.
.
.
.....เช้าวันต่อมาด้วยความเหนื่อยในการเดินเที่ยวทำให้ทุกคนต่างตื่นสาย แต่ทริปยังไม่จบยังพากันออกเดินทางไปเที่ยวต่อที่กรุงเบิร์นจนถึงเย็น จากนั้นจึงค่อยบินกลับมาที่ประเทศไทยโดยเดินทางจากสนามบินมาถึงบ้านในตอนเช้าของอีกวัน เมื่อมาถึงทุกคนต่างมีสภาพอิดโรยอ่อนแรงจึงได้แยกย้ายกันไปพักตามคำสั่งของนายใหญ่ของบ้าน แต่กรรณกลับยังยืนอยู่เพราะมีข้อสงสัยบางอย่างที่ต้องถามนาย
“ ทำไมเราถึงบินกลับมาก่อนกำหนดล่ะครับนาย ” วีมองกรรณกับอิทธิที่เหมือนจะมีเรื่องคุยกันต่อจึงขอตัวพาหนูน้อยฮันนี่ขึ้นไปนอนก่อน แต่อิทธิกลับบอกว่าไม่มีอะไร กลัววีกับลูกเหนื่อยและทำท่าเหมือนจะเดินขึ้นมาด้านบนพร้อมกับวีด้วย
“ งั้นนายก็ไปพักเถอะครับ ” กรรณไม่เชื่อนายสักเท่าไรเพราะคิดว่ามันคงมีอะไรแน่ๆและคนเป็นนายเองก็พอจะรู้ว่ากรรณไม่เชื่อจึงออกคำสั่งให้กรรณไปตามจ้อยลูกน้องที่ให้ตามกาเบียลมาพบที่ห้องทำงานก่อนที่กรรณจะแยกกลับไปนอนพักโดยอิทธิเองก็ไปรอพบลูกน้องก่อนไปพักเช่นกัน
ก๊อกๆๆ
“ เข้ามา!! ” เมื่อได้ยินเสียงอนุญาตจากคนด้านใน จ้อยจึงมองซ้ายมองขวาแล้วเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานแล้วมานั่งลงอยู่เก้าอี้ตรงข้ามกับนาย หยิบโทรศัพท์ออกมาส่งให้นายดู รายงานความเคลื่อนไหวกาเบียล พร้อมมีภาพประกอบสถานที่ต่างๆที่กาเบียลไป
“ ใครถ่ายส่งให้มึง ” มาเฟียถามเพื่อความแน่ใจเนื่องจากรูปภาพค่อนข้างชัดและใกล้
“ เพื่อนผมที่นู้นครับ ให้ช่วยตามให้ไว้ใจได้แน่นอน ” จ้อยทำผลงานเป็นที่พอใจ มาเฟียหนุ่มจึงเอ่ยจะเพิ่มโบนัสเงินเดือนให้พลางเลื่อนรูปดูไปเรื่อยๆจนกระทั่งเห็นรูปกาเบียลกับเจลล่าที่คอนโดเดียวกัน
“ ทำไมเจลลาถึงอยู่คอนโดกาเบียล และบินไปไต้หวันไปพบโจธานด้วย ”
“ วันที่นายไปภูเก็ต มีคนของเราบางคนที่ไม่ได้ไปกับนายโผล่ที่นั่น แล้วเช้าวันต่อมา คุณโจธาน ก็สั่งให้ลูกน้องหาคุณเจลลาให้วุ่นเลยครับ จากนั้นก็มีคนมาแจ้งคุณโจธานว่าคุณเจลลาบอกว่าไปเที่ยวกับเพื่อนแต่ก็หายไปหลายวันเลยครับนาย ”
อิทธิพยักหน้ากับสิ่งที่จ้อยเล่าจนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น จ้อยจึงขอตัวลุกไปเปิด และเป็นกาเบียลที่เดินเข้ามาในห้อง ทำให้อิทธิสั่งให้จ้อยออกไปทำงานต่อโดยที่กาเบียลไม่ได้เอะใจอะไรสักนิด
“ ไหนว่าจะไปสัปดาห์นึงไงครับ มีอะไรรึเปล่าถึงกลับมาเร็ว ” กาเบียลนั่งลงและเอ่ยถามนาย
“ ไม่มี อยากกลับก็กลับ ทำไมเหรอ ”
“ ป่าวครับ นายไม่อยู่มีคนติดหนี้เพิ่ม 2 – 3 คน แต่ไอ้สองมันบอกกับผมว่านายให้รอนายมาจัดการเอง ทำไมนายไม่ให้ผมจัดการให้ล่ะครับ กลับมาเหนื่อยๆพรุ่งนี้ก็บินอีก จะไม่มีแรงเอานะครับ ”
กาเบียลร่ายยาวจนอิทธิต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง และถามกลับไปอย่างกวนๆและดักทางกาเบียล
“ ต้องใช้แรงทำไรด้วยเหรอ พูดอย่างกับจะมีเหตุการณ์อะไรงั้นล่ะ ”
“ ก็...ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ผมแค่เป็นห่วง ” มาเฟียหนุ่มเลิกสนใจเรื่องนั้นและถามหาเอกสารที่ต้องเซ็นระหว่างที่ตนหนีไปเที่ยวกับคนรัก แต่ก็ไม่มีมากนักเพราะกาเบียลและเลขาได้จัดการไว้แล้ว มาเฟียจึงถามไถ่ถึงงานใหญ่ที่ไต้หวันที่จัดขึ้นในวันพรุ่งนี้แทน
“ นาย...จะพาคุณวีไปด้วยเหรอครับ นายไม่กลัวพวกนั้นมันเล่นงานคุณวีเพื่ออะไรบางอย่าง
เหรอครับ ผมว่า...อย่าพาไปเลย ” กาเบียลมารู้ทีหลังว่ามาเฟียหนุ่มจะพาคนรักไปด้วยในงานวันพรุ่งนี้จึงเกิดเป็นห่วง แต่อิทธิยังคงยืนยันว่าจะพาไปเพราะคนที่นู้นไม่รู้ฐานะของวีต่อตนเอง
“ ถ้าคนจะสืบยังไงก็รู้ ”
“ จะเตือนผมว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นว่างั้น แล้วนอนที่บ้านไม่หลับเหรอ ต้องกลับไปนอนคอนโด ”
กาเบียลมองคนเป็นนายที่ถามตนเหมือนรู้อะไร แต่ยังไม่ทันได้แก้ตัวหรือตอบอะไร คนเป็นนายก็พูดต่อว่า..
“ อยากได้รถใหม่สักคัน คันเก่าใช้มานาน เบื่อแล้ว จังหวะเบรกความนิ่ม ไหนจะกลิ่นเดิมๆอีกคุณว่าไง ถ้าผมจะเปลี่ยนยี่ห้อรถด้วย แพงกว่า ดีกว่า ใหม่กว่า โอ๊ย!! ไม่ชอบเลย ความรู้สึกเหมือนเหยียบเรือสองแคม ” ประโยคสุดท้ายมาเฟียต้องการจะเน้นย้ำและมองหน้ากาเบียลและจ้องค้างไว้
“ วอทดูยูมีน ? ” กาเบียลถามและมองนายแบบไม่เข้าใจสิ่งที่นายต้องการจะสื่อ
“ ไม่ได้หมายถึงอะไร ก็แค่ปรึกษาอยากซื้อรถใหม่นั่งก็เท่านั้น ”
กาเบียลเงียบไปอีกครั้งและหลบสายตาอิทธิไปชั่วขณะก่อนที่อิทธิจะเอ่ยว่ามีของฝากจากสวิตให้ด้วย
“ ค่อยให้ก็ได้ครับ ”
“ ให้เลยดีกว่า เผื่อไม่มีโอกาสแล้ว รอสักครู่นะ ”
อิทธิลุกจากเก้าอี้เดินออกไปที่ถุงของฝาก จนหยิบกล่องๆหนึ่งเดินขึ้นมาที่ห้องทำงานตนอีกครั้ง จากนั้นจึงยื่นกล่องสีกรมที่ไปหยิบมาให้กับกาเบียลที่นั่งนิ่งอยู่ตรงข้าม ซึ่งกาเบียลก็ก้มหัวนิดๆและรับมาพร้อมกล่าวขอบคุณ ก่อนที่จะเปิดดูตามคำเชื้อเชิญของคนเป็นนาย เมื่อเปิดออกด้านในกล่องเป็นเนคไทและแว่นตากันแดดคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์ดัง กาเบียลจึงปิดกล่องและวางไว้อย่างทะนุถนอมเพราะเป็นของฝากอีกชิ้นที่นายมอบให้ ซึ่งมีอยู่บ่อยๆตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา
“ ไม่เห็นต้องมีของฝาก ผมบอกนายหลายครั้งแล้ว ”
“ เอาน่า! ถือว่าตอบแทนบุญคุณ ” กาเบียลยิ้มกับคำที่นายพูดและเอ่ยปากบอกให้นายไปนอนพักผ่อน อิทธิจึงเย้าแหย่ว่ากาเบียลจะไล่ตนไปนอนให้ได้จึงลุกขึ้นทำท่าจะออกจากห้องไปพัก
“ เย็นๆ มาเตรียมคุยงานที่จะเกิดพรุ่งนี้นะครับนาย ”
อิทธิพยักหน้าแล้วออกจากห้องทำงานกลับไปที่ห้องนอนตัวเอง แต่พอเข้ามาไม่เห็นวีจึงเดินไปที่
ห้องของลูกก็เห็นวีนอนหลับอยู่ที่เตียงกับลูกน้อยของตน อิทธิจึงบอกให้พี่เลี้ยงไปพักแล้วตัวเองก็กลับไปอาบน้ำแล้วมานอนกับลูกอีกทางหนึ่งของเตียงเพื่อพักผ่อนเช่นกัน นอนได้ไม่กี่ชั่วโมงหนูน้อยก็ลืมตาตื่นลุกขึ้นมานั่งแล้วก็ก่อกวนคนที่นอนข้างๆทันทีทั้งเรียก เอามือจับหน้า ตีแขน จนวีลืมตาตื่นมาด้วยความงัวเงียเอามือโอบหนูน้อยเข้ามานอนใกล้กับตัวเอง ลูบหลังให้และตบก้นแต่หนูน้อยก็ไม่ยอมนอนต่อ และยังส่งเสียงเจื้อยแจ้วแจ่มใส ร้องหม่ำๆ จนวีต้องลุกขึ้นไปชงนมมาให้นอนดูดกิน
แอ้!! กออออออออออออ บู้ววววววววว
“ ชู่วว!! เบาๆฮันนี่ แด็ดดี๊หลับอยู่ กินนมๆ ”
“ ดี๊ ดี๊ ดี๊!!!!!!! ” โอ้ตายแล้ว วีเอามือลูบหน้าและบ่นออกมาเพราะฮันนี่คลานไปอีกฝั่งของที่นอนแล้วไปตะโกนเรียกคนเป็นพ่อจนตื่น แต่มาเฟียนั้นดูไม่ได้หงุดหงิดอะไรกับการโดนกวนสักนิด
“ เจี๊ยวจ๊าวจังเลย ไม่เอ๋ๆ ง่วง อยากนอน ”
“ หม่ำ หม่ำ ”
“ นายกลับไปนอนที่ห้องมั้ย อยู่นี่ฮันนี่กวนใจอีก ไม่ได้นอนหรอก ”
อิทธิเอาหมอนมาทับหน้าแล้วนิ่งไป ฮันนี่เองก็เลิกสนใจพ่อเอานมมานอนดูดกินและสงบไปได้สักพัก วีจึงเดินไปอีกฝั่งหยิบหมอนออกจากหน้าอิทธิ แล้วดึงแขนให้ลุกไปพักที่ห้องนอนตัวเองอย่างเป็นห่วง
“ ไปนอนที่ห้อง ” ร่างบางพูดแกมสั่งนิดๆทำให้ร่างสูงสลืมสลืองัวเงียมองคนปลุกและถามกลับอย่างเป็นว่าตัวเองนอนบ้างรึยัง วีจึงตอบกลับไปว่าได้นอนแล้งนิดหน่อยแต่ฮันนี่ปลุกเพราะหิวนม อิทธิจึงพยักหน้าแล้วลุกขึ้นนั่งโดยวีนั้นยังคงดึงแขนให้ยืนและบอกว่าจะไปส่งที่ห้องนอน
“ หึๆๆ ถ้าไม่ไปส่งก็ไม่ไปนะเนี่ย ”
วีอุ้มฮันนี่แล้วเดินไปส่งอิทธิที่ห้องนอน จากนั้นอิทธิจึงสั่งลูกน้องให้ไปตามพี่เลี้ยงมารับฮันนี่ไปดูแลต่อ เพื่อให้วีได้พักผ่อนต่อพร้อมกับตนเองที่ห้องนอน โดยวีนั้นโดนดึงเข้ามาในห้องและจับให้นอนบนเตียงโดยอิทธิขยับต่ำลงนอนตะแคงข้างเข้าหาและเอาหัวหนุนอยู่ตรงอกวี มือก็พาดกอดไว้หลวมๆแล้วจึงหลับตาลงนอน ไม่นานก็ปล่อยเสียงกรนเบาๆออกมาให้ได้ยิน
“ นายเปลี่ยนไปจริงๆ เปลี่ยนไปจากเดิมมากเลย คนขี้โมโห บ้าอำนาจหายไปไหนนะ เหลือแต่อะไรก็ไม่รู้เนี่ย มาอ้อน นอนกอด เป็นฮันนี่ไปได้ ” ร่างบางคิดในใจแล้วมองคนที่นอนหัวเกยกันอยู่นาน พร้อมหอมที่ขมับเค้าเบาๆอยู่หลายที จากนั้นก็ยกมือกอดตอบแล้วจึงหลับลงไปอีกครั้งเช่นกัน
พอตกเย็นเป็นอิทธิที่ตื่นก่อน และค่อยๆลุกเดินไปล้างหน้าก่อนออกจากห้องไปอย่างเบาๆ เพื่อไปที่ห้องทำงาน แต่ยังไม่ทันถึงก็ได้ยินกาเบียลคุยโทรศัพท์ที่มุมเดิม จึงเดินไปแอบฟังว่ากาเบียลคุยอะไรอะไรกับใคร จากนั้นก็เปลี่ยนใจเดินลงมาด้านล่างแทนและสั่งให้ลูกน้องไปตามกรรณมาพบตนที่ห้องนั่งเล่น
“ ให้คนไปตามมีอะไรเหรอครับ? ”
“ กูได้ยินกาเบียลคุยโทรศัพท์ ถ้าเดาไม่ผิด น่าจะฝั่งนู้น ” มาเฟียกระซิบคุยเบาๆกับกับลูกน้องมือซ้าย ซึ่งทั้งคู่ต่างไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้
“ เค้าบอกให้กูระวังความปลอดภัยของวีให้ดีๆที่จะพาไปพรุ่งนี้ ไม่ใช่กูไม่ห่วงวีนะ แต่กูจะเดินตามเกมพวกนั้น กูเชื่อว่าวีจะต้องปลอดภัย ”
“ เพื่ออะไรครับ คุ้มเสี่ยงมั้ยเนี่ย ” ลูกน้องมือซ้ายไม่เข้าใจนายที่จะไปเดินตามเกมศัตรูแต่ก็เพราะว่าอยากจะรู้ว่ากาเบียลจะหักหลังและทรยศตนจริงหรือไม่ แต่มาเฟียพูดคำไหนต้องเป็นคำนั้น
“ ไม่มีแต่!! หลังกูกับวีกินข้าวเสร็จ มึงกับกาเบียลออกไปดูงานที่บ่อนแทนกู ให้กาเบียลจัดการกับพวกที่ขังไว้ได้เลย ไม่ต้องรอกูแล้ว ”
“ แล้วทำไมไม่เรียกผมมาสั่งเองเลยครับ?? ” ทั้งอิทธิและกรรณหันหน้ามาทางต้นเสียงที่กำลังก้าวเท้าเข้ามาหานายที่นั่งที่โซฟาห้องนั่งเล่น และตกใจเล็กน้อยเพราะเกรงว่ากาเบียลจะได้ยินในสิ่งที่ตนกับกรรณคุยกันตั้งแต่ต้น จึงรีบเอ่ยออกไปว่าคิดว่ากาเบียลพักอยู่ เลยให้กรรณไปบอกแทน โดยกรรณนั้นก็คอยเป็นหน่วยเสริมเห็นดีเห็นงามกับคำพูดแก้ตัวของนาย
“ ผมไปหานายที่ห้องแต่ไม่เจอ กำหนดการงานอยู่บนโต๊ะนะครับ แฟ้มสีกรม ” มาเฟียพยักหน้าพร้อมตอบรับว่าเดี๋ยวจะขึ้นไปดู และกรรณเองก็พาเปลี่ยนเรื่องถามไถ่ไปถึงของขวัญที่นายซื้อให้กาเบียลและคุยกันต่ออีกหน่อยในเรื่องต่างๆ
“ งานพรุ่งนี้คุณไปกับผมหรือเปล่ากาเบียล ไม่ตามผมไปไหนหลายครั้งละนะ ”
“ ก็ต้องไปสิครับ ไปแน่นอนครับนาย ”
“ ก็ดี...หวังว่าจะเป็นวันที่ดีนะพรุ่งนี้ ”
เมื่อคนในครัวจัดเตรียมอาหารเย็นเสร็จแล้ว อิทธิก็ให้คนขึ้นไปตามวีลงมากินข้าวด้วยกัน กรรณและกาเบียลก็ออกไปทำงานที่บ่อนตามคำสั่งของนาย ในขณะที่ทานข้าวใกล้จะเสร็จอิทธิก็เอ่ยชวนวีให้ไปซ้อมปืน ทำให้วีถึงกับแปลกใจว่านายไปโกรธอะไรใครมาหรือว่าตนทำให้นายไม่พอใจหรือเปล่า
“ นายอีกละ ไม่ได้โกรธอะไรใคร อยากยิงเฉยๆ ” มาเฟียพูดแบบไม่พอใจ
“ ขอโทษครับ... ”
“ จะได้แม่นๆใช่มั้ยคะนาย ระวังๆกันด้วยนะป้าเป็นห่วง ” ป้าภาพูดอย่างอ่อนโยนพลางโบกมือเรียกสาวใช้ให้นำขนมหวานมาเสริฟก่อนที่ทั้งคู่จะลุกเดินไปสนามซ้อมยิงปืนหลังบ้าน
“ ทำไมไอศกรีม มีเครื่องด้วย ไปเอามาจากไหนเนี่ย? ” ร่างเล็กสังเกตและหันไปถามป้าภา และได้คำตอบว่ามันเรียกว่า ฮาโล ฮาโลซึ่งเป็นของฟิลิปปินส์โดยป้าภาดูมาจากรายการทีวีแล้วลองมาทำตาม หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จ อิทธิกับวีก็เดินมาที่สนามซ้อมปืนหลังบ้าน โดยอิทธิสั่งลูกน้องว่าห้ามใครเข้ามายุ่งจนกว่าจะได้รับอนุญาตและให้เฝ้าหน้าประตูไว้ให้ดี
“ ยะ...ยื่นมาทำไม? ” ร่างบางตกใจที่นายยื่นปืนมาให้แต่ก็รับมาถืออย่างสั่นๆเล็กน้อย
“ กูไม่ได้อยากยิงคนเดียว มาลองยิงมา จะสอน ”
“ เคยยิงปืนเล่นในงานวัด แต่แบบ...ไม่ค่อยชอบ เสียงมันดัง ”
อิทธิหยิบที่ครอบหูลดเสียงปืนมาใส่ให้วี จากนั้นก็หยิบใส่ให้ตัวเอง แล้วไปยืนซ้อนด้านหลังวีเพื่อสอนตั้งแต่ท่าจับปืน การเพ่งเล็ง แล้วก็ลองให้เหนี่ยวไกไปที่เป้าวงกลมด้านหน้าระยะ 10 เมตร
ปั้งงงงงงงงงงง ปั้งงงงงงงงงงงง
“ จับให้แน่นๆ เล็งเป้าด้วยสิ ”
“ ฮะ? อะไรนะ ” มาเฟียถึงกับยิ้มที่ร่างบางหันมามองที่ตนพูดแล้วไม่ได้ยิน แตก็กลับหันไปยิงต่ออีกหลายครั้งจนกระสุนหมด ปรากฏว่าเข้าเป้าไปแค่ 2 กระสุนเท่านั้น
“ โอ๊ย 2 นัด เปลืองกระสุนมากเลย ยิงตั้งเยอะ ”
“ จะยิงสักล้านนัดกูก็ไม่ว่าหรอก หัดไว้ ” มาเฟียยักคิ้วให้คนรัก
“ จ้า!! พ่อคนรวย ” ร่างบางพูดกระแทกเสียงอย่างหยอกๆและถูกสอนให้ฝึกยิงต่อโดยเปลี่ยนจากเป้าเป็นยิงขวดเบียร์ สลับกันไปเพื่อให้เกิดความชำนาญและแม่นในการใช้ได้จริงต่อไป
.
.
.
.
.
.
# ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน มาเม้นท์ มาถูกใจนะคะ
# ขอบคุณกำลังใจด้วย
# มีคนบอกว่าติดเรื่องนี้ ไม่อยากให้จบ อยากให้มีถึง 100 ตอน
โอ้โหววววว 55555 ดีใจนะได้อ่านแบบนี้
# หากมีสิ่งใดที่ไรท์ทำผิดไป ขออภัยด้วยนะคะ ทั้งเรื่องการแต่ง
การใช้คำ การเขียน การสะกด ทุกๆอย่าง ขอโทษล่วงหน้าไว้เลย