ตอนที่****23
สารภาพ
“สวัสดีค่ะ”
“เธอคือ…ผู้ก่อตั้งใช่ไหม”
ผมมองเธอโดยไม่หลบสายตา อีกฝ่ายเงียบไม่ตอบ ค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งบนแทงก์น้ำโดยห้อยขาลงมาข้างล่าง ชุดที่เธอสวมใส่บวกกับสีผมมันโคตรขัดกับหน้ากากแม่มดเลยจริงๆ
คิดภาพคุณยายแก่ๆจมูกยื่นแบบในเรื่องสโนว์ไวท์สิครับ นั่นแหละ…หน้ากากของเธอ
“รู้เรื่องของฉันมาเยอะพอสมควรเลยนะคะ”
“ก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานมานี้แหละ”
ถ้าไม่ใช่เพราะอสุรกายนั่นหาเรื่องยุ่งยากมาให้ และไอ้เจ้าสามแปลกก็ดันบ้าจี้รับเอาความวุ่นวายพวกนั้นเข้ามาใส่ตัว ผมคงไม่ต้องมาอยู่ในจุดที่น่าเบื่อแบบนี้
“น้องชายของฉันคงสร้างเรื่องเดือดร้อนให้พวกคุณมากเลยสินะคะ ต้องขออภัยด้วยจริงๆ”
เธอบอกพร้อมก้มหัวให้ผมเล็กน้อย เป็นพวกพูดเพราะดูมีมารยาทเหมือนกันทั้งคู่เลยแฮะ เดี๋ยวสิ แบบนี้แปลว่าแม่มดกับอสุรกายก็เป็นพี่น้องกันจริงๆงั้นเหรอ?!
“เธอรู้…ว่าพวกฉันรู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอกับอสุรกายรวมถึง…ท่านอธิการฯ”
“ค่ะ ไม่มีอะไรที่ฉันอยากรู้แล้วไม่ได้รู้หรอก รวมถึง…กล่องแพนโดร่าที่คุณถือครองเอาไว้ด้วย”
“!!!”
นัยน์ตาที่ลอดผ่านช่องว่างของหน้ากากพอดีกำลังมองมาที่ผม ผู้หญิงคนนี้…เธอมีบางอย่างที่รุนแรงและอันตรายกว่าอสุรกายหลายเท่านัก!
“แต่เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับฉัน เพราฉะนั้นคุณไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ ฉันไมคิดที่จะเปิดมันออกหรอก แพนโดร่าของคุณน่ะ”
“งั้นมาทำไม?”
“…”
“จุดประสงค์ที่เธอมาที่นี่ คืออะไร คงไม่ใช่แค่จะมาสวัสดีแล้วแนะนำตัวให้ฉันรู้จักแน่ๆ”
แต่มันจะดีกว่ามากถ้าไปโผล่ไปตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม! แถมยังทำเอาผมตกใจถึงขนาดนั้นอีก ป่านนี้เจ้าลิงหัวแดงคงงงแย่ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ฉันมา…เพื่อหยุดยั้งอสุรกายและช่วยเหลือพวกคุณค่ะ”
“เหตุผล?”
“เพราะฉันไม่ต้องการให้หมอนั่นเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้”
“…”
“ถ้าคุณอยากปกป้องลูกศิษย์ของคุณทั้งสามคน ไม่สิ…คิดว่าคนในห้องคุณตอนนี้คงไม่ได้เป็นแค่ลูกศิษย์แน่ๆ”
ฉึก! เสียดแทงเข้าเต็มๆกลางใจ ตอนนี้หมอนั่นก็ยังเป็นแค่ลูกศิษย์เท่านั้นแหละ แน่นอนว่าผมต้องใช้ความพยายามและความยับยั้งชั่งใจเป็นอย่างมากเพื่อให้ระหว่างผมกับเขายังคงความสัมพันธ์ในฐานะอาจารย์และศิษย์ต่อไปได้
ลองมาเป็นคนที่ถูกมันอ่อยตลอดเวลาอย่างผมดูบ้างสิ แล้วจะรู้ว่าลำบากแค่ไหน!
“เข้าเรื่องมาได้แล้ว”
“เรียบเปลี่ยนเรื่องเชียวนะคะ”
“…”
“โอเคค่ะ ฉันไม่ได้มาเพื่อยุ่งเรื่องรักๆใคร่ๆของใครอยู่แล้ว”
แม่มดตอบพลางยกแขนขึ้นเพื่อเอาเส้นผมที่กำลังปลิวไสวของตัวเองทัดเข้าไปที่หู ทุกกริยาท่าทางของเธออ่อนช้อยเสียจนเหมือนนางฟ้ามากกว่าแม่มด…
“ฉันต้องการให้คุณ…ช่วยปลดปล่อยเจ้าหญิงองค์หนึ่งออกมาจากหอคอยของปิศาจค่ะ”
“ใคร?”
“คุณแม่”
“…”
“เธอเป็น…คุณแม่ของฉันกับแฟนธ่อม”
ผมเงียบไม่ตอบ พอจะรู้แล้วว่าเธอกำลังหมายถึงใคร ผู้หญิงที่ผมเจอเธอถูกขังอยู่ในห้องที่บ้านของท่านอธิการฯวันนั่นสินะ
“แฟนธ่อมแค่คนเดียวไม่สามารถโค่นล้มจอมปิศาจได้หรอกค่ะ เขายังเด็กเกินกว่าที่จะต่อกรกับพวกนั้นได้เพียงลำพัง แล้วยิ่งฝ่ายนั้นมีคนสำคัญของอสุรกายและแม่มดอยู่ในกำมือ ต่อให้พวกคุณสามารถช่วงชิงสิ่งๆนั้นกลับมาให้เขา แต่มันจะไม่ได้ช่วยหยุดความชั่วร้ายในมหา’ลัยแห่งนี้ลงเลย สุดท้าย…ทุกอย่างจะสูญเปล่า”
“…”
“ความโสมมของโลกใบนี้จะไม่ได้ถูกกำจัด”
‘เพราะโลกใบนี้มันเต็มไปด้วยความโสมม! ฉันถึงเป็นตัวแทนของพระเจ้าเพื่อมากวาดล้างสิ่งสกปรกพวกนี้ด้วยตัวเองยังไงล่ะ ฮะฮะฮ่า!’
“!!!”
ภาพความทรงจำบางอย่างที่ผมปิดตายมันมานานฉายชัดเข้ามาในหัว เหงื่อมากมายผุดขึ้นมาเต็มใบหน้า หัวใจที่สงบนิ่งเต้นระส่ำด้วยบางอย่างในเหตุการณ์นั้นเลวร้ายเกินกว่าผมจะรับไหว
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ปะ…เปล่า พูดต่อเลย”
“ฉันต้องการให้พวกคุณช่วยคุณแม่ออกมาพร้อมๆกับขโมยสิ่งๆนั้นออกมาด้วยเพื่อยุติเรื่องพวกนี้ ทำได้ไหมคะ?”
“ข้อแลกเปลี่ยนล่ะ”
“…”
“หน้าตาฉันดูเหมือนคนใจดีที่จะยอมเอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับเรื่องยุ่งยากฟรีๆหรือไง”
ความเงียบเกาะกินไปทั่วบริเวณ
แม้ผมจะรู้ได้ด้วยความรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มาร้าย แต่การกระทำหลายอย่างของเธอทั้งที่เคยได้ทำลงไปแล้วและกำลังทำอยู่มันขัดกันจนผมไม่กล้าที่จะไว้ใจ
“ฮารุมะคุง”
“!!!”
“ข้อแลกเปลี่ยนที่ฉันจะให้ คือฮารุมะคุง…หนึ่งในสิ่งที่คุณปิดตายเอาในกล่องแพนโดร่า”
“เธอรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนงั้นเหรอ!”
ดวงตาผมเบิกกว้าง พุ่งเข้าไปหมายจะตะครุบขาของอีกฝ่ายไว้แต่เธอกลับไวกว่า กระโดดลงจากแทงก์น้ำไปที่ประตูดาดฟ้าได้ทันท่วงที
“ฉันรู้ว่าคุณกำลังกังวลอะไรอยู่ แต่ฉัน…มีเหตุผลในทุกๆการกระทำของตัวเอง ไม่ว่าเรื่องที่กลายมาเป็นแม่มด เรื่องที่สร้างกฎเลวร้ายในมหา’ลัยขึ้นมา เรื่องที่หนีหายไปโดยทิ้งแม่กับน้องชายให้เผชิญชะตากรรมกันแค่สองคน หรือแม้แต่…ในตอนนี้”
“…”
“ความโสมมที่ฉันพูดถึงมันไม่เกาะกินแค่ในมหา’ลัยเท่านั้น แต่มันเหมือนเชื้อไวรัสที่แพร่ระบาดไปอย่างรวดเร็ว คนสำคัญอีกคนของฉันตกเป็นเครื่องมือของคนชั่วพวกนั้น จนกว่าจะช่วยเขาออกมาได้อย่างปลอดภัย ฉันไม่สามารถปรากฏตัวหรือกลับมาในตอนนี้ได้”
“เธอหมายถึงใคร”
“ถ้าคุณเชื่อในสิ่งที่ฉันบอก จงทำตาม บางครั้งการต่อสู้กับความชั่วร้าย เราก็จำเป็นต้องใช้ความชั่วร้ายนะคะ”
ผมจ้องมองเธอนิ่ง ต้องไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาอย่างแน่นอน เธอคนนี้…รู้อะไรพอๆกับที่ผมรู้ หรือไม่…เธอก็รู้มามากกว่า
“อสุรกาย…น้องชายของฉัน ฝากช่วยเหลือเขาด้วยนะคะ หมอนั่นไม่สมควรต้องกลายมาเป็นความชั่วแบบนี้ ถ้าฉันจัดการทุกอย่างให้มันจบไปตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน”
“งั้นทำไมไม่ทำ?”
“เพราะฉันต้องเลือกค่ะ”
“…”
“ฉันไม่มีเวลาแล้ว ถ้าคุณอยากให้ความยุ่งยากนี้มันจบลงเสียที คุณต้องเชื่อฉัน”
ก็แล้วทำไมต้องเป็นผมด้วยเล่า! ไอ้สามแปลกนั่นก็มีทำไมไม่ไปหาวะ หรือไม่ก็โผล่ไปหาน้องชายตัวเองเลยไม่ง่ายกว่าหรือไง
“แล้วถ้าฉันไม่เชื่อล่ะ”
“พระเจ้าก็จะลงทัณฑ์โลกใบนี้”
“…”
“ด้วยตัวเอง”
‘พระเจ้าจะมาลงทัณฑ์โลกใบนี้ด้วยตัวเอง! พวกมันทุกคนต้องตาย! มนุษย์โสโครกชั้นต่ำพวกนั้นจะต้องตายเหมือนหมาข้างถนน!’
“อ๊ะ! บ้าเอ๊ย”
ยกมือขึ้นบีบหัวตัวเองไว้แน่น ความทรงจำบ้าๆนั่นทำเอาเส้นเลือดในหัวบีบกันตุ้บๆ ไม่อยากจะคิดแบบนั้นหรอกนะแต่ว่า…
ไม่แน่บางที คนที่อสุรกายกำลังต่อสู้ด้วยนั้นอาจไม่ใช่ท่านอธิการฯ แต่เป็นไอ้พวกนั้น!
พวกที่เรียกตัวเองว่า ‘พระเจ้าแห่งโลกใบใหม่’
“พวกมัน**…ยังไม่ได้หายไปอย่างที่คุณคิดหรอกนะคะ”**
“ว่าไงนะ”
ฟิ้ว…
ตรงที่ที่แม่มดเคยยืนอยู่เมื่อครู่ว่างเปล่า เหลือเพียงความมืดและเสียงลมเบาๆบนดาดฟ้าเท่านั้น ถ้าหากเรื่องที่เธอพูดมาเป็นความจริง ผมจะต้องรีบจบเรื่องพวกนี้ ก่อนที่โศกนาฏกรรมเหมือนเมื่อสิบปีก่อนจะเกิดขึ้นอีกครั้ง…ที่นี่… และที่สำคัญ ต้องระวังไม่ให้เจ้าสามแปลกรวมถึงอสุรกายรู้เรื่องของพระเจ้าด้วย
คนอย่างเด็กพวกนั้น ลองถ้าได้รู้ล่ะก็คงไม่พ้นเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยเหลือคนอื่นแน่นอน
คิดว่าตัวเองเป็นทีมอเวนเจอรส์กันหรือไง?!
“ชูจิ! ชูจิอยู่นี่… อ๊ะ! อยู่นี่จริงๆด้วย ผมเดินหาทั่วเลยนะครับ คิดยังไงถึงบอกให้ผมแก้ผ้ารอในห้องน้ำตั้งนานสองนานเนี่ย”
เจ้าลิงหัวแดงในชุดนอนกางเกงขายาวกับเสื้อยืดสีขาวเดินเข้ามาผมที่ยืนตัวแข็งทื่อไม่ขยับไปไหน ยิ่งเห็นหน้าของหมอนี่…ผมก็ยิ่งกลัว ทั้งกลัว…ทั้งกังวล
ถ้าผมไม่สามารถหลีกเลี่ยงอดีตของตัวเองได้อีกต่อไปล่ะ
ถ้าทุกอย่างในอดีต มันวนกลับเข้ามาเหมือนเดิม ผมจะต้อง…เสียเด็กคนนี้ไปเหมือนที่ครั้งหนึ่งผมเสียหมอนั่นไปใช่ไหม
“ชูจิ เป็นอะไรไปครับ หน้าซีดเชียว เหงื่อออกเยอะเลยด้วยอ่ะ ไปวิ่งจ้อกกิ้งมาเหรอ”
ใครเขาจ้อกกิ้งกันตอนสี่ทุ่มบ้างเล่า
เจ้าลิงหัวแดงเดินเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ชุ่มโชกออกให้ผม
‘เห็นไหมครับ ผมบอกแล้วว่ารุ่นพี่ต้องทำได้ ทุกคนที่นี่เป็นเพื่อนกันทั้งนั้น อย่าอยู่คนเดียวอีกเลยนะครับ’
“…รุมะ”
“ครับ?”
หมับ…
ดึงเอาคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้แนบแน่น แน่นที่สุดเท่าที่ผมจะมั่นใจได้ว่าเด็กคนนี้จะไม่หลุดมือผมไปอีกเป็นครั้งที่สอง
อย่าหายไปไหนอีก
อย่าไปจากฉันอีกเลยนะ…
…ฮารุมะ
“ชูจิ เป็นอะไรไปครับ”
“ชอบ”
“…”
“ฉันชอบนาย”
“!!!”
“ฉันจะปกป้องนายด้วยชีวิต”
ผมผละตัวออกจากอีกฝ่าย เลื่อนมือขึ้นจับใบหน้าของเขาเอาไว้ ผิวกายเนียนนุ่มสัมผัสกับฝ่ามือจนใจเต้นแรงไปหมด เสียงหวานใสครางเรียกชื่อผมอย่างแผ่วเบา
“ชูจิ…”
“…”
“ผม…อื้อ!”
ก้มหน้าลงไปมอบจูบที่โหยหายจะมอบให้มานานแก่เขา มือข้างหนึ่งดันท้ายทอยอีกฝ่ายให้แหงนหน้าขึ้นมาแล้วบดขยี้ริมฝีปากลงไป ผมสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากอุ่นนั้น กวาดไล่ต้อนลิ้นเล็กๆที่แสนหวานก่อนจะดูดดุนมันเข้ามาในปากของตัวเองเพื่อลิ้มรสทุกอย่างของเด็กคนนี้
หวาน…
หวานไปหมดเลย
ฮารุมะ…ฮารุมะ….ฮารุมะ…
หมับ!
“!!!”
สัมผัสบางอย่างทำเอาสติที่หลุดลอยไปเพราะหวนนึกถึงใครบางคนในอดีตกลับมา ผมลืมตามองคนในอ้อมกอดให้ดีอีกครั้งก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นกว่าเดิมสิบเท่าด้วยความตกใจ
ไต้ฝุ่น!!!
คนตัวเล็กกำลังหลับตาพริ้มเคลิบเคลิ้มในรสจูบของผม ทว่าสองมือที่เลื้อยเร็วประหนึ่งหนวดปลาหมึกของเขาตะครุบเป้าผมไว้เรียบร้อย ซ้ำยังบีบขยำอย่างมันมือราวกับต้องการจะปลุกปั่นอารมณ์ผมให้โหมกระหน่ำกว่าเดิม
จึก!
“โอ๊ยๆๆๆๆๆ”
เสียงร้องดังลั่นไปทั่วดาดฟ้า ผมใช้นิ้วจิกเอาเนื้อตัวส่วนหลังมือของไต้ฝุ่นแล้วดึงมันออกไปให้พ้นจากจุดอันตรายได้สำเร็จ คนถูกหยิกมองค้อนอย่างไม่สบอารมณ์
“ทำอะไรเนี่ยชูจิ หยิกผมทำไม”
“ใครใช้ให้นายลามปาม”
“ลามปามอะไรอ่ะ ชูจิเป็นคนรุกผมก่อนเองนะ แถมยังเป็นคนสารภาพก่อนด้วย”
“สารภาพ?”
“ชอบไง”
“!!!”
“ชูจิเพิ่งบอกชอบผมไป จำไม่ได้เหรอครับ”
คนที่ผมบอกชอบและจูบไปไม่ใช่ฮารุมะ แต่เป็น…
เจ้าลิงหัวแดงงั้นเรอะ!
บับเบิ้ลบิวชวนคุย**:**
มาอัปตอนที่ 23 ต่อแล้วจ้า เรื่องราวเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ ปมของแต่ละคนจะต่อยอดไปในภาคอื่นๆหลังจากนี้ ต้องมารอติดตามกันนะคะว่าอะไรคือ “จุดเชื่อมโยง” ที่ทำให้พวกเขามาเจอกันกันแน่ และที่สำคัญ…อะไรคือการที่อาจารย์บอกชอบน้องฝุ่น จูบน้องฝุ่น แต่กลับคิดถึงฮารุมะคุงตลอดเวลา! แล้วฮารุมะคุงเป็นใครกันแน่? พวกที่เรียกตัวเองว่า “พระเจ้า” อีกล่ะ? ปริศนาเอยจงเข้มขึ้นซับซ้อนยิ่งขึ้น ฮ่าๆๆๆ
อย่าลืมนะคะ! พรุ่งนี้สิบโมงเรามีนัดกันที่เพจสนพ.น้า เรื่องนี้จะเปิดพรีฯให้ได้จับจองกันในวันพรุ่งนี้แล้ว โปรโมชั่นเด็ดสุดคือมีมินิโนเวล **“****The Phantom”** แจกฟรี 300 เล่ม (จำนวนจำกัด) ให้กับคนที่สั่งซื้อและโอนเงินเข้ามาก่อนด้วยน้า ช้าหมดต้องสั่งซื้อเอานะคะ ตามไปไลค์เพจสนพ.ไว้ก่อนเลยน้า เล่มแถมเป็นเรื่องราวบางมุมของแฟนธ่อมที่ทุกคนไม่เคยรู้ค่ะ!
เพจสนพ**.**https://www.facebook.com/feihuibooks/
ปกนิยาย
ที่คั่นไดคัทของแถมในเล่ม
**
**
ปฏิทินโปสการ์ดของแถมเฉพาะรอบพรีฯ
(ด้านหน้าเป็นโปสการ์ด ด้านหลังเป็นปฏิทิน)
** **
เข็มกลัดของแถมเฉพาะรอบพรีฯ 1 ชิ้น (เลือกลายเองไม่ได้)
** **
ปกเล่ม "มินิโนเวล" ของแถมจำนวนจำกัดฟรี 300 เล่ม
(นอกจากนี้ต้องสั่งซื้อค่า)
หมดนี่ในราคารอบพรีฯคือ 399 บาท (ไม่รวมค่าจัดส่ง) เท่านั้น!!! จากรอบปกติคือ 429 บาท
อย่าลืมนะคะ เปิดพรีฯวันแรกวันพรุ่งนี้ตอนสิบโมงตรง! (14/05/61) ติดตามรายละเอียดต่อที่ในเพจของสนพ.เลยจ้า