ตอนที่1
คนรักกับคนรู้จัก
“อ้าว วิน มานั่งกินคนเดียวอีกแล้วเหรอ”
คำทักทายดังขึ้นทำให้ผมหันไปมองเล็กน้อยแล้วพยักหน้า
“อืม”
ป๊อบ เพื่อนร่วมงานของผมเอง รายนี้ก็ยังคงมากับหวานใจคนล่าสุด หรือถ้าจะเอาจริงๆ ก็คงจะเป็นคนสุดท้ายก็ได้ เพราะทั้งสองคนนี้ก็คบกันมานานตั้งแต่สมัยมัธยมแล้วนี่
ตอนพักเที่ยงในวันอาทิตย์กลางห้างสรรพสินค้า การจะนั่งกินคนเดียวไม่น่าจะใช่เรื่องแปลกอะไร แต่หมอนี่คิดไม่เหมือนผมหรอกมั้ง ดูจาก
“ไม่ชวนแฟนของนายมาด้วยล่ะ” เจ้าเพื่อนตัวดีก็ดันถามไม่เข้าเรื่องอีก ทั้งๆที่ผมก็หนี ‘หมอนั่น’ มานั่งกินถึงนี่แล้วเชียวนะ
“ไปทำงานน่ะ” เอาจริงๆมันก็ข้ออ้างทั้งเพ
“เหรอ งั้นนั่งด้วยสิวะ” ไม่ว่าเปล่ายังลากเก้าอี้จากโต๊ะอื่นมาสองตัวอีกมาต่าง
“ตามใจ ถ้าแฟนนายไม่รังเกียจนะ”
“แหม ไม่หรอกค่ะพี่วิน” น้องส้มพูดพร้อมรอยยิ้ม “พี่วินก็หล่อซะขนาดนี้ ส้มต่างหากที่กลัวว่าพี่จะรังเกียจ” หญิงสาวในชุดสบายๆสมวัยพูดพร้อมทำหน้าแดงหน่อยๆ
“ไม่มีเหตุผลนี่ครับ”
“เฮ้ยๆ แฟนกู” ถึงปากจะว่าแบบนั้น แต่ท่าทางเล่นๆนั่นดูไม่จริงจังเอาซะเลย
“หึๆ”
ท่าทางไม่เดือนร้อนเอาซะเลย นั่นก็เพราะมันรู้ตัว ว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิง
ผมชื่อ วิน หรือวินเนอร์ อายุ21ปี ตอนนี้ศึกษาอยู่มหาลัยที่ไหนสักที่ของกรุงเทพฯ ซึ่งอันนี้ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยมากมาย นอกจากเรื่องผมไม่ใช่ผู้ชายปกติที่จะจีบผู้หญิงหรือมองผู้หญิงแบบผู้ชายทั่วไปเขาทำกันก็พอ
แต่ในขณะเดียวกันผมก็ไม่ได้ชอบผู้ชายหรือพิศวาสผู้ชายอะไรนักหรอก ฟังดูแปลก แต่มันคือความจริง
ไม่ได้ชอบผู้หญิงหรือผู้ชายเป็นพิเศษ...จะว่าแบบนั้นก็ไม่ผิดอะไร
เมื่อมีเพื่อนร่วมโต๊ะ การกินข้าวเที่ยงของวันก็ดูจะมีสีสันขึ้นมาเล็กน้อย...เล็กน้อยจริงๆ เพราะอีกฝ่ายก็เอาแต่จีบกันจีบกันมา หรืออาจจะมาขอความเห็นจากผมบ้างเป็นระยะ
เมื่อมองคู่รักแบบนี้แล้ว...ผมคงไม่มีโอกาสได้เป็นแบบนั้น
ผมไม่ใช่คนหวานหรือคนช่างพูด ทั้งชีวิตของผมทุ่มให้แก่เรื่องการเรียนจนไม่มีเวลาเข้ากิจกรรม ผิดกับป๊อบซึ่งเป็นเด็กกิจกรรม แต่เราคบเป็นเพื่อนกันได้เพราะป๊อบชอบมาขอลอกการบ้านหรือขอให้สอนหนังสือก่อนสอบนั่นล่ะ ไปๆมาๆก็พอคุยกันบ้าง พอเข้ามหาลัยพวกเราก็เรียนกันคนละคณะ ยกเว้นมีเวลาก็แวะทักทายกันบ้างบางครั้ง
เพื่อนสมัยมัธยมมีนับคนได้ ช่างเป็นชีวิตที่จืดชืด ดังนั้นไม่ต้องถามเลยว่ามหาลัยผมมีเพื่อนคุยบ้างหรือเปล่า
หน้าตาธรรมดา ผิวซีด ใส่แว่นหนาเต๊อะเพราะสายตาสั้นมากถึงมากที่สุด ผมยุ่งๆเพราะไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ยังดีที่สิวไม่ขึ้นให้มันดูแย่ไปมากกว่านี้ ความสูงที่มากถึง 179ซม. ทำให้มันดูผอมแห้งเหมือนตะเกียบไปเลย ส่วนการแต่งตัวไม่ต้องพูดถึง เวลาจะไปหาซื้อเสื้อเหมาะๆยังแทบไม่มี
“เฮ้ย ธีมใช่ไหมนั่น!!”
ชื่อที่ผุดออกมาจากป๊อบทำให้ผมรู้สึกใจหายวาบ เงยหน้ามองเพื่อนตัวดีที่กำลังโบกไม้โบกมือเรียกใครอยู่
อย่าบอกนะว่า....
“อ่ะ...ไง” เสียงทุ้มอันแสนคุ้นเคย ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าใครกำลังเดินตรงเข้ามา
ผู้ชายที่ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งก็เพอเฟค ทั้งใบหน้าหลอเหลาและฐานะ การศึกษา และหลายๆอย่างประกอบกันเป็น ธีม เดือนคณะนิเทศศาสตร์ของมหาลัยเดียวกัน ซึ่งต่างจากผมแบบสุดหล้าฟ้าเขียว
“แล้ว...วิน มากินข้าวเหรอ” สีหน้าที่ควรจะประดับด้วยรอยยิ้มพราวเสน่ห์เริ่มเจื่อนลงถนัดตาเมื่อเห็นว่ามีผมนั่งอยู่ด้วย
“เปลี่ยนบรรยากาศน่ะ แล้วนาย...”
“สวัสดีค่ะพี่วิน พี่ป๊อบ”กลุ่มผู้หญิงหลายคนพากันยกมือไหว้พวกผมที่พากันรับแทบไม่ทัน
ไม่แปลกที่คนสมบูรณ์แบบอย่างธีมจะมีคนตามมาเกาะแกะ เรื่องนี้ผมรู้ดี เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเห็นว่าอีกฝ่ายมักจะมีสาวมาตามต้อยๆ
“โอ้ น้องๆจะพาธีมไปไหนเหรอครับเนี่ย?” ป๊อบยังคงเป็นเฟรนลี่ที่ดีตามเคย
“อ่อ พวกเรามาดูหนังกันน่ะค่ะ”
“พี่ธีมคะ หนังจะเข้าแล้ว เราไปกันเถอะ”
ไม่น่าเลย...เพราะผมเลือกนั่งตรงนี้เพราะมันผ่านทางเข้าโรงหนังแท้ๆ เลยต้องมาเจอเรื่องที่ควรจะชินแบบนี้
“อ..อืม” ธีมหันไปมองคนพูดเล็กน้อย แล้วหันมามองผมแล้วขยับปากเบาๆ
แล้วจะโทรหา....
“อืม” ผมตอบรับแค่นั้น ก็หลังจากที่ธีมถูกสาวลากไปโน่นแล้วน่ะ เอาจริงๆอย่าว่าแต่พวกเธอเลย เหล่าสตรีภายในร้านที่ตอนแรกส่งเสียงเจี้ยวจ้าว พอคนๆนี้เข้ามาก็พากันเงียบ ดวงตาเป็นประกายวิบวับ
“อะไรวะ แค่นี้เอง” เสียงป๊อบดังแทรกเข้ามในโสตประสาท เมื่อผมไปมองก็เจอแต่ใบหน้าบูดเบี้ยวขัดอกขัดใจ พอๆกับสีหน้าเคลือบแคลงใจของส้ม
“ทำไม?”
“โอยยย ทำไมถามแบบนั้นล่ะ” อีกฝ่ายว่าเสียงหงุดหงิด “พวกนายเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ ปล่อยแฟนไปกับผู้หญิงแบบนั้นนี่นะ?”
มันก็จริง...แต่ช่วยลดเสียงลงมาหน่อยก็ดีนะ แค่นี้ก็รู้สึกอายจะแย่แล้ว
ผมเลี่ยงไม่ตอบคำถามนั้นโดยการเสมองไปทางอื่น
อืม....อย่างที่ป๊อบพูดมา...ธีมคือแฟนของผมเอง
---------------------------------------
เรื่องนี้เคยลงในเล้าเป็ดนานมาแล้ว แต่กลับมาอีกทีก็หายไปเลย
ขี้เกียจลงใหม่ เลยเปลี่ยนที่ลงค่ะ
จะอัพต่อไหมขึ้นอยู่กับเวลา ทำใจนิดนึงเน้อ...จริงๆเรื่องนี้ไม่น่าจะเกิน10ตอนจบหรอก แต่แต่งยาก
ขอกำลังใจด้วยนะคะ ;w;