มาเฟียหนุ่มนั่งมองสาวใช้ที่กำลังเก็บเศษซากฝีมือของตนที่พังแจกันไปเมื่อครู่จึงสั่งให้หยุดทำ
“ ไม่ต้องเก็บ!! ให้วีมาเก็บกวาดให้หมด ”
“ ค่ะนาย ”
“ ไปเรียกไอ้วีมาเก็บ ไม่ได้ยินกูสั่งรึไง!! ”
อิทธิตวาดใส่ลูกน้องที่ยืนอยู่ไม่ไกล จนลูกน้องรีบก้มหัวแล้ววิ่งไปเรียกวีทันที
“ คุณวีรธัช นายให้คุณไปเก็บกวาดแจกันที่ตกแตกที่พื้นกลางบ้าน ”
“ เอ้า! ได้ๆ จะรีบไป ” วีที่กำลังเดินไปทางบ้านตัวเอง ก็ต้องหันหลังกลับ
เดินเข้ามาในบ้านใหญ่อีกครั้ง พอมาถึงก็มองเศษแจกันที่กระจายเต็มพื้นทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่
จากนั้นจึงเดินไปหยิบไม้กวาดกับที่ตักขยะ มากองไว้ใกล้ๆ แล้วก็นั่งยองๆเก็บชิ้นส่วนใหญ่ๆ
ก่อนเศษเล็กๆค่อยกวาดตามทีหลัง
“ ระวังมือนะคะคุณวี ” ป้าภาเตือนกลัวเศษมันจะบาดมือเอา
“ ถ้าโง่ให้มันบาดมือก็ปล่อยเค้าป้า ”
“ อรช่วยนะคะคุณวี ” สาวใช้คนหนึ่งยืนดูด้วยความเป็นห่วงจึงอาสาเข้ามาช่วย
“ อร!! ฉันสั่งหรอ มีไรทำก็ไปทำกัน ไปให้หมด ”
“ ไปสิ ” กาเบียลบอกกับลูกน้อง แล้วก็เดินออกไปพร้อมกันจนหมด เหลือเพียงป้าภา
และกรรณที่ยังยืนอยู่ มองวีเก็บซากแจกันที่เกิดจากฝีมือของนายที่นั่งกินข้าวสบายใจ
“ ป้าภาครับ ทำไมมันถึงแตกล่ะ ” ร่างบางเก็บไปได้ซักพักเอ่ยถามป้าด้วยความอยากรู้
“ เอ่อ.... ” หญิงวัยสูงอายุไม่กล้าที่จะตอบออกไปเพราะคนทำนั่งอยู่ไม่ไกล
“ กูทำ มึงมีปัญหาอะไรมั้ย ” อิทธิพูดออกมาเสียงดังแล้วมองร่างบางอยู่ชั่วขณะ
“ แล้วไปเดินไอ้ท่าไหน แจกันตกมาแตกได้ ” วีบ่นออกมา
“ คุณวี... ” กรรณเรียกวีไว้เพราะอาจจะโดนดีที่พูดไปแบบนั้น
“ วีรธัช!! กูจะทำแตก ไม่แตกแล้วมึงจะทำไม ฮะ!! ”
อิทธิตะคอกลั่นบ้าน ทำเอาวีที่ก้มเก็บแจกันอยู่ตกใจ จนโดนแจกันบาดเข้าที่นิ้วจนได้
“ โอ๊ยยยย!! ”
“ นั้นปะไร โอ๊ย เลือดไหลแล้วนั่น ”
ป้าภาพอเห็นอย่างนั้นก็ทำท่าจะเดินเข้ามาหาชายหนุ่มที่นั่งกุมนิ้วตัวเองอยู่ที่พื้น เลือดหยดติ๋งๆ
“ ป้าภา อย่าเข้ามา ผมไม่เป็นไรหรอกครับ ” วีบีบส่วนของแผลนิดหน่อยแล้วก็รีบ
เก็บกวาดเศษจนเสร็จ จึงรีบเดินเข้าห้องครัวไป
“ คุณวี! เจ็บมั้ยคะ ล้างน้ำเร็ว ”
“ เดี๋ยวอินไปเอากล่องพยาบาลมาให้นะ ” สาวใช้สองคนดูเป็นเดือดเป็นร้อนแทน
“ ไม่ต้อง ผมเอามาให้ละ ” กรรณวางกล่องพยาบาลบนโต๊ะ แล้วก็ดึงมือวีมาเพื่อทำแผลให้
จนกระทั่งพันนิ้วเรียบร้อย
“ ขวัญเอ๊ยขวัญมานะลูก ” ป้าภาลูบหัววีเบาๆ
“ ไม่ลึกเท่าไหร่ครับ ปวดก็กินยา ” กรรณบอกกับวีแล้วยิ้มให้เบาๆ
“ เก็บโต๊ะ!! หายไปกันหมด ได้ยินมั้ย ”
ทุกคนเข้ามารวมกันอยู่ในครัวจนกระทั่งได้ยินเสียงนายตะโกนเสียงดังอาระวาดอีกครั้ง
“ นายโมโหแล้ว อร ไปเก็บโต๊ะกัน ” อินที่พอจะได้ยินจึงรีบชวนอรไปช่วยกันเก็บ
“ เออไปๆ ” ร่างบางเดินออกมาจากครัวเพื่อมาช่วยสาวใช้เก็บโต๊ะ ส่วนป้าภาก็ยกผลไม้ที่ปอก
แช่เย็นไว้มาให้นายกินดับความร้อน ทั้งกายและใจ เผื่อจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างหลังจากปล่อยระเบิดไปหลายลูก
“ โง่จริงๆ กะไอ้แค่เก็บเศษแจกัน ก็บาดมือได้ ” อิทธิพูดเหน็บวี “ มันเป็นอุบัติเหตุค่ะนาย มันคมมากนะคะ ” ป้าภาช่วยพูดแก้ต่างให้กับวี
“ แล้วใครใช้ให้นายพูดเสียงดัง ตะคอกออกมาน่ะ ตกใจหมดไม่งั้นมันก็ไม่บาดมือผมหรอก
หรือว่านายคิดว่าตัวเองพูดเบานัก ” วีสวนกลับคนเป็นนาย
“ ตายแล้วอิน ”
“ คุณวีคะ... ” อินที่ยืนใกล้ๆวีจับแขนวีเพื่อปรามเอาไว้
“ วีรธัช!! ” อิทธิจ้องตาแข็งมองวีที่ต่อกรกับเค้า
“ ผลไม้เย็นๆนะคะนาย ”
“ กินเย็นแค่ไหน ก็ไม่ทำให้เค้าเย็นลงได้หรอกป้าภาน้ำแข็งมันน้อยกว่าน้ำมัน
ดับเพลิง ในใจเค้าไม่ได้หรอก ”
“ ปากดีนักใช่มั้ย มึงมานี่!! ”
อิทธิลุกพรวดมาจับแขนวีแล้วก็ลากขึ้นมาที่ห้องทำงานของตน ผลักวีล้มลงกองที่พื้นดัง
ตุ้บบบบ ก้นของร่างบางที่ผ่านศึกมาเมื่อคืนถึงแม้ไม่ได้เจ็บอะไรนัก แต่พอมาโดนกระแทก
จากพื้นแข็งๆแบบนี้ก็ออกอาการขึ้นมาในทันที แต่วีก็กัดฟันทนความเจ็บเอาไว้ไม่ได้แสดง
ท่าทีออกมาให้นายเห็น
“ เหิมเกริมใหญ่ละนะเดี๋ยวนี้ ”
วีก้มหน้าลงมองที่พื้นห้องโดยไม่ตอบโต้อะไรกลับไป จนนายได้ ลั่นวาจาออกมาเพิ่ม
“ กูเป็นนายมึง ลืมแล้วเหรอ กูใจดีด้วยหน่อยทำมาเป็นกล้า เจียมตัวมึงไว้บ้าง
อย่าสะเออะมาปาก ดีกับกู ”
“ ขอโทษครับนาย ”
นั่นสิ เจียมตัวมึงไว้นะวี คำพูดแรงๆของเค้าครั้งนี้ทำผมเจ็บ แล้วก็จุกที่อกอย่างบอกไม่ถูก
มึงควรจะทำตัวยังไงมึงก็ควรจะรู้อยู่แก่ใจ วีเตือนตัวเองเมื่อได้ยินนายพูดแบบนั้น
“ เฮ้ย!! ใครอยู่ข้างนอก เข้ามาในห้องกูซัก 2 คน ”
ประตูห้องทำงานอิทธิเปิดออก พร้อมลูกน้องก็เดินเข้ามายืนรอฟังคำสั่งจากนายที่เรียกให้เข้ามา
ภาพเค้าเรียกลูกน้องและพวกนั้นก็เดินเข้ามามันทำให้ผมนึกถึงภาพวันที่เค้าสั่งให้ลูกน้องรุมโทรมผม
เค้าคงไม่ทำแบบนั้นอีกใช่มั้ย เค้าเคยรีบปากกับผมไว้แล้วนี่ว่าจะไม่ทำแบบนั้นกับผมอีก
“ จะให้จัดการยังไงดีครับนาย ”
“ นาย... ” วีเรียกอิทธิเบาๆพร้อมส่ายหัวด้วยความกลัว
“ เอามันไปขังห้องมืด จนกว่ากูจะสั่งปล่อย ” อิทธิหันไปสั่งกับลูกน้อง
“ ห้องมืดอะไร ไม่ไป นาย… ” วีถูกลากและเดินไปยังห้องที่เป็นส่วนหนึ่งของห้องเชือด
แต่ไม่ได้เข้าไปในตัวห้องเชือดเดินเตลิดมาอีกไม่มากนัก หลังจากนั้นวีก็ถูกผลักเข้าไปในห้องเล็กๆ
ห้องหนึ่งที่มืดสนิท มีเพียงแสงจากทางเข้าเท่านั้นที่สว่าง แล้วมันก็ถูกปิดลงไปในไม่ช้า
“ โอ้ยยยยยยย ไม่เอา มันน่ากลัว ”
“ ในห้องมันมืดมาก ปกติถ้าไฟดับหรือ ปิดไฟในห้องก็ยังมีแสงจากข้างนอก
ไม่ก็มองเห็นอยู่บ้าง แต่ในห้องนี้มันมืดสนิท มืด 8 ด้าน มันวังเวง เย็นๆ หลอนๆยังไงไม่รู้ ไม่เอา ”
“ หนาววววววว ห้องบ้าอะไรเนี่ย ฮืออออออออ ”
ร่างบางนั่งกอดเข่าตัวเองและบ่นเสียงดังอยู่อย่างนั้น ไม่กล้าขยับตัวไปไหนทั้งสิ้นมีเสียงจิ้งจก
หรือเสียงอะไรนิดๆหน่อยดังขึ้น ก็ทำเอาสะดุ้งอยู่ตลอดเพราะมองไม่เห็นอะไรเลย
“ มันหายใจไม่ออก โอ้ยยยยย หนาวววววววว จะร้องเรียกให้ใครช่วยในชีวิตก็ไม่เหลือใคร
แม่ก็ทิ้งไป อยู่กับพ่อ พ่อก็ไม่รัก แถมยังผลักไสไล่ส่งให้ลูกกับมาเฟียสุดโหดโดยไม่ห่วงลูกแม้แต่นิด
ชีวิตแม่งไม่มีอะไรดีเลย ”
“ ทำงานเลี้ยงตัวเองตั้งแต่เด็ก ส่งตัวเองเรียนจนจบมาทำงานที่รักได้ไม่กี่ปีก็ต้องมาทนเจ็บ
ทนอะไร ก็ไม่รู้ที่จะเจอจากมาเฟียคนนี้ บางทีก็ดีจนใจหาย พอร้าย แม่งก็ร้ายสุดพลัง ”
วีปาดน้ำตาตัวเองที่ไหลออกมาจากตาด้านขวานั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย นานเท่าไรไม่รู้
จนแสงสว่างจากทางเข้าก็ปรากฏ
“ คัมเอาท์! ” กาเบียลเป็นคนมาเปิดประตูห้องมืดให้กับวี
“ ขอบคุณครับ ” วียกมือไหว้กาเบียลที่เหมือนเข้ามาช่วยชีวิต
“ อย่างกับห้องดับจิต น่ากลัวชิบหาย ” ลูกน้องที่เห็นแค่ภายนอกพูดกับเพื่อนอีกคน
“ ไปกินข้าวแล้วก็กลับบ้านได้เลยนะ ”
กาเบียลหยุดเดินแล้วหันมาบอกกับวีซึ่งวีแค่พยักหน้าตอบกาเบียลไป และเดินลงไปข้างล่างอย่างนิ่งๆเงียบๆ
ไม่พูดไม่จาไม่แวะเอาข้าวที่ห้องครัว แต่เดินกลับมายังบ้านคอนเทนเนอร์ของตัวเองเลย
“ เห้อออออออออ ” พอถึงเตียงก็นอนหงายลง ถอนหายใจเสียงดังอยู่หลายที
มองฝ้าเพดานอย่างเหม่อลอย ไม่ขยับ ไม่อยากรับรู้อะไร
“ เหนื่อยยยยยย ”
ก๊อกๆๆ
“ คุณวี! นายให้ไปพบที่ห้องทำงาน ” เรียกผู้ชายคนหนึ่งลอยมาจากหน้าห้อง
“ คุณวี ได้ยินผมมั้ย ”
ก็อกๆๆ
ก็อกๆๆๆ
“ คุณเป็นอะไรรึเปล่า หรือว่าหลับแล้ว ”
วีได้ยินเสียงกรรณเรียกก็ประโยคสุดท้ายนี่แหละ ไม่รู้ตัวเลยว่ากรรณมาเรียกตั้งแต่ตอนไหน
แต่ก็ให้คิดว่าหลับไปแล้วก็ดี เพราะวีตอนนี้หมดเรี่ยวแรง ไม่อยากจะเดินแล้ว
“ เห้ออออออออออ ”
เช้าวันต่อมา
“ ไม่สบายรึป่าวพ่อหนุ่ม ” ลุงที่ตัดแต่งกิ่งต้นเฟื่องฟ้าหันมาถามไถ่คนข้างๆที่ดูผิดไป
“ สบายดีลุง เมื่อคืนแค่นอนไม่หลับ ”
“ ไม่ลางานไปพักผ่อนซะ ”
“ มีวันลาด้วยหรอ ” วีถามลุงไปขุดดินไป ทั้งยังเอาต้นเฟื่องฟ้าลงหลุมไปอีก
“ อ้าว มีสิ ลุงป่วยยังลาได้เลย ”
“ แต่ผมคงลาไม่ได้ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็ได้นอน ”
ชั้บบบ ชั้บบบ ชั้บบบบบ ร่างบางเอาพลั้วขุดดินต่ออีกหลายๆหลุมรอเอาต้นไม้ลง
“ คุณวี! นายเรียกคุณพบ ” วีเอาเฟื่องฟ้าลงหลุมไปด้วยเพียง 3 ต้นก็มีคนมาแจ้งว่านายเรียก
“ นายอยู่ที่ไหน ”
“ โต๊ะกินข้าว รีบๆไป นายอารมณ์ไม่ดี ” ลูกน้องคนนั้นบอกกับวีด้วยความเป็นห่วง
“ เดี๋ยวตามไป ขอขุดอีกซักหลุม ”
“ ไปเหอะ เดี๋ยวโดนดุเอา ” ลุงบอกกับวีอีกคนเพื่อเร่งให้วีรีบไปพบนาย
“ ยังไงก็โดนอยู่ละลุง ผมไปนะ เดี๋ยวรีบมาช่วย ”
วีลุกขึ้นปัดดินที่เปื้อนมือจนดำแล้วก็เดินเข้าบ้านใหญ่มาพบนายที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่
“ คุณวีมาแล้วครับนาย ” กรรณบอกกับนายในขณะที่นั่งกินข้าวอยู่
“ เมื่อคืนกูให้คนไปตาม ทำไมไม่มาพบกู ”
อิทธิถามร่างบางที่ยืนก้มหน้าก้มตา แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาแม้แต่อย่างใด
“ ไม่สำนึกใช่มั้ยเมื่อวาน หรืออยากจะลองห้องมืดอีกซักวันสองวัน ”
“ เดี๋ยวนะครับ นายจับคุณวีขังห้องมืดหรอ ” กรรณทวนสิ่งที่นายพูดอีกครั้ง
“ เออ! ทำไม ”
“ นายก็รู้นี่ว่าเราไว้ใช้ทรมานพวกคนผิดหรือทรยศเราคนธรรมดาเข้าไป
จะจิตตก เสียศูนย์ได้นะครับ ”
“ ขังนานเท่าไหร่ ” กาเบียลซักไซ้นายเพราะรู้แค่ว่านายให้ไปปล่อยตัววีออกมา
แต่ไม่รู้รายละเอียดย่อย ส่วนวีรธัชยังคงยืนก้มหน้านิ่ง ไม่พูดไม่จา รอฟังเพียงคำสั่งของนายเท่านั้น
“ จำไม่ได้ หลายชั่วโมงอยู่ ” อิทธิตอบที่กาเบียลถาม
“ คุณวีของป้า เป็นอะไรรึเปล่าคะ ” ป้าภาเดินมากอดวีที่ยืนนิ่ง พร้อมทั้งลูบแก้มใสๆ
ของวีอย่างห่วงใยวีส่ายหน้าเล็กน้อยตอบกลับป้าแล้วยิ้มเล็กๆให้ป้ารู้ว่าโอเคไม่ต้องเป็นห่วงมาก
“ เมื่อวานข้าวก็ไม่มาเอาไปกิน ”
“ คุณวี อาร์ ยู โอเค๊ ?? ” กาเบียลเองก็ดูเป็นห่วงวีเพราะรู้ฤทธิ์ของห้องมืดเป็นอย่างดี
“ ครับ ”
“ คุณวีมีอะไรทำก็ไปเหอะครับ ” กรรณเดินเข้ามาบอกกับวีใกล้ๆ
“ ไอ้กรรณ!! กูเป็นคนเรียกเค้ามา มึงนี่ก็อีกคน ชักจะเอาใหญ่ละ กาเบียล เอามันไปสั่งสอน 3 ยก ”
“ นาย… ” กาเบียลเรียกนายเบาๆกับความบ้าระห่ำในตอนนี้
“ ผมสั่งให้คุณเอากรรณไปสั่งสอน!! ” อิทธิกดเสียงต่ำพูดกับกาเบียล
“ เอาเหอะพี่ ” วีมองกรรณที่เดินนำกาเบียลออกไปข้างนอก แล้วก็ได้ยินเสียงการตบตี
รุมกระทืบอยู่หลายนาที แต่ไม่มีเสียงโอดโอยที่แสดงถึงความเจ็บปวดออกมาเลยแม้แต่น้อย
“ กูถามมึง มึงยังไม่ตอบกูเลย กูเรียกทำไมไม่มาพบ ” อิทธิถามลูกหนี้ตัวเองอีกครั้ง
“ ผม...ผมน่าจะหลับครับนาย ”
“ เดินมานี่ ” วีค่อยๆเดินเข้าไปอยู่ใกล้ๆนายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะกินข้าวอย่างช้าๆ
จนมาหยุดตรงหน้านายพอดี
“ มองหน้ากู ”
“ ไม่บังอาจครับ ”
“ วีรธัช ” ผมเอามือจับแขนวีแล้วบีบเล็กน้อยเพื่อกระตุ้นให้วีทำตามคำสั่ง
“ ตัวผมเปื้อนนะครับนาย มีแต่ดิน ปล่อยผมเถอะครับ ”
อิทธิปล่อยแขนวีตามที่วีร้องขอ หลังจากนั้นวีจึงเดินถอยหลังออกมายืนที่เดิม และคิดในใจว่า
นี่แหละจุดยืนที่เหมาะสมกับลูกหนี้อย่างตน ควรอยู่ห่างนายไว้ก็ดี จะได้ไม่เจ็บทุกข์ทรมานอีก
“ นายมีอะไรอีกมั้ยครับ ถ้าไม่มีผมขอตัวออกไปทำสวนต่อ ”
“ อือ ”
ร่างบางเดินออกไปจนพ้นสายตาของอิทธิ ป้าภาจึงเดินเข้ามาใกล้อิทธิแล้วพูดว่า...
“ แววตาคุณวีดูเปลี่ยนไปนะคะนาย ” ป้าภาพูดออกไปเท่าที่สังเกตเห็น
“ ยังไง ”
“ แววตาคุณเค้าดูเศร้า หงอยๆ หน้าตาก็ดูซีดๆ ไม่เหมือนคุณวีคนเดิมที่ร่าเริง
ยิ้มแย้ม ช่างพูดช่างจา ห้องมืดกล่อมประสาทคุณวีรึเปล่าคะ ”
“ ดี! จะได้ไม่กล้าต่อกรกับผมอีก ” มาเฟียเอานิ้วถูกันแล้วพูดออกมา
“ ป้าเป็นห่วงคุณวี แล้วป้าก็รู้นะคะว่าลึกๆแล้วคุณก็เป็นห่วงเช่นกัน ”
“ เก็บโต๊ะได้ละ มัวแต่พูดเรื่องไร้สาระ ผมจะไปทำงาน ”
ในส่วนของวี เมื่อเดินลงมาที่สวน ก็มานั่งขุดดินช่วยคนสวนปลูกต้นไม้ต่ออย่างเหม่อลอย
“ นายเรียกไปทำไมล่ะพ่อหนุ่ม ”
“ ครับ ก็...ไปเตือนอะไรนิดหน่อย ”
“ ลุงว่าเดี๋ยวลุงทำเองดีกว่า พ่อหนุ่มไปนั่งในร่มไป ” ลุงคนสวนสังเกตเห็นหน้าตาวีไม่ค่อยดี
“ ช่วยกันดีกว่าครับ จะได้เสร็จเร็วๆ ”
คนสวนหลายคนช่วยกันฟื้นฟู แล้วก็ลงปลูกต้นไม้กันใหม่ เนื่องจากตอนนั้นโดนไฟไหม้
เสียหายไปเยอะ รวมถึงกำแพงที่กำลังซ่อมแซมควบคู่กันไป ซึ่งคนงานก็ทำงานกันไปหลายชั่วโมง
“ กินข้าวเที่ยงกันได้แล้ว ”
“ ครับๆๆ ” บรรดาคนงานต่างร้องตอบกลับคนที่มาบอกให้พักเที่ยงได้
ผมยังไม่รู้สึกหิว เลยไม่ลุกไปกินข้าวที่พวกลูกน้องนายยกเป็นหม้อๆมาแจกจ่ายให้ทั้งคนสวน
และคนงานซ่อมกำแพงกิน กลิ่นมันก็หอมนั่นแหละแต่ไม่หิวไง
“ คุณวี! บ่ายแบบนี้มันร้อนนะคะ คนงานเค้าก็พักกันแล้ว ”
สาวใช้เดินถือน้ำเย็นๆพร้อมกางร่มเดินมาหาวีที่ยังนั่งขุดดินไม่ลุกไปไหน
“ ไม่เป็นไร ”
“ เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะคะ ” อินพยายามโน้มน้าวให้วีเข้ามาพักบ้าง
“ พี่อินเข้าไปที่ครัวเถอะ มันร้อนครับ ”
“ พี่ อร และก็ป้าภา เป็นห่วงคุณนะคะ ”
“ ขอบคุณนะพี่ ชีวิตผมมันไม่มีค่าพอให้ใครมาห่วงหรอก ” วีพูดอย่างปลงๆ
“ อิน!! ปล่อยเค้า ไม่อยากพักก็ให้มันนั่งจนมืดไปนั้นแหละ ”
คำสั่งตะโกนมาจากม้าหินอ่อนไม่ไกลนัก สาวใช้จึงหันไปก้มหัวให้นายแล้วรีบเดินกลับเข้าบ้านไป
ส่วนวีเองไม่ได้หันไปมองว่านายนั้นส่งเสียงดังมาจากไหน
“ ให้ผมไปจัดการให้มั้ยครับ ” กาเบียลเอ่ยถามนายที่พอจะรู้ว่านายก็อยากให้เค้าเข้ามาพัก
“ จัดการอะไร ” อิทธิถามกลับลูกน้องคนสนิทอย่างทำเป็นไม่รู้
“ ผมรู้น่ะ ว่านายต้องการอะไร ”
“ นายครับ รถรออยู่หน้าบ้านแล้วครับ ” กรรณเดินเข้ามาบอกนายพลางมองไปที่กลางสวน
“ น่วมเชียวนะมึง ไอ้กรรณ ” มาเฟียหันไปมองมือซ้ายรูปหล่อของตัวเองที่เมื่อวาน
หลังจากโดนสั่งซ้อมก็หายหน้าหายตาไปเลย แล้วก็หันกลับไปมองกาเบียลที่เดินไปหาวีนอกเหนือจากคำสั่ง
“ ให้คนสวนทำไป ออกไปพักได้ละ ”
“ ทำไมล่ะครับ ” วีงงกับคำสั่งที่จู่ๆก็ไม่ต้องให้ช่วยงานในสวนซะอย่างงั้น
“ ช่วงบ่ายในตาราง คุณต้องทำอะไร ” กาเบียลกอดอกถามวีกลับอย่างมาดขรึมไม่แพ้นาย
“ ช่วยงานในครัว กวาดบ้าน ถ้าไม่งั้นก็รอคำสั่งจากนายครับ ”
“ งั้นก็ลุก ไปได้ละ ” วีรธัชเหลือบมองนายที่มองดุๆมาทางที่ตนและกาเบียลยืนอยู่
ก็ยอมทำตามที่กาเบียลบอกอย่างไม่ดื้อรั้น รีบลุกเดินออกจากสวนเข้าบ้านใหญ่ไปทางประตูห้องครัว
“ คุณวี ทานข้าวกันค่ะ ” ป้าภาเอ่ยชวนเมื่อเห็นร่างบางเดินเข้ามาทางครัว
“ ผมไม่หิวครับ งั้นผมไปกวาดบ้านรอนะ ”
“ มื้อเย็นเมื่อวานก็ไม่กิน มื้อเช้าก็ไม่กิน มื้อกลางวันก็ไม่หิวอีก ”
“ จะ 3 มื้อละนะป้า ” อินนับนิ้วแล้วบอกกับป้าภา
“ แล้วจะให้ฉันทำยังไง ” ป้าภามองตามร่างบางออกไปอย่างเป็นห่วง
“ บอกนายดีมั้ยป้า ” อรเสนออย่างไม่ค่อยมั่นใจ
“ จะบ้าหรอ ขืนบอกไป คุณวีก็โดนดุสิ เดี๋ยวนายก็สั่งทำโทษคุณวีอีก ” อินบ่นเพื่อน
“ หิวก็คงกินเองแหละ รีบกิน จะได้ไปทำงาน ” ป้าภาพูดจบก็ตักข้าวใส่ปาก
*** ตอนนี้นิยายเล่มนี้ได้ตีพิมพ์เป็นเล่มกับสำนักพิมพ์มีดีส์แล้ว จะออกตอนปลายมกราคม
2562 ยังไงก็ช่วยกันซื้อด้วยนะจ๊ะ คนอ่านที่น่ารักทุกคน อิอิ ***