ในห้องฉุกเฉินวุ่นวายได้พักใหญ่ก็ได้ข้อวินิจฉัยสำหรับหญิงสาวที่ถูกเข็นเข้ามาเมื่อ 2 – 3 ชั่วโมงก่อน
เมื่อทุกอย่างทรงตัว หมอและพยาบาลจึงออกมาหน้าห้องเพื่อแจ้งกับญาติที่มารอด้วยความเป็นห่วง
“ เธอเป็นยังไงบ้างครับ ” อิทธิถามหมอด้วยความห่วงภรรยาของพี่ชาย
“ เชิญที่ห้องดีกว่าค่ะ ”
หมอพยักหน้าเล็กน้อยแล้วผายมือไปทางขวามือเพื่อไปคุยกันที่ห้อง ตรวจ อิทธิจึงเดินตามหมอไปที่ห้อง
ประจำของหมอ นั่งเก้าอี้ตรงหน้ารอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
“ คุณแยมเธอเป็นอะไรเหรอครับ ” กาเบียลยืนอยู่ด้านหลังนายเป็นคนเอ่ยถามอีกครั้ง
“ คุณแยมเธอมีภาวะครรภ์เป็นพิษค่ะ อาการของเธอคือ ความดันสูงมาก ปวดศีรษะ เวียนหัว
อาเจียน ตาพร่ามัว มีรอยฟกช้ำตามเนื้อตัว เท้าของเธอก็เริ่มบวมแล้วด้วย อาการเหล่านี้บ่งบอกว่า
เธอครรภ์เป็นพิษค่ะ ” หมอค่อยๆพูดทำให้คนฟังอึ้งและนิ่งไปตามๆกัน
“ แล้วจะรักษายังไงครับ ” กรรณเรียกสติแล้วถามหมอกลับไป
“ มันมี 3 ระดับนะคะ ต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นอันตรายต่อตัวคุณแยมเองและลูก
ในท้องเป็นอย่างมาก ”
“ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยเนี่ย ” อิทธิบ่นออกมาเบาๆ
“ หมอจะให้เธอพักที่โรงพยาบาลเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิดนะคะ ”
“ ดูแลเธอให้ดีที่สุดนะครับ ค่ารักษาพยาบาลเท่าไหร่เราพร้อมจ่าย ”
กาเบียลกำชับและพูดแทนนายไปเพราะเห็นว่านายเริ่มเครียดและนั่งก้มหน้าไม่อยากจะพูดจะจาอะไรแล้ว
“ ทางเราจะทำให้ดีที่สุดอยู่แล้วค่ะ ”
“ งั้นเชิญไปทำเรื่องที่แผนกทะเบียนด้านขวามือนะคะ ” พยาบาลยื่นแฟ้มๆหนึ่งให้กับกรรณ
ผมเดินลูบหน้าตัวเองออกมาจากห้องของหมอ นั่งลงที่โซฟาแถวๆนั้น แล้วก็คิดว่า นี่มันเวรกรรมอะไร
ของครอบครัวพี่ชายผม เธอป่วยหนัก ผมดูแลเธอให้ดีที่สุดตามคำสัญญาจากพี่อัทไม่ได้ ทั้งๆที่รับปากพี่อัทไว้
ผมมันน้องไม่เอาไหน มันเป็นเพียงคำขอเดียวจากเค้าแต่ผมก็ทำให้พี่ไม่ได้
“ น้ำเย็นๆนะครับนาย ” กรรณยื่นน้ำแร่เย็นๆที่ซื้อมาใหม่ให้กับนายที่นั่งเครียดอยู่
“ กูสังหรณ์ใจแปลกๆว่ะกรรณ ” อิทธิพูดพลางรับน้ำจากลูกน้องมาถือไว้
“ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับนาย อย่ากังวลไปเลย ”
“ นายครับ... ” ลูกน้องคนหนึ่งเรียกคนเป็นนายแล้วเดินมาส่งโทรศัพท์เครื่องหนึ่งให้
หน้าจอโทรศัพท์ขึ้นเป็นข่าวลือว่าเฉลิมถูกฆ่าตายขณะเดินทางไปพม่าเมื่อคืน เมื่อดูเสร็จก็ส่งต่อ
โทรศัพท์ให้กรรณได้จัดการพิสูจน์ว่าเป็นข่าวจริงหรือข่าวลือ จะได้รู้ชัดๆไปเลยว่าศัตรูหมายเลขหนึ่ง
ของตัวเองตายแล้วจริงๆ
“ ถ้ามันตายก็ดี รีบๆเช็ค ”
“ เบาครับนาย ” กรรณส่งเสียงเตือนเพราะกำลังนั่งอยู่ในโรงพยาบาลและเป็นที่สาธารณะ
“ เสี้ยนหนามในชีวิตนายหมดไปแล้วนะครับ ” ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยปากคล้ายแสดงความยินดี
“ รอมาโคโตะยืนยัน จะได้รู้ว่าจริงหรือเท็จ ”
“ อือ ” อิทธิตอบกลับไปสั้นๆและกาเบียลก็เดินมาบอกว่าแยมเข้าไปพักตัวที่ห้องพิเศษ
เรียบร้อยแล้ว โดยให้พี่เลี้ยงย้ายมาเฝ้าอย่างใกล้ชิดเพื่อมีเหตุการณ์ไม่ดีจะได้เรียกพยาบาลได้ทัน
“ เฮ้ย มึง 2 คนเฝ้าหน้าห้องแยมด้วย ” อิทธิหันไปสั่งลูกน้อง แล้วก็ลุกเดินเข้าไปในห้อง
“ เนื้อตัวเธอฟกช้ำเพราะเป็นอาการของโรค ไหนจะอาเจียน ปวดหัว เวียนหน้า มันไม่ได้เกี่ยว
อะไรกับคุณวีเลยนะครับนาย ” กรรณเดินมาอยู่ใกล้ๆนายแล้วตั้งใจพูดให้นายได้คิด
“ จริงสิ ไอ้พวกนั้นซ้อมคุณวีหนักขนาดไหนเนี่ย ” กาเบียลอุทานขึ้นอย่างเป็นห่วง
“ ช่างแม่ง ” อิทธิเอ่ยออกมา
“ สงสารคุณวีนะครับ ” ลูกน้องคนหนึ่งพูดขึ้นทำให้คนเป็นนายหันไปเกรี้ยวกราดใส่
“ สงสารมาก อยากโดนบ้างมั้ยฮะ ”
อิทธิถามเสียงดังจนลูกน้องก้มหัวกันไปหมด จากนั้นก็ลุกเดินออกจากห้อง เพื่อเดินทางกลับมา
ที่บ้านในช่วงเกือบ 6 โมงเย็น และสั่งยกเลิกงานทั้งหมดของวันนี้ไป
“ มาโคโตะโทรมาครับนาย ” กาเบียลโชว์หน้าจอโทรศัพท์แจ้งข่าวนาย
“ กรรณ! รับสาย ”
มือซ้ายมาเฟียรับสายตามคำสั่งของนายและสนทนากับนักฆ่าชาวญี่ปุ่นไปสักพักก็หันมาบอกกับนายว่า
เฉลิม ศัตรูเบอร์ 1 ถูกฆ่าตายแล้วจริงๆ อิทธิจึงสั่งให้บอกกลับไปว่าจะโอนเงินส่วนที่เหลือให้พรุ่งนี้
แต่นักฆ่านั่นต่อรองขอภายในวันนี้ อิทธิจึงสั่งให้บอกกลับไปอีกครั้งว่าเที่ยงคืนเป็นคำขาด ซึ่งฝั่งนั้นก็ยินยอม
.
อิทธิไม่กินข้าวในมื้อเย็นเดินขึ้นมาที่ห้องทำงาน นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนกาเบียลเข้ามาที่ห้อง
บอกว่าเฉลิมตายแล้วจริงๆที่ชายแดนพม่า พร้อมมือขวาของมัน เป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการจากราชการ
“ กาเบียลคุณไปจัดการโอนเงินให้มาโคโตะซะ ”
“ ครับนาย ”
“ เดี๋ยว...บอกใครก็ได้ เอากาแฟมาให้ด้วย ”
ไม่กี่ชั่วโมงผ่านไป ข่าวก็ได้ออกหลายช่องทางถึงการตายของเจ้าของธุรกิจและอสังหาริมทรัพย์
อันดับต้นๆ แถมยังเป็นผู้ค้ายารายใหญ่อีกด้วย โดยเนื้อข่าวเขียนว่าถูกฆ่าปิดปากพร้อมลูกน้องคนสนิท
และถูกไฟคอกตายคารถระหว่างนั่งไปประเทศเพื่อนบ้าน
“ ไม่มีใครสงสัยว่านายเป็นคนจ้างฆ่าแน่ เพราะตำรวจคิดว่าเป็นเพราะผู้ค้ายาด้วยกันปิดปากมัน
ที่โดนตำรวจทะลายการส่งยาอยู่หลายครั้ง ” กาเบียลหันมาบอกนายที่นั่งมองหน้าจอไอแพดอยู่
“ เสียดาย ที่ผมไม่ได้ฆ่ามันเองกับมือ ”
“ อย่าให้เลือดของมันมาสกปรกตาของนายเลยครับ ใครฆ่าสุดท้ายเฉลิมก็ตายอยู่ดี ” กรรณยิ้ม
“ อืม...พรุ่งนี้จะไปสุสาน เตรียมของไว้ให้ด้วย ” .
“ ครับนาย ”
ผมลุกเดินออกจากห้องทำงาน มุ่งไปที่ห้องนอนตัวเองอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วก็เดินไปเปิดทีวีดู
ใจผมตอนนี้อยากรู้ว่าวีเป็นยังไงบ้าง แต่ก็หักห้ามใจไม่ลงไปดูเค้า ผมยอมรับว่าวู่วามสั่งซ้อมเค้าไป
โดยไม่คิดอะไรให้ดีก่อน แต่ไม่ได้!! ผมจะต้องไม่คิดถึงวี เค้าจะเป็นยังไงมันก็เรื่องของเค้า ผมเดินวนอยู่
ในห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงที่เตียงนอนพลิกไปมาแต่ก็หลับไม่ลงสักที หยิบโทรศัพท์มาดูเวลาก็เที่ยงคืนแล้ว
ผมเลยตัดสินใจลุกแล้วเดินลงมาที่ครัวด้านล่างหาอะไรดื่มหน่อยเผื่อจะได้นอนหลับ
“ ใคร?? ”
ผมถามเมื่อเห็นเงาขยับๆในครัว เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ ผมจึงเดินเข้าไปเปิดไฟ ก็เห็นว่าเป็นวีที่ยืนถือ
กระบอกยาพาราอยู่ในมือ มองผมอยู่เช่นกัน
“ กูถามแล้วทำไมไม่ตอบ ”
“ ครับ ”
ผมเห็นวีในสภาพปากและคิ้วแตก หน้าและเนื้อตัวมันฟกช้ำจนเห็นได้ชัด มันทำให้ผมพูดไม่ออกเลย
อยากจะเข้าไปกอด ถามเค้าว่าเจ็บมากมั้ย อยากทายาและป้อนข้าวป้อนน้ำให้ด้วยซ้ำ แต่ต้องห้ามใจไว้
“ แล้วทำไมไม่เปิดไฟ ”
“ ผะ..ผมจะไปแล้วครับ ”
“ เดี๋ยว!! ”
วีหันกลับมาทางนายอีกครั้งแล้วจู่ๆก็มีเสียงเท้าคนวิ่งอยู่ในบ้านทำเอาอิทธิรีบหันหลังแล้วเดินออกไป
ดูอย่างเร็วกลัวว่าจะมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นที่บ้านของตนอีก แต่ก็เป็นกรรณที่วิ่งเหนื่อยหอบเข้ามาหา
“ รีบไปโรงพยาบาลเถอะครับ ” แฮ่กๆๆ
“ แยมเป็นอะไร? ”
“ รถพร้อมแล้วครับ ” ลูกน้องวิ่งเข้ามาแจ้งความเรียบร้อย
“ นายให้คุณวีไปด้วยนะครับ พยาบาลบอกว่าคุณแยมเรียกหาแต่คุณวี ”
มาเฟียหนุ่มพยักหน้าเป็นการอนุญาตและรีบขึ้นไปเปลี่ยนชุดเช่นเดียวกันกับวีจากนั้นก็รีบออกมา
ขึ้นรถออกไปโรงพยาบาลในทันที พอไปถึงก็รีบเข้าไปที่ห้องพักฟื้นของแยม ซึ่งมีเครื่องช่วยหายใจและ
สายอะไรห้อยเต็มไปหมด แยมเองนอนลืมตาน้อยๆมองมาทางอิทธิและวีอย่างสิ้นเรี่ยวแรง
“ วะ...วี ” หญิงสาวส่งเสียงแหบพร่าเรียก
“ ครับคุณแยม ” วีเดินเข้าไปจับมือเธอมากุมไว้
“ คนไข้มีอาการชักเกร็ง ไป 2 ครั้งแล้ว ค่า GFR ของคนไข้ตอนนี้ต่ำมากเสี่ยงต่อการไตวาย
ซึ่งอันตรายต่อเด็กในท้อง คือ...หมออาจต้องให้คุณเลือกนะคะว่าจะรักษาชีวิตของคุณแม่หรือเด็กในท้องไว้ ”
“ อะ...อะไรนะ?? ” อิทธิอุทานออกมาเสียงดังแล้วจ้องไปที่หมอจนกาเบียลยกมือแตะ
ที่หลังของนายเบาๆ
“ ก่อนที่จะต้องสูญเสียอะไรไปมากกว่านี้ค่ะ เพราะเราไม่สามารถรักษาชีวิตของทั้งแม่และลูก
ไว้ได้ อาการแทรกซ้อนตอนนี้หนักขึ้นเรื่อยๆแล้ว ” หมอพยายามอธิบายและชี้แจง
“ ตอนนี้อายุครรภ์อยู่ที่ 30 สัปดาห์ค่ะ ”
“ ลูก...ยะ...แยมรักลูก ” วีจับมือแยมไว้หลวมๆให้กำลังใจเธออยู่ตลอดและเข้าใจด้วย
ว่าเธออยากให้ลูกมีชีวิตต่อ เพราะเธอนั้นรักลูกของเธอมาก เธอส่งสายตาให้อิทธิแล้วพยักหน้าเบาๆ
“ แยม ผมให้คุณตัดสินใจ ” อิทธิเรียกและให้สิทธิแก่หญิงสาว
“ แยม...ให้สัญ..ญากับพี่อัทไว้ ว่า..จะรักและดู...แลลูกให้..ดีที่สุด แม้...แต่ชีวิต...ของแยม
แยมก็...ให้เค้าได้ ให้ลูก..แยมได้มีชีวิตเถอะนะคะ ”
หญิงสาวน้ำตาไหลอาบแก้มเช่นเดียวกับวี ที่สงสารเธอจนน้ำตาไหลเช่นกัน ทุกคนต่างซาบซึ้ง
ความรักของเธอที่มีต่อลูก พากันน้ำตาคลอกันไปหมดทุกคนรวมถึงอิทธิที่พยักหน้ากับสิ่งที่หญิงสาวเลือก
“ นายเคารพในการตัดสินใจของคุณและคุณอัทเสมอครับ ”
“ ฝากลูกแยม...ด้วยนะคะคุณอิท ”
“ ไม่ต้องห่วง ต่อไปนี้ เค้าคือลูกของผม ”
“ พวกเราจะดูแลลูกคุณเองนะครับ คุณแยม ”
กาเบียลพูดในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่งเพื่อสร้าง ความมั่นใจให้กับหญิงสาว
“ พยาบาลเตรียมห้องให้พร้อม เราต้องจัดการให้เร็วที่สุด ”
“ ค่ะคุณหมอ ”
“ เชิญพวกคุณนะคะ อีก 10 นาทีจะมาย้ายคนไข้ค่ะ ”
หมอบอกเป็นประโยคสุดท้ายก่อน จะเดินออกจากห้องเพื่อไปเตรียมตัวในห้องผ่าตัด
“ ผมนับถือจิตใจของคุณ ” วียังคงกุมมือแยมไว้แล้วพูดทั้งคราบน้ำตา
“ ระ...เราเจอกันช้าไป วีเป็นคนดี ” หญิงสาวค่อยๆพูดแล้วยิ้มเล็กๆ
“ ผมขอโทษนะครับ ที่ดูแลคุณไม่ดี ”
“ ไม่ใช่ความผิด..ของวีเลย ฉันดื้อ..เอง ที่..ไม่เชื่อวี ฉัน...ดีใจ..ที่เจอวีนะ
ขอ..ให้วี.. เจอคนที่..ดีและ..รักวีเร็วๆ ขอบคุณนะ ”
“ ขออนุญาตครับ ” บุรุษพยาบาลเดินเข้ามาแล้วเข็นเตียงออกจากห้องไป
“ คุณอิท...ฝาก...ลูกด้วย..นะคะ ” แยมเอ่ยคำสุดท้ายด้วยความอาลัย
“ ผมสัญญาจะดูแลลูกคุณอย่างดี ”
ทุกคนยังคงอยู่หน้าห้องผ่าตัดไม่ไปไหน และเมื่อผ่านไป 3 – 4 ชั่วโมงหมอก็ออกมาบอกว่า
เด็กปลอดภัยดี แต่ต้องอยู่ในตู้อบเนื่องจากมีน้ำหนักตัวน้อย ส่วนตัวแยมนั้นระหว่างการผ่าคลอดเด็ก
ก็ได้หัวใจวาย มีเลือดออกทั้งทางจมูกและหู หมดลมหายใจไปในที่สุด ถือว่าเป็นการดับของสิ่งหนึ่ง
เพื่อให้อีกสิ่งได้เกิดขึ้นมาใหม่
“ เข้าไปดูเด็กเถอะครับนาย เรื่องคุณแยมผมจัดการเอง ”
“ ฝากทีนะ ”
มาเฟียหนุ่มเดินไปที่หน้าห้องที่มีเด็กทารกแรกเกิดจำนวนมากนอนอยู่เต็มไปหมด นอกจากพยาบาลและหมอ
ไม่มีใครเข้าไปได้ถ้าไม่ได้รับการอนุญาตซึ่งมาเฟียเองก็ได้แต่มองลูกของพี่ชายตัวเองอยู่ด้านนอกกระจกเพียงเท่านั้น
“ นายครับ! กลับไปพักมั้ยครับ ให้พี่กาเบียลตามไปทีหลังก็ได้ ”
กรรณรู้ว่านายเครียดหนัก เพราะแน่นิ่งไป จึงเสนอให้นายกลับไปพัก แต่นายยังคงยืนนิ่งมองเข้าไป
ในห้องกระจกตรงหน้าอย่างเดียวเลย กรรณจึงหันไปมองวีที่ยืนอยู่ไม่ไกลตนเผื่อวีจะช่วยอะไรได้
“ ไม่มีอะไรแน่นอนตายตัวไปตลอดหรอก อะไรที่มันเสียไปก็เอากลับคืนมาไม่ได้ สู้ทำสิ่งใหม่
ให้มันดีกว่าเดิมดีกว่าครับ เวลามันมีแต่วันพรุ่งนี้ มะรืน และก็เดือนหน้า เรากลับไปเมื่อวาน เดือนที่แล้ว
หรือปีที่แล้วไม่ได้หรอกนะครับ ”
วีมองคนที่ยืนข้างๆตัวเองอย่างแอบเป็นห่วง และคำพูดของวีทำให้อิทธิหันมามองที่วีนานเกือบนาที
จากนั้นอิทธิก็เดินมาหยุด ตรงหน้าวีแล้วเดินนำออกไป โดยลูกน้องทุกคนรวมถึงวีก็ได้แต่เดินตามไป
“ พรุ่งนี้นายจะยังไปสุสานมั้ยครับ ” กรรณถามเผื่อนายจะเปลี่ยนใจเพราะความ
เหนื่อยล้ากับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่คนเป็นนายยังยืนยันว่าจะไป และกรรณก็ได้บอกกับนายไปว่าจะพานายไปส่ง
ที่สุสานแล้วตนจะไปจัดการติดต่อวัดเรื่องงานศพให้
เมื่อรถขับมาจอดถึงบ้าน ทุกคนก็ลงจากรถแยกย้ายกันไปที่พัก แต่อิทธิเองกลับไม่ไปไหน
ยืนมองหลังวีที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ จากนั้นก็เดินเข้าบ้านกลับมาที่ห้องนอนตัวเอง ทิ้งตัวลงนอนมองเพดานบ้าง
หันไปนอกหน้าต่างบ้างจนกระทั่งเช้าวันใหม่ ก็ลุกไปอาบน้ำแล้วเดินลงมาด้านล่าง เพื่อที่จะไปสุสานตาม
ที่บอกกับลูกน้องไว้
“ ของเรียบร้อยแล้วนะครับ ” กรรณเดินถือตะกร้าที่มีดอกไม้และของพร้อมมาบอกกับนาย
“ ผมจะไปรับคุณแยมนะครับนาย ” กาเบียลเดินมาแจ้งนายพร้อมทั้งยื่นแว่นดำให้
“ ฝากด้วยนะกาเบียล ”
กาเบียลพยักหน้าตอบกลับนาย แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปเดินไปที่หน้าบ้านเพื่อขึ้นรถ แต่ป้าภา
ก็รีบเดินออกมาหน้าบ้านและบอกกับนายว่าขอไปวัดด้วย ซึ่งนายก็ตกลงให้ไปด้วยกัน พร้อมทั้งนายยังเดินกลับ
มารับป้าภาพยุงขณะลงบันไดแล้วพามาขึ้นรถไปด้วยกันจนถึงวัด
“ ผมจะไปจัดการเรื่องงานนะครับนาย ” กรรณขอแยกตัวแล้วส่งตะกร้าให้กับนาย
“ อือ ถ้าเสร็จจะตามไป ”
“ นายจะไปไหนคะ ” ป้าภาเอ่ยถามเมื่อเห็นนายจะเดินแยกไปอีกทางหนึ่งด้วย .
“ ผมจะไปสุสาน ”
“ ขึ้นไปใส่บาตร รับน้ำมนต์กับป้าก่อนนะคะ นานๆมาที ”
“ ป้าไปเถอะ ผมไปสุสานรอ ” อิทธิบ่ายเบี่ยงเพราะเป้าหมายคือจะมาพ่อกับแม่
“ ทำบุญให้คุณพ่อคุณแม่ คุณอัทแล้วก็คุณแยมไงคะ ขึ้นไปกับป้านะคะ ”
ป้าภาพูดจนมาเฟียยอมถอดรองเท้าเดินตามป้าภาขึ้นมาที่ศาลา นำข้าวแกงและเครื่องสังฆทาน
ไปถวายพระ พร้อมรับน้ำมนต์และพรจากพระสงฆ์
“ อะไรมีความสุขก็ทำในสิ่งนั้นนะโยม สิ่งใดเป็นทุกข์ก็ปล่อยมันไป อย่าไปคิดมาก ”
“ ค่ะหลวงพ่อ ” ป้าตอบรับหลวงพ่อที่บอกกับนายแล้วยกมือไหว้ท่านแล้วก็ทำการ
กรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตายจนจบขั้นตอนก็พากันเดินมาที่สุสานด้านหลังของวัด
“ คนที่มันฆ่าแม่และพี่อัทตอนนี้มันได้ชดใช้ลมหายใจคืนแม่และพี่แล้วนะ ผมขอโทษ
ที่ดูแลแยมแทนพี่ได้ไม่ดี ตอนนี้เธอไปอยู่กับพี่แล้ว เหลือเพียงลูกของพี่ ผมจะเลี้ยงดูหลานให้เป็นลูก
ของผมเอง พี่กับแยมไม่ต้องห่วง ” เมื่อมาถึงอิทธิก็นั่งคุกเข่าลงและบอกความในใจกับสุสานข้างหน้า
ด้วยใบหน้าที่สลดลง การตายของแม่ยังคาตราตรึงในใจของอิทธิเสมอมา อีกทั้งยังมาเกิดกับพี่ชายและ
พี่สะไภ้ของตนอีก
“ ป้าก็จะช่วยดูแลทุกๆคนจนกว่าป้าจะหมดลมหายใจเช่นกันค่ะ ”
ป้าภายืนโค้งคำนับอยู่ข้างหลังนายแล้วลั่นวาจาออกไปพร้อมน้ำตาที่หยดลงมาที่แก้ม จากนั้นอิทธิ
ก็นั่งเปลี่ยนดอกไม้ให้กับสุสานของพ่อและแม่ รวมถึงของพี่ชายด้วย โดยมีป้าภาเข้ามาเอาผ้าเช็ดทำความสะอาด
บริเวณกรอบรูปและชื่อจนสะอาด
“ นายครับ พี่กรรณใกล้เสร็จแล้วครับ ”
“ มาพยุงป้าภา พาไปขึ้นรถ ”
“ ครับนาย ”
ไม่นานนักกรรณก็กลับมาขึ้นรถ และทั้งหมดก็เดินทางกลับบ้านมาในตอนสายๆ
“ คุณกาเบียลสั่งให้คุณวีไปดูคุณหนูที่โรงพยาบาลนะป้า ” พอป้าภาเดินกลับเข้ามาในครัว
สาวใช้ก็พากันรายงานก่อนที่ป้าภาจะถามว่าวีหายไปไหน
“ ทำกับข้าวกันรึยัง นายยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เมื่อวาน ”
“ ทำไว้แล้วค่ะ ให้ตั้งโต๊ะเลยมั้ยคะ ” อรหันไปตอบแล้วส่งยิ้มให้กับกรรณ
“ อือ ฉันจะได้ออกไปข้างนอก ” อิทธิว่าพลางไปนั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น
“ รอสักครู่นะคะนาย ”
“ คุณหนูเป็นผู้หญิง นายจะให้ชื่ออะไรดีครับ ” กรรณเดินเข้ามาถามเพราะที่ป้ายยังไม่มีชื่อเขียนติด
มีเพียงนามสกุลเท่านั้น
“ กูคิดไม่ออก แล้วจะให้กูตั้งชื่อเด็กเนี่ยนะ ” อิทธิหันไปคิ้วขมวดใส่กรรณ
“ ถ้านายไม่ตั้งจะให้ใครตั้งล่ะครับ นายก็คิดๆมาชื่อหนึ่ง ชื่อที่นายคิดว่าเหมาะสม
กับเป็นหลานสาวของนาย ” กรรณเสนอเพราะอิทธเป็นคนเดียวสำหรับเด็กน้อยที่เกิดมาใหม่
“ เค้าคือลูกสาวกู เออ...กูยังไม่ได้เห็นหน้าใกล้ๆเลย ”
โอ้ยยยยยยยย กลัววววววววววว ไรท์กลัวคนอ่านแล้วววววว
เม้นท์ถล่มทะลายเพิ่มอีกละ ขอบคุณนะ ขอบคุณทุกคนที่อ่านแล้วติดขนาดนี้
# อีกอย่าง ข้อมูลเรื่องครรภ์เป็นพิษ ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะ
นี่ก็เสิร์ชข้อมูล หาความจริงมาเขียน ผิดตรงไหนท้วงติงได้ แล้วอีกอย่าง
ในปัจจุบันเครื่องมือแพทย์และการรักษานั้นได้พัฒนาไปมาก ครรภ์เป็นพิษ
น้อยคนมากที่จะต้องสูญเสียชีวิตใดชีวิตหนึ่งเพื่อให้อีกชีวิตหนึ่งเกิด
แต่ในเรื่องขอเป็นแบบแต่ก่อนไปนะ เพื่ออรรถรสในนิยายนะคะ
# ที่เม้นท์กันมาถึงความโหดร้ายของพระเอก อยากให้ทำให้พระเอกเจ็บบ้าง
อย่าให้นายเอกใจอ่อนไว อ้ออ 5555 ก็....โอเค จะลองเขียนดูนะ
# ใครที่สงสารนายเอก สงสารไรท์ด้วย ไรท์ปั่นจะไม่ทันแล้วววววว