ปั้ง!!!!
เสียงปืนดังสนั่นได้ยินกันถ้วนหน้า พร้อมน้ำสีแดงที่กระเด็นกระจายออกเปื้อนผนังและพื้นห้องเต็มไปหมด
“ นายครับ จะให้เอาศพมันไปไว้ไหนครับ ” ลูกน้องคนหนึ่งเดินเข้ามาถามคนเป็นนาย
“ เอาไปโยนให้จระเข้มันกิน ” คำสั่งชัดถ้อยชัดคำแฝงน้ำเสียงเลือดเย็นบอกกับลูกน้อง
“ ครับนาย ”
ชายหนุ่มรูปร่างสูง หุ่นดี หน้าตาคมเข้มเดินลงมาจากห้องทำงานเพื่อลั่นปืนแล้วสั่งลูกน้องอย่างเหี้ยมโหด จากนั้นจึงเดินออกมาจากห้องสังหารเพื่อไปที่ห้องทำงานตน ไม่ลืมที่จะทำความสะอาดมือที่เปื้อนก่อนที่จะมานั่งลงที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง
อิท. หรืออิทธิ ซึ่งแปลว่า ฤทธิ์ อำนาจและความเจริญ ผู้ที่รับไม้ต่อจากพ่อ มีพี่ชายหนึ่งคนแต่ถูกพ่อไล่ออกจากบ้านและตัดขาดออกจากกองมรดก ด้วยสาเหตุที่ต่อต้านและคัดค้านในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อกระทำโดยไปประกอบอาชีพเป็นตำรวจหน่วยพิเศษ ถึงแม้ว่าครอบครัวอิทธิจะไม่ได้ทำอะไรอันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ทางด้านยาเสพติด แต่ด้านอาชญากรรม พนันและความรุนแรงก็ไม่วายจากมาเฟียที่เป็นเรื่องปกติ
“ นายคะ วันนี้ตอนเย็นจะรับอะไรดีคะ ” สาวใช้วัย 60 กว่าถามนายด้วยรอยยิ้ม
“ วันนี้ผมไม่ค้างที่บ้าน ”
“ ค่ะ “. ป้าภาตอบกลับสั้นๆแล้วเดินเข้าครัวไป
ป้าภาเป็นคนที่คอยเลี้ยงดูอิทธิตั้งแต่ยังเด็กเนื่องจากแม่ของอิทธิได้เสียชีวิตไปตั้งแต่อิทธิยังเยาว์วัยจากฝีมือพวกลอบกัดและเพื่อที่จะทำลายจุดอ่อนของมาเฟีย โดยฆ่าคนที่เป็นที่รักและเหตุผลนี้เองจึงทำให้อิทธิ ไม่อยากมีจุดอ่อนในชีวิตให้ศัตรูหรือใครหน้าไหนเข้ามาเล่นงาน ไม่แม้แต่ชายตามองใครหรือให้ความสำคัญ
“ นายครับ คุณศิธาจะเข้ามาพบพรุ่งนี้เที่ยงที่บ่อน DDD ” ลูกน้องเรียนนายให้ทราบแล้วยืนก้มหน้าลง
“ บอกเค้าว่ากูจะพบเค้าตอน 1 ทุ่ม ” คนเป็นนายชายตาสั่งลูกน้องกลับไป
“ แต่นายครับ ทางนั้นเค้ายื่นเวลาขาดตอนเที่ยงนะครับ ”
“ กูบอกว่าจะพบตอน 1 ทุ่มมึงไม่ได้ยินใช่มั้ย!!! ” มาเฟียมองตาแข็งแล้วตะหวาดดังลั่น
“ ครับนาย ”
หลังจากนั้นอิทธิก็ขึ้นมาบนรถ มุ่งตรงไปที่บ่อนแถวชานเมือง ซึ่งด้านล่างและชั้น 2 เปิดเป็นผับ ด้านบนชั้น 3 และ 4 เป็นคาสิโน ส่วนชั้น 5 เปิดห้องสำหรับให้เช่าพักรายคืนและชั้นสุดท้ายชั้น 6 ไว้พักเองเป็นชั้นส่วนตัว ซึ่งจะมีทั้งห้องนอน ห้องทำงาน และห้องประชุมครบครันภายในชั้นของตัวเอง
“ นายครับ คุณลิลลี่ขอพบครับ ” พอนั่งทำงานไปได้สักพักลูกน้องก็มาแจ้งอิทธิถึงในห้องว่ามีคนขอเข้าพบ
“ ให้ไปรอที่ห้องพักห้องสุดท้าย ” อิทธิปลดเนกไทออก จากนั้นก็เดินลงมาที่ชั้น 5 เพื่อเดินไปยัง
ห้องพักห้องสุดท้ายที่ตนมักจะใช้ร่วมรักหรือเล่นสนุกกับบรรดาสาวๆและชายหนุ่มในคอลเลกชันพอไปถึงก็พบหญิงสาวชุดเกาะอกรัดรูปนั่งไขว่ห้างโชว์เรียวขานั่งรออยู่ที่ปลายเตียง พอเธอเห็นอิทธิก็ลุกขึ้นมาหาส่งยิ้มยั่วยวนให้ชายหนุ่มเล็กน้อย พลางเอามือคล้องคอมาเฟียหนุ่มเพื่อบอกเป็นนัยว่าพร้อมแล้วที่จะเริ่มปฏิบัติการเร่าร้อนบนเตียงด้านหลังของเธอ
“ คุณอิทคะ ลี่แจ้งลูกน้องคุณตั้งหลายครั้งกว่าจะได้เข้าพบคุณ ”
“ ผมไม่ว่าง ” ถึงแม้จะเป็นคนโหดร้ายเพียงใดแต่มาเฟียหนุ่มก็ยังสุภาพบุรุษพอในการพูดคุยกับผู้หญิงอย่างไพเราะ
“ ลี่คิดถึงคุณนี่คะ ” หญิงสาวยังคงออดอ้อนซุกไซร้ จนอิทธิไม่รอช้าผลักหญิงสาวลงที่เตียงถอดเสื้อผ้าและเริ่มปฏิบัติกิจในทันที
ผ่านไปได้ซักพักเสียงครางของหญิงสาวดังขึ้นเรื่อยๆจากความดิบเถื่อนของมาเฟียผู้ไม่ปราณีกระแทกเต็มแรงโดยไม่ได้สนใจคนที่ถูกกระแทกแม้แต่น้อยแต่ลิลลี่ก็เหมือนจะได้ใจส่งเสียงดังไม่หยุด
“ คุณอิทธิลี่เสียว ” อ๊า!! อื้ออ เธอขยำที่แขนอิทธิอย่างแรงเพราะอิทธิยังคงกระแทกใส่เธอไม่ยั้ง
“ คุณอิทธิคะ จูบลี่สิคะ ” ภารกิจดำเนินไปค่อนข้างไกลหญิงสาวเรียกร้องขอจูบจากมาเฟียขึ้น
“ ลืมไปแล้วหรอ ว่าผมไม่ให้จูบใครทั้งนั้น ”
อิทธิผู้ที่ให้ความสนุกกับทั้งหญิงสาวและชายได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องสวมถุงและไม่มีการจูบใดๆเกิดขึ้น เค้าจะแค่เสียบและทำให้น้ำแตกเพียงเท่านั้น ไม่มีความรู้สึกหรือการเรียกร้องอะไรจากเค้าเพียงเด็ดขาดภารกิจยังคงดำเนินต่อใช้เวลาเกือบชั่วโมง หลังจากทั้งคู่ถึงจุดหมาย อิทธิก็รีบเดินไปเข้าห้องน้ำจัดการทำความสะอาดเนื้อตัวแล้วก็กลับมาใส่กางเกงให้เรียบร้อย
“ คุณอิทคะ จะรีบไปไหน ” หญิงสาวนั่งพิงที่เตียงเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามาเฟียรีบแต่งตัว
“ ผมมีงานต้องทำ ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ”
“ คุณเอาลี่แล้วก็จะไปแบบนี้น่ะหรอ ”
“ ถ้าคุณเรียกร้องอะไรมากนักก็ไม่ต้องมาเจอผมอีก ” อิทยื่นคำขาดทำเอาหญิงสาวหยุดโวยวาย จากนั้นก็เดินออกมาจากห้องนั้น แล้วจึงเดินขึ้นไปยังห้องทำงานเพื่อนั่งตรวจงานและคิดโปรเจ็คที่จะขยายคาสิโนในต่างประเทศต่อ โดยอิทธิเองก็มีเพลียบ้างแต่ก็ยังคงนั่งทำงานต่อจิบกาแฟและเอนตัวพิงกับพนักเก้าอี้หรูบ้าง เพื่อผ่อนคลายและพักเหนื่อย
ทางอีกฟากหนึ่ง หนุ่มคนหนึ่งชื่อวี วีรธัช หลังจากเรียนจบจากมหาวิทยาลัยในคณะวิศวกรรมศาสตร์ก็ได้ได้เข้าทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยวีอยู่แผนกการผลิต ซึ่งตรงกับสาขาที่ตนจบมาพอดี ชายหนุ่มทำงานที่บริษัทนี้ได้ 3 ปีและก็เป็นที่รักของพี่ๆและเพื่อนร่วมงานทุกคน
“ นนท์กูกลับก่อนนะเว้ย ” ชายหนุ่มส่งเสียงและเดินไปหาเพื่อนสนิท
“ รีบไปไหน เพิ่ง 5 โมงเย็นเอง ” นนท์มองนาฬิกาข้อมือขวาแล้วกันวีเอาไว้
“ งานก็เสร็จแล้ว ถึงเวลาเลิกงานแล้ว ”
“ รับจ็อบป่ะเนี่ย ”
“ ก็อยากจะรับ แต่ไม่มีเวลาว่างเลย กูไปละ ” ชายหนุ่มบอกกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงเอือมๆแล้วเดินจากไป
นนท์ เพื่อนของวี เรียนจบมาด้วยกัน เป็นคนตลก ชีวิตไม่เคยมีปัญหาอะไร ร่ำรวย พ่อแม่มีบริษัทใหญ่โต แต่ลูกเรียนวิศวกรรมศาสตร์ ไม่ยอมเรียนบริหารไปรับช่วงต่อกิจการจากพ่อแม่ในอนาคต
หลังจากที่วีออกจากแผนกของบริษัทก็โบกรถเมล์นั่งมาลงที่ซอยบ้านตัวเอง จากนั้นก็เดินเข้ามาที่บ้านเห็นบ้านเงียบ จึงคิดว่าพ่อหายไปอีกแล้ว วีเลยเดินไปวางกระเป๋า เก็บข้าวของที่ห้องให้เรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากบ้าน เพื่อถามหาพ่อตัวเองกับคนแถวนั้น
“ ป้าๆเห็นพ่อผมมั้ย ” วีเดินออกมาที่หน้าปากซอยเพื่อถามป้าคนขายของเผื่อจะเห็นบ้าง
“ ลุงวัฒแกจะไปไหน ไปบ่อนน่ะสิ ” ป้าอีกคนแถวนั้นเอ่ยขึ้นเพราะใครๆก็รู้ว่าพ่อวีติดพนัน
“ อีกแล้วหรอ เอาเงินจากไหนไปบ่อนนักหนานะพ่อ ” วียกมือลูบหัวอย่างเซ็งๆ
“ แกเตือนๆพ่อไว้บ้างวี ติดหนี้หลายบาทจะไม่มีปัญญาใช้เค้า ” ป้าบอกด้วยความหวังดี
“ ครับป้า ขอบคุณครับ ” วีส่ายหัวนิดๆแล้วเดินกลับเข้ามาที่บ้าน อาบน้ำแต่งตัวใหม่ จากนั้นก็ออกมาหุงข้าว ทอดไข่เจียวกับทำต้มจืดตำลึงที่มันพันรั้วอยู่หลังบ้านไว้กินพร้อมพ่อในมื้อเย็นเหมือนกับทุกๆวัน หลังจากทำอาหารเสร็จก็เข้าห้องไปนั่งทำเล่นอยู่ในห้อง
“ เฮ้ย ไอ้วี! มึงกลับมารึยังวะ ไอ้วี! ” แต่ผ่านไปไม่นานนัก ชายแก่วัยเกือบ 60 ก็ส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาในบ้าน
“ อะไรพ่อ เมามาอีกใช่มั้ยเนี่ย ” วีลุกจากหน้าจอโน้ตบุ๊กออกมาตามเสียงเรียก
“ เออ มีไรให้กินวะ ” “ เข้าบ้านก่อน ทำไว้ให้ละ ”
“ มึงมีเงินมั้ยวะ เอาให้กูซัก 5000 ” พ่อวีเดินเข้ามาในบ้านก็เอ่ยขอเงินลูกชาย
“ จะเอาไปทำอะไร ” วีถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ ใช้หนี้เค้า กูเล่นเสียว่ะ แม่งมือไม่ดีช่วงนี้ ”
“ ไม่ได้ ผมจะเก็บไว้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ไหนจะค่าข้าวอีก ” ลูกชายปฏิเสธพร้อมบอกเหตุผลกับพ่อ
“ กูพ่อมึงนะเว้ย แล้วไหนค่าข้าว ต้องมานั่งแดกไข่เจียวกับต้มจืดตำลึง เคยได้กินของดีๆบ้างมั้ยกูเนี่ย ” ลุงวัฒบ่นอย่างไม่พอใจทำเอาวีมองพ่อแล้วถามพ่อกลับไปว่าอยากกินอะไรจะซื้อมาให้กิน
“ พรุ่งนี้ผมจะซื้อมาให้พ่อกินนะ วันนี้ก็กินนี่ไปก่อน ” วีตอบรับคำพ่อแล้วหยิบจานมาตักข้าวยื่นให้พ่อจากนั้นก็นั่งกินข้าวกันจนหมดโดยไม่พูดจาอะไรกันอีกพอกินข้าวเสร็จลุงวัฒก็นอนเอนตัวลงที่พื้นทันที
หลังจากทานข้าวไปได้สักพัก วีที่นั่งมองพ่ออยู่บ่อยๆโดยในใจคิดลังเลบางอย่าง จนกระทั่งตัดสินใจได้พลางถอนหายใจและเอ่ยถามพ่อออกมา
“ พ่อ! ไปบ่อนแถวไหนมา ” วีเห็นว่าพ่อไปบ่อยครั้งแต่ไม่เคยรู้เลยว่าบ่อนอยู่ที่ไหน
“ เรื่องของกู ” คนเป็นพ่อทำเฉไฉไม่ยอมบอกกลัวลูกจะตามไปถึงที่
“ ไม่ไปเล่นบ้างได้มั้ย เล่นแล้วมันได้อะไร ”
“ ไอ้วี! มึงสอนกูหรอ ฮะ?? ” ผู้เป็นพ่อลุกขึ้นนั่งแล้วตะคอกถามลูกชายเสียงดัง ทำเอาวีแน่นิ่งตกใจกับน้ำเสียงของพ่อไปครู่หนึ่ง แต่ลูกชายยังคงไม่หยุดบ่นเพราะถือว่าได้โอกาสแล้ว
“ ทั้งเหล้าทั้งพนัน เดือนๆหนึ่งเสียไปตั้งเท่าไหร่ ”
“ ทีกูเลี้ยงมึงมากว่าจะถึงตอนนี้ กูเสียไปเท่าไหร่ กูได้อะไรกลับมาวะ ”
“ ผมก็ทำงานเลี้ยงพ่ออยู่นี่ไง ” วีตอบกลับพ่ออย่างทันควัน
“ เลี้ยงกู ก็ต้องให้เงินกู มึงไม่มีสิทธิ์มาบ่น มาด่าอะไรทั้งนั้น ” ลุงวัฒตอบและมองวีตาเขม็ง วีจึงลุกไปเก็บจานล้างทำความสะอาด จากนั้นก็เดินเข้าห้องตัวเองไปในทันที
เช้าวันต่อมาลุงวัฒตื่นแต่เช้าตามปกติ เมื่อเห็นลูกชายเดินออกมาจากห้องก็ลองขอเงินใหม่อีกครั้งหลังจากเมื่อคืนขอและไม่ได้มาแต่ลูกชายก็ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่มี พร้อมหยิบแบงค์สีเทาให้พ่อไว้ใช้และรีบออกไปทำงาน
“ ซื้อข้าวกินบ้างนะพ่อ อย่ากินแต่เหล้า ” วีหยิบรองเท้ามาใส่ บอกกับพ่ออย่างเป็นห่วงแล้วเดินออกไปรอขึ้นรถเมล์ที่หน้าปากซอยเพื่อจะไปทำงาน
เฮ้ยยยยยยยยย
พลั่กกกกกกกกกกก ตุ้บบบบบบบบบ
โอ๊ยยยยยยย
วีเดินออกมาได้ระยะหนึ่งก็เห็นชายชุดดำหลายคนกำลังทำร้ายร่างกายคนที่นอนบนพื้นอย่างน่ากลัวจึงหยุดเดินและหันมามองอยู่นานจนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกจากแม้ค้าแถวนั้น
“ น้อง! รถเมลล์มาแล้ว อย่าไปสนใจเลย ”
“ ทำไมเค้าถึงโดนซ้อมล่ะพี่ ” วีหันมาที่หน้าถนนแล้วถามแม่ค้าคนนั้นกลับก็ทำให้ได้รู้ว่าชายคนที่ถูกซ้อมติดพนันแล้วไม่มีเงินจ่าย
“ ต้องโหดร้ายขนาดนี้เลยหรอ แล้วเค้าไม่กลัวตำรวจหรอพี่ ”
“ ตำรงตำรวจอะไร น้องรู้มั้ยเจ้าของบ่อนน่ะมาเฟียเบอร์ต้นๆเลยนะ ” แม่ค้าหยุดมัดถุงแกงเพื่อเม้าท์มอยยาวโดยที่วีเองก็ยืนฟัง จนกระทั่งได้ยินเสียงรถเมล์บีบแตรดังลั่น
ปริ๊นนนนนนนนนนนนนนน
ปริ๊นนนนนนนนนนนนนนนนน
“ จะไปมั้ย ถ้าอยากคุยรอคันหน้านะไอ้น้อง ” วีได้สติหันไปมองรถเมล์ที่กำลังจะออกตัว จึงรีบวิ่งขึ้นไปยืนโหนเพื่อเดินทางไปที่ทำงาน
“ มาสายนะวันนี้ ” นนท์ทักทายเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามาในแผนกเกินเวลาไป 5 นาที
“ กูเห็นคนแถวบ้านโดนรุมกระทืบว่ะ ภาพติดตาสัส ” วีตอบเพื่อนพลางเก็บของไปด้วย
“ ติดพนันอะดิ ”
“ เออ กูกลัวพ่อกูโดนแบบนี้จังเลย ทำไงดีวะเนี่ย ” สีหน้ากังวลเริ่มปรากฏบนใบหน้าวีแต่เช้า
“ พูดยังไงเค้าก็ไม่เลิกมึงจะทำไงได้ ”
“ เออ วันๆเผาผลาญเงินกูไปเท่าไหร่ กว่ากูจะหาได้แต่ละวัน ถ้าพ่อเอาไปซื้อของกินหรืออยากเอาไปทำไรนะกูจะไม่บ่นเลย ”
“ เอาน่า ค่อยๆบอกไปทุกวันๆ คงเปลี่ยนใจซักวัน ” นนท์พูดให้กำลังใจเพื่อน
“ ปวดหัวชิบหาย ขนาดแม่กูให้เลือกระหว่างแม่กับพนันพ่อกูไม่เลิก จนแม่ทิ้งกูไป ตอนนี้เป็นยังไงอยู่ที่ไหนกูก็ไม่รู้เลยไอ้สัส พอถามเค้าก็ไม่ยอมพูดไม่บอกอะไรกูเลย ”
“ อย่าเครียดมึง ”
“ เอาเป็นว่ากูมีหน้าที่หาเงินให้พ่อกูเล่นพนันก็แล้วกันเนอะ ” วีพูดอย่างปลงๆ
“ เออไอ้ห่า ก็คิดได้ ไปๆทำงานได้ละ ” ” วีพูดอย่างปลงๆทำให้เพื่อนยิ้มและตบบ่าให้กำลังใจ
“ วี เรามาช่วยพี่ตรงนี้หน่อย ”
หลังจากทำงานไปได้ชั่วโมงกว่า หัวหน้าก็เรียกให้วีไปช่วยงาน วีจึงวางอุปกรณ์ ที่ตนกำลังประกอบอยู่ที่โต๊ะแล้วเดินมาที่โต๊ะหัวหน้าที่เรียกให้มาช่วย
“ ครับๆ ”
“ ทำพวกตรงนี้ก่อน งานด่วน ไปบอกเพื่อนด้วยไป ” หัวหน้าจัดแจงสั่งงานกับวีไว้
“ ครับพี่ ”. วีรับคำสั่งจากหัวหน้าแล้วเดินไปบอกกับเพื่อนๆในแผนกว่ามีออเดอร์สั่งเครื่องดูดฝุ่น 200 เครื่องเร่งให้เสร็จภายในพรุ่งนี้เย็น
“ งานหนักพวกผมเลยครับ ไหนจะงานเดิมแล้วงานนี้เข้ามาแทรกอีก ”
❌ เรื่องนี้เขียนขึ้นตั้งแต่ปี 2561 ห้าม copy ห้ามนำไปปรับและเผยแพร่ใหม่นะคะ
หากพบเจอ ขออนุญาตดำเนินคดี ❌
และหากผู้อ่านท่านใดพบว่าเนื้อเรื่องซ้ำหรือคล้ายกับใคร รบกวนช่วยแจ้งไรท์ด้วยนะ ช่วยหน่อยเน้อ 💕
# ตอนนี้นิยายเล่มนี้ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์มีดีแล้ว ยังไม่ได้มีกฏหรือบอกไว้ว่าห้ามเผยแพร่อ่านฟรี
หากนักอ่านคนไหนอยากมีเก็บไว้ไปซื้อเล่มมาเก็บเอาไว้ก็ได้น้าา
# ขอบคุณทุกคนที่เปิดใจเข้ามาอ่านนะคะ 🙏
.