10
เช้าวันต่อมา
หลังจากที่เมื่อวานผมคุยกับเธอไม่รู้เรื่อง ไม่ว่าจะทำอะไร เสนออะไรก็ก็ไม่โอเคเลยสักอย่าง
“ ไอ้มิค กูจะไปนอนโรงพยาบาล มีเอกสารอะไรที่ต้องเซ็นมึงก็เอาไปให้ที่นั่นละกัน ”
“ เออ ว่างว่างกูจะชวนไอ้ตินไปเยี่ยม ”
ปัง!
จากที่คุยธุระที่โรงแรมเสร็จเเล้วผมผมก็เข้าไปที่คอนโดของผมเพื่อเก็บเสื้อผ้าให้พอใส่กับเวลาสามเดือน ผมตัดสิ้นใจเเล้วว่าผมจะไปนอนเฝ้านั่งเฝ้าเธอทั้งวันทั้งคืน จนกว่าเธอจะยอมขอเสนอที่ผมกำลังจะไปเสนอเธอวันนี้เเหละ
“ จะต้องเอาอะไรไปบ้างวะ ”
ผมพึมพำกับตัวเอง เกิดมาไม่เคยต้องไปนอนเฝ้าใครที่โรงพยาบาล หรือจะต้องย้ายไปของไปนอนกับใครที่โรงพยาบาล
ผมใช้เวลาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เหมือนว่าผมกำลังกลับสวิตอย่างงั้นเเหละเเต่เปล่าเลยไปเฝ้าเมียที่โรงพยาบาล
@โรงพยาบาล
ผมเปิดประตูเข้าไปก็เห็นร่างบางกำลังหลับไหลไม่รู้สึกตัว นอนหังลังให้กับประตู นอนเเบบนั้นลูกจะไม่อึดอัดหรือไงกัน หรือถ้านอนตะเเคงเเบบนี้มันจะนอนสบาย
ผมเดินเข้าไปใกล้ใกล้เธอดึงผ้าห่มที่ถูกถีบล่นไปยังอยู่เเค่ขา ผมค่อยค่อยดึงผ้าห่มขึ้นมาให้สูงกว่านี้ เพราะในห้องอุณหภูมิของเเอร์มันเย็น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ชู่ 🤫
“ เธอหลับอยู่ครับหมอ ”
ผมเห็นหมอกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง ผมก็เลยเอานิ้วชี้มาป้องที่ฝากพร้อมกับพูดออกมา เพราะว่ากลัวเธอจะตื่น ผมอยากให้เธอพักผ่อนให้มากมาก มันอาจจะส่งผลให้เธอออกจากโรงพยาบาลก่อนสามเดือนก็ได้ถ้าเธอเเข็งเเรงมากกว่านี้
“ หมอมีอะไรหรือเปล่าครับ ”
“ ครับ ผมเเค่จะเอายามาให้พร้อมกับตรวจเล็กน้อยนะครับ ไม่คิดว่าคนไข้จะหลับ ”
“ ออครับ ”
“ งั้นผมฝากยาให้คนไข้หน่อยนะครับ ถ้าคนไข้ตื่นก็ให้ทานเลยนะครับ ”
“ ครับ ”
“ งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ ”
“ เออ หมอผมมีเรื่องปรึกษา ”
“ งั้นเชิญที่ห้องหมอดีกว่าครับ น่าจะสะดวกกว่า ”
@ห้องพักหมอ
“ มีอะไรจะปรึกษาผมครับ ”
“ ช่วงเช้าเธอจะมีอาการเเพ้ท้อง กินข้าวก็ไม่ค่อยได้ หมอพอมีจะมีวิธีไหมครับ ”
“ มันเป็นเรื่องปกติอยู่เเล้วนะครับที่คนไข้จะเเพ้ท้องในช่วงอายุครรภ์ในระยะนี้ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เเต่ก็พอมีวิธีอยู่บ้างถ้าคนไข้มีอาการคลื่นไส้ก็ให้ทานอะไรก็ได้ครับที่มีส่วนผสมของขิง อาจจะเป็นคุกกี้ขิงได้ ”
“ ครับ เเล้วท่านอนที่คนท้องควรจะนอนเป็นท่าไหนครับ ”
“ ถ้าท้องอ่อนอายุครรภ์ไม่เกินสี่เดือนหรือสิบหกสัปดาห์ ควรจะให้นอนหงายมากกว่า เเละก็ไม่ควรจะให้นอนกลางวันมากจนเกินไปเพราฮอร์โมนคนไข้กำลังเปลี่ยนเเปลงอาจจะทำให้กลางคืนนอนไม่หลับครับ ”
“ ขอบคุณนะครับหมอที่ให้คำปรึกษา ”
“ ครับ พยายามเข้านะครับ ”
“ ....... ”
ไอ้หมอคนนี้มันเหมือนส่ามันรู้อะไรอย่างนั้นเเหละ หรือว่าจะรู้วะ รู้ได้ยังไง พูดค้างคาเเล้วก็ออกไป สงสัยคงจะมีไข้มั่ง
ผมรีบกลับไปหาเธอป่านนี้คงจะตื่นเเล้วมั่ง ไม่รู้จะเห้นยาที่ผมว่างไว้ให้หรือเปล่า ผมเดินเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเธอนอนเล่นโทรศัพท์อยู่เเละยาก็ยังวางอยู่ที่เดิม
“ จะมาทำไมอีก “
“ ก็เมียกับลูกอยู่ที่นี้จะให้ผมไปอยู่ไหนได้ ”
“ น่ารำคาญชะมัด ”
ผมไม่ได้สนใจคำที่เธอพูดออกมา ผมเดินมาเทน้ำใส่เเก้วเเล้วก็ยื่นยาให้เธอ
“ อะไร ”
“ ยาไง ”
“ ยาอะไร ”
“ บำรุงครรภ์มั่งหมอไม่ได้บอก ”
จากนั้นเธอก็หยิบยาขึ้นหปทานเเล้วก็ตามไปด้วยน้ำ
อึก อึก
จากนั้นเธอก็ยื่นเเก้วน้ำที่ว่างเปล่าส่งมาให้ผม จากนั้นเธอก็นอนตะเเคงหันหลังให้ผม
“ นี่อัญคุณไม่ควรนอนตะเเคงเเบบนั้นนะ อายุครรภ์คุณยังอ่อน นอนหงายจะดีกว่า ”
“ ชิ ”
เธอชิในลำคอเเต่ก็กลับมานอนหงายอย่างที่ผมบอก อย่างน้อยเธอก็ไม่ทำอะไรขัดใจผมทุกอย่าง อย่างน้อยน้อยเธอก็ฟังที่ผมพูดบ้าง เเบบนี้ผมก็ยังคงมีโอกาสใช่ไหม
@ช่วงเย็น
“ ไม่กลับบ้านนายรึไง ”
ผมที่กำลังนั่งเซ็นเอกสารทางโรงเเรมที่วางเป็นตั้งตั้งทั้งหมดสามทั้งเงยหน้าขึ้นมามองคนป่วยที่เอ่ยถามผมขึ้นมา
นี่ถือเป็นประโยคเเรกเลยก็ได้มั่งที่ตั้งเเต่เธอนอนที่โรงพยาบาลเอ่ยถามผมขึ้นก่อน ปกติผมจะเป็นคนชวนเธอคุยมากกว่า
“ ไม่อะ ”
ผมจะกลับทำไมทั้งที่ผมก็ขนเสื้อผ้ามาเเล้วเเต่ยังไม่ได้เอาขึ้นมาไว้บนห้องนี้เเต่มันยังอยู่ที่รถต่างหาก
“ กลับไปได้เเล้ว มันเย็นมากเเล้ว ”
“ เป็นห่วงหรอ ”
ผมเเกล้งพูดแหย่ออกไปทั้งที่รู้เเหละว่าอัญจะตอบกลับมายังไง
“ เปล่า เเค่เบื่อขี้หน้านาย ”
“ เบื่อขี้หน้าผัว คนโบราณเขาบอกว่าจะไม่เจริญนะ ”
“ ฉันไม่เคยเห็นจะได้ยินประโยคเเบบนี้ เเละอีกอย่าง นาย ....”
“ นายก็ไม่ใช่ผัวฉัน ”
“......”
“ คุณจะพูดเเบบนี้ใช่ไหมละ ผมรู้ ถึงคุณจะไม่ยอมรับผมเป็นผัวเเต่คุณก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าผมไม่ใช่พ่อของลูกคุณถูกไหม ”
“ เออ !! ”
สุดท้ายก็ปฎิเสธไม่ได้ ลองกว่าพูดว่าผมไม่ใช่พ่อของเด็กสิมีทางได้เห็นดีกันเเน่
“ เเละอีกไม่นานหรอกผมจะทำให้คุณยอมรับผมเป็นผัวให้ได้ คอยดู”
“ ไม่วันนั้นหรอก ”
หลังจากที่เถียงกันสักพักเธอก็นอนตะเเคงหันหลังให้ผม บอกกี่ครั้งก็ไม่จำว่าอย่านอนตะแคง ยัยดื้อเอ่ย !!!
“ บอกว่าอย่านอนตะแคง ”
เธอหันหน้ามองตาขวางใส่ผมเเล้วก็กลับมานอนหงายเหมือนเดิม
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูทำให้ผมกับอัญชันหันไปมองทางประตูเเละก็เห็นผู้ชายสองคนที่ความสูงมีขนาดใกล้เคียงกัน เเละก็เป็นคนที่ผมรู้จักสนิทเป็นอย่างดีมันคือไอ้ตินกับไอ้มิคนั่นเอง
“ ว่าไงครับไอ้คุณหลุยซ์ ”
เสียงไอ้มิคที่เดินเข้ามาเเล้วก็ทั้งผมขึ้นมาก่อน
“ นั่นคงเป็นคุณอัญชันสินะ สวยนี่หว่า ”
เเละนี่ก็เป็นไอ้ตินเพราะมันไม่มองผมเลยเข้ามามันก็ทักอัญชันก่อนทันที
“ ค่ะ คุณรู้จักฉันหรอคะ ? ”
“ รู้จักสิครับ ก็คุณอัญเป็นเมียเพื่อนผม ”
“ ไม่ใช่นะคะ ”
“ 🙂 ”
เเล้วไอ้ตินมันก็ยิ้มเเล้วก็นั่งลงข้างๆผม
“ อัญชันไอ้นี้ชื่อมิค ส่วนไอ้นี้ชื่อติน เป็นเพื่อนสนิทของผม ”
“ คุณมิคเป็นเพื่อน เอ่อไม่ใช่เลขาหรอคะ ”
“ เปล่าหรอกมันเป็นเพื่อนผม เเต่มันไม่อยากกลับไปทำรังนกที่บ้านมัน เลยมาขอเป็นเลขาผม ”
“ อ้อ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณมิคคุณติน ”
“ เช่นกันครับ / เช่นกันครับ ”
“ ผมไม่เเปลกใจเลยนะครับทำไมไอ้หลุยซ์มันถึงได้เพ้อถึงคุณตลอดเวลาก็เพราะคุณอัญทั้งสวยทั้งน่ารักเเบบนี้นี่เอง ถ้าหายดีเเล้วเเวะไปเที่ยวผับผมได้นะครับ ”
“ พอเลยมึงไอ้ติน กว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ท้องก็ใหญ่พอดี เที่ยวไม่ได้หรอก ”
“ ถ้างั้นคลอดเเล้วก็ไปได้นะคับคุณอัญชัน ”
“ คลอดเเล้วก็ไม่ได้ ต้องเลี้ยงลูก !!! ”
“ หวงจริงวุ้ย !!! ”
“ กลับไปได้เเล้วพวกมึง คุณอัญจะได้พักผ่อน ”
“ เออ !! ”
“ ไปก่อนะครับ / ไปนะครับคุณอัญ หายไวไวนะครับ ”
“ ค่ะ ขอบคุณนะคะ ”
หลังจากที่พวกมันกลับออกไปได้สักพักพยาบาลก็เอาอาหารเข้ามาให้จนตอนนี้คนป่วยก็นอนหลับไปเเล้วตอนนี้ก็เหลือเเค่ผมเเหละที่ยังนั่งทำงานไม่เสร็จเเถมพรุ่งนี้ยังมีประชุมอีก
ผมเดินไปยังเตียงคนไข้ จัดการห่มผ้าให้เธอผมสังเกตมาสักพักเเล้วว่าอัญชันต้องเป็นคนขี้ร้อนเพราะเธอไม่ค่อยชอบห่มผ้า
“ ตอนนอนเธอเหมือนเด็กจริงๆเลย ถ้าเด็กน้อยคลอดออกมาหน้าตาเหมือนเธอฉันคงต้องหวงน่าดูเลยเนอะ ”
“ ............ ”
“ เเต่งงานกันไหม ”
ผมถามเธอทั้งที่เธอยังหลับ ผมไม่รู้ว่าทำไมไม่ขอเธอก่อนที่เธอจะนอน ก็ไม่รู้สิ
“ ฉันขอโทษนะกับเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา ตอนนี้ฉันพร้อมที่จะมีเธอกับลูกเข้ามาในชีวิตเเล้วนะ ฉันหวังว่าพรุ่งนี้เธอจะตอบตกลงกับฉันนะอัญชัน ”
จุ๊ฟ.
—————————————————————
มาต่อให้ครบ 100% เเล้วนะ