11
“ ตอนนอนเธอเหมือนเด็กจริงๆเลย ถ้าเด็กน้อยคลอดออกมาหน้าตาเหมือนเธอฉันคงต้องหวงน่าดูเลยเนอะ ”
“ ............ ”
หลังจากที่เพื่อนเพื่อนของเขาออกจากห้องไป พยาบาลก็นำอาหารมาให้ พอฉันทานเสร็จฉันก็เเกล้งนอนหลับทันที
ทำไมถึงเเกล้งหลับนะหรอเพราะฉันไม่อยากรบกวนเขาต่างหาก ฉันเห็นเขานั่งทำงานเซ็นเอกสารตั้งเเต่เช้าจนตอนนี้เขายังไม่เสร็จไม่รู้ว่างานเขาจะเยอะไปไหน
ไม่นานฉันก็สัมผัสได้ว่าเขาเดินใกล้เข่ามาหาฉัน เขามองฉันสักครู่ก่อนที่จะค่อยค่อยหยิบผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ฉัน ฉันเป็นคนไม่ค่อยชอบห่มผ้าเพราะฉันเป็นคนขี้ร้อน
พอเขาห่มผ้าเสร็จแล้วเขาก็ลากเกาอี้มานั่งเเล้วก็จับมือของฉันนวดไปเบาเบา
“ เเต่งงานกันไหม “
ฉันสตั้นไปพักกับคำพูดที่เขาเปล่องออกมาถึงเขาจะพูดตอนที่ฉันหลับเเต่ฉันนี่สิที่เเกล้งหลับได้ยินสิ่งที่เขาพูด
“ ฉันขอโทษนะกับเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา ตอนนี้ฉันพร้อมที่จะมีเธอกับลูกเข้ามาในชีวิตเเล้วนะ ฉันหวังว่าพรุ่งนี้เธอจะตอบตกลงกับฉันนะอัญชัน ”
จุ๊ฟ.
พรุ่งนี้งั้นหรอ ฉันพร้อมหรือเปล่าที่จะให้โอกาสเขา ถ้าเขาถามฉันตอนนี้ฉันตอบเลยเเบบไม่ต้องคิดว่าไม่ ฉันตั้งมั่นกับตัวเองได้ว่าฉันยังสามารถเลี้ยงลูกเเละดูเเลฉันด้วยตัวฉันคนเดียวได้อย่างไม่ค้องการมือคนอื่นมาช่วยถึงเขาจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของลูกก็ตาม
เช้าวันต่อมา
ฉันตื่นขึ้นมาในช่วงสายของอีกวัน เเละฉันมองไปรอบๆห้องก็ไม่มีผู้ชายคนนั้นอยู่ในห้องเเล้วนอกจากจะเห็นเพียงกระเป๋าเดินทาง หรือว่าเขาจะเดินทางไปไหนกัน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ ขออนุญาตนำอาหารวางไว้ตรงนี้นะคะ “
คนที่เดินเข้ามาเขาคือพยาบาลที่นำอาหารเเละยามาวางให้ฉัน
“ ขอบคุณนะคะ เเต่ว่าเห็นผู้ชายที่อยู่กับฉันเมื่อคืนไหมคะ ”
“ เห็นออกไปตั้งเเต่เช้าเเล้วนะคะ”
“ ค่ะ ”
ออกไปเเล้ว ตั้งเเต่เช้าเเล้วกระเป๋าเดินทางใบนี้หละอย่าบอกนะว่าลืมไว้ ในกระเป๋ามันมีอะไรสำคัญหรือเปล่า เบอร์ติดต่อก็ไม่มี
เอ๊ะ ! เเล้วนี่ฉันจะไปเป็นห่วงเขาทำไมกัน มันก็เรื่องของเขา งานก็งานของเขาฉันไม่เห็นมีส่วน/ด้ส่วนเสียอะไรนิ ชั่งปะไร
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ ฮายยยย เจ๊ ”
ฉันที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากก็มีเก้งเปิดประตูเข้ามาเซฮายฉัน เเละก็ตามมาด้วยหวายกับโซ่
“ พวกเเกมากันทำไมเนี่ย ”
ฉันถามออกไปปกติเวลานี่พวกมันทั้งสามคนต้องอยู่ที่ร้านเเล้วนี่อะไรมาหาฉันกับครบเเบบนี้เเล้วร้านฉันละ
“ ก็มาหาเจ๊ไง ไม่สิต้องเรียกว่าคุณเเม่ต่างหาก ”
“ นิ ”
“ เออน่า ไม่เป็นไรฉันก็กำลังจะเป็นเเม่จริงจริงนิ ”
“ นี่เจ๊โซ่ขอถามอะไรหน่อยสิ ”
“อะไร ”
อยู่ดีดีคนที่เงียบที่สุดอย่างโซ่ที่เดินเข้ามาก็นั่งลงที่โซฟาทันทีก็เดินเข้ามาถามฉัน
“ เจ๊ไปได้เจ้าของโรงเเรมเป็นผัวได้ไงวะ ”
อึ้งเลย คำถามมันจี้ใจดำฉันชัดๆ
“ ใช่เจ๊ / ใช่เจ๊ ”
ซันนี่กับหวายก็หันมาถามฉันพร้อมกันอีกด้วย
“ เรื่องนี้มันซับซ้อน ”
“ มีเวลานั่งฟังทั้งวันเจ๊ ”
มีเวลานั่งฟังทั้งวัน เเล้วร้านฉันละอย่าบอกนะว่าปิด ลูกค้าฉันด่าเเน่เเน่ถ้าเป็นเเบบนั้น
“ เเล้วร้านละ ”
“ ก็ผัวเจ๊ให้พวกเรามาอยู่เป็นเพื่อนเจ๊อะ เขากลัวว่าเจ๊เหงา ”
“ ตกลงใครกันเเน่ที่เป็นคนให้เงินค่าจ้างพวกเเก ”
“ แหะๆ ชั่งเหอะเจ๊ปิดสักวันไม่เจ้งหรอกน่า อีกอย่างพวกเราก็อยากมาเยี่ยมเจ๊ด้วยไม่ได้เข้าร้านมาเป็นอาทิตย์ละ ”
จริงสิฉันนอนโรงพยาบาลมาเป็นอาทิตย์เเล้ว เเละก็ยังต้องนอนเฉยเฉยเเบบนี้ไปอีกนานสินะ เบื่อชะมัด
“ พวกแกนี่นะ ”
“ เจ๊อย่าเปลี่ยนเรื่อง บอกมา ”
“ เออเออ ”
เเละฉันก็เล่าเรื่องให้พวกมันฟังตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ เเต่ก็ไม่ได้เล่าละเอียดขนาดนั้นเพราะทั้งเรื่องเมื่อคืนฉันก็ไม่ได้เล่า
“ ซันอิจฉาเจ๊อัญอะ มีสามีดี๊ดีเเถมยังหล่อรวยอีก ”
“ หรอ ฉันยังมองไม่เห็นสิ่งที่เเกบอกเลยนะซันนี่ ”
“ เเล้วนี่เจ๊จะเลี้ยงลูกคนเดียวจริงจริงหรอ ”
หวายที่เอ่ยขึ้นมาถามฉัน
“ ใช่ ตอนนี้ฉันมีพร้อมทุกอย่างฉันสามารถเรียกเขาคนเดียวได้ ”
“ เจ๊ หวายว่านะลูกก็ต้องการพ่อเเละอีกอย่างลองคิดดูนะ เราสองคนเติบโตจากบ้านเด็กกำพร้าไม่รู้จักพ่อเเม่ที่เเท้จริง หวายไม่เชื่อหรอกนะว่าเจ๊ไม่ต้องการความรักจากพ่อเเม่ เจ๊ก็รู้ว่าความขาดมันทำให้เจ๊ต้องดิ้นรนขนาดไหน ”
มันก็จริงนะ ฉันไม่มีพ่อมีเเม่ ถ้าฉันเจอท่านฉันก็อยากถามว่าทิ้งฉันไปทำไม
“ คิดให้ดีดีนะเจ๊ โซ่ว่าเฮียหลุยซ์เขาก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายอะไร อีกอย่างโซ่มองออกนะว่าเขาเป็นห่วงเจ๊กับลูกมากขนาดไหน ”
“ จริงนะเจ๊ไม่งั้นเขาไม่ขอให้พวกเราปิดร้านเเล้วมาอยู่กับเจ๊หรอก ”
ทำไมนะ ทำไมทั้งสามคนต้องคอยมาบอกให้ฉันให้โอกาสเขาให้ฉันตัดสินใจใหม่อีกครั้ง ทำไมทั้งสามคนมองเห็นสิ่งที่ฉันมองไม่เห็นในตัวของเขา
หนึ่งเดือนผ่านไป
“ นี่ เจ๊ถามไรหน่อยสิ ”
เเหละนี่ก็เป็นอีกวันที่พวกมันทั้งสามคนมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน เเละตอนนี้ฉันก็ท้องได้สี่เดือนเเล้วท้องที่เคยเเบนราบก็นูนออกมาเยอะเหมือนกัน
“ เจ๊ลองเก็บเอามาคิดดูเเล้วนะตั้งเเต่วันนั้นที่พวกเเกบอกเจ๊ เเต่เจ๊ก็ยังไม่เห็นอะไรที่พวกเเกบอกเลย ”
“ เจ๊ก็ลองเปิดใจสิคะ เจ๊อย่ามามัวอคติกับคุณหลุยซ์ ”
ฉันอคติกับเขาหรอฉันก็ว่าไม่นะ ฉันก็พยายามที่จะพูดคุยกับเขามากขึ้นเเต่เขาก็ไม่เห็นสนใจอะไรเลย นอกจากทำงาน เช้ามาเซ็นเอกสาร บ่ายมีประชุม เย็นก็เซ็นเอกสาร บางวันฉันไม่เคยได้เห็นน่าเขาเลยด้วยซ้ำ เเล้วเเบบนี้ตะให้ฉันเปิดใจได้ยังไง
“ เมื่อก่อนเจ๊ยอมรับว่าอคติเเต่ตอนนี้ก็ยอมเปิดใจเเล้วนะเเต่กับเขาทำเเต่งาน ”
“ เจ๊น้อยใจหรอที่เฮียทำเเต่งาน ”
น้อยใจ อะไรคือน้อยใจเเบบไหนที่เขาเรียกว่าน้อยใจ
“ เเบบที่เจ๊เป็นนี่เเหละคะเขาเรียกว่าน้อยใจ ”
“ อือ ”
@ช่วงเย็น
ตอนนี้ฉันอยู่คนเดียว ทั้งสามคนกลับไปเเล้ว ฉันเปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้เพื่อไม่ให้ห้องมันเงียบเหงาเกินไป
เเอด
ฉันหันไปมองประตูที่มีคนเปิดเข้ามาเเละก็เป็นเขาที่ฉันไม่ค่อยได้เห็นหน้าเขานานจนตอนนี้ใบหน้าเขาเริ่มมีหนวดมีเคราเเซมขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
“ ทานข้าวหรือยังคุณ ”
“ ยัง คุณละ ”
“ ยังเหมือนกัน ทานไหมเดี๋ยวผมลงไปซื้อข้างล่างให้กิน ”
“ ไม่เอายังไม่หิว ”
“ ดื้อ! ลูกผมหิวเเล้วถ้าคุณไม่หิวคุณก็ต้องกินเพื่อลูก ”
ลูก อะไรก็ลูกถ้าฉันไม่ท้องนายคงไม่มานั่งเฝ้าฉันที่โรงพยาบาลเเบบนี่สินะ
“ เป็นอะไรไป ”
“ เปล่า ”
“ ปากแข็ง !!! ”
———————————————————-
คุณแม่น้อยใจ