หลังจากที่ทั้งคู่ซื้อของกันเสร็จก็กลับมาจัดกระเป๋าเตรียมข้าวของกันพักผ่อนเพื่อกักตุนพลังงานและ ออกเดินทางเพื่อไปขึ้นเครื่องโดยใช้เวลาในการนั่งเครื่องจากเมืองไทยมาถึงเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์นาน พอสมควรและพอมาถึงก็เช็คอินเข้าที่พักสุดหรูใกล้ทะเลสาบเจนีวาทันทีในตอน 4 โมงเย็น
“ สวยอ่า วิวสวยมาก ”
“ พรุ่งนี้ค่อยไปเที่ยวกัน อยากไปไหนลิสไว้เลยจะพาไป ” อิทธิเอ่ยบอกคนที่ยืนเกาะระเบียง มองวิวอันกว้างขวางและสวยงามตรงหน้าราวกับกำลังฝันว่าได้มา
“ อยากไปดูทะเลสาบใกล้ๆ ผมลงไปเดินเล่นได้มั้ย ”
“ ไม่เพลียรึไง นั่งเครื่องมา 13 ชั่วโมงกว่า มานอนก่อนค่ำๆค่อยลงไป จะพาไปหาอะไรกินแล้วให้เดินเล่นตามใจเลย ”
“ ฮันนี่ล่ะ ”
“ อยู่อีกห้องหนึ่งกับสาไง หลับยังไม่ตื่นเลยตั้งแต่นั่งรถมาเนี่ย ”
วีเดินมาทิ้งตัวลงนอนที่เตียงและคนข้างๆก็ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ พร้อมหอมหัววีเบาๆจากนั้นก็กลับไป นอนท่าหงายท่าเดิมหลับตาลงไป ทำเอาวีเองนอนยิ้มแล้วหันตะแคงข้างหันหน้าเข้าไปหาอิทธิ มองอย่างเงียบๆแล้วก็หลับไป
ณ ร้านอาหารสุดหรู
อิทธิจองโต๊ะให้กรรณและลูกน้องที่ตามมาด้วย 2 คนให้ทานอาหารด้วยกันในส่วนของตัวเองนั้นนั่งด้วย
กับคนสำคัญและลูกน้อย ชื่นชมบรรยากาศยามค่ำคืนไปพร้อมรับประทานอาหารสุดอร่อยระดับ 5 ดาว
“ หม่ำ หม่ำ ”
“ หม่ำอีกเหรอ อ่าๆอ้ามมมม ”
“ อร่อยมั้ย ”
“ ท่าทางจะชอบนะครับ ” วีมองฮันนี่ที่เคี้ยวตุ้ยๆแล้วตอบกลับคนที่ถามพลางยิ้มบางๆให้ไป
“ กูถามมึง ว่าอาหารอร่อยรึเปล่า เอาไรเพิ่มมั้ย ”
“ ก็อร่อยนะครับ แต่ถ้าให้ผมเลือกขอกินอาหารธรรมดาดีกว่า ”
“ ทำไมล่ะ ไม่ชอบเหรอ ”
“ มันก็คงเหมาะกับนายแล้วก็คนมีเงิน ลิ้นผมมันไม่ถึงคลาสมั้งครับ ”
“ พามากินอาหารหรูก็ไม่ชอบ ซื้อเสื้อผ้าให้ก็ไม่อยากจะเอา ” อิทธิบ่นคนตรงหน้าอย่างไม่พอใจ
“ มันแพง ผมใส่ตัวละไม่กี่บาทก็พอแล้ว คนเราจะมีคุณค่าไม่ได้อยู่ที่ราคาของสิ่งที่สวมใส่ แต่มันอยู่ที่ใจครับ ผมไม่ได้ว่าตัวเองดีนะ แต่ผมไม่มีเงินและผมก็ไม่อยากรบกวนเงินใครด้วย ”
“ อือ เข้าใจแล้ว ”
“ ปลา ปลา ดูปลา ”
“ ไหนปลาฮันนี่ หนูมองทะลุน้ำเลยเหรอลูก
“ ใครชื่อฮันนี่ยกมือขึ้น ”
“ นี่ ” หนูน้อยหันมายกแขนเล็กๆขึ้นจากนั้นก็มองวีสลับกับอิทธิตากลมแป๋ว
“ พุงพุ๊ยเลยเดี๋ยวนี้ ”
“ น่ารักจะตาย ใช่มั้ย งู้ยๆๆ หมั่นเขี้ยวจังเลย
” แอ้ แอะๆๆ " หนูน้อยหันมายกแขนเล็กๆขึ้นจากนั้นก็มองวีสลับกับอิทธิตากลมแป๋ว หนูน้อยฮันนี่ยิ้มเริงร่าที่วีเอาหน้า มุดพุงนิ่มๆของตน แล้ววีก็หอมฮันนี่ที่แขนสองข้างเป็นเสียงดังๆ หยอกล้อเล่นกัน
“ หัวเราะมากเดี๋ยวอ้วกหรอก เพิ่งกินข้าวอิ่ม พอแล้วเลิกหยอกลูก ” อิทธิพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง จึงหยุดเล่นแล้วอุ้มฮันนี่ใส่ไปในรถเข็นเข็นออกมาจากร้านอาหารเดินออกมาตามถนนสีขาวยาวสะอาดตา
“ อยากไปเดินเล่นมั้ย ” เมื่อเดินมาได้ครู่หนึ่งอิทธิก็หันไปถามวีเนื่องจากเมื่อตอนมาถึงวีบ่น ว่าอยากมาเดินเล่น วีจึงหันไปพยักหน้าพร้อมด้วยรอยิ้มที่จะได้ออกไปเดินมองวิวทิวทัศน์อย่างที่ตั้งใจ
“ ไปๆๆ ”
“ งั้น...เราไปเดินเล่นกัน แล้วให้สากับกรรณพาลูกขึ้นไปพักที่ห้อง ”
“ อ้าว...ไม่พา... ” วียังไม่ทันได้พูดจบประโยคอิทธิก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงหวานๆ
“ เราไปกันสองคนบ้าง กูอยากอยู่กับมึง ”
“ ครับ ” วีตอบกลับสั้นๆแล้วยิ้มอย่างเขินๆหลังจากนั้นก็ก้าวขาเดินมากับอิทธิเรื่อยๆ ตามทางที่สามารถมองเห็นทะเลสาบได้ในไม่ไกลออกไปนัก ถึงแม้ว่าจะเป็นตอนกลางคืนแต่ภาพมันไม่ได้มืดมิด จนไม่สามารถมองเห็นได้ สองคนเดินไปเรื่อยๆคุยกันไปซึ่งทำให้รู้อะไรในตัวกันและกันมากขึ้น
“ ดูมึงจะชอบมองวิวทิวทัศน์นะ ”
“ ชอบมากเลยแหละและที่ประเทศนี้ก็เป็นประเทศในฝันเลยที่อยากจะมา
แล้ว...นายคิดยังไงพาผมมาเที่ยวล่ะ มีประเทศมากมายที่พาไปได้ ทำไมเลือกที่นี่ เหมือนรู้ว่าผมชอบเลย ”
“ กูไม่รู้หรอกว่ามึงชอบรึเปล่า แต่กูว่าที่นี่มันสงบ และน่าจะปลอดภัย สำหรับมึงและลูก กูไม่อยากให้ลูกน้องมาคอยตาม เพราะกูอยากอยู่กับมึงเป็นการส่วนตัว ตกลงชอบรึเปล่า ”
“ ชอบสิ ที่ไหนที่...ที่ไปด้วยกันผมชอบหมดแหละ ” วีหยุดเดินแล้วพูดออกไปตามอง ภูมิทัศน์ข้างหน้า ไปด้วยโดยไม่รู้เลยว่าประโยคเมื่อครู่ทำเอาคนฟังอย่างอิทธิได้ยินแล้วยิ้มพิมพ์ใจขนาดไหน ถึงขนาดหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปคนตรงหน้าเก็บเอาไว้เพื่อบันทึกความทรงจำระหว่างกัน
แชะ แชะ
“ ลืมปิดเสียง ” อิทธิตาโตแล้วพูดอย่างเขินนิดๆแม้พยายามนิ่งไว้ไม่ให้เสียหน้าก็ตาม
“ แอบถ่ายทำไม ”
“ เอาไว้ให้คนอื่นดู ว่ากูมีเจ้าของแล้ว ”
“ โว้ยยยยย แต่ผมยังไม่มีนะ แบร่! ” วียิ้มแล้วยักคิ้วให้คนที่กำลังจ้องดุๆกับคำพูดของวี อยู่และหลังจากนั้นก็ออกเดินต่อไปอีกเพื่อลองมองภาพในมุมอื่นๆจนกระทั่งอิทธิเรียกวีขึ้น
“ วี ” อิทธิเดินเข้ามาใกล้วีที่หยุดเดินเรื่อยๆจนหยุดอยู่ตรงหน้าเค้า
“ ครับ? ”
“ คบกับกูนะ ”
“ ฮะ!! อะไรนะ เดี๋ยวๆๆ ทำไมจู่ๆมาพูดอะไรแบบนี้ล่ะ ” วีหน้าร้อนผ่าวใจเต้นแรงขึ้นๆ
“ กูใจร้อนเองแหละ จริงๆ...กูตั้งใจจะพามึงมาที่นี่แล้วขอคบบนเรือ ตอนชมเมืองพรุ่งนี้ แต่แบบ...ไม่รู้ดิ รอไม่ไหวละ ขอเลยละกัน ”
“ เอ่อ... ” วีลังเลที่จะตอบออกไปแม้ภายในใจนั้นชัดเจนมานานแล้วว่ารู้สึกอย่างไร
“ นับจากวันนั้นที่กูบอกมึงว่า...ขอให้เรามาเริ่มต้นกันใหม่จนถึงวันนี้ตอนนี้ มันก็ 3 – 4 เดือนแล้ว มันก็คงจะเป็นช่วงที่คุยกัน ศึกษาดูใจกันพอแล้วแหละ คบกับกูนะ ”
“ นายกับผมเราต่างกันมากนะ นายแน่ใจแล้วเหรอ ”
“ ต่างกันยังไง ”
“ นาย..นายรวยล้นฟ้า เป็นหนุ่มฮอตใครๆก็รู้จัก ส่วนผม..ผมเป็นแค่พนักงานเงินเดือนคนหนึ่งอ่า นายไม่อายเหรอ เวลาจะไปไหนมาไหนด้วยกัน คนเค้าจะมองนายยังไง ”
“ กูไม่ได้ต้องการคนที่มีฐานะทางสังคมเพราะกูไม่เคยแคร์อะไรแบบนั้นอยู่แล้ว
กูต้องการคนเข้ามาเติมเต็มและเคียงข้างกูเหมือนที่มึงเป็นให้กูอยู่ตอนนี้ กูรักมึง รักแค่มึงคนเดียว ”
แม้จะเป็นน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะกระโชกไม่ได้อ่อนหวานนุ่มนวลแต่มันก็เป็นการสารภาพรักและขอเป็น
แฟนที่แสนจะจริงใจที่สุด และเป็นการขอเป็นแฟนครั้งแรกที่อิทธิพูดกับคนอื่นเช่นเดียวกับวีที่ถูกขอเป็นครั้งแรกเช่นกัน
“ ครับ พูดขนาดนี้ละ โอเค คบก็คบครับ ”
“ มึงเคยพูดว่ามึงไม่มีสิทธิ์หึงหวงกูตอนนั้น และก็บอกว่ามึงไม่มีเจ้าของ ตอนนี้พูดแบบเดิมไม่ได้ละนะ มึงมีสิทธิ์ในฐานะคนรักของกู และกูก็คือเจ้าของมึง...ทั้งร่างกายและหัวใจและที่สำคัญ...ฮันนี่ ก็เป็นลูกของมึงเหมือนกันแล้วนะวี ” อิทธิเอื้อมมือไปคว้ามือวีขึ้นมากุมไว้ตรงอก
“ ครับ ผมไม่คิดว่านายจะจำอะไรเล็กๆน้อยจากปากผมได้ด้วย ”
“ กูแคร์มึงไง ”
วียิ้มอย่างปลื้มใจและค่อยๆเคลื่อนหน้าเข้าไปจูบที่ปากของอิทธิเบาๆ จากนั้นก็เคลื่อนหน้าออกและ โผเข้ากอด อิทธิแทนโดยอิทธิเองก็ยกมือกอดตอบและหอมไปที่แก้มวีอย่างรักและสุขใจ
“ ขอบคุณนะครับ ผมรักนายนะ ”
“ หึๆ พูดใหม่อีกทีซิ ฟังไม่ชัดเลย ”
“ ผมรักนาย ผมรักนาย!! ได้ยินมั้ย!! ” วีออกจากอ้อมกอดของอิทธิและตะโกนลั่นถนน จนคนตรงหน้ายิ้มกว้างกว่าเดิมและเป็นยิ้มที่กว้างที่สุดของอิทธิเท่าที่เคยยิ้มเลยก็ว่าได้
“ ต่อไปเลิกเรียกกูว่านายได้แล้ว กูไม่ใช่นายของมึง ”
“ แล้วจะให้ผมเรียกว่าอะไร ”
“ ที่รัก ”
“ โอ๊ยยยยยย ไม่เอา ฮ่าๆๆ ไม่จริง นายไม่ใช่คนแบบนั้นแน่ๆ ”
“ พี่อิท ไหนลองเรียกสิ ”
“ ไม่ชินเลย จั๊กกะเดี๋ยมอ่า บึ๋ยยยยยยย ”
“ ไหนเรียกเร็ว อยากฟัง ”
“ พรุ่งนี้ผมยังจะได้นั่งเรือมั้ยเนี่ย ”
“ เรียกกูก่อน แล้วจะพาไปแน่ๆ ”
“ พรุ่งนี้พี่อิทจะพาวีไปล่องเรือมั้ย? ”
“ ฮ่าๆๆ ลื่นหูแปลกๆเนอะ ดี! ชอบ น่ารัก ”
“ โอ๊ย พี่ๆชุดดำจะมองยังไงเนี่ย เขินแย่เลย ”
“ ลูกน้องกูอ่าเหรอ ใครกล้าแซวกูสั่งซ้อมแม่งให้หมดเลย ”
“ มะ...ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้
“ แล้วต้องขนาดไหนล่ะ ” อิทธิเดินเข้ามามองคนตรงหน้าด้วยแววตาแพรวพราวจนทำให้ คนตรงหน้าไม่กล้าแม้จะสบตาถึงกับยกมือแนบแก้มอิทธิให้หันไปทางอื่นอย่างเบาๆ
“ เลิกมองแบบนั้น เขินนะเนี่ย หัวใจเต้นมั่วไปหมดละ ”
“ เอ้า? เขินด้วยเหรอ ”
“ เขินดิ ผมไม่ได้หน้าด้านหน้าทนนะ เจอแบบนี้ก็..ทำตัวไม่ค่อยจะถูกเลย ”
“ ไปหาอะไรดื่มกันมั้ย ค่อยกลับไปที่พัก ” อิทธิเอามือจับมือที่แนบแก้มตนมาจับไว้
“ นายอยากดื่มเหรอ ”
“ ฮึ่มมมมม ”
“ อ่อ พี่อิทอยากดื่มเหรอ ” วีรีบเปลี่ยนสรรพนามการเรียกใหม่อิทธิถึงพอใจและยิ้มออกได้
“ ไม่ดื่มก็ได้ กลับที่พักกันเลยดีกว่า พรุ่งนี้ตื่นเช้าๆไปชมบรรยากาศกัน ”
“ เย้! กลับกันถ้างั้น อยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆจัง ” อิทธิเดินจับมือกับวีเดินตามถนนไปเรื่อยๆพูดคุย หยอกล้อกระหนุงกระหนิงกันบ้างจนกระทั่งถึงที่พัก
ประเทศไทย
มือขวามาเฟียอย่างกาเบียลไม่ได้ตามนายเที่ยวที่ไปเมืองนอกจึงเข้าไปเช็คงานและรวบรวมไว้ให้นาย โดยคอยตรวจงานและความเรียบร้อยของที่บริษัทและบ่อน จนมืดค่ำดึกดื่นถึงกลับไปที่คอนโดและพอมาถึง หญิงสาวที่ขังตัวเอาไว้ก็บ่นโวยวายขึ้นมาทันทีที่กาเบียลเข้าห้องไป
“ ฉันเบื่อ! หิวด้วย หน้าก็ไม่ได้แต่ง โอ๊ย!! สภาพหน้าฉันเป็นไงบ้างเนี่ย ”
“ นี่ข้าว เบื่อก็ทน ทีวีหรืออะไรก็เปิดดูไปสิ อ่อ...ถ้าคนมันสวย ไร้เมคอัพมันก็สวย ”
เจลลาได้ยินแบบนั้นจึงเงียบไปชั่วครู่และเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ากาเบียลแล้วเอามือลูบไปที่แผงอกเบาๆ
“ แล้ว…ฉันสวยสำหรับคุณรึเปล่า ”
“ คุณก็สวยสำหรับทุกคนนั้นแหละ ”
“ ก็ตอนนี้ฉันถามคุณ ไม่ได้ถามคนอื่นนี่ ตกลงฉันสวยมั้ย ”
“ อย่ามาอ่อยผม ”
“ ทำไมคะ กลัวทนไม่ไหวเหรอกาเบียล ”
“ ผมอาจจะทนไหวแต่ผมจะไม่ทนไง แล้วคุณจะเจ็บตัวเจลลา ”
“ อุ๊ย น่ากลัวจัง ”
กาเบียลเดินเลี่ยงเจลลาไปเพื่อนำกระเป๋าทำงานตัวเองไปใส่ตู้ ล็อกกุญแจแน่นหนาป้องกันสาวตัวแสบ ที่อาจจะคิดแผนอะไรในหัว ล้วงข้อมูลของตนไปได้หลังจากนั้นก็เดินมานั่งที่โต๊ะทำงาน
“ ไหนล่ะเสื้อผ้าฉัน ”
“ ยังไม่มีเวลาหาให้ งานเยอะ ”
“ ไม่เป็นไร ฉันใส่เชิ้ตของคุณก็ได้ ฉันขออาบน้ำก่อน คุณค่อยใช้ห้องน้ำนะ ”
“ เชิญ...เดี๋ยวนี้เลย!! ”
ชายหนุ่มวัย 40 หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อส่งข้อความถามความสบายดีของนายกับกรรณ หลังจากนั้น ก็คิดถึงงานการเปิดตัวธุรกิจใหม่ของนายและโจธานเพื่อที่จะได้วางแพลนต่างๆหลังจากนายกลับจากสวิต คิดอยู่นานสองนานจนหญิงสาวที่เข้าไปอาบน้ำเดินสวมชุดวันแรกที่โดนจับตัวมาออกมาจากห้องน้ำและเธอก็กำลัง สวมเสื้อคลุมทัก แต่การที่กาเบียลจ้องมองนานไปจึงทำให้เธอร้องทักขึ้น
“ มองขนาดนี้ อย่าเก็บไปช่วยตัวเองนะตอนอาบน้ำน่ะ ”
“ หึ! ครับ ” หญิงสาวเดินไปส่องกระจกที่ตู้เสื้อผ้า เพื่อเช็คเรือนร่างและสภาพหน้า ของตัวเองพลางนึกถึงแผนที่นอนคิดมาเมื่อคืน และก็พร้อมที่จะลงมือในคืนนี้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปมากกว่านี้
“ ฉันจะทำทุกอย่างให้คุณมาเป็นพวกของฉันและพี่โจธาน ด้วยเม็ดเงินเท่าไรหรืออะไร ฉันก็ยอม แผนของพี่ชายฉันก็จะไม่เสียแถมยังได้คนฝีมือดีมาร่วมทัพด้วยอีก เพอร์เฟกจริง ”
///// แง้บบบบบบ ////////
เสียงตวัดม่านดังขึ้นและไม่นานประตูห้องน้ำก็เปิดออกเป็นสัญญาณว่ากาเบียลกำลังจะเดินออกมา จากห้องน้ำ หญิงสาวจึงรีบดึงบิกินี่ตัวบนและตัวล่างของเธอออก โยนเข้าไปในตู้แล้วก็ผูกเชือกผ้าคลุมตัวไว้หลวมๆ ทำเป็นส่องกระจกมองผิวหน้าและแขนอย่างรักสวยรักงาม
“ มายืนอะไรตรงนี้เนี่ย ”
“ เช็คหน้าตรวจดูผิว แต่ก็...ไม่ได้แย่อย่างที่คิด ” เจลลาพูดจบก็หลบทางให้กาเบียลโดยเดิน มานั่งลงที่เตียง กาเบียลจึงมีพื้นที่ในการแต่งตัวเดินเข้าไปเปิดตู้เพื่อหยิบชุดนอนมาใส่ แต่...ก็เห็นบิกินีตัวคุ้นๆ เหมือนกับผู้หญิงบนเตียงเคยใส่ก็คิดสงสัยขึ้นมาว่า...
“ นี่อะไร? ทำไมมาอยู่ในตู้นี้ ”
“ ก็ชุดฉันไง มีเสื้อผ้าน้อยก็ทยอยใส่ทีละอย่างสิ ”
“ นี่...คุณ... ”
“ ไม่มีใครรู้หรอกนอกจากคุณเพราะฉันไม่ได้ออกไปไหน ” หญิงสาวนั่งไขว่ห้างโชว์เรียวขา จ้องมองกาเบียลแต่งตัวอย่างเพลินตาเผลอนึกไปถึงภาพเมื่อวานขณะที่กาเบียลอาบน้ำ ถูสบู่ลูบไล้เนื้อตัวจึงรีบดึงสติ ตบหน้าตัวเองเบาๆเพื่อไม่ให้ไปไปไกลไปกว่าตรงนั้น
“ กาเบียล ถ้าฉันอยากให้คุณมาเป็นพวกของฉันนี่...ต้องทำไง ”
“ อะไรของคุณ ” กาเบียลหันมามองหญิงสาวที่จู่ๆก็ถามสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ขึ้นมา
“ คุณฝีมือก็ดี ทั้งเก่งและฉลาด อีกอย่าง...หล่อด้วย ”
“ ถ้าข้อเสนอดีผมอาจพิจารณา ” และในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้มันก็อาจจะเป็นไปได้ก็ได้
“ ฮ่าๆๆ แสดงว่าคุณก็เคยคิดจะเปลี่ยนนายสินะ ”
“ อยู่ที่เดิมมากๆมันก็เบื่อ ”
กาเบียลแต่งตัวเสร็จก็เดินไปนั่งลงที่โซฟาเช็ดผมที่เปียกชุ่มมองหญิงสาวที่นั่งขยับขาเผยให้เห็นส่วนลับลับๆล่อ อย่างจงใจ กาเบียลเองก็พอรู้ว่าเธอต้องการยั่วยวนเขาจึงไม่ค่อยสนใจมองให้สูงไปกว่าตรงนั้น
“ เงินเดือนคุณนี่เท่าไร ”
“ ………………… ”
“ ฉันให้เพิ่มได้อีก 25 เปอร์เซ็นก็ยังได้เลย ”
“ เสนอผมนี่...ปรึกษาพี่ชายแล้วเหรอ ”
“ สำหรับคุณ 30 เปอร์เซ็นพี่ชายฉันก็ไม่ขัดหรอก พร้อมออปชั่นอีกเพียบแน่นอน ”
“ ข้อเสนอดีนะ แต่... ” หญิงสาวรู้ว่ากาเบียลจะต้องปฏิเสธแน่จึงลุกจากเตียงแล้วเดินมานั่งลง ที่โซฟาข้างๆกาเบียล เอามือวางที่ขาของกาเบียลแล้วลูบไปมา โดยขาของเธอนั้นขยับถูๆไถๆเสียดสีกับขา ของกาเบียลอย่างยั่วยวน...
# ไรท์ไม่ได้หายไปไหน
# ขอบคุณคนอ่านทุกคน คนเม้นท์และคนกดถูกใจนะจ๊ะ
# กาเบียลกับเจลลานี่จะยังไงต่อไป ก็ติดตามเด้อ 5555
# เข้าหน้าฝนแล้ว ทุกคนก็พกร่ม พกเสื้อกันฝนกันด้วย เป็นห่วง
# สำหรับตอนก่อน มีคอมเม้นท์นึงบอกว่า ฮันนี่ยังเดินไม่ได้
ตอนนี้ฮันนี่ก็ 1 ปี เดือนกว่าเกือบจะ 2 เดือนแล้ว เด็กบางคน
เดินได้แล้วนะคะ ไรท์ก่อนเขียนหาข้อมูลและอ่านมาก่อน
cr. https://www.maerakluke.com/topics/9472
ในนี้ตอนท้ายๆจะบอกไว้ และมีอีกหลายเว็บและคนที่เคยมีลูกเขียนไว้
ขอบคุณที่เข้ามาทักท้วง หากไรท์เขียนอะไรผิดพลาดไปจะมาแก้ไขให้เหมาะสมนะคะ