@ โกดังร้าง 88 นอกเขตเมือง
อิทธิและลูกน้องมาถึงก่อนเวลานัดจริงๆ ซึ่งก็มาจอดรถแล้วนั่งรออยู่ด้านในให้ลูกน้อง
ไปเดินตระเวนรอบๆเผื่อพบสิ่งผิดสังเกต และเวลา 18.50 รถตู้สีขาวพร้อมรถหรูก็เลี้ยวเข้ามาจอด
นายใหญ่ของทั้งคู่จึงลงจากรถมาเจอกันในพื้นที่ตรงกลาง
“ หึ! ว่าไงไอ้เด็กเมื่อวานซืน ” ชายวัยราวๆ 65 ทักทายมาเฟียหนุ่มอย่างอิทธิ
“ ถึงผมจะเป็นเด็กเมื่อวานซืน แต่ก็น่าจะทำอะไรได้มากกว่าผู้ใหญ่บางคน ” อิทธิตอบกลับเฉลิม
“ ที่ลอบกัดคนอื่นนั่นเหรอวะ ” ลูกน้องมือขวาของเฉลิมพูดขึ้นอย่างยิ้มๆ
“ โนวๆ ด้อนเซไลค์แดท จะว่าลอบกัดมันก็เหมือนกันทั้งคู่แหละวะ ” กาเบียลขอพูดบ้าง
“ ชู่ววววว! ไอ้เหม็งอย่าไปต่อกรกับกาเบียลเลย ” เฉลิมหันไปสั่งกับลูกน้องอย่างกวนๆ
“ คุณมีอะไรจะคุยกับนายผมก็รีบพูดมา อย่ามาอ้อมค้อม ” กรรณเอ่ยออกไปอย่างจริงจัง
“ ลูกกูนอนอยู่ไอซียูที่โรงพยาบาลยังไม่ฟื้น มึงจะเล่นอะไรกับกูก็ได้ทำไมต้องทำลูกกู
เจ็บปางตายด้วยวะ หึ! คิดว่ามึงไม่มีจุดอ่อนทำให้กูเล่นงานมึงลำบากนักใช่มั้ยไอ้เด็กขาดความอบอุ่นจากแม่
อิทธิกำมือแน่นแล้วหยิบปืนที่เอวชี้ไปที่เฉลิม เมื่อได้ยินคำว่าเด็กขาดความอบอุ่นจากแม่
จนลูกน้องทั้งสองฝ่ายต่างชูปืนจ่อไปทางฝ่ายตรงข้ามตัวเองกันทุกคน
“ ลูกมึงนอนไอซียูยังน้อยไป พวกของมึงไม่ใช่เหรอที่ทำให้กูต้องขาดความอบอุ่นจากแม่
แล้วยังไงเหรอ ขาดความอบอุ่นจากแม่นี่มันทำให้กูต่างจากมึงตรงไหน บางทีมันอาจจะทำให้กูแกร่งกว่ามึงด้วยซ้ำ ”
“ แกร่งกว่าเหรอ ถุ้ยยย!! กูก็อยากรู้ว่ามันจะแกร่งอย่างที่ปากว่ารึเปล่า ”
เฉลิมถุยน้ำลายลงอย่างเย้ยหยันพลางมองอิทธิด้วยสายตาดูถูก
“ เอ้า! ได้สิ แล้วมึงจะได้รู้ ว่ากูหรือมึงที่มันจะอยู่ในเส้นทางนี้ได้นานกว่ากัน ” อิทธิประกาศกร้าว
“ หึๆๆ ” กาเบียลชอบใจและเห็นด้วยกับนายตัวเอง
“ ฮ่าๆๆ เดี๋ยวมึงก็รู้ไอ้เด็กหัดเล่นเกม ” เฉลิมก็ไม่น้อยหน้าหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ เฮ้ยยยย กลับบบบ ”
สิ้นสุดเสียงของเหม็งมือขวาของเฉลิม ลูกน้องของเฉลิมก็พากันขึ้นขึ้นรถตู้ 2 – 3 คันรถ
ขับตามนายไปติดๆ เหลือแต่อิทธิและลูกน้องเท่านั้นที่ยังยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน
ปั้งงงงงงงงง
ปั้งงงงงงงงงงง
ปั้งงงงงงงงงง
เสียงปืนดังหลายนัดจากกระบอกในมือของอิทธิที่ยิงระบายอารมณ์จากความเครียดกับสิ่งที่เฉลิมพูดเมื่อครู่
“ เครียดทำไมล่ะครับนาย หาไรทำสนุกๆไม่ดีกว่าเหรอ ” กรรณเดินเข้าไปบอกให้นายใจเย็นลง
“ เก็บกระสุนไว้อุดปากหมาดีกว่า ไหนๆมันก็มาเปิดศึกกับเราแบบนี้ละ ”
กาเบียลแบมือขอปืนจากมือนายคืน แต่อิทธิยื่นกระบอกปืนให้กรรณแล้วก็เดินขึ้นรถไปแบบเงียบๆ
ไม่พูดไม่จาอะไรกับใครอีก จนรถแล่นออกมาเรื่อยๆ และแล้วก็มีสถานการณ์บางอย่างที่แปลกๆเกิดขึ้น
“ กรรณมึงโทรตามลูกน้องให้เอารถมาที่จุด D เร็ว!!! ”
กาเบียลสั่งกรรณเริ่มทำตามแผนเพราะรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นในไม่กี่นาทีในภายภาคหน้านี้
“ ครับพี่ ” กรรณกดโทรศัพท์ตามที่กาเบียลสั่ง
“ นายครับ...ผมว่าพวกมันดักรอเราอยู่หลายทาง ” ลูกน้องข้างคนขับหันมาบอกกับนาย
“ หึๆๆ เอาเลยดิ ปากบอกกูรอบกัด ล่อกูมาไกลขนาดนี้ พอประกาศศึก แม่งก็ซุ่มโจมตีกูเชียว
เอาปืนมาให้กู!!! ” อิทธิอารมณ์ฉุนขออาวุธคู่กายพร้อมที่จะสู้อย่างไม่ถอย
“ นี่ครับนาย รถจุด D พร้อมแล้วนะครับ ” กรรณยื่นปืนให้นาย
“ คนขับมึงรู้ใช่มั้ยว่าต้องทำยังไง ” กาเบียลได้คุยกับคนขับสำหรับแผนไว้แล้ว
“ ครับพี่ ”
“ ซุ่มทำเหี้ยไร ไม่จู่โจมกันออกมาซักที ” อิทธิบ่นแล้วนั่งพิงเบาะอย่างชิวๆ
“ คนของเราพร้อมแล้วครับ ”
“ ผมนับ 1 – 3 พี่ขับบุกเข้าไปได้เลย ” กรรณชี้แจงเมื่อเห็นทุกอย่างพร้อมและเพื่อ
ความปลอดภัยของนาย แต่ดูเหมือนคนเป็นนายจะบุกอย่างเดียวไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นๆที่จะเกิดขึ้นเท่าไหร่นัก
“ ไม่ต้องนับห่าไรละ ขับไปเลย ” รถของอิทธิขับตรงไปตามเดินเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แล้วเมื่อพอถึงแยก บึ้มมมมมมมมมมมมมมม!!!!!! ระเบิดลูกหนึ่งก็แผลงฤทธิ์ออกมาทั้งควัน
และเศษอะไรต่างๆลอยคลุ้ง แต่ไม่สามารถทำให้กระจกรถอิทธิแตกได้เนื่องจากสั่งทำเป็นพิเศษ
และคนขับเองก็ฝึกฝนการขับวิบากมาแล้วก่อนที่จะมาปฏิบัติงานให้อิทธิ
“ ขับต่อไป!! เร็วอีกกกกก ” กาเบียลตะโกนสั่งพร้อมมองออกไปทุกทาง
ปั้งงงงงงง ปั้งงงงงงงงงงง
ปั้งงงงงๆๆๆๆ ปั้งงงงงงงงงงงงงง
กระสุนถูกสาดกันสนั่นระหว่างลูกน้องแต่ละฝั่ง จนทำให้มีคนพลาดนอนแน่นิ่งกับพื้น
อิทธิมองเห็นลูกน้องตัวเองโดนแบบนั้นจึงสั่งให้เปิดประตูรถ แล้วรีบลงจากรถไปสู้กันซึ่งๆหน้า
ไม่ปล่อยลูกน้องตัวเองเผชิญลำพัง
ปั้งงงงงงงงงงง ปั้งงงงงงงงง
โอ๊ยยยยย
ปั้งงงงงง ปั้งงงงงงงงงงงงงงงง
“ นาย! พวกมันเยอะกว่าเห็นๆ ” กาเบียลรีบวิ่งมาคอยคุ้มกันนายไม่ให้ห่าง
“ เฮ้ย!! ใครรอดไปได้กูมีโบนัสให้ ”
มาเฟียกระตุ้นลูกน้องตัวเอง ทำให้ฮึ้ดสู้ เพื่อนายและเพื่อเงินที่นายจะให้มากขึ้น
ปั้งงงงงงงงงง ปั้งงงงงงงงงงงงง
ปั้งงงงงงงงงงงง โอ๊ยยยยยย อ๊ากกกกกกกก
“ พวกเรามาเพิ่มทางหลังพวกมันแล้ว ”
“ พวกผมจัดการได้ นายไปที่จุด D ครับ ” ลูกน้องบอกกับนายอย่างแน่ใจว่าสู้ไหวให้นายหนีไป
“ นายไปที่จุด D เดี๋ยวนี้ครับ ” กรรณบอกกับนายย้ำเห็นว่านายยังคงไม่ยอมไปไหน
ปั้งงงงงงงงงงงง ปั้งงงงงงงงงงงงง
ปั้งงงงงงงงงงงงงงงงงง ปั้งๆๆๆๆๆๆๆ
“ นาย!! ผมจะจัดการทางนี้เอง กลับไปก่อน ” กาเบียลหันมาพูดดุๆกับนายตัวเอง
“ เออๆๆ ”
“ มึงไปคุ้มกันนาย กรรณ! ทางนี้กูไหว ” ผมพอจะมองเห็นว่าลูกน้องตัวเองมาเยอะขึ้น
เลยยอมวิ่งออกมาทางจุด D ที่วางกันไว้ซึ่งกรรณก็วิ่งตามมาติดๆพร้อมลูกน้องอีก 2 คนคอยคุ้มกัน
และเหมือนผมจะเห็นอะไรบางอย่าง
ปั้งงงงงงงงงงงง ปั้งงงงงงงงงงงงงงง ปั้งงงงงงงงงงงงงงง
“ หึ โอ๊ย!! ” เหม็งมือขวาเฉลิมร้องดังลั่นมองปืนที่หล่นไปกองอยู่ที่พื้น
“ กูเอง! ”
อิทธิยิงปืนในมือเหม็งจนเฉียดมือเค้าไปนิดๆ เลือดไหลซิบๆแล้วก็ยื่นปืนตัวเองให้กับกรรณ
จากนั้นก็ถลกแขนเสื้อเดินเข้าไปตั้งกาดพร้อมจะไฟท์กับมือขวาของศัตรูที่เคยปราม่าตนมาแล้วหลายหน
“ เข้ามา ก็อยากจะรู้นัก จะแค่ไหนกันเชียว ”
อิทธิเป็นฝ่ายเดินเข้าหาเหม็ง ทำให้เหม็งสวนหมัดขวาเข้ามาที่หน้าอิทธิ แต่หลบได้ทัน
แล้วใช้แข้งขวาตัวเองยันไปที่ท้องเหม็งอย่างแรง พั้วว!!!!! เหม็งเซนิดหน่อย อิทธิจึงมองแล้ว
ยิ้มมุมปากแสดงความเหนือกว่า และการที่อิทธิยิ้มทำให้เหม็งคิดว่าอิทธิเยาะเย้ยจึงรีบปลี่เข้าไป
แลกหมัดกันคนละทีสองทีกับอิทธิ จนเลือดกกปากกันทั้งคู่ โดยเฉพาะเหม็งที่จมูกแตกเลือดเกราะจนน่ากลัว
แต่อิทธิยังไม่หยุด พัวะ!! โอ้!!!
“ ก็ไม่เท่าไรนี่ ”
เหม็งสบถออกมาเมื่อต่อยโดนอิทธิจังๆ ทำให้อิทธิเป็นฝ่ายเข้าหาเหม็งคืนบ้าง ชกหลอก
ไปที่ด้านซ้ายก่อนที่จะชกจริงทางขวาอย่างแรง ขาก็เตะกวาดขาเหม็งจนล้มลงกองที่พื้น
อ้า!! อิทธิไม่รอช้ากระทืบไปที่ท้องของเหม็งอยู่หลายต่อหลายทีจนเหม็งจุกงอตัวหมดท่า
“ ตีนกูรสชาติเป็นไงวะ!! ” อิทธิถามทั้งๆที่เท้ายังเหยียบที่ท้องของเหม็ง แต่เหม็งไม่ตอบกลับ
ทื้บบบบบบบบบ ทื้บบบบบบบบ
อ้า แค่กๆๆ
“ กรรณ! เอาปืนมา ” มือซ้ายของมาเฟียหนุ่มยื่นปืนให้ มาเฟียหนุ่มจึงชี้จ่อที่คนใต้เท้าของตัวเอง
“ ไปไหนกันหมดวะ!! มาช่วยกูที ” เหม็งรวบรวมกำลังที่เหลือตะโกนออกไปเสียงดัง
“ นาย! พวกมันกำลังมา ” และเมื่อได้ยินเสียงเท้าคนกำลังวิ่งมากรรณจึงรีบเตือนนายที่มัวแต่เล่นสนุก
“ กูไม่ยิงมึงหรอกเหม็ง กูไม่รังแกคนไม่มีทางสู้ว่ะ ”
ปั้งงงงงงงงงงงงงง พลุ!! กระสุนถูกยิงมาจากด้านข้างเฉี่ยวแขนอิทธิจนเลือดสาดออกมา
ลูกน้องอิทธิรีบเข้ามาประชิดตัวนาย แล้วคุ้มกันไว้ พร้อมบอกให้นายรีบวิ่งไปที่จุด D เพื่อขึ้นรถ
“ เร็วครับ!! ” ลูกน้องมาเฟียบอกกับนาย
“ ลูกพี่!! ” ลูกน้องเฉลิมวิ่งมาเห็นสภาพเหม็งนอนนิ่งอยู่ที่พื้นก็ร้องเรียกเสียงดัง
“ ไว้มาดวลตีนกับกูใหม่นะ ”
พลั้วะ!!
อิทธิเตะยอดหน้าเหม็งจนสลบคาตีน แล้วก็รีบเดินตามแรงลากของกรรณไปยังจุด Dตามแผนของกาเบียล
ระหว่างทางก็ต้องวิ่งหลบกระสุนของพวกลูกน้องฝั่งตรงข้ามไปเรื่อยๆ จนมาถึงรถที่จอดรออยู่
“ นาย...เป็นไรมากมั้ยครับ ” กรรณถามเพราะเลือดที่แขนนายมีเลือดแดงเต็มไปหมด
“ เฉียดๆ มึงอ่าห้ามเลือดก่อนมั้ย ”
กรรณมองแขนตัวเองที่โดนยิงมาเต็มๆเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้สนใจตัวเองมากกว่านาย
“ ไปโรงพยาบาลมั้ยครับ ”
“ ไอ้ควาย ไปให้เค้าแตกตื่นเหรอ ตำรวจมาสัมภาษณ์กูอีก ” อิทธิด่าลูกน้องกลับไป
“ รีบขับกลับบ้านไปให้เร็วที่สุด ” กรรณจึงสั่งคนขับเอง
“ เอารถอะไรมารับกูเนี่ย ร้อนสัส!! ”
“ มันจะได้ไม่เป็นที่สังเกตไงครับนาย ”
อิทธิกำลังนั่งอยู่ในรถเก่าๆคันหนึ่งแอร์ก็ไม่เย็น เบาะก็ขาดๆมีแค่ลูกน้องที่ขับและนั่งข้างคนขับ
ส่วนตัวเองนั่งอยู่ด้านหลังกับมือซ้ายตัวเองแค่นั้น รถก็ติดๆดับๆกว่าจะมาถึงบ้าน อีกทั้งยังมาทางลัด
บุกป่าฝ่าดงไฟสลัวๆอีก
“ ใครเปิดประตูบ้าน ผมยังไม่บอกป้าภาเลย ” ลูกน้องเอ่ยขึ้นเมื่อรถขับมาถึงหน้าบ้าน
แต่ยังไม่ทันบอกให้คนในบ้านมาเปิดประตู สร้างความผิดสังเกต กรรณจึงอาสาลงไปดูพร้อมถือปืนย่องๆ
ดูรอบๆจน ประตูใหญ่เปิดจนหมดจึงเห็นวีนั่งอยู่บนบันไดทางลงบ้าน ชะเง้อมองมาข้างหน้าอย่างนิ่งเฉย
กรรณจึงหันไปโบกมือให้คนขับ ขับเข้ามาได้ แล้วรถก็มาจอดเทียบหน้าบ้าน
“ กรรณ! โดนยิงเหรอ ” ร่างบางเห็นแผลที่ไหล่กรรณจึงรีบวิ่งเข้าไปดูใกล้ๆ เกาะแกะไม่ห่าง
ทำเอาคนที่ลงมาจากรถอีกคนเห็นยืนจ้องตาเขม็ง แล้วก็รีบเดินผ่านขึ้นบันไดบ้านไปเลยในทันที
“ ไม่เป็นไรมากหรอก ไปดูนายนู้น!! ”
วีรีบเดินตามนายเข้ามาแล้วก็มองที่แขนนายเห็นมีเลือดไหลอยู่เช่นกันจึงรีบเข้าไปหา
แต่คนเป็นนายอิทธิไม่ฟังทั้งยังเดินขึ้นบันไดไปยังห้องทำงานเลย ทำให้วีรีบวิ่งตามมาแล้วก็
เอามือดันประตูไว้ก่อนที่มันจะปิดซะก่อน จนอิทธิปล่อยประตูยอมให้วีเข้ามาข้างใน
“ มีอะไร ”
“ นาย...นายโดนยิงเหรอ ” ร่างบางถามแล้วก็เดินมาดูที่แขนของอิทธิใกล้ๆ
แต่อิทธิไม่ตอบยื่นนิ่งหน้าบึ้งตึงมองไปอีกทางอย่างไม่สนใจ
“ ผมทำแผลให้นะ หรือว่าจะให้โทรเรียกรถพยาบาลดี เลือดไหลเยอะเลยเนี่ย ”
“ ไม่ต้อง! มึงไปห่วงไอ้กรรณนู้น ”
“ อะไร แล้วทำไมผมต้องไปห่วงกรรณด้วย ” อิทธิไม่ตอบพร้อมเมินหน้าหนี
“ ปลดล็อกประตูให้หน่อย ” ร่างบางสั่งอิทธิ ซึ่งก็ยอมกดให้แล้ว
ร่างบางก็เดินออกจากประตูนั้นไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลจากด้านล่างเดินขึ้นมา
จากนั้นก็เดินตามอิทธิติดๆ ไปจนอิทธิเข้าไปในห้องนอน วีก็รีบแทรกตัวเข้าตามไปด้วย
“ วี! ตามกูมาทำไม ”
“ ทำแผลก่อน เดี๋ยวเลือดหมดตัวหรอก ” ร่างบางตาสนใจแต่กับแผลที่แขนของนาย
“ กูไม่มีอารมณ์มาทะเลาะด้วยหรอกนะ ” อิทธิยังคงเครียดกับสิ่งที่เจอและได้ยินมาในวันนี้
“ ผมไม่ได้จะทำให้นายหงุดหงิด ขอผมทำแผลก่อนนะ ”
“ ออกไป!! ”
“ ไม่ออก นาย...ผมขอทำแผลให้นายก่อน ”
ร่างบางยังคงดื้อรั้นถึงแม้ว่าจะโดนไล่เสียงดังแต่ก็จะยืนยันที่จะทำแผลให้ได้
“ ถ้ามึงไม่ออกไป กูจะสั่งทำโทษมึง ”
วีรธัชชะงักไปนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ลดละความตั้งใจ เดินเข้าไปวางกล่องปฐมพยาบาลที่โต๊ะ
จนอิทธิถอนหายใจแล้วก็ปิดประตูกดล็อกไป จากนั้นก็เดินมานั่งลงปลายเตียง
“ นั่งนิ่งๆนะจะห้ามเลือดให้ก่อน ” ร่างบางเห็นว่านายนั่งแล้วจึงเดินเข้ามาทำแผลให้
“ ไม่กลัวเลือดรึไง ” อิทธิถามขณะร่างบางกำลังเช็ดเลือดออกไปบ้าง
“ ไม่! ทำไมต้องกลัว ”
“ กลัวโดนยิงมั้ย แล้วกลัวตายรึเปล่า ”
“ ถามทำไมเนี่ย นายจะฆ่าผมเหรอ ” ร่างบางเบนสายตาจากแผลมาที่หน้านาย
ผมถามคนที่หน้าดูจริงจังกับการห้ามเลือดผมที่แขน ก็ไม่รู้ทำไมถึงถามไปแบบนั้น
“ ถามไปงั้น!!
“ ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นแหละ คนเราถ้าจะตายก็ต้องตายไม่โดนฆ่าตาย ก็ทำตัวเองตาย
แต่ยังไงซักวันก็ต้องตายป่ะ แก่ตายยังมี กลัวทำไม ”
“ เจ็บล่ะ ก่อนตายมึงก็ต้องเจ็บ ”
“ เจ็บตัวเดี๋ยวก็หาย เจ็บใจนี่สิหายยากนะ มันต้องใช้เวลา ”
“ อือ ไม่ว่าเวลานานเท่าไหร่ แม่งก็ไม่ได้ทำให้หายเจ็บได้เลย ” อิทธิพูดแล้วเหม่อลอยไป
“ นายหมายถึงเรื่องอะไรอ่า ถ้านายเครียดหรืออยากระบาย บอกผมได้นะ ผมอยากช่วยนาย... ”
ผมมองคนที่นั่งจับแขนผมอยู่ แววตาซื่อๆและคำพูดของเค้าช่างใสบริสุทธิ์นัก ผมค่อยๆขยับ
ใบหน้าเข้ามาใกล้ๆหน้าของเค้าเรื่อยๆจนปากของผมงับเข้าไปที่ปากของเค้าอย่างเบาๆ บดอยู่ที่ริมฝีปากบางๆ
ดูดเม้มดึง จนมือโอบไปจับท้ายทอยของเค้ายึดไว้ แล้วสอดลิ้นเข้าไปข้างในปากอุ่นๆนั้นหยอกล้อกับลิ้น
ซึ่งกันและกันอย่างนุ่มนวล
อิทปล่อยให้ปากวีเป็นอิสระ แล้วก็ก้มลงไปซุกไซร้สูดดมอยู่ที่คอของวีแทนทั้งหอม จูบ
ขบจนเกิดรอยแดง จากนั้นก็เปลี่ยนไปอีกข้างทำเช่นเดียวกันพอทำกับคอจนพอใจแล้ว อิทธิจึงผลัก
ให้วีนอนลงกับเตียงแล้วตนก็ก้มลงไปดอมดมซุกไซร้ที่ตัววีอีกครั้ง จนเลิกเสื้อวีขึ้นเลียยอดอกชมพูๆ
ที่ชูตั้งเมื่อถูกปลุกอารมณ์
ก๊อกๆๆ
อิทธิเงยหน้าจากอกขาวๆแล้วก็มองไปที่ประตู คว้ารีโมตกดปลดล็อก วีรีบลุกจากเตียง
เดินไปเปิดประตูออก เป็นกรรณที่ยืนอยู่หน้าห้องแล้วหันมาบอกกับนาย อิทธิจึงให้เข้ามา
กรรณเข้ามาแจ้งนายว่าอาหมอ หมอประจำตระกูลมาถึงแล้ว พลางมองไปเห็นคนที่อยู่กับนาย
ในห้องที่เสื้อยับดูไม่เป็นทรง แถมที่คอยังมีรอยแดงด้วยจึงเข้าใจว่ามาขัดจังหวะนาย เลยก้มหัว
แล้วรีบเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
“ เอ่อ...นายไปหาหมอเถอะครับ ” ร่างบางบอกกับคนที่เดินมาหยุดตรงหน้า
“ อือ ” ผมตอบรับเค้าไปแล้วก็คิดว่า ไอ้กรรณนะไอ้กรรณ เอาอีกแล้วมึง กูกำลังจะได้ปลดปล่อย
ผมบ่นในใจแล้วก็เดินลงมาข้างล่าง เห็นอาหมอนั่งกับหมอที่เป็นภรรยาคุยกันอยู่หน้าตาเริงรื่น
“ ลูกน้องเรานี่เป็นอะไร กระสุนอยู่ในแขน บอกให้นายทำก่อน ”
อาหมอบ่นกับอิทธิทันทีที่เดินมาถึงและอิทธิก็ไม่ลืมที่จะยกมือไหว้อาหมอและภรรยาหมอ
ของเค้าเนื่องจากเป็นเพื่อนคนหนึ่งของพ่อ
“ มันอยากตายไว ช่างหัวมันอา ”
“ หืมม? ใครห้ามเลือดให้ล่ะเนี่ย ”
พออิทธินั่งอาหมอก็เข้ามาเห็นร่องรอยการปฐมพยาบาลเบื้องต้นไปแล้วจึงเกิดความสงสัย
“ เอ๊! หรือว่ามีแฟนแล้วนะ ”
“ ไม่มีหรอกอา นู้นไอ้นู้นมันทำให้ ชื่อวี ”
วียกมือไหว้หมอทั้งสองคนแล้วก็ไปยืนข้างๆลูกน้องนายที่ยืนรอกันอยู่
“ คุณไปทำแผลให้กรรณเลยก็ได้ นี่ทางนี้นิดเดียว ” อาหมอบอกกับภรรยาตัวเอง
“ ได้ๆ มากรรณ หมอจะผ่ากระสุนออกให้ ”
วียืนมองทั้งนายที่กำลังทำแผล แล้วก็กรรณที่กำลังโดนกรีดเนื้อเพื่อเอากระสุนออก เลือดไหลนอง
เต็มภาชนะที่ลองเลย คงจะเจ็บกันน่าดูเลย แต่นายเสร็จก่อนเพราะโดนแค่เฉียดๆ
“ กาเบียลยังไม่กลับเหรอ ”
“ กาเบียลถูกยิงที่ท้อง อาผ่ากระสุนออกให้แล้วนอนพักอยู่ที่ห้องน่ะ ”
อิทธิกำหมัดแน่นเมื่อรู้ว่าเฉลิมทำลูกน้องตนเจ็บทำให้ยิ่งแค้นเฉลิมเข้าไปใหญ่ที่เล่นงานตนได้ถึงเพียงนี้เชียว
วันนี้ลงให้ 2 ตอนเลย เพราะเม้นท์เยอะหลายตอนแล้ว 5555
ขอบคุณสำหรับเม้นท์และกดถูกใจนะจ้ะ
เม้นท์มาอีกๆ เรื่อยๆ ชอบๆ รักเลย
สำหรับบางเม้นท์ที่บอกว่าจะจบยังไง เอ่อ....คืออยากให้จบละหรอ
ยังมีไม่กี่ตอนเอง หรือว่าเบื่อกันแล้ว แล้วก็เหมือนแบบอยากให้มีคู่รอง
อยากให้กาเบียลคู่กรรณ จะดีหรอจ้ะ แต่ไรท์จะพิจารณาดูอีกทีนะ
แท๊งคิ่วววววววว เวรี่มัช เอฟวรี่บอดี ลัฟยูออล หว่ออ้ายหนี่ อิอิ