ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเพลงหรือคนเปิดเพลงที่ทำให้ผมเครียดลดลงแล้วนอนหลับไปได้ ตอนนี้ผมก็นอน
มองคนที่นั่งหลับอยู่ซักพักแล้ว น่าจะเกือบ 8 โมงเช้าได้ ผมไม่ปลุกเค้าหรอก อยากนอนอยู่แบบนี้สบายใจดี
อยากนอนไปนานๆด้วย ก็จริงอย่างที่วีพูด เงิน...ต่อให้มากเท่าไหร่ก็ซื้อลมหายใจคนไม่ได้ ถึงแม้ว่าเงินมันจะ
.ซื้อชีวิตคนให้ตายได้ แต่เงินไม่สามารถซื้อชีวิตคนให้ฟื้นคืนมาได้
“ นายตื่นนานแล้วเหรอครับ ” มาเฟียเหม่อคิดถึงเรื่องที่คุยเมื่อคืนจนคนที่ตัวเองหนุนตักอยู่ตื่นขึ้น
“ สักพักแล้ว ”
“ ทำไมนายไม่ปลุกผมล่ะครับ เมื่อยรึเปล่าไม่ได้หนุนหมอน ” ร่างบางก้มลงมาคุยกับนาย
“ นอนหมอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว ”
“ แล้วเมื่อคืน...นายนอนหลับรึเปล่า ”
“ หลับสิ หลับสนิทดีด้วย ”
“ แสดงว่านายไม่เครียดแล้วถึงนอนหลับ วิธีคลายเครียดของผม ใช้ได้ใช่มั้ยครับ ” ร่างบางพูดแล้วยิ้ม
“ กูก็ไม่แน่ใจเพราะเพลงหรือเพราะ... ”
ผมไม่ได้พูดต่อให้จบและก็ไม่วายโดนถามแต่เรื่องอะไรจะต้องบอกไปหมดทุกคำ ปล่อยให้คิดเอาเองบ้าง
“ กูลุกไปทำงานดีกว่า ”
“ เดี๋ยวนี้นายชอบพูดไม่เคลียร์ ให้ผมไปคิดต่อเองตลอดเลย ”
“ เพราะกูก็ไม่เคลียร์ไง ถ้ากูแน่ใจกูก็ไม่ปิดมึงหรอก ”
“ งั้นผมขอตัวนะครับ จะลงไปช่วยป้าภาในครัว ”
อิทธิมองวีที่ลุกลงจากเตียงเดินไปที่ประตูห้อง เปิดประตูห้องหันแล้วมายิ้มให้จากนั้นก็ปิดประตูไป
อิทเองก็เข้าห้องอาบน้ำ แต่งตัวแล้วก็ลงมาข้างล่างในทันที
“ นะ...นายรอสักครู่ได้มั้ยคะ อาหารยังไม่พร้อมค่ะ ”
“ ได้ ”
อรแปลกใจที่นายไม่โวยวายที่อาหารยังไม่พร้อมจึงรีบเช็ดโต๊ะทำความสะอาดให้เสร็จแล้วรีบวิ่ง
เข้าไปในครัวเพื่อบอกให้รีบทำอาหารกัน
“ นายลงมาแล้วเหรอ ”
“ ใช่ป้า ”
“ โต๊ะยังไม่พร้อม ไม่โมโหรึไง ” อินหันจากหน้าหม้อมาถามอร
“ เอาถ้วยมาพี่อร ” วีสั่งคนที่คอยยืนช่วยอยู่ข้างๆ
“ เหมือนนายจะอารมณ์ดี บอกว่ารอได้ ไม่บ่นไม่อะไรเลย ” อรตอบอินและยื่นถ้วยให้วี
“ ใครอารมณ์ดีอร ” สาวใช้ในครัวรวมถึงป้าหันไปมองต้นเสียงที่เดินเข้ามาในครัว
ทุกคนต่างเงียบกริบไม่มีใครกล้าตอบหรือพูดอะไรกันเลยแม้แต่แอะเดียว จนป้าภาเริ่มส่งเสียงขึ้น
“ ป้าขอโทษทีที่ช้า รอก่อนนะคะนาย ”
“ ทำไป ไม่ต้องรีบ ” อิทธิพูดเสียงดังฟังชัดแล้วเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ที่ว่างในครัว อินกับอร
ลุกหนีแทบไม่ทันเพราะกลัวนายกันหมด
“ นายมานั่งอะไรในนี้ล่ะครับ อินกับอรกลัวหมดแล้วเนี่ย ”
“ แล้วมึงไม่กลัวกูรึไง? ” มาเฟียนั่งเอามือเท้าคางมองร่างบางที่หันมาบ่นตนนิดๆ
“ ก็...กลัว ”
“ มันจะเปื้อนเอานะคะ นายไปรอข้างนอกเถอะค่ะ ”
ป้าภาเดินไปหยิบของพลางบอกกับนาย ส่วนอินกับอรเริ่กๆรักๆ จะหั่นของ จัดจาน
เตรียมอะไรก็ ไม่ค่อยกล้าขยับตัว จนคนเป็นนายเห็นแล้วขัดหูขัดตาเข้า
“ จะทำอะไรก็ทำ เก้ๆกังๆอยู่นั่นแหละ อิน อร ”
“ ค่ะนาย ” สาวใช้สองคนตอบกลับนายพร้อมเพรียงกัน
วีรธัชเห็นว่ายิ่งนายอยู่จะทำให้ทำอะไรได้ช้าลง จึงได้คิดว่าจะทำไงให้นายออกไปดีแล้วก็คิดออก..
“ 2 อย่างนี้เสร็จแล้ว ” ป้าภาบอกกับอินและอรเผื่อจะให้ยกออกไปตั้งที่โต๊ะ
“ ยกออกไปเลยได้ใช่มั้ยครับป้า ” ร่างบางถาม
“ เดี๋ยวอินยกไปเอง ไปอร ช่วยกันยกไปหน่อย ”
“ ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมยกไปเอง ”
“ แกสองคนไปดูกระทะ เตรียมน้ำด้วย ”
“ นายครับ! ” ในขณะที่อิทธินั่งจ้องมองวีอยู่ วีก็หันมาเรียก
“ อือ อะไร?? ”
“ นาย...นายช่วยยกโถข้าวไปหน่อยได้มั้ย ”
อินกับอรหันขวับเมื่อคุณวีของเค้าทั้งคู่ ริอาจใช้นายใหญ่ ต่างก็คิดกันไปว่าจะมีระเบิดลงครัวมั้ยด้วย
“ คุณวี... ” ป้าภาเรียกร่างบางด้วยเสียงแบบกังวลเล็กน้อยแต่...
“ โถเนี้ยอะเหรอ ” คนเป็นนายถามกลับ
ผมมองสาวใช้ในครัวกับป้าภาที่มองผมเหมือนจะลุ้นๆอะไรกัน แต่ก็ช่างเค้า ผมเดินไปคว้าโถข้าว
ขึ้นมาถือ พร้อมหยิบทัพพี เดินนำวีออกมาที่โต๊ะกินข้าวด้านนอก
“ ขอบคุณนะครับนาย ” ร่างบางยิ้มและก้มหัวให้อย่างอ่อนน้อม
“ อือ กินข้าวกับกูนะ ”
วีไม่ได้ตอบรับคำชวนแต่พยักหน้าเล็กๆกลับไปทั้งที่ยังคงยิ้มอยู่ จนเสียงกาเบียลกระแอมขึ้นมาจากด้านหลัง
“ ฮึ่มมมมมม มอนิ่งครับนาย ”
“ หน้าตาดูแจ่มใสขึ้นนะครับ ” ไม่เพียงแค่กาเบียล กรรณเองก็เอ่ยปากแซวนายด้วย
“ อือ ” ทำให้คนเป็นนายดึงหน้าและตอบกลับไปสั้นๆ
“ งั้นผมขอตัวเข้าไปช่วยในครัวนะครับ ”
เมื่อวีเดินเข้าห้องครัวไป อิทธิก็เดินไปนั่งเล่นที่โซฟากลางบ้านเพื่อนั่งคุยกับกาเบียลและกรรณรอ
การจัดโต๊ะและเตรียมอาหารให้พร้อมเสียก่อน
“ วันนี้ตื่นเช้านะครับ ”
“ ปกติผมตื่นเช้ากว่านี้อีก คุณไม่เห็นเคยทัก ” ผมถามกาเบียลที่ทักผมแปลกๆแบบนั้น
“ ก็วันไหนนายนอนกับคุณวีมักจะตื่นบ่ายทุกทีนี่ครับ ” กรรณพูดแล้วยิ้มๆ
“ เออ กูไม่กล้าพูดพอดีไอ้กรรณ ” กาเบียลตบเข่ากรรณเบาๆ
“ อะไรกัน เดี๋ยวเหอะ ” ผมมองหน้าเค้าสองคนอย่างไม่พอใจนิดๆ
“ คุณวีทำท่าไหนน้อ? นายของผมถึงดูหายเครียดได้ขนาดนี้ ”
คำถามของกรรณทำเอากาเบียลหัวเราะดังลั่นออกมาอย่างถูกใจ
“ ท่าห่าเหวอะไร เมื่อคืนกูไม่ได้เยสัส ” อิทธิหันไปเกรี้ยวกราดใส่กรรณ
“ หืมมม? ”
“ ไม่ได้ทำอย่างว่า แล้วคุณนอนด้วยกันเฉยๆน่ะเหรอ ” ลูกน้องคนสนิทสองคนของอิทธิ
ถึงกับแปลกใจกันไปใหญ่กับการที่นายเริ่มมีอะไรเปลี่ยนไป แต่อิทธิก็ไม่ได้ตอบคำถามอะไรกลับไป
“ ผมว่า... ”
“ หนุ่มๆกับข้าวเสร็จแล้วนะจ้ะ ”
“ ว่าอะไร...?? ”
อิทธิหันไปมองป้าภาแล้วก็หันมาถามกรรณที่พูดยังไม่จบแต่ไม่ยอมพูดต่อหลังจากป้าภาเข้ามาขัดจังหวะ
“ นายไปทานข้าวเถอะครับ ”
อิทธิเดินไปยังโต๊ะอาหารเพื่อทานข้าว ส่วนกรรณกับกาเบียลก็ลุกไปที่ครัวเพื่อตักข้าวไปนั่งกิน
ที่ม้าหินหลังครัว ก่อนไปก็เห็นว่านายกินข้าวกับวีก็ทำให้ทั้งกรรณและกาเบียลมั่นใจเลยว่า นายของตนน่าจะ
รู้สึกอะไรกับลูกหนี้คนนี้แล้วอย่างแน่นอน
“ คุณวีต้องเป็นมากกว่าที่ระบายของนายแน่ๆ ” กาเบียลเคี้ยวข้าวไปพูดไป
“ นายไม่ชอบนอนกับคนซ้ำเดิมบ่อยนัก แต่ตั้งแต่คุณวีเข้ามา นายไม่นอนกับใครเลยนะพี่
ให้ผมเรียกมาแล้วก็ไล่กลับทุกที ”
“ อือ ไว้เราลองคุยกับนาย ”
“ จะดีเหรอ ” กรรณคว้าแก้วน้ำมาดื่มแล้วถามกาเบียลกลับ
“ ถ้านายกับคุณวีจะรักกันขึ้นมาจริงๆ เท่ากับว่านายกำลังจะมีจุดอ่อนเหมือนที่นายไม่อยากมี ”
“ เออว่ะ นายระลึกอยู่เสมอว่า จะไม่ยอมมีจุดอ่อนให้ใครเล่นงานได้ ”
“ ไว้ค่อยคุย อะไรๆยังไม่ชัดเจน ” กาเบียลตัดบทแล้วลงมือกินข้าวต่อ
ทางด้านโต๊ะอาหารที่มาเฟียกำลังนั่งกินข้าวกับลูกหนี้ท่าทางอร่อย ท่ามกลางสายตาของป้าภา
และการแอบมองของสาวใช้ทั้งสองที่ยิ้ม หัวเราะคิกคักซุบซิบอะไรกันไปเรื่อยระหว่างการแอบดู
“ นายอยากกินอะไรก็บอกได้นะครับ ” ร่างบางเอ่ยถามเพราะอยากจะทำให้นายทาน
“ จะทำไรก็ทำ กูกินได้หมดนั่นแหละ ”
“ อยากกินอาหารฝรั่งก็บอกคุณวีนะคะ ป้าทำไม่เป็นหรอก ” มาเฟียพยักหน้าตอบกลับป้าภา
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จอิทธิก็ลุกออกจากโต๊ะอาหารทำท่าทีเหมือนจะเดินขึ้นไปข้างบนวีจึงเรียกไว้
แล้วบอกกับนายไปว่า ถ้ายังเครียดอยู่ให้นายเปิดเพลงฟังคอลไประหว่างการทำงาน อิทธิไม่ได้ตอบแล้วหันหลัง
ขึ้นบันไดไป วีเองก็ช่วยสาวใช้เก็บโต๊ะ แล้วออกมาหาช่วยงานข้างนอก เห็นคนขับรถกำลังล้างรถนายอยู่พอดี
จึงเดินเข้าไปถามขอช่วยงาน
“ คุณวี มาทำไมครับ ” ยศคนขับรถฝีเท้าดีถามกับร่างบางที่เดินเข้ามา
“ ให้ช่วยล้างมั้ย ผมว่าง ”
“ ไม่ดีกว่าครับ ผมล้างได้สบายๆ ” .
“ ตั้งหลายคัน ให้ผมช่วยพี่เหอะ ”
“ เดี๋ยวนายดุผมเอา ไม่ได้ๆ ” คนขับรถก็ยังปฏิเสธความช่วยเหลือจากร่างบางตรงหน้า
“ นายพี่ไม่ดุหรอก เพราะในตารางงานผมมีช่วยล้างรถด้วยนะ ” ร่างบางหาทางจนได้
“ เอ่อ... ”
วีไม่รอช้าเดินไปหยิบฟองน้ำและถังเดินไปยังรถหรูอีกคันที่จอดรอการล้างอยู่ จากนั้นก็ลงมือล้างทันที
“ ถ้านายดุ ผมรับผิดชอบเอง ”
“ ได้ครับ ”
วีช่วยคนขับล้างรถอยู่นานสองนาน ก็ติดใจสนุกกับฟองฟูๆจนขอล้างอีกคัน สองคัน ซึ่งคนขับก็
ไม่ได้ว่าอะไร ยอมให้วีช่วยล้าง ตนก็เช็ดแล้วก็ขัดให้มันเงาๆตามหลังการล้างไป
“ คุณวีวันนี้ไม่ตัดกิ่งไม้มาล้างรถนี่เอง ” ลูกน้องมาเฟียคนหนึ่งเดินเข้ามาทักบาง
“ จะตัดอะไรทุกวัน โกร๋นหมดพอดี ปล่อยให้มันโตๆบ้าง ” ทำมาหลายวีคจนชำนาญไปแล้ว
“ ฮ่าๆ มีหลายต้นนี่ครับ ”
“ ไปๆเดี๋ยวเปียก คนกำลังสนุก ไม่มีงานไม่มีการทำรึไง ’’ ร่างบางบ่นลูกน้องมาเฟีย
“ ยศสบายเลยนะมึง มีคนช่วยล้างรถวันนี้ ”
“ กูบอกคุณวีแล้ว เค้าไม่ยอม จะช่วยให้ได้ ” ยศเช็ดเหงื่อกับแขนเสื้อแล้วตอบเพื่อนจนเค้าเดินไป
“ คุณวีใช้หนี้ไปเท่าไหร่แล้วอะครับ ”
“ ผมก็ไม่ทราบ นายไม่บอกอะไรผมเลย ” ร่างบางหยุดการถูรถแล้วหันมาตอบพี่คนขับ
“ อ่าว งั้นก็ต้องทำไปเรื่อยๆน่ะสิ ”
“ 5 แสนก็เยอะนะพี่ นี่ผ่านมาเท่าไหร่เอง คงยังไม่ถึงหรอก ” ร่างบางนับนิ้วไปแต่ก็จำไม่ได้อยู่ดี
“ คุณกรรณเดินมานู้นน่ะครับ ” ยศหันไปมองทางซ้ายแล้วบอกกับร่างบาง
“ คุณวี! เปียกโชกอะไรขนาดนี้ ” กรรณปรี่เข้ามาหาวีแล้วพูดเชิงดุเล็กน้อย
“ ก็ล้างรถ ไม่ได้ดูดฝุ่นจะแห้งยังไง ” ร่างบางตอบแบบตลกๆ
“ มันเปียกเกินไป ยศ! เดี๋ยวนายจะออกไปทำงาน ”
“ ครับๆ ใกล้จะเสร็จแล้ว ”
“ เดี๋ยวพี่ยศมาเช็ดคันนี้ได้เลย เสร็จละ ” ร่างบางชี้นิ้วบอกคันที่ตัวเองล้างเพิ่งเสร็จ
“ ผมได้ยินนายเปิดเพลงฟังตอนทำงาน ”
“ จริงเหรอ? ” ร่างบางยิ้มไม่คิดว่านายจะทำตามที่ตัวเองแนะนำจริงๆ
“ ฝีมือคุณใช่มั้ย ”
“ เค้าบอกงั้นเหรอ นายของกรรณอาจจะอยากฟังเพลงก็ได้ ”
“ ตั้งแต่ทำงานกันมาไม่เคยเห็นฟังเพลงหรือเปิดเพลงฟังถ้าไม่ใช่เพราะคุณ นายผมก็คงไม่ทำ
นายเปลี่ยนไปนะ ”
“ นายเครียด ผมก็เลยบอกให้นายลองฟังเพลงตอนทำงานดูก่อนนายขึ้นห้องไป ”
“ ว่าละ ”
“ กรรณ เราทำงานที่นี่มานี่ใช้หนี้ได้ไปเท่าไหร่แล้วเหรอ ” ร่างบางถามกรรณอย่างมีความหวัง
“ ไปถามนายเองสิ เรื่องนี้ผมไม่ได้รับผิดชอบ ของคนอื่นผมรู้ทุกคน แต่ของคุณ ผมไม่ได้รับรู้อะไรเลย
คนที่รู้คนเดียวคือนาย ”
“ ไว้ค่อยถาม ”
“ ไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ มันเซ็กซี่เกินไป ” กรรณมองเสื้อที่เปียกของคนตรงหน้า
“ เซ็กซี่บ้าบออะไรกรรณ ก็พูดไป ”
กรรณกับวีเดินพูดคุยกันมา กรรณก็เดินแยกเข้าบ้านไป ส่วนวีตรงไปที่บ้านคอนเทนเนอร์ของตน
เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ แต่ขณะที่กำลังจะเข้าบ้านก็มีแรงผลักจากด้านหลัง จนเซเข้ามาในบ้านเกือบล้ม
วีจึงรีบหันไปมองก็เห็นว่าเป็นนาย ที่เข้าตามมาแล้วก็ปิดประตูอย่างดังลั่น หน้าตาเหมือนไม่พอใจอะไร
“ นะ..นายมีอะไรเหรอครับ ” แววตาที่น่ากลัวของมาเฟียทำเอาร่างบางถามอย่างสั่นๆ
“ ทำไมเปียกขนาดนี้ ”
“ ก็ผมล้างรถนายนั่นแหละ ”
“ เปียกจนเสื้อผ้าแนบตัวขนาดนี้ มึงจะอ่อยใครรึเปล่า ” มาเฟียใช้สายตาแทะโลมแล้วพูดดุๆออกมา
“ อ่อยเหรอ อ่อยใคร ” ร่างบางถามอย่างไม่เข้าใจ
“ เออ! กูเห็นนะ ”
“ เห็นอะไรครับ ผมจะอ่อยใครทำไมล่ะ ”
“ กูเห็นหลายครั้งแล้วนะ มึงกับไอ้กรรณน่ะ ” คำพูดของมาเฟียทำเอาร่างบางเงียบ
“ หรือมึงชอบไอ้กรรณ อยากได้มันเป็นผัวมั้ยล่ะ กูสั่งให้ได้นะ ”
“ นาย!!! ”
“ มึงไม่มีสิทธิมาขึ้นเสียงใส่กู ” ไม่มีเสียงตอบกลับจากวีและอิทธิก็เงียบไปเช่นกัน ทั้งคู่ยังคง
มองหน้าจ้องตากันไม่เลิก ซึ่งเป็นวีที่ยอม แล้วก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไปโดยไม่ได้หันมามองนายอีก
ทำไมกูต้องอารมณ์เสียขนาดนี้ด้วยวะที่เห็นวีมันพูดคุยยิ้มแย้มกับกรรณ เป็นแบบนี้หลายครั้งแล้วที่เห็นแล้ว
จะหงุดหงิด แล้วยิ่งมันเสื้อผ้าเปียกปอนขนาดนั้นด้วยเห็นทั้งจุกมัน แล้วก็เห็นเรือนร่างมันทั้งหมดด้วย
มันจะอ่อยใครแล้วทำไมมึงต้องนอยวะ
“ เชิญครับนาย เดี๋ยวสาย ”
“ แว่นกันแดดครับ ”
อิทธิดึงแว่นจากกรรณมาแบบกระชากๆ แล้วก็สวมมันเข้าไป ทำเอากรรณกับกาเบียลมองนายก็รู้ว่ากำลัง
โกรธและหงุดหงิดอะไรอยู่ ซึ่งต่างจากเมื่อ 2 – 3 ชั่วโมงก่อนที่อารมณ์ดี
“ อ่านเอกสารนี่ก่อนเข้าประชุมดีมั้ยครับนาย ” มาเฟียคว้ามานั่งอ่านอย่างไร้อารมณ์
“ หลังจบประชุมนายจะรับประทานข้าวที่ไหนครับ ” กรรณถามเผื่อจองไว้ล่วงหน้า
“ กูไม่กิน! ” มาเฟียตะคอกเสียงดัง
“ นายจะไม่กินจริงเหรอครับ ”
“ กูบอกว่าไม่กิน รำคาญ!! อย่าถามมากได้มั้ย ”
“ มึงไปทำไรให้นายโกรธอีกกรรณ ”
“ ผมไม่ได้ทำอะไรเลยพี่ ” เมื่อลงจากรถกาเบียลเลยรีบถามกรรณ เพราะนายมีอาการ
ควันออกหูตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำงาน จะมีปัญหาพาลทั้งวัน แล้ววันนี้ยิ่งมีพบนักฆ่าญี่ปุ่นนั่นด้วย
“ รีบตามนายไปกัน ”
“ ครับ ”
อิทธิเมื่อลงจากรถก็รีบขึ้นไปยังห้องประชุมของบริษัท ที่พนักงาน กรรมการมานั่งรออยู่แล้ว
เมื่ออิทธิเข้ามานั่ง กาเบียลและกรรณก็ตามเข้ามาติดๆ การประชุมดำเนินไปอยู่ 2 – 3 ชั่วโมง
คนที่นั่งหัวโต๊ะก็ลุกออกจากห้องไปในทันทีไม่พูดไม่จา ไม่บอกไม่กล่าวอะไรกับใครเลย
“ นายจะไปไหนครับ ” กาเบียลรีบก้าวขาตามนายแล้วถามว่านายจะไปไหน
“ บ่อน ”
“ นัดมาโคโตะ 2 ทุ่มนายจะกลับบ้านก่อนมั้ยครับ ”
“ กูบอกว่าจะไปบ่อน ” มาเฟียหันไปจ้องตาขวางใส่กรรณที่เหมือนจะพูดไม่เข้าใจว่าจะไปบ่อน
อิทธิหยิบแว่นดำที่เกี่ยวอยู่กับเสื้อสวมเข้าที่ตาแล้วก็เดินลงลิฟท์มาเพื่อที่จะไปขึ้นรถเพื่อไปบ่อน และเมื่อมาถึง
บ่อนอิทธิก็เดินลิ่วๆขึ้นไปที่ห้องทำงานทันที ขลุกตัวอยู่ในห้องทำงานจนได้เวลาเกือบ 2 ทุ่ม เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ก๊อกๆๆ
“ มาโคโตะมาถึงแล้วครับ ” กาเบียลเดินเข้ามาแจ้งกับนาย
“ ให้เข้ามาพบได้ ”
กรรณเดินมาพร้อมกับมาโคโตะและทั้งกาเบียลและกรรณก็เข้ามายืนอยู่ในห้องขนาบข้างนาย
ขณะที่นายคุย หรือเจรจากับนักฆ่าชาวญี่ปุ่นนี้ด้วย โดยกรรณรับหน้าที่เป็นล่ามให้
“ ผมอิทธิ ยินดีที่ได้รู้จัก ”
“ ผมรู้จักคุณเป็นอย่างดี แต่ก็ยินดีที่ได้พบเช่นกัน ”
มาโคโตะยื่นมือเพื่อไปสัมผัสมือกับมาเฟียหนุ่มใหม่ไฟแรง
“ ได้ข่าวว่า คุณเป็นคนฆ่าตำรวจฝีมือดีที่เป็นหัวหน้าการจับกุมยาเสพติดของเฉลิม ใช่มั้ย?
ฝีมือดี ฆ่าไม่พลาดด้วยระยะทางไกลแบบนี้คงมีแค่คุณ ” มาเฟียชื่นชมตามแนวจิตวิทยาในการคุยกับคน
“ ฮ่าๆๆ แน่นอน ”
“ ผมจะไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลาอีกต่อไปละ ”
“ ผมก็คิดแบบนั้น ”
“ เฉลิมจ้างคุณเป็นครั้งคราหรือมีสัญญาต่อกัน ”
“ ผมไม่มีสัญญาอะไรกับใครทั้งนั้น ” คำตอบของมาโคโตะชี้ให้มาเฟียหนุ่มเห็นว่า
มาโคโตะเป็นนักฆ่าอิสระ รับงานเป็นครั้งๆ งั้นคงไม่มีปัญหาอะไรทำตามแผนต่อไปได้
“ ถ้าผมจะจ้างคุณให้ทำงานให้ คุณจะรังเกียจมั้ย ”
“ ไม่รังเกียจครับ ว่าแต่...มันเป็นใคร ” มาโคโตะนั่งหลังตรงโน้มลงมาวางมือที่กุมกันไว้อยู่บนโต๊ะ
ทำให้อิทธิหันไปแบมือขอซองสีน้ำตาลจากกาเบียลที่เตรียมไว้ เมื่อซองวางบนมืออิทธิแล้ว อิทธิก็นำมาวาง
บนโต๊ะตรงหน้าแล้วเลื่อนให้กับมาโคโตะช้าๆ ให้เปิดดูเองว่าเป็นใคร
“ เปิดสิ แล้วคุณจะรู้เอง ” มาเฟียหนุ่มยิ้มที่มุมปาก
“ โอ้! ว้าว!! ” เสียงอุทานดังออกจากมาโคโตะทันทีที่เห็นรูปภาพของคนที่ต้องไปจัดการ
“ คุณคิดยังไง กับบุคคลที่เป็นเป้าหมายของผม ”
“ ผมทราบว่าคุณกับเฉลิมเป็นศัตรูกัน และตำรวจฝีมือเยี่ยมนั่นก็คือพี่ชายของคุณ แต่ผมไม่คิดว่า
คุณจะให้ผมเป็นคนกำจัดคนที่ว่าจ้างผมให้ฆ่าพี่ชายของคุณ คุณนี่มันร้ายกว่าที่ใครคิดเยอะนะ ”
“ พูดแบบนี้...งานของผมจะสำเร็จรึเปล่า ” มาโคโตะเงียบแล้วก้มลงมองที่ภาพ ในระหว่างที่
มาโคโตะคิด อิทธิก็พูดต่อทันที ไม่ปล่อยให้คิดนานเพราะมีความเสี่ยงที่จะไม่สำเร็จตามแผน
“ เฉลิมจ้างคุณเท่าไหร่ ” และมาโคโตะยังไม่ทันตอบอิทธิก็ยื่นขอเสนอดีๆต่อทันที
“ ผมสามารถให้ค่าจ้างคุณได้มากกว่าเฉลิม 5 เท่า ”
“ หึ! ” จำนวนเงินน่าจะเป็นที่น่าพอใจมาโคโตะถึงกับยิ้มออกมา
“ แต่ถ้าคุณจะจงรักภักดีกับคนที่จ้างคุณคนเก่า ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะทางเลือกของผมมีอยู่เยอะ
มีนักฆ่าฝีมือดีหลายคนที่ผมจะว่าจ้างให้ทำงานนี้ได้ อืมมมมม...ข้อเสนอผมมันคงไม่ดีพอสำหรับคุณ ”
“ ผมตกลง ” มาโคโตะรีบตอบตกลงเพราะก็จะพลาดเงินดีๆแบบนี้ไป
“ หึๆๆ ดี ” มาเฟียหัวเราะในลำคอแล้วหันไปพยักหน้าให้กับกาเบียลและกับกรรณอย่างฝืนๆ
“ ผมจะลงมือภายในสัปดาห์นี้ แล้วแต่จังหวะ ”
“ มาโคโตะ คุณคิดถูกแล้วที่ตกลงข้อเสนอจากนายผม ”
“ กาเบียล! เอาซองให้มาโคโตะสิ ”
เงินส่วนหนึ่งอิทธิให้มาโคโตะไปก่อนเลย ทั้งๆที่รู้ว่ามาโคโตะอาจจะหักหลังแต่ก็ต้องเสี่ยง
ยอมเสีย ทั้งเงินและอาจจะถูกจู่โจมกลับอย่างหนักจากอีกฝ่ายด้วย
“ อีกส่วนคุณจะได้เมื่องานสมบูรณ์ ” กรรณพูดเสริมเองโดยไม่ต้องรอคำจากนาย
“ สัจจะมันไม่มีในหมู่โจร แต่พวกเราไม่ใช่โจร หวังว่าคุณจะมีมัน ” อิทธิกล่าวส่งท้าย
“ ได้ ขอตัวนะครับ มีไฟล์ทเร่งด่วนตอน 4 ทุ่ม ” มาโคโตะลุกแล้วโค้งคำนับให้กับอิทธิแล้วเดินออกไป