เวลาผ่านไป ตอนนี้ฮันนี่อายุ 6 เดือนแล้ว สามารถจำชื่อตัวเองได้ เมื่อมีคนเรียกจะหันมองและส่งเสียง
ออแอตอบกลับไป ไม่ตื่นกลางดึกมาหนึ่งเดือนกว่าแล้วทำให้คนเลี้ยงอย่างวีลดความเหนื่อยลงไปบ้าง
“ ฮันนี่ ฮันนี่ ” วีเอามือตบแปะๆเรียกหนูน้อยเพื่อให้หันมองมาที่ตน
“ แอ แอะ ” หนูน้อยยิ้มให้กับคนเรียกอย่างคุ้นเคย
“ ยิ้มใหญ่เลย ” สายิ้มตามเมื่อเห็นทั้งคู่คุยกันเหมือนจะรู้เรื่อง
“ หนูจะนั่งเหรอ เหรอฮันนี่ หื๊ม? ยังไม่ได้นะ ”
“ แฮ่ะ แค้กก แอะ ”
“ พี่ไปล้างห้องน้ำก่อนนะคะ ผมมองฮันนี่ตอนนี้ที่ทำท่าชูแขนให้ผมอุ้ม
ผมจึงเข้าไปอุ้มเค้ามากอดไว้กับอก ฮันนี่เองก็เอามือมาจับที่หน้าและหัวของผม เหมือนจะสำรวจ
ตามวัยที่ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร อะไรขยับก็จะสนใจและหันไปมอง
“ ฮันนี่...หนูอยากออกไปดูนกมั้ย เดี๋ยววีพาไปดูนกเนอะ ”
วีอุ้มคุณหนูน้อยลงมาข้างล่างในตอนเย็นเพื่อพาไปดูนกที่บิน มาเกาะต้นไม้และให้ชมธรรมชาติ
บรรยากาศของสวนและท่าทางฮันนี่จะสนใจท้องฟ้า แหงนมองบ่อยๆ
“ เลี้ยงไปเลี้ยงมาหน้าตาเหมือนคุณวีแล้วเนี่ย ” อินเดินเข้ามานั่งเล่นด้วยทักขึ้น
“ เออ...ถอดกันมาเลย ” อรเห็นด้วยอีกเสียงและเดินมานั่งลงที่พื้นหญ้าข้างๆกัน
“ พูดอย่างนั้นได้ไง ไม่ได้! ”
“ น่ารักจัง ขาวผ่องเป็นยองใยเลย ”
“ จ๊ะเอ๋! จ๊ะเอ๋! ”
คิกๆ คิกๆๆ ฮันนี่ยิ้ม ส่งเสียงตอบกลับเป็นระยะๆเมื่อสาวใช้ผลัดกันเล่นจ๊ะเอ๋และทำอะไรประหลาดๆให้ดู
“ ชอบใจใหญ่เลย ” วีมองฮันนี่อย่างเอ็นดูพร้อมก้มลงไปหอมที่แขนเบาๆ
“ โตขึ้นนายคงหวงลูกสาวน่าดู ”
“ โตขึ้นคุณหนูต้องสวยที่สุด คุณหนูฮันนี่ จ๊ะเอ๋! ”
ในระยะเวลา 5 เดือนมานี้ อิทธิไปกลับญี่ปุ่นอยู่หลายครั้ง เนื่องจากไปคุยงานและไปตรวจดู
โปรเจคใหญ่ที่ตัวเองสร้าง รวมถึงบินไปจีนและไต้หวันเพื่อเข้าไปตรวจงานบ่อนที่เปิดตัวอยู่ที่นั่น
ทำให้อิทธิไม่ค่อยได้เจอกับวีและลูกมากนัก แต่ก็ทำให้วีสบายใจมากขึ้นเพราะไม่ต้องอึดอัดเวลาอยู่กับคน
เป็นนายที่ชอบพูดจาไม่ดีด้วยเวลาอยู่ใกล้กัน อีกทั้งยังต้องมาคอยเป็นที่ระบายความหื่นให้นายหลายๆครั้งอีกด้วย
“ เสียงรถเข้ามาในบ้าน ” อรพูดแล้วเงี่ยหูฟังให้ชัดอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าหูไม่ได้ฝาด
“ หรือว่านายจะกลับมาแล้ว ” อินสันนิษฐานและพูดไม่ทันขาดคำลูกน้องมาเฟียก็เดินเข้ามา
บอกว่านายกลับมาแล้ว รถเข้ามาจอดเมื่อครู่นี้เลย
“ ชะเง้อมองอะไรฮันนี่ รู้เหรอใครมา ” วีถามหนูน้อยในอ้อมแขน
“ คงอยากไปหาแด็ดดี๊อ่าเนอะ ”
“ งั้นผมฝากพี่อินอุ้มฮันนี่ไปหานายทีครับ ”
“ ทำไมคุณวีไม่อุ้มคุณหนูไปเองล่ะคะ ” อินถามเพราะหลังๆมาเห็นวีกับนายดูห่างๆกัน
“ คุณวีคะ นายถามหาคุณฮันนี่ใหญ่เลยค่ะ ” สาเดินมาจากในครัวเพื่อบอกกับวี
“ พี่สามาพอดีเลย อุ้มฮันนี่ไปหาเค้าที ผมจะไป..จะไปเตรียมข้าว ”
“ ได้ค่ะ ”
สาอุ้มฮันนี่เดินไปหานายที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศที่ห้องนั่งเล่น คนเป็นนายพอเห็นฮันนี่
ก็รับมาอุ้ม กอดหอมอย่างคิดถึงไปหลายครั้ง พร้อมทั้งมองหาอีกคนที่ไม่เห็นเดินเข้ามาพร้อมลูกสาวของตน
“ ป้ายังไม่ได้ทำอะไรไว้ให้นายทานเลย ไม่รู้ว่านายจะกลับมา ” ป้าภาพูดคล้ายสารภาพผิด
“ ผมยังไม่หิว งืม...งั้นเดี๋ยวผมพาฮันนี่ไปดูของเล่นดีกว่า ”
“ คุณฮันนี่ จำชื่อตัวเองได้ด้วยเหรอ เก่งจัง ” กรรณสังเกตเห็นตอนนายพูดชื่อคุณหนูและ
หนูน้อยหันมองหน้านายจึงเอ่ยชมอย่างเอ็นดู
“ ตอนนี้คุณฮันนี่จำชื่อตัวเองได้แล้วค่ะ เรียกแล้วหันมามองได้แล้ว ” สาบอกพัฒนาการ
ของหนูน้อย และกาเบียลก็เข้ามาทดสอบโดยเดินไปอีกทางแล้วลองเรียก ปรากฏว่าหนูน้อยมองตามจริงๆ
แต่มองได้ไม่นานก็กลับไปสนใจคนที่อุ้ม โดยยกมือจับหูจับจมูกของคนอุ้มอย่างอิทธิเล่นพลางส่งเสียงออแอ
ตามประสาเด็กเล็ก
“ หน้าเหมือนใครกันเนี่ย หนูเหมือนใคร ” อิทธิมองลูกสาวใกล้ๆพร้อมถามแบบหยอกๆ
“ นายจะออกไปเลยมั้ยครับ ” กรรณถามนายเพื่อจะได้เตรียมเอารถออก
“ อือ ไปเที่ยวกันนะ แด็ดดี๊จะพาไปดูของเล่น ”
“ คุณวีไปไหนล่ะ ” กาเบียลหันไปถามพี่เลี้ยงที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก
“ เห็นบอกว่า...ไปเตรียมข้าวให้คุณหนูค่ะ ”
“ ไปตามเค้ามา บอกว่าฉันจะพาฮันนี่ไปข้างนอก เค้าต้องไปด้วย ”
สาก้มหัวรับคำสั่งแล้วเดินไปตามวี ซึ่งวีเองก็รีบเร่งมือเตรียมข้าวใส่กล่องจนเสร็จถือออกมาพบนาย
ที่ห้องนั่งเล่น หนูน้อยฮันนี่พอเห็นวีเข้าก็รีบชูแขนให้วีอุ้มอย่างเคยชินทันที
“ จะให้คุณวีอุ้มซะแล้ว ” กรรณยิ้มแล้วจับแขนคุณหนูของบ้านหยอกๆ
“ นายเรียกผมจะใช้อะไรครับ ”
“ กูจะพาลูกไปข้างนอก ”
“ ครับ ”
“ ไปด้วยกันสิ ” คำชวนของเค้าทำเอาผมถึงกับเงียบไป และยังไม่ได้ตอบกลับคำชวน
กาเบียลก็บอกกับผมว่าให้ผมไปกับนายเพื่อไปดูแลคุณหนู ผมจึงมองไปที่ฮันนี่อีกครั้ง ที่ยังคงชูแขน
ให้ผมอุ้ม แล้วนายก็ลุกขึ้นยืนอุ้มฮันนี่มาส่งให้กับผมโดยไม่รอคำตอบจากผมเลยว่าจะไปด้วยมั้ย
แต่เค้ากลับเดินนำออกไปทางหน้าบ้านเพื่อรอขึ้นรถ
“ ไปครับคุณวี เดี๋ยวระเบิดลงนะ ” กรรณพูดติดตลก
“ ไปก็ไป ”
“ ผ้าอ้อมค่ะคุณวี ” วีอุ้มฮันนี่ขึ้นไปบนรถและทำท่าจะส่งฮันนี่ให้กับอิทธิ
เพราะตนไม่อยากนั่งข้างกันกับนาย แต่อิทธิ ทำเป็นไม่รับเพราะอยากให้วีนั่งข้างๆ วีจึงต้องยอม
อุ้มฮันนี่นั่งลงไปที่เบาะข้างๆนายอย่างจำใจ
“ เอารถเข็นมั้ยครับ ” กาเบียลเอนหน้ามาถามวี
“ ไม่ต้อง ผมจะซื้อคันใหม่ให้ฮันนี่ ” คนเป็นนายปฏิเสธแทนอย่างไว
“ ว้าว คุณหนูจะมีรถคันใหม่ด้วย ” กรรณขยับหัวไปแล้วพูดกับหนูน้อย
ตลอดทางไปห้างสรรพสินค้า ฮันนี่จับนิ้ววีเล่นมองนู้นมองนี่แบบเด็กช่างสงสัยจนมาถึงห้าง
อิทธิ ก็สั่งไม่ให้ลูกน้องตามไป ให้เพียงกรรณกับกาเบียลเดินตามเท่านั้น ส่วนวีนั้นเป็นคนอุ้มฮันนี่เอง
เดินตามนายที่เดินลิ่วๆไปที่โซนเสื้อผ้าเด็กอย่างไว
“ สวัสดีค่ะ ของน้องเหรอคะ ” พนักงานในแผนกเสื้อผ้าเด็กเดินเข้ามาทักทาย อิทธิจึง
พยักหน้าตอบกลับบางๆ
“ ผมกับพี่กาเบียลรอด้านนอกนะครับนาย ” สองลูกน้องคนสนิทบอกแล้วเดินออกไป
“ ฮันนี่ชอบแบบไหน เอาสีนี้เหรอ ” วีก้มลงถามเมื่อฮันนี่ชี้นิ้วไปที่เสื้อชุดหนึ่ง
“ น้องน่ารักจังเลยนะคะ ” พนักงานเอ่ยชมเด็กน้อยที่ยิ้มแย้มชี้นิ้วไปมา
“ นายอุ้มฮันนี่ก่อนได้มั้ยครับ ”
“ ส่งมาสิ ”
ผมส่งฮันนี่ให้นายอุ้ม เพราะจะเลือกผ้าเองกลัวจะระคายเคืองผิวฮันนี่ ผมรู้ว่าฮันนี่ชอบผ้าแบบไหน
ใส่แล้วจะได้ไม่คัน ผมจึงเลือกผ้าเลือกไซส์แล้วก็หันไปถามนายผู้เป็นคนจ่ายเงิน
“ แบบนี้ก็สวยดีนะคะ ” พนักงานสาวเสนอ
“ นายชอบมั้ยครับ ”
“ มึงว่าดีก็เอา ” อิทธิตอบพลางโยกหนูน้อยให้ขยับไปมา
“ แต่คุณหนูเป็นลูกของนาย ”
“ มึงก็เป็นคนเลี้ยง ”
สงครามสายตาเริ่มขึ้น และไม่มีท่าทีว่าใครจะยอมใครด้วย จนกระทั่งพนักงานเอ่ยขอตัวแล้ว
ให้ลูกค้า เลือกแบบและดูกันเองไปก่อน มีอะไรเพิ่มเติมค่อยเรียกมาสอบถาม
“ น่าเบื่อ ” วีบ่นออกมาเบาๆแล้วเลือกสีชุดต่อ
“ บ่นอะไร ”
“ เปล่า ” แอ้ แอ ฮันนี่ส่งเสียงพร้อมหันไปมองสิ่งที่อยู่รอบร้าน ยิ้ม หัวเราะแบบแฮปปี้
ที่ได้ออกจากบ้านมา
“ เอามาสัก 2 ชุดแล้วไปดูชุดตรงนู้นด้วย ”
“ ครับนาย ”
วีถือชุดแล้วเดินตามนายมาดูชุดอื่นอีก เลือกๆจนพอใจคนเป็นนายก็ไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์
“ หยิบกระเป๋าสตางค์ในกระเป๋ากางเกง ”
“ นายก็หยิบมันออกมาดิ ให้ผมล้วงมันน่าเกลียด ”
“ กูอุ้มลูกอยู่ ” วีมองบนนิดๆแล้วก็เอามือล้วงหยิบกระเป๋าสตางค์นาย หยิบบัตรแล้วยื่น
ให้พนักงาน จากนั้นก็ถือถุงเสื้อผ้า 3 – 4 ถุงเดินตามนายออกมาหน้าร้านซึ่งกรรณกับกาเบียลรออยู่
“ ผมถือเอง ส่งมาครับ ”
“ ขอบคุณนะ ” วีบอกกับกรรณแล้วมองนายที่อุ้มฮันนี่เดินชี้นู้นชี้นี่ให้ดูและฮันนี่ก็ดูมี
ความสุขเวลาอยู่กับพ่อเค้า เดินมาจนถึงร้านของใช้เด็ก โซนรถเข็นเพื่อมองหาอันที่ดีและเหมาะที่สุด
“ คุณพ่อชอบแบบไหนครับ ” พนักงานถามอิทธิอย่างสุภาพ
“ มึงว่าแบบไหนดี ” แต่อิทธิกลับหันมาถามวีซึ่งเป็นคนเลี้ยงลูกให้
“ คันนี้ ” วีชี้ไปคันหนึ่ง คันที่เล็งไว้ตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว
“ งั้นเอาคันนี้ตามที่เค้าบอกเลย ”
“ ผมอุ้มฮันนี่เอง สลับกัน ”
“ ลูกกู กูจะอุ้ม ” รู้แหละว่าลูก ก็กลัวว่าจะเมื่อยเลยจะถาม แล้วแต่เค้าสิเนอะวีคิด
พอได้รถเข็นแล้ว อิทธิก็จัดการวางฮันนี่ลงที่รถเข็นแล้วเดินเข็นฮันนี่เที่ยวรอบห้างจนวนมา
ที่ร้านอาหารบรรยากาศดีร้านหนึ่ง เข้ามาในร้านด้านในสุดเพื่อหาที่นั่งมุมดีพร้อมกับจอดรถเข็นได้
“ ผมไปรอข้างนอกนะครับ ”
“ ไม่ต้อง มึงก็อยู่ป้อนข้าวฮันนี่ไปสิ ป่านนี้ลูกหิวแล้วมั้ง ”
ผมหยิบกล่องข้าวในกระเป๋าผ้าที่ผมถือมาด้วย เปิดฝาแล้วป้อนฮันนี่ที่นั่งอยู่ในรถเข็นทีละนิดๆ
แต่เหมือนฮันนี่อยากออกมาข้างนอก ไม่ยอมกินข้าวชูแต่แขนให้ผมอุ้ม ผมจึงวางกล่องข้าวแล้วอุ้ม
ฮันนี่ขึ้นมานั่งบนบตักผม จากนั้นก็ค่อยๆป้อนข้าวให้กินอีกครั้ง
“ หม่ำๆก่อน หม่ำๆฮันนี่ อ้า...ม ”
“ มึงจะกินอะไร?
“ ผมไม่กิน นายกินเถอะครับ ”
อิทธิกดกริ่งเรียกพนักงานเสิร์ฟ สั่งอาหารมาเต็มโต๊ะพร้อมข้าววีด้วยที่หนึ่งและรีบขู่กันวีปฏิเสธ
“ ถ้าข้าวมึงเหลือ กูจะหักจากเงินเดือนมึง ”
“ ผมบอกนายแล้วว่าจะไม่กิน นายมาหักเงินผมไม่ได้ ”
“ กูสั่งให้มึงกิน ”
“ ผมไม่หิว ”
“ จะไม่หิวได้ไง วันๆมึงกินข้าวซะแค่ไหนกันเชียว ” ผมเงียบแล้วมองเค้านิ่งๆ
“ ที่พูดไม่ได้เป็นห่วงหรอกนะ เดี๋ยวฮันนี่จะไม่มีคนดูแล ”
“ ทราบครับ ” เมื่อไรจะจบจะสิ้นกันสักทีวะ ความอดทนของผมมันจะหมดแล้วนะ
ผมก็ได้แต่บ่นในใจ ป้อนข้าวฮันนี่ไปตักข้าวตัวเองกินไป จนฮันนี่อิ่มผมก็อิ่มเหมือนกัน
“ กินให้หมดข้าวน่ะ ”
“ ผมอิ่มแล้ว ”
“ นิสัยดื้อรั้นของมึงน่ะ ระวังฮันนี่จะติดเอา ” ผมมองนายอีกครั้งแล้วก็ตักข้าวกิน มือหนึ่ง
อีกมือหนึ่งประคองฮันนี่ไว้ให้อยู่ที่ตักอย่างนิ่งๆ
“ ฮันนี่ไปไหนต่อดี ” อิทธิถามหนูน้อยที่ลืมตาแป๋วมองสิ่งรอบตัว
“ แอ แอ แอะ ”
“ ตอบแด็ดดี๊เหรอ ไปดูของเล่นกันเนอะ ”
ผมอุ้มฮันนี่วางในรถเข็นแล้วก็เข็นฮันนี่ไปดูของเล่นที่พ่อฮันนี่อยากจะซื้อให้ลูกนัก พอมาถึงโซนของเล่น
กรรณกับนายก็เดินไปเลือกกันใหญ่ ผมไม่ขอออกความเห็นเพราะมีหน้าที่เข็นฮันนี่ตามเค้าก็พอ เลือกกัน
นานสองนานจนไปจ่ายเงิน ถึงกับเรียกลูกน้องข้างล่างมาช่วยกันถือไปไว้ที่รถกันเลยทีเดียว
“ ตาแดงแล้วครับคุณฮันนี่ ”
“ กรรณฝากเข็นรถที สงสัยจะง่วงแล้ว ”
มือซ้ายมาเฟียมาเข็นรถคุณหนู ส่วนวีนั้นอุ้มคุณหนูขึ้นมาพาดบ่าตบก้นเบาๆกล่อมจนหลับไป
จะขยับให้นอนในรถเข็นก็ร้องไห้ จึงต้องอุ้มพาดบ่าสลับกับอุ้มนอนกับอกให้ฮันนี่หลับไปเรื่อยๆ
“ ดูแพมเพิส ผ้าอ้อมมั้ยครับ ”
“ อือๆ ไป ” อิทธิตอบกลับกาเบียล
ทั้ง 4 คนเดินลงบันไดเลื่อนมายังชั้นซุปเปอร์ แวะซื้อของใช้ให้กับฮันนี่น้อยจนครบ
จากนั้นก็แวะไปซื้อนม ฟักทอง ปลา ไว้สลับเสริมกับนมให้ฮันนี่กิน
“ กรรณ...เอาฮันนี่ลงหน่อย ปวดไหล่แล้ว ”
“ ครับๆ ”
วีเรียกเอารถเข็นมาให้ฮันนี่นอนเพราะเหมือนจะหลับไปได้สักพักแล้วแต่ยังไม่ทันได้วาง
ก็เบะปากจะร้องไห้ วีจึงรีบอุ้มขึ้นมาอีกครั้ง แต่อิทธิเองพอเห็นดังนั้นจึงเดินเข้ามาอุ้มฮันนี่ไปพาดบ่า
ให้นอนกับตัวเองแทน ซึ่งก็ได้ผลยอมนอนต่อโดยไม่ร้องโวยวาย
“ กลับกันเลยดีมั้ยครับ ” กรรณเอ่ยชวนเพราะคุณหนูเชิงจะงอแงง่วงนอนแล้ว
“ อือ วันหลังค่อยพาฮันนี่ออกมาเที่ยวใหม่ ”
“ พาไปสูดอากาศบริสุทธิ์ๆดูบ้างมั้ยครับ ” กาเบียลเสนอ
“ อื้อ ความคิดดี ”
“ ถามคนเลี้ยงก่อนมั้ยครับ ว่าโอเครึเปล่า ” กรรณพูดแล้วยิ้มๆ
“ ถามอะไรผมล่ะครับ ผมมีหน้าที่ทำตามคำสั่งก็เท่านั้น ” คำพูดของวีทำให้อิทธิหันมามองวี
ด้วยตาขวาง เพราะคิดว่าวีพูดปะชดใส่
“ ตีกันทั้งวันจริงๆ ”
“ นั้นสิ ยิ่งกว่ามึงกับนายอีก ” กาเบียลพูดพร้อมส่ายหัวเล็กน้อย
“ อะไรพี่ ผมน่ะไม่กล้าทะเลาะกับนายหรอก ผมไม่ใช่คนพิเศษ ”
“ พิเศษห่าเหวอะไร!!! ” อิทธิพูดเสียงดังใส่กรรณจึงโดนวีบ่นขึ้น
“ เดี๋ยวฮันนี่ตื่น... ” เมื่อกลับมาถึงบ้าน อิทธิก็อุ้มฮันนี่พาไปนอนลงที่เตียง ลูบหัวลูกเบาๆ
แล้วก้มลงไปหอม ดอมดม อย่างเอ็นดู พลางแอบมองคนที่เก็บของอยู่ที่ตู้ แล้วก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ ขอโทษค่ะ ” เสียงขอโทษของพี่เลี้ยงทำให้อิทธิหุบยิ้มแล้วสั่งงานไปทันที
“ ไปจัดการห้องของเล่นของฮันนี่ให้เรียบร้อยนะ ”
“ ค่ะนาย ”
“ เดี๋ยวผมไปช่วยพี่สา ” วีหันมาบอกกับสาแต่ก็โดนห้ามเอาไว้อีกตามเคย
“ ไม่ต้อง มึงอยู่ห้องนี้แหละ ”
“ นายกลับมาเหนื่อยๆไม่ไปพักล่ะครับ ” วีถามนายที่นอนอยู่บนเตียงฮันนี่
“ เป็นห่วงกูเหรอ ” เนื่องจากไม่มีเสียงตอบกลับอิทธิจึงลุกขึ้นนั่งแล้วพูดต่อ
“ กูถาม ตอบให้ชื่นใจหน่อยสิ ”
“ คำตอบของผมไม่ทำให้นายชื่นใจหรอกครับ ”
“ หึๆ แล้วคำตอบใครล่ะจะทำให้กูชื่นใจได้ ” อิทธิหัวเราะผ่านลำคอแล้วเลิกคิ้วถามต่อ
“ ไม่มีหรอก เพราะนายมันเป็นคนที่ไม่มีหัวใจ ”
“ งั้นเหรอ แต่กูรักฮันนี่นะ รักมากด้วย เพราะฮันนี่เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตกู ”
แน่นอนสิเป็นลูกที่เกิดมาจากนายกับคุณแยมนี่ จะไม่รักฮันนี่นายก็ใจร้ายเกินมนุษย์แล้วแหละ
ผมเถียงกันกับนายจนจัดของใส่ตู้จนหมด จากนั้นผมก็ต้มน้ำไว้ชงนม เตรียมส่วนผสมของนมและ
เตรียมของเปลี่ยนให้ฮันนี่ตอนตื่น จนเสียงของนายเงียบไปผมจึงเดินไปดู ปรากฏว่านายหลับข้างๆ
ฮันนี่ไปแล้วแถมนอนหมิ่นเตียงจนแทบจะตกลงพื้นอีก
# ใกล้แล้วๆ ไรท์สัญญา อิทจะได้รับบทเรียนของตัวเองแล้ว
# ใครว่าไรท์เข้าข้างพระเอกมากเกินไป หนอยแน่ 55555
เค้าปล่าวเข้าข้างนะ ก็...แค่ดำเนินเรื่องไปตามน้ำเท่านั้นเอง
# ให้หาผัวให้วีหรอ งืมมม หาไม่เจออะ
# บอกให้วีใช้หนี้ให้หมดไวๆ ไรท์ต้องทำไง ไปช่วยวีทำงาน
หาเงินให้วีไปใช้หนี้หรอ 5555 เค้าล้อเล่นนนน
# ไรท์ไปผ่าฟันคุดมา ก็ถ้าแบบ...ปวดมาก ก็รอหน่อยนะตัวเอง