ตอนนี้ผมไม่อายที่จะเปิดเผยความรู้สึกตัวเองที่มีต่อวีอีกต่อไปแล้ว ผมพร้อมที่จะเปิดเผยกับทุกคน
ผมไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะผมพร้อมที่จะเผชิญกับทุกสิ่ง ขอเพียงมีวีอยู่กับผมในทุกๆวัน
“ มองทำไมเนี่ย มองแบบไม่กระพริบตาด้วยหน้ากลัว ” ร่างบางถามคนที่มองมาทางตน
“ ไม่คิดว่ามึงจะกลับมา ”
“ ทำอะไรไว้บ้างล่ะ ”
“ เยอะ ” มาเฟียรู้ตัวดีและก็เสียใจกับสิ่งที่ตนทำลงไปทั้งหมดแล้ว
“ รู้ตัวด้วยเหรอ ”
“ รู้ตัวแล้วตอนนี้ก็รู้ใจด้วย ” คำพูดคำจาของมาเฟียหนุ่มทำเอาวีเบ้ปากมองบนใส่
“ วันที่กูกอดมึงที่สนามบิน กูคิดว่ามึงจะใจอ่อนให้กูแต่ทำไมถึงทิ้งกูไปต่างประเทศได้ลง ”
“ จริงๆก็..ก็ใจอ่อนวันนั้นแหละ แต่งานก็สำคัญจะให้ทิ้งงานรึไง หาคนแทนก็คงไม่ทันแล้ว ”
“ ไม่ได้คิดจะแกล้งกูใช่มั้ย ”
“ คิด ” ร่างบางตอบไปสั้นๆและยิ้มกรุ้มกริ่มส่งไปให้มาเฟีย
“ ใจร้ายชิบหาย ” มาเฟียหนุ่มบ่นแล้วส่ายหัวเบาๆ
“ ไม่พูดแบบนี้ต่อหน้าฮันนี่ เดี๋ยวได้ยินแล้วจำ มันไม่ดี ”
“ จะหลับอยู่แล้วเนี่ย ไม่ได้ยินอะไรหรอก ”
ผมพูดพลางมองลูกน้อยของผมที่นอนกินนมตาสะลึมสลือจับมือวีไว้ข้างหนึ่งกับตัวคงกลัววีจะทิ้งไป
“ นั้นแหละ มันไม่ดี ”
“ ทำไมต้องแกล้ง มีความสุขใช่มั้ยเห็นกูตามง้อ หมดหวังเนี่ย ”
“ ไม่ได้คิดว่านายจะมาตามง้อ คิดว่าแบบ...ออกไปแล้วก็จบๆเรื่องไป ”
“ เหมือนมึงอยากจะออกจากบ้านกูไปมากเลยตอนนั้น ”
“ เลิกพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาเถอะ ” วีพูดพลางเปลี่ยนตำแหน่งมือเกาหัวกล่อมหนูน้อยให้หลับ
“ ขอโทษนะ ” อิทธิบอกกับวีด้วยน้ำเสียงจริงจังและพูดมันออกมาจากใจ
“ ครับ ผมไม่ได้โกรธอะไรแล้ว ”
“ กูจะไม่ขอให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่...จะขอ..ให้เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้มั้ย ”
“ หื๊มมมมมม!! ” วีถึงกับตาโตกับสิ่งที่อิทธิพูดขอตน
“ สัญญา...ว่าจะไม่ทำให้เสียใจ จะไม่ทำร้ายมึงอีก ” ร่างบางยังคงยิ้มกว้างและมาเฟียหนุ่ม
ก็ยื่นมือมาจับมือร่างบางอีกข้างไว้ทำเอาสีหน้าร่างบางแดงขึ้นเรื่อยๆเป็นลูกตำลึงสุก
“ ตอบมา! ว่าตกลงหรือไม่ตกลง ” มาเฟียเร่งเอาคำตอบจนอีกฝ่ายพยักหน้าตอบกลับ
“ ตกลงก็ได้... ”
“ หึ!! ขอบคุณนะ...ที่ให้โอกาสกู ”
ผมอยากจะจับวีเข้ามาจูบ เข้ามากอดมากตอนนี้ถ้าไม่ติดว่าตรงกลางที่คั่นเราเป็นฮันนี่ที่นอน
หลับไปแล้วนี่สิ ที่ผมไม่ขอให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะช่วงที่ผ่านมามันมีทั้งอะไรที่ดีและไม่ดี
ซึ่งอาจจะมีเรื่องไม่ดีที่ผมทำกับวีมากกว่าเรื่องดีด้วยซ้ำ ผมจึงขอให้เรามาเริ่มต้นกันใหม่ เพราะต่อจากนี้ไป
ผมจะทำให้มีแต่สิ่งดีๆระหว่างเราให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ผมจะไม่ทำให้วีเสียใจอย่างแน่นอน
“ หลับซะแล้วฮันนี่ ” ร่างบางพูดพลางก้มลงไปหอมฮันนี่เบาๆ หยิบขวดนมแล้วลุกขึ้น
ไปเก็บที่ตะกร้า จากนั้นก็เข้าห้องน้ำไปทำธุระ ล้างไม้ล้างมือแล้วก็เดินออกมาที่ปลายเตียงของหนูน้อย
“ จะไปไหน ”
“ ชู่ววว!! เดี๋ยวฮันนี่ตื่นครับ ”
เค้าบอกให้ผมเบาๆ ผมเลยลุกจากเตียงคว้ามือวีแล้วเดินออกมานอกห้องฮันนี่ เพื่อเดินมาที่ห้องนอน
ของผม ผมดันตัววีให้เข้าไปในห้อง แล้วเดินออกมาบอกลูกน้องว่าให้ไปบอกพี่เลี้ยงมาเฝ้าฮันนี่ต่อ
แล้วผมก็กลับเข้ามาในห้องนอนตัวเองอีกครั้ง
“ คืนนี้...ค้างที่นี่ได้มั้ย ” มาเฟียหนุ่มส่งเสียงออดอ้อนอยากให้อีกคนค้างด้วย
“ ไม่ได้ ผมไม่ได้บอกพ่อไว้ ”
“ โทรบอกก็ได้นี่ พ่อมึงไม่ว่าหรอก ”
“ รู้ได้ไงครับ ” ร่างบางเลิกคิ้วเอ่ยถาม
“ อยากนอนกอด คิดถึง ” มาเฟียก้มลงมาพูดอยู่ใกล้ๆหูวีทำเอาวียิ้มเพราะนายพูด
แบบอ้อนๆ พร้อมกอดวีไว้อีก ไม่อยากให้วีกลับบ้านไป
“ ไม่ได้ นายปล่อย...ผมจะกลับบ้าน ”
“ หึ ” มาเฟียยังคงส่ายหน้าเบาๆเป็นการปฏิเสธเหนือบ่าของีวี
“ นาย...ซื้ออะไรมาเต็มบ้านผมเลย ไหนจะห้องน้ำ แอร์ที่ห้องพ่ออีก ”
ผมคลายกอดออกจากวี ยกมือลูบแก้มวีเล่น แล้วก็ตอบกลับวีไปหลังจากที่เค้าเงยหน้าขึ้นมารอฟัง
“ กูไปบ้านมึงตั้งบ่อย ในบ้านแทบไม่มีอะไร เลยอยากซื้อให้ พ่อมึงจะได้สบาย
เห็นไปหาทีไรก็บอกว่าไปดูทีวีกับเพื่อนบ้าน แกก็คงอยากมีทีวีเป็นของแกเอง ”
“ ผมเลยเหมือนลูกอกตัญญู ไม่ซื้อทีวีให้พ่อดู ปล่อยให้พ่อลำบาก ”
“ ตู้เย็นก็ไม่มี ทีวีด้วย มึงอยู่ยังไง ”
“ แต่ก่อนก็มี ตอนพ่อเล่นพนันมากๆก็ขายทิ้งเอาเงินไปเล่น ผมจะเอาตังไหนไปซื้อมาใหม่
ถ้าซื้อมาพ่อก็เอาไปขายอีก สู้ไม่มีให้พ่อเอาไปขายดีกว่า ” ร่างบางเล่าถึงสาเหตุของการไม่มีของในบ้าน
“ กูว่าละ ”
“ ยังไงก็...ขอบคุณนะครับ ไว้ผมทำงานแล้วจะจ่ายคืนให้ ”
“ กูไม่เอา ”
“ ไม่ได้! หลายบาทเลยนะ ” ร่างบางยังคงไม่ยอมและไม่อยากได้ของใครฟรีๆ
“ อย่าดื้อน่ะ บอกว่าไม่เอาก็ไม่เอาไง หลายบาทกว่านี้กูก็ให้มึงได้วี ”
“ เหรอ!!...แล้วทำไมหนี้ถึงไม่ยกให้ผมซะล่ะ ”
“ จริงๆกูยกให้มึงได้ แต่ถ้ากูยกหนี้ให้มึง กูจะได้อยู่กับมึงได้เห็นหน้ามึงไปนานๆเหรอ ”
คำพูดของอิทธิทำเอาวีเงียบไปอีกครั้ง รู้สึกดีขึ้นมานิดๆว่าที่เค้าไม่ชอบบอกว่าใช้หนี้ไป
เท่าไรเพราะเค้าอยากอยู่ด้วยกันไปนาน ไม่ได้คิดที่จะทรมานตนอย่างเดียว
“ จริงๆกูรู้ตัวมานานแล้วแหละ ว่ามีความรู้สึกดีๆให้มึงมากกว่าคนอื่น ไม่ได้ให้มึงเป็นแค่ที่ระบาย
แต่...กู...กูไม่อยาก... ” มาเฟียหนุ่มชะงักที่จะพูดคำนั้นออกมาจนร่างบางเป็นฝ่ายพูดแทน
“ ไม่อยากมีจุดอ่อนในชีวิตให้ใครเล่นงาน ”
“ อือ... ”
“ แล้วตอนนี้อยากมีแล้วรึไง ฮะ ” ร่างบางถามแบบนักเลงใส่มาเฟียหนุ่มที่ยืนยิ้มนิดๆ
“ กูไม่สนใจแล้ว กูอยากมีมึงมากกว่า มึงก็คือจุดอ่อนของกูจริงๆนั้นแหละวี
ไม่มีมึงนะกูไม่มีแรงจะทำอะไรเลย โดนกาเบียลดุตั้งหลายครั้ง งานการกูไม่ทำ ”
“ ผมก็ไม่ได้อยากจะเป็นจุดอ่อนในชีวิตนาย ถ้าเลือกได้ผมก็อยากเป็นจุดแข็ง
เป็นแบล็คคอยให้กำลังใจ อยู่เคียงข้างทุกย่างก้าวของนายตางหาก ”
ผมพยักหน้าเข้าใจแล้วกับสิ่งที่เค้าพูดและตลอดเวลาเค้าก็ทำแบบนั้นมาโดยตลอดผมรับรู้ได้
“ กลับก่อนนะ เดี๋ยวดึกมาก ” ร่างบางมองมาเฟียแล้วขอตัวอีกครั้ง
“ กูยอมให้มึงกลับก็ได้ แต่กูจะไปส่งที่บ้าน ”
“ ครับ ”
อิทธิและวีเดินลงมาจากด้านบนจนมาถึงข้างล่าง กาเบียลและกรรณก็นั่งเล่นอยู่แถวนั้น
เห็นนาย จึงลุกเดินมาหา เผื่อนายจะออกไปไหนจะได้ติดตามไปด้วย
“ นี่...ดีกันแล้วใช่มั้ยครับ ” กรรณถามพลางชี้นิ้วไปที่ทั้งคู่ที่ยืนอยู่ข้างๆกัน
“ ไปถามเค้านู้น ” มาเฟียโบ้ยให้ถามอีกคนที่เป็นฝ่ายมาหา
“ เอ้า!! ทำไมต้องมาถามผมล่ะ ” ร่างบางโวยวายนิดๆแล้วก็เปลี่ยนเป็นยิ้มออกมา
“ คุณวีกลับมาก็ดีครับ นายจะได้กลับมาเป็นนายสักที กินแต่เหล้า งานกองเต็มห้อง
ไม่ทำอะไรเลยวันๆถ้าผมไม่บังคับ ”
“ จริงครับ ถ้าผมไม่หลอกล่อให้ออกไปหาคุณวีหรือพ่อคุณวีนะ นายก็จะอยู่แต่ห้อง
เรียกหาแต่เหล้า นั่งช้ำใจอยู่กับหน้าต่างไม่ไปไหน ” ลูกน้องคนสนิทสองคนพากันเล่าเรื่องนายจนหมด
“ ไอ้กรรณ!! เดี๋ยวเหอะมึง ปากกล้านัก ” วีขอนายไปลาป้าภาและสาวใช้ในครัว
ซึ่งกำลังนั่งดูละครกันอยู่ พอเห็นวีเดินเข้ามาก็พากันหันมาสนใจ
“ อ้าวคุณวี มีอะไรคะ ” ป้าภาลดเสียงโทรทัศน์ลงเพื่อฟังโดยเฉพาะ
“ กินอะไรรึยังคุณวี ” อินถามไถ่เผื่อจะหาอะไรให้กิน
“ ผมจะกลับบ้านแล้วน่ะครับ ”
“ อ้าว ไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันหรอกเหรอคะ ” อรทำหน้าเศร้าเพราะคิดว่าวีจะกลับมา
อยู่ด้วยกันแบบเดิมตอนนั้น
“ ผมจะอยู่ที่นี่ได้ไง ผมหมดหนี้แล้วนะพี่อร ”
“ คิดว่าแบบ...มา..มาอยู่กับนาย ” อินพูดแล้วก็ยิ้มเขินทำเอาวีรีบส่ายหน้าเบาๆปฏิเสธ
“ ตามขั้นตอนเนอะ ฮ่าๆๆ ” ป้าภารู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร พูดพลางหัวเราะออกมาเบาๆ
“ ไว้เจอกันค่ะ มาหาเราบ่อยๆนะ ” วียกมือไหว้ทุกคนแล้วรีบเดินไปที่หน้าบ้าน
เพราะอิทธิไปนั่งรอที่รถนานแล้ว กรรณจึงเดินมาตามวี ที่ครัวให้รีบไปขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าบันไดบ้าน
เพื่อจะได้ออกไปส่งตนที่บ้าน โดยการไปส่งนั้นกรรณก็ได้ตามนายไปด้วย ไม่เคยวางใจให้นายไปไหน
คนเดียวเลยแม้สถานการณ์จะสงบก็ตาม
“ ผมนั่งหน้าก็ได้ครับ ”
“ มานั่งกับกู ให้กรรณนั่งหน้าไป ”
กรรณหันมายิ้มแบบหมั่นไส้ให้นายหลังจากที่วีขึ้นรถมา ปิดประตูรถจากนั้นกรรณก็ขึ้นไปนั่งด้านหน้า
พอรถเคลื่อนออกมาได้สักพักฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก จนทำให้จราจรติดขัดมากใช้เวลานานกว่าจะถึงบ้านวี
“ เหมือนน้ำจะท่วมเลยครับ ” ยศคนขับรถพูดพลางมองทุกคนผ่านกระจกคนขับ
“ อย่าเรียกน้ำท่วม เค้าเรียกน้ำรอการระบาย ”
“ ฮ่าๆๆ ไม่เอาไม่พูด ” ร่างบางหัวเราะเข้าใจในมุขของกรรณจนเสียงดุๆพูดขึ้น
“ เบาแอร์ลงหน่อย ”
ผมมองวีที่นั่งกอดอกแล้วคุยกับกรรณ คงจะหนาวผมจึงถอดสูทตัวเองแล้วคลุมให้วี
วีเองก็หันมามองผม พยักหน้าให้น้อยๆส่งยิ้มให้นิดๆแล้วจับเสื้อผมคลุมตัวเองไว้คลายหนาว
จนรถเคลื่อนมาถึงบ้านในที่สุด
“ มีร่มอยู่ใต้เบาะนะครับ ” ยศจอดรถแล้วหันมาบอกกับคนด้านหลัง
“ ผมไปก่อนนะ ยืมร่มก่อนเดี๋ยวเอาไปคืน ” ร่างบางบอกกับคนที่นั่งข้างๆ
“ เดี๋ยวผมเดินเข้าไปส่งเองครับนาย ” กรรณอาสายอมเปียกไปส่งคนของนายให้
“ ไม่ต้อง! กูจะไปด้วย ”
“ ฝนตก มันเฉอะแฉะนะครับนาย ”
“ กู...จะ..ไป..ส่งมึง ”
อิทธิพูดเน้นคำให้ชัดเจน กรรณจึงเดินลงจากรถมาเปิดประตูและกางร่มให้นาย ซึ่งอิทธิเอง
ก็รับร่ม มาถือแล้วรอให้วีเดินลงมาอยู่ด้วยกันในร่ม เพื่อเดินไปส่งวีถึงบ้านเกือบหลังสุดท้ายของซอย
“ บอกแล้วผมเดินมาเองได้ เปียกหมดแล้วเนี่ย ” วีบ่นแล้วรีบเข้าบ้านมา
“ มึงก็เปียก ”
“ ก็ว่าอยู่ หายไปไหน ที่แท้ก็ไปหากันนี่เอง ” ลุงวัฒเห็นลูกชายจึงเอ่ยทักเสียงดัง
“ อะไรพ่อ!! ผมไปหาฮันนี่เหอะ ”
“ ดึกแล้วไม่หลับไม่นอนเหรอลุงวัฒ ” มาเฟียทักทายอย่างเป็นกันเอง
“ เนี่ยกำลังจะไป ตามสบายนะ ”
ลุงวัฒพูดจบก็เดินเข้าห้องตัวเองไปเลย วีเองก็ถอดรองเท้าเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกางร่มเอาไว้หน้าบ้านด้วย
“ ฝนจะตกแรงขึ้นเรื่อยๆนายไม่รีบกลับไปล่ะครับ ”
“ ไม่อยากกลับ ”
“ งั้น...จะนั่งรอจนฝนหยุดมั้ยล่ะ เข้ามานั่งที่โซฟาก็ได้ ”
เค้าชวนผมเลยรีบถอดรองเท้า วางร่มไว้หน้าบ้านแล้วเดินเข้ามานั่งลงที่โซฟาตามที่วีบอก
ปลดกระดุมเสื้อออกจนเหลือ 3 เม็ดเพื่อระบายอากาศนิดหน่อยแล้วนั่งมองวีที่เดินไปมาในบ้าน
“ มึงจะไปไหน ”
“ เข้าห้องสิ ดึกแล้ว จะไปอาบน้ำ พรุ่งนี้ต้องไปทำงาน ”
“ ทิ้งกูไว้คนเดียวตรงนี้เหรอ ” มาเฟียเอ่ยถามจนวีต้องชะงักที่จะเข้าห้องไป
“ อะไรของนายครับเนี่ย ”
ผมลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินเข้ามาในห้องวีตามวีมาติดๆ มองห้องวีไปรอบๆเพื่อสำรวจก็พบว่า
ห้องเค้าเล็กกว่าห้องในบ้านคอนเทนเนอร์ที่ผมให้เค้าอยู่อีก สำรวจได้สักพักเจ้าของห้องก็รู้ตัวว่าผมเดินตามมา
“ เอ้ย!! เข้ามาทำไม ” วีขมวดคิ้วถามท่าทางขึงขังตึงตังใส่อีกคนที่บุกรุกพื้นที่
“ ขอนอนด้วยได้มั้ย ”
“ ไม่ได้...นายกลับไปได้แล้ว ”
“ กูไม่อยากกลับไป กูกลัวว่ามึงจะไม่กลับไปหากูอีก ” มาเฟียพูดพลางเดินเข้าหาวี
“ ผมไม่หนีไปไหนแล้ว ”
“ งั้น...คืนนี้กูนอนที่นี่กับมึงนะ ”
“ ห้องมันเล็ก แอร์ก็ไม่มี ร้อนนะ ” วีรู้ดีว่าอีกคนขี้ร้อนเดี๋ยวจะหงุดหงิดเอาเปล่าๆ
“ ฝนตกขนาดนี้ไม่ร้อนหรอก ขอนอนด้วย ”
“ จะนอนตรงไหน เตียงก็เล็กกระจิ๋ว ”
“ เตียงที่บ้านคอนเทนเนอร์เราก็นอนด้วยกันมาแล้ว ”
วีเงียบไปเพราะคิดๆดูแล้วว่าขนาดเตียงที่บ้านคอนเทนเนอร์ก็เท่ากับเตียงของตัวเองที่นอนที่บ้าน
“ กูจะนอน! มึงจะให้ไม่ให้กูก็จะนอน ” ผมยื่นคำขาดพร้อมหยิบโทรศัพท์มากดโทรหากรรณ
เพื่อบอกว่าคืนนี้ผมจะนอนกับวีที่บ้านนี่ ให้กรรณและลูกน้องกลับบ้านกันไปได้เลย
“ ตามสบาย ผมไปอาบน้ำละ ”
ร่างบางเข้าไปอาบน้ำ แล้วก็แต่งตัวเดินออกมา พลางหยิบผ้าขนหนูส่งให้นายด้วย
“ เสื้อผ้ากูล่ะ ”
“ ใส่กางเกงบอลกับเสื้อยืดได้มั้ย ”
“ เสื้อกล้ามแบบมึงก็ได้ ”
“ โอเค ”
ผมมองวีเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบกางเกงบอลและเสื้อกล้ามส่งมาให้ผมแล้วตัวเค้าก็เดินไป
กระโดดขึ้นเตียงนอนเล่นโทรศัพท์มือถือ ผมจึงเข้ามาอาบน้ำ ใส่ชุดที่วีหยิบให้แล้วเดินออกมา
ที่เตียงอย่างไม่ค่อยสบายตัว
“ กางเกงมึงตัวเล็กจังวะ ”
“ ไม่มีไซต์อื่นแล้ว มีกางเกงพ่อ เอามั้ยล่ะ ” วีถามแต่ตายังคงมองที่จอโทรศัพท์
“ ไม่ต้องหรอก ป่านนี้พ่อมึงหลับไปแล้ว ” อิทธิขึ้นมาทิ้งตัวลงนอนข้างวี เอื้อมมือ
คว้าโทรศัพท์วีมาเก็บที่โต๊ะข้างเตียง จนทำให้วีหันหน้ามาดุใส่
“ ผมกำลังเล่นอยู่นะครับ ”
“ อยู่กับกูต้องสนใจกูมากกว่าโทรศัพท์สิ ”
“ ก็ได้....เดี๋ยวเปิดพัดลมให้นะ ” ร่างบางคลานลงไปปลายเตียงลุกขึ้นไปเสียบปลั๊ก
พัดลมแล้วยกมาวางจ่อทางที่นายนอนอยู่
“ รู้มั้ยทำไมกูไม่ติดแอร์ห้องมึง ”
“ ทำไมอะ ”
“ เพราะเดี๋ยวมึงก็จะไปอยู่กับกูที่บ้านเหมือนเดิมไง ”
“ หึๆๆ ” ร่างบางหัวเราะออกมาผ่านลำคอ มองนายที่นอนยิ้มอยู่บนเตียงแต่ก็...ดัน
ไปเห็นสิ่งที่มันสะดุดตาเข้า เป็นลำนูนออกมาให้เห็นชัด จึงเข้าใจทันที่ที่นายบอกว่ากางเกงมันเล็ก
ร่างบางจึงรีบเปลี่ยนไปมองจุดอื่น เดินมาที่ปลายเตียงแล้วกลับมานอนที่เดิมของตนอย่างรวดเร็ว
“ ไม่หนุนหมอนรึไง เอามาให้กู ”
“ ไม่เป็นไร เดี๋ยวนายปวดคอ ”
อิทธินอนหันตะแคงหันหน้าไปหาวี ขยับเข้าไปจนชิดวีแล้วค่อยๆก้มหน้าลงไปหาวีเรื่อยๆ
แต่เหมือนวีจะรู้ทันพลิกตัวหนีแล้วหันหลังใส่อีกคนบนเตียงไปซะงั้น ทำเอาอิทธิอดจูบคนนอนข้างๆ
ก่อนนอนเลย
“ หันหลังให้แบบนี้ นี่... ”
“ ผมจะนอน! นายก็นอนได้แล้ว ” วีรู้ว่าอิทธิจะหมายถึงอะไรจึงรีบตัดบทไปก่อน
“ วี... ” อิทธิขยับเข้ามาใกล้ๆวีแล้วเรียกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาซาบซ่านตรงกกหู
*** ประกาศๆ นิยายเรื่องนี้ได้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์มีดีส์พับบลิชชิ่งแล้วจำนวน 2 เล่ม
โดยเล่มแรกกำลังจะวางแผงในเดือนมกราคม 2562 นี้ ไรท์เลยอยากจะบอกกับผู้อ่าน
ที่สนใจ และเชิญชวนให้ไปช่วยกันอุดหนุนผลงานเล่มแรกของไรท์ สานฝันไรท์กันหน่อยนะคะ
**** ขอบคุณล่วงหน้า รักมากมาย จุ้บๆๆ
# มาต่อให้แล้วววว
# ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน มาเม้นท์ มาไลค์เช่นเคย
# ความหวานน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนะ
# คนที่บอกว่ารอ รอที่ไหนล่ะ ไรท์จะได้ไปหาถึงที่เลย 5555
# ฝนตก เน็ตไม่ค่อยดี ถ้าบ้านใครฝนตกก็รักษาสุขภาพกันด้วยเน้ออ