ช่วงใกล้ๆ 5 โมงเย็นของการทำงานการผลิตและประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าของบริษัทแห่งหนึ่งที่พนักงานและลูกจ้างยังไม่เลิกสนใจงานที่ตนกำลังทำอยู่ทั้งๆที่ใกล้จะถึงเวลาเลิกงาน เช่นเดียวกับวีที่ขมวดคิ้วหน้านิ่ว ไม่เข้าใจกับสิ่งที่ตัวเองกำลังประกอบอยู่
“ ไอ้นนท์มึงมาดูอันนี้ให้หน่อย ทำไมกูเปิดไม่ติดวะ ”
“ ไหน ”
“ เนี่ยๆ ดูสิ ถ้าอันนี้ไม่เสร็จกูไม่เลิกอะ ”
นนท์วางงานของตัวเองแล้วเดินมาหาเพื่อนที่เรียกให้มาช่วยดูตัวเครื่องให้พอมาถึงนนท์จับพลิกดูนิดๆ หน่อยๆพร้อมทั้งแกะฝาครอบออกดูก็รู้ถึงสาเหตุทันที
“ ไอ้สัส เนี่ย...สายมันสลับกัน ” พัวะ!! ฝ่ามืออรหันต์โบกไปที่หัววีอย่างแรง
“ เจ็บ! กูก็ตรวจดูดีแล้วมั้ยล่ะ ใครจะไปรู้วะ ” วียกมือลูบหัวตัวเองแล้วผลักนนท์ออกห่างตน
“ เจ็บมากมั้ยเพื่อนรัก ไหนมาดูซิ สมองกระทบกระเทือนเปล่า ” วีโดนเพื่อนสนิทอย่างนนท์เอามือคล้องคอแล้วลากเข้ามาชิดกับตัวแล้วนนท์ก็เอามือตีหัววีอีกหลายที
“ ไอ้เหี้ยนนท์ ปล่อยกู มันเจ็บไอ้ห่า ”
“ หยอกกันเป็นเด็กไปได้ไอ้สองคนนี้ ” หัวหน้าแผนกเดินเข้ามาพอดีก็บ่นนิดๆ ที่เห็นชายหนุ่มสองคนยืนหยอกกันสนุกสนาน
“ พวกผมอายุยังไม่เท่าหัวหน้าไง หยอกกันได้ ” นนท์ปล่อยแขนออกจากคอวีแล้วยิ้ม ให้หัวหน้าจนโดนชี้หน้าคาดโทษว่าจะไม่ป้อนงานให้ วีจึงทำหน้าล้อเลียนนนท์และบอกว่าตัวเองไม่เกี่ยวด้วย จนกระทั่งสายตาเหลือบไปเห็นอิทธิที่ยืนกอดอกจ้องตนตาเขม็งอยู่ทางเข้าแผนก วีจึงรีบบอกเพื่อนและลา หัวหน้าเก็บของใส่กระเป๋าแล้ววิ่งออกมาหาอิทธิอย่างเร็วไว โดยอิทธินั้นไม่รอเดินนำออกไปแล้วเช่นกัน
“ รอด้วยยยยย!! นาย... ”
“ นายยืนรอคุณนานแล้ว ” กรรณผู้ยืนอยู่ตรงประตูทางขึ้นเอ่ยบอกให้วีรู้ว่านาย มารอนานมากแล้ว วีจึงรีบก้าวขาขึ้นรถไปอย่างเงียบๆรู้สึกผิดนิดหน่อยที่มัวแต่เล่นไม่รู้อะไรเลย
“ นาย...มารอนานแล้วเหรอครับ ”
“ …………. ” อิทธิไม่ตอบทั้งยังหันหน้าองศาพอดีมองด้านข้างจนรถเคลื่อนออกไป
“ ขอโทษ...ผมไม่ได้มอง ไม่คิดว่านายจะมารับแล้ว ปกติก็จะไลน์มาบอกก่อนไม่ใช่เหรอ ทำไมวันนี้มาเลยล่ะ ไม่บอกไม่กล่าวกันสักคำเลย ”
“ ถ้าไลน์มาจะเห็นมึงใกล้ชิดกับเค้าขนาดนั้นเหรอ ”
“ ใกล้ชิดอะไรครับ? ” วีถึงกับงงในสิ่งที่อิทธิพูดออกเมื่อครู่ด้วยเสียงที่เย็นชาสุดๆ
“ ถึงกับกอด หยอกล้อกันขนาดนั้น ไม่เรียกว่าใกล้ชิดรึไง ”
“ ที่โกรธนี่...ไม่ได้โกรธเรื่องมารอนานหรอกเหรอเนี่ย ”
“ นายไม่ได้โกรธหรอกครับคุณวี นายหึง! ” กรรณหันมาเล็กๆเพื่อบอกวีให้เข้าใจแต่ไม่วายที่จะโดนคนเป็นนายแผดเสียงดังกลับจนต้องรีบหันกลับไป
“ หุบปาก ”
“ นาย...ผมกับนนท์เป็นเพื่อนกันนายก็รู้นี่... ”
“ ไปส่งวีที่บ้าน ” อิทธิทำเป็นไม่สนใจและสั่งให้คนขับไปส่งวีที่บ้านแทนที่จะไปบ้านตน อย่างที่เคยไป แต่วีนั้นปฏิเสธที่จะไม่กลับและให้เหตุผลว่าจะไปหาหนูน้อยฮันนี่ ซึ่งอิทธิก็ไม่ได้ขัดหรือพูดสั่งอะไร กรรณจีงบอกกับคนขับมุ่งตรงไปที่บ้านของนาย
ไม่นานนักรถก็เคลื่อนเข้ามาจอดเทียบหน้าบ้าน อิทธิลงจากรถทันทีเมื่อลูกน้องเปิดประตูให้แล้วรีบเดิน ขึ้นไปที่ห้องทำงานตัวเองทันที ส่วนวีนั้นเดินแยกไปหาฮันนี่ที่ห้องของเล่น ไม่ตามง้อเนื่องจากปล่อยให้คนเป็นนาย อารมณ์เย็นลงก่อนจึงค่อยตามไปคุยเอาทีหลัง
“ พี่ไปพักนะคุณวี ” สาลุกขึ้นยืนแล้วบอกกับคนที่เพิ่งเข้ามาในห้อง
“ ครับ ”
“ วี วี ” หนูน้อยที่นั่งเล่นลูกบอลอยู่ส่งเสียงดังแล้วชูลูกบอลไปมา
“ ฮันนี่เรียกวีจริงๆด้วย เก่งจังเลย มาให้รางวัลหน่อย ”
วีขยับเข้าไปใกล้ฮันนี่ อุ้มหนูน้อยมานั่งบนขาโอบเอาไว้หลวมๆแล้วหอมไปที่แก้มหนูน้อยดังฟอดใหญ่ๆ
“ พูดตามวีนะฮันนี่ ดี พูดดี ”
“ ดี นี อี วี อี ” ฮันนี่พูดตามแล้วถามมาอีกหลายต่อหลายคำดี พูดดีก่อน ดี ดี
“ ดีจ้า ดีจ้า ”
“ จ้า จ้า แอ้ะๆๆ ” หนูน้อยพูดแล้วส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
“ พ่อ พ่อ ”
“ อ้อ ออ อ๋อออออ อ้ากกกกกกกก ”
“ ฮันนี่ เรียกพ่อก่อน พ่อ ไหนพูดซิ ”
“ ซิ ”
วีส่ายหัวเล็กน้อยอย่างเอ็นดู จากนั้นก็สอนฮันนี่พูดไปนานสองนาน ทั้งเรียกชื่อตัวเอง เรียกคนในบ้าน ทำตามที่คุณหมอแนะนำ ซึ่งตอนนี้ฮันนี่เองก็พอรู้เรื่องบ้างแล้วในบางอย่าง เวลาวีดุหรือไม่พอใจก็ชอบเข้ามา ซบและกอด อ้อนไม่ให้วีดุหรือบ่น และจะมีบ้างที่ร้องไห้งอแงเอาแต่ใจ แต่ทั้งหมดก็ตามวัยของเด็กนั่นเอง
“ หนูชื่ออะไรคะ ”
“ อ้อ อี แอ กรี๊ดดดดดดดดดด
“ ฮันนี่ ชู่วววว ไม่กรี๊ดๆ เสียงดัง ” ฮึ้บบบบบบ วีบ่นเล็กน้อยแล้วอุ้มฮันนี่ขึ้นมา จากนั้นก็อุ้มดินลงมาด้านล่าง ออกไปหน้าบ้านพาไปดูท้องฟ้าดูอะไรที่แปลกตา สูดกลิ่นธรรมชาติ พอเห็นว่าอากาศดี จึงให้อินกับอรไปเอาเสื่อและที่รองมาปูเพื่อที่จะสอนให้ฮันนี่หัดตั้งไข่ โดยป้าภาเองก็มาช่วยดูแลและสอนหลานน้อยเช่นกัน
“ คุณวีจับให้ยืนค่ะ ให้ลองเลย ”
“ อ้าว ตั้งไข่ต้ม ต้มไข่กิน ไข่ตกดิน อดกินไข่จ้อยยยย ”
“ แง่ววววว แพละ! ฮ่าๆๆ ”
หนูน้อยยืนแล้วล้ม ทำท่าจะร้องแต่ทุกคนช่วยกันเชียร์และเฮฮาทำให้หนูน้อยทำได้เพียงเบะปากและกลับมายิ้มงง และคลานไปหาวีอยู่ตลอดๆ วีเองก็พยายามจับให้ลุกขึ้นยืน พูดหลอกล่อเอาใจช่วยเต็มที่
“ พื้นเจ็บมั้ยเนี่ย ไปหาหมอนบางๆมารองอีกมั้ย
“ ก็ดีค่ะ ไปเอามานางอร ในห้องนั่งเล่นน่ะ เดี๋ยวค่อยซักก็ได้ ”
“ จ้ะป้า คุณหนูรอแปปนึงนะ ”
“ วี วี วี ดู ดู ” ฮันนี่ส่งเสียงเรียกวีแล้วทำตาถลนชี้นิ้วไปมาบนท้องฟ้า ที่กำลังเปลี่ยนสี ซึ่งบรรดาสาวใช้รวมถึงป้าภานั้นมักได้ยินเสียงคุณหนูเรียกหาวีอยู่บ่อยๆตอนวีไปทำงาน
“ เวลาสาอุ้มป้าก็ได้ยินเรียกคุณวีบ่อยๆ จริงมั้ยนางอิน ” ป้าภายิ้มอย่างปลื้มใจแทน
“ ใช่ป้า ได้ยินแล้วชื่นใจมั้ยคะคุณวี ”
“ ครับ ได้ยินครั้งแรกตอนพาไปหาหมอ แต่ก็ได้ยินแค่ครั้งสองครั้ง ” วีลูบหัวหนูน้อยเบาๆ
“ คุณหนูรักคุณวีมากเลยนะคะ ”
“ ป้ากับอรก็สอนให้เค้าเรียกนายบ้างสิ สอนเค้าพูดบ่อยๆตอนผมไม่อยู่น่ะ ”
“ ป้าก็ให้เรียกพ่อ แต่ก็ไม่ยอมพูด แต่ไม่นานหรอกค่ะป้าว่า ถึงตอนนั้นนายจะคงดีใจเนอะ ” เมื่อพื้นถูกปูทับอีกทบหนึ่งแล้วทุกคนก็ต่างกลับมาลุ้นเอาใจช่วยคุณหนูน้อยฮันนี่ให้ตั้งไข่และเดินอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าจะล้มแพละไปหลายรอบร้องไห้บ้างเพราะเจ็บ แต่สุดท้ายก็สามารถยืนได้แม้ไม่ถึงนาทีก็ตาม
“ พี่เตรียมน้ำไว้เรียบร้อยแล้วนะคะ ” สาเดินมาเมื่อถึงเวลาอาบน้ำของฮันนี่
“ งั้นพี่สาพาฮันนี่ไปอาบน้ำเลยก็ได้ครับ ”
“ คุณหนูเก่งมาก พรุ่งนี้มาฝึกกันใหม่นะ ”
“ นะ นะ ”
“ ฮ่าๆๆ พูดตามท้ายพยางค์ที่เราพูดกันด้วย คุณหนูน่ารักมากเลยอะ ฮึ่ย หมั่นเขี้ยวจัง ”
วีลุกขึ้นปัดไม้ปัดมือแล้วเดินแยกไปหาอิทธิที่ห้องทำงานเพื่อทำการง้อและอธิบายให้เข้าใจเพราะอิทธิ เงียบหายไปเลย ปกติจะต้องมาวอแวบ้าง ซึ่งบ่งบอกได้เลยว่าโกรธและงอนจริงๆ
ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังอยู่ 2 – 3 จังหวะแล้วกรรณก็เปิดออกมาบอกว่านายกลับไปพักที่ห้องนอนแล้ว วีจึงพยักหน้าเป็นการขอบคุณแล้วเดินไปที่ห้องนอนของอิทธิเคาะประตูเล็กน้อยจนเสียงปลดล็อกห้องดังขึ้น จึงเปิดประตูเดินเข้าไป อิทธิกำลังยืนอยู่ที่หน้าตู้เสื้อผ้า หยิบผ้าขนหนูคล้องคอแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ทำให้วีเดินไปนั่งรออยู่ที่โต๊ะข้างหน้าต่างจนอิทธิเดินออกมาหลังจากอาบน้ำเสร็จ
“ นายโกรธผมจริงเหรอ ”
“ แล้วทำไมต้องไปทำอะไรชิดใกล้กันขนาดนั้น ”
“ มันแค่หยอก ไม่ได้มีอะไรเลยจริงๆ ”
“ ………………… ” อิทธิไม่พูดอะไรยืนเช็ดตัวเลือกเสื้อผ้าอยู่หน้าตู้
“ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผมทำมันเปิดไม่ติด ผมเลยเรียกนนท์มาดูให้ ผมใส่สายสลับกัน มันเลยด่าผมโง่แล้วล็อคคอมาตบหัวเฉยๆ ทั้งหมดก็มีแค่เนี้ย ” วีตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดจนอีกคนหันกลับมามอง
“ แน่ใจ? ”
“ บอกไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไรสิ ”
“ ก็กูไม่ชอบ!! อย่าให้เห็นอีก ” อิทธิกระแทกเสียงอย่างไม่พอใจแต่อีกคนกลับยิ้มไม่กลัว
“ หึงผมเหมือนที่กรรณบอกเหรอ ”
“ เออ ”
“ นนท์มันมีแฟนแล้ว มันรักแฟนมันจะตาย ”
“ มีแฟนไม่มีกูไม่สน ถ้าเห็นคราวหน้าแบบนี้อีก เพื่อนมึงจะเจ็บตัว คอยดู ”
“ นาย...อย่าถึงขั้นทำร้ายมันเลย ”
“ ห่วงมันมากเหรอ กูก็ไม่ได้จะทำอะไร แค่เตือนไว้ ”
ร่างบางค่อยๆลุกจากเก้าอี้เดินมาที่มาเฟียยื่นมือไปช่วยติดกระดุมเสื้อนอนให้พร้อมเอ่ยวาจาอย่างแผ่วเบา
“ หายโกรธนะ ”
“ อือ ”
“ เย้!! ” วียกแขนชูสองข้างอย่างคนดีใจพร้อมทั้งยิ้มร่าเริงมองคนตรงหน้าที่ยืนนิ่ง
“ แบบมึงอะหาที่ไหนไม่ได้แล้ว กูถึงหึงหวงรู้มั้ย ”
“ เคยหาเหรอ ถึงบอกว่าหาไม่ได้อ่า ”
“ ก็ว่าผ่านมาเยอะ แต่ไม่เคยถูกใจแบบนี้สักคน ” ฟอดดดดดดดดด อิทธิก้มมาหอมที่แก้มของวีอย่างจังพร้อมทั้งเอามือไปกระชับเอวของวีให้เดินไปนั่งที่ปลายเตียงด้วยกัน
“ ใส่ชุดนอนแล้ว จะไม่ไปส่งผมที่บ้านใช่มั้ย ”
“ ก็ค้างที่นี่สิ กูจะได้ไม่ต้องไปส่ง พ่อไม่ว่าหรอกน่ะ พ่อมึงว่าเดี๋ยวกูไปคุยเอง ”
“ แหมมม ก็เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย พูดอะไรนิดหน่อยพ่อก็เชื่อทันทีอยู่แล้วนี่เดี๋ยวนี้ ”
วีพูดพลางหมั่นไส้พ่อตัวเองที่เปลี่ยนไปมาก และมักจะเชื่อคำพูดของอิทธิมากกว่าตนเองเสมอ
“ ไม่ค้างได้มั้ย จะกลับไปนอนบ้าน เพิ่งค้างไปเอง ”
“ อือ อย่าลืมนะทริปสวิตของเรานะ ”
“ ไม่ลืมหรอก อยากไปแล้วเนี่ย อยากไปเที่ยว ”
“ หึๆๆ ” อิทธิยกยิ้มมุมปากพลางยกมือโอบวีแล้วหอมที่ไหล่และแขนอย่างเสน่หา
“ ผมกลับเลยดีกว่า ให้คนขับมอไซต์ไปส่งก็ได้ครับ ”
“ ไม่ได้! กูจะไปส่ง ”
“ งั้นตามใจ ”
วีลุกจากเตียงเดินนำอิทธิลงมาข้างล่างเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน เช่นเดียวกับอิทธิที่สวมเสื้อคลุมทับ แล้วเดินตามวีลงมาสั่งลูกน้องให้เอารถออกเพื่อไปส่งวี
“ จริงๆให้ผมไปส่งก็ได้นะครับ นายจะได้ไม่ต้องไป ” กรรณเสนอเพราะเห็นว่านายจะได้พัก
“ แล้วถ้ากูจะไปส่งวี มันหนักส่วนไหนของมึง ” อิทธิมองหน้ากรรณอย่างหาเรื่อง
“ อุ้ย ก็ไม่ได้หนักอะไรผมหรอกครับนาย ”
“ ผมก็บอกนายแล้ว ว่าไม่ต้องไปก็ได้ๆ ก็จะไปให้ได้เลย ” วีพูดเบาๆกับกรรณ
“ แล้วมันเป็นอะไร กะไอ้แค่นั่งรถไปส่งเนี่ย มันดูลำบากมากเหรอ ” อิทธิบ่นเสียงดังจนกรรณรีบเปิดประตู เชิญวีให้รีบขึ้นไปและยืนคอยปิดประตูให้นายก่อนที่จะรีบขึ้นรถตามมา
เมื่อรถเคลื่อนตัวออกไปได้สักพักและการออกจากบ้านครั้งนี้ไม่มีลูกน้องคนอื่นตามมาจึงเปิดโอกาสให้อิทธิ ได้คุยกับกรรณในบางสิ่งที่ตนรู้สึกสงสัยและได้กลิ่นความไม่ชอบมาพากลกับการกระทำของกาเบียล
“ กรรณ มึงรู้สึกอะไรมั้ยว่ากาเบียลดูแปลกๆช่วงนี้ "
” เรื่องอะไรครับ? "
" แปลกยังไงครับนาย ”
“ หลายครั้งที่กาเบียลไม่ตามกูเวลาไปไหน และยังไปที่บริษัทหรือบ่อนเองโดยที่กูไม่ได้สั่ง หรือบอกกูและมึงก่อน ทำตัวเหมือนมีพิรุธ ”
“ ผมไม่เห็นรู้สึกว่ามันผิดปกติเลย ” กรรณหันมาตอบกลับนายแล้วหันกลับไป
“ นายคิดมากไปหรือเปล่าครับ คุณกาเบียลเนี่ยนะจะเปลี่ยนไป เค้าคือคนที่อยู่เบื้องหลังนาย มาโดยตลอดนะครับ คงไม่คิดจะทำอะไรไม่ดีหรอก ” วีเสริมทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกาเบียลมาไม่นานเท่าอิทธิ แต่ก็คิดว่าตนเองมองคนออกและเชื่อมั่นในตัวกาเบียล
“ กูไม่ได้คิดแบบนั้น แค่รู้สึกว่าเค้าเปลี่ยนไป ” อิทธิหันมาพูดกับคนข้างๆ
“ ผมจะลองสังเกตแล้วก็ดูๆให้นะครับนาย ”
“ อือดี ยศ!! ถ้ากูรู้ว่ามึงเอาเรื่องที่กูคุยตอนนี้ไปพูดต่อ มึงรู้ใช่มั้ยจะเจออะไร ”
“ ไม่กล้าหรอกครับนาย ” ยศมองนายผ่านกระจกแล้วก้มหัวให้เล็กน้อย
“ ขู่เก่งงงง ”
“ ลองดูสิ ว่ากูขู่หรือกูเอาจริง หึๆ ”
“ ช่วงนี้จระเข้ในบ่อไม่ค่อยได้กินอาหารหวานพอดีเลยครับนาย มันคงโหยหารอคอยอยู่ ”
“ นี่...เอาให้จระเข้กินเลยเหรอ ” วีรู้แบบนั้นแล้วก็รู้สึกกลัวและสลดขึ้นมาทันที
“ ครับ ฟาร์มไม่ไกลจากนี้หรอก คุณวีอยากไปดูมั้ยล่ะบอกนายได้นะ ”
“ เออ อยากเห็นก็บอก จะพาไปดู ” อิทธิยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นสีหน้ากลัวๆของวี
“ มะ...ไม่ดีกว่า ดูอย่างอื่นน่าสนใจกว่าเยอะเลยผมว่า ” วีรีบปฏิเสธแล้วมองตาอิทธิกลับไป และไม่นานรถก็เคลื่อนมาจอดหน้าปากซอยทางเข้าบ้านวี เหมือนเดิมที่อิทธิและกรรณจะเดินลงไปส่งวีถึงหน้าบ้าน แต่คราวนี้เหมือนกรรณจะรู้งานเดินเว้นระยะห่างและทำเป็นไม่มองให้นายและวีได้ทำอะไรหวานๆกันก่อนจะแยก จากกันอย่างเช่น จับมือถือแขน โอบไหล่เดินหยอกล้อกันไปจนถึงบ้านในที่สุด
“ ดูบอลเหรอลุงวัฒ ” อิทธิกล่าวทักทายพ่อของวีที่ยังไม่นอนนั่งอยู่กลางบ้าน
“ เอ้อ ดูด้วยกันมั้ยล่ะคุณ ” ลุงวัฒหันมาตามเสียงทักทายแล้วเอ่ยชวนอย่างมีมารยาท
“ ไม่ต้องชวนเลยพ่อ งานการเค้ามีทำเยอะแยะ ” คนเป็นลูกชายขัดไว้เดี๋ยวยาว
“ ไว้ผมจะมาดูด้วยวันหลังนะ ขอตัวก่อน ”
“ อื้อๆ ” ลุงวัฒหันมายิ้มเล็กน้อยให้กับอิทธิแล้วรีบหันกลับไปดูบอลต่อ ทำให้วีรีบยกมือบ๊ายบายคนที่มาส่ง แต่คนที่มาส่งนั้นส่ายหน้าดื้อรั้นไม่ยอมไปแถมเอามือชี้ที่แก้มขวาตัวเองแล้วยิ้มนิดๆ
“ มะ ไม่!! ”
“ งั้น...กูไม่กลับนะ ”
“ เรื่องของนายสิ ” วีกลัวโดนพ่อล้อและยังคงปฏิเสธไม่ยอมทำตามคำขอของอิทธิ อิทธิจึงเปลี่ยนจากชี้ที่แก้มเป็นอ้าแขนออกสองข้างเพื่อให้วีเดินเข้ามากอด แต่วีก็ยังคงยืนนิ่ง
“ เป็นฮันนี่เหรอฮะ ชูแขนเนี่ย ไม่เอาาา!! ”
“ จะกอด จะหอม หรือว่าจูบ?? เลือก!!!! ” อิทธิพูดด้วยเสียงแข็งแกมบังคับ
“ ง่าาา ” วีส่งเสียงงุ๊งงิ๊งเล็กน้อยแล้วดึงอิทธิให้พ้นประตูพร้อมทั้งเขย่งขาขึ้นไปหอมแก้ม อิทธิหนึ่งทีแล้วโถมตัวเข้ากอดอิทธิไปด้วยเลย
“ หึ!! เหลืออีกอย่างไม่ทำเหรอ ” ไหนๆก็ได้ทั้งหอม กอดเหลือเพียงจูบอิทธิจึงลองถามวีดู
“ พอละ โลภมากลาภหายนะ ”
“ กลับก็ได้ ไปละ ”
# ไรท์ไม่ได้หายไปไหน ขอโทษเมื่อวานหายไป 5555
# ไรท์เอาใจช่วย 13 หมูป่าให้ออกมาเร็วๆ เกาะติดทั้งวันเอาใจช่วยอยู่
# ขอบคุณเม้นท์ ขอบคุณคนอ่านทุกคน สำหรับใครที่เข้ามาใหม่ก็ยินดีต้อนรับจ้า
มาอ่านกันเยอะๆนะ 55555 ไรท์ใจดี น่ารัก ใช่มั้ยรี๊ดจ๋า