหมด อ้อมแขนแกร่งโอบกอดร่างบางจนแน่นด้วยความดีใจสุดขีด ดีใจจนมันจุกอกไปหมดตอนนี้เขารู้สึกเหมือนคนจะตายอ่ะ เหมือนหัวใจกำลังจะวายเลยมันหายใจหายคอไม่ทัน
“...พะ...พี่นายของขวัญหายใจไม่ออกจะตายแล้ว” ของขวัญพยายามดันตัวนายออกไปคือก็ซึ้งนะกับคำพูดพี่นายแต่เธอจะตายก่อนไหมเนี้ย
“อ๊ะ! พะ...พี่ขอโทษพี่ดีใจมากไปหน่อย” นายรีบปล่อยตัวออกจากของขวัญในทันทีก่อนจะจับมือของเด็กสาวด้วยรอยยิ้มจนหน้าบานปากนี่แทบจะฉีกถึงใบหู เรียกว่าหุบยิ้มไม่ลงเลยดีกว่า “พี่รักของขวัญนะครับ พี่สัญญาว่าครั้งนี้มันจะต้องดีกว่าเดิมและพี่จะรักษาของขวัญไว้ให้ดีที่สุด”
ริมฝีปากหนาบรรจงกดจูบลงบนฝ่ามือบางของเด็กสาวอย่างอ่อนโยน ส่งมอบความรู้สึกผ่านสัมผัสไปยังอีกฝ่ายให้ได้รับรู้ว่าเขารักเธอมากแค่ไหน เขาอาจจะผ่านผู้หญิงมาหลายคนแต่เขาไม่เคยจริงจังกับใครเลยและไม่เคยรู้สึกกับใครได้เท่านี้มาก่อน ของขวัญคือคนพิเศษที่สุดของเขา คนที่เขาพร้อมจะหยุดทุกอย่างที่เธอเพียงคนเดียว
ของขวัญส่งยิ้มให้พี่นายด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ เด็กสาวบิดเอียงใบหน้าหลบเล็กน้อยด้วยความเขินอายแต่นายกลับเชยคางบางให้หันมาสบตากับเขาเฉกเช่นเดิม มือหนาลูบไปตามแก้มนวลเนียนที่เป็นของเขาเพียงคนเดียวด้วยรอยยิ้มและแววตาเป็นประกายอย่างละมุนละไมก่อนที่ใบหน้าหล่อคมจะยื่นเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าหวานแล้วบรรจงกดจูบลงบนริมฝีปากด้วยความสิเสน่หารักใคร่ โดยที่ของขวัญก็ไม่ได้ปฏิเสธจูบที่แสนอ่อนโยนของนายสักนิด
ของขวัญโอบกอดคอของพี่นายหลวมๆ และหลับตาพริ้มลงเพื่อยอมรับรสจูบที่หอมหวานจากอีกฝ่ายแต่โดยดี รสจูบที่เธอไม่ได้สัมผัสมานานแสนนานแต่มันยังคงละมุนและอ่อนโยนเหมือนเดิมจนทำให้เธอเคลิบเคลิ้มไปกับมันได้ เธอเชื่อว่าครั้งนี้มันจะต้องดีกว่าเดิม ความรู้สึกเธอบอกแบบนั้นและเธอเชื่อความรู้สึกของเธอที่สุด