ห้าเดือนต่อมา บ้านบราวน์
“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน เย้!!!” เสียงของสมาชิกทุกคนดังขึ้นเมื่อมาร์คัสเดินประคองภรรยาที่อุ้มลูกสาววัยเพียงแค่สามวันเข้ามาภายในบ้าน
“โอ้ยน่ารักน่าชังเสียจริงเลยลูก” มิลินเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหนูน้อยหน้าตาน่ารักแม้ในยามหลับใหลก็ยังดูออกว่าตากลมโตนั่นได้แม่มาเหมือนผู้เป็นพี่ไม่มีผิด
“อยากอุ้มมั้ยคะไวน์” เอมิเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นไวโอลินเอาแต่จ้องมอง ดวงตาสวยมีหยาดน้ำตาคลอด้วยความตื้นตันและยินดี
“ค่ะ” ไวโอลินพยักหน้ารับแล้วเข้าไปรับหนูน้อยมาไว้ในอ้อมอก
“คนสวยของแม่ ดีใจที่ได้เจอหนูสักทีนะลูก” ไวโอลินเอ่ยบอกทั้งน้ำตา มาริวเองก็ยืนจ้องมองด้วยน้ำตาคลอเช่นเดียวกัน
“เอมตั้งชื่อยัยหนูว่าอะไรเหรอ” มาริวหันไปเอ่ยถามหญิงสาว
“เอวาค่ะ ชื่อเต็มคือ เอวา มาลาลิน บราวน์” เอมิตอบพลางส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม
“มาลาลิล” ไวโอลินเงยหน้ามาสบตาหญิงสาวอย่างแปลกใจ
“ใช่ค่ะ ชื่อกลางของเอวา คือมาลาลิน เพราะมาวินบอกเอมว่าไวน์เคยคิดชื่อนี้ไว้ตอนที่ท้องยัยหนู เอมเลยอยากให้ยัยหนูมีทั้งชื่อที่เอมและไวน์เป็นคนตั้งให้” เอมิเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณนะคะเอม” ไวโอลินยิ้มตอบด้วยความซาบซึ้งใจเป็นที่สุด
“น้องน่ารักจังเลยครับ” มาวินเดินเข้ามาจับที่ตัวหนูน้อยอย่างเบามือ
“ขอหอมน้องได้มั้ยครับ” เนลเอ่ยแล้วเดินเข้ามายืนมองตาแป๋ว
“นีลหอมด้วย” แฝดน้องเดินตามมาด้วยอีกคน
“โอเคๆหอมน้องเบาๆกันนะครับ” มิลินเอ่ยบอกลูกชายทั้งสองที่สุดแสนจะเห่อน้องเป็นที่สุด แฝดทั้งสองคนก็พากันประทับริมฝีปากเล็กไปยังสาวน้อยตัวจิ๋วด้วยความรักใคร่
“ให้น้องไปพักกันเถอะนะลูก เดี๋ยวค่อยไปเล่นกับน้องกันใหม่” มีนาเอ่ยขึ้นเมื่อทุกๆคนพากันมารุมสาวน้อยกันหมด
“พี่เนล พี่นีล อชิขอพาน้องไปนอนพักก่อนนะครับ” หนูน้อยที่ตอนนี้มีตำแหน่งพี่ชายเพิ่มมาเอ่ยขึ้น
“พี่เนล กับนีลขอไปเฝ้าน้องด้วยนะ เราสองคนจะเป็นบอดี้การ์ดให้น้อง” แฝดผู้พี่เอ่ยขึ้นพลางหันหน้าไปหาแฝดน้อง
“ใช่ๆพี่นีลก็จะเป็นบอดี้การ์ดคอยปกป้องน้อง” แฝดน้องพยักหน้ารับอย่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
“แม่ว่าเอาไว้วันหลังดีกว่านะครับลูก วันนี้ให้น้าเอมกับน้องไปพักก่อนเนอะ น้าเอมกับน้องเหนื่อยแย่แล้ว” มิลินเอ่ยบอก ลูกชายทั้งสองก็พยักหน้ารับแต่ก็อดที่จะทำหน้าผิดหวังเล็กๆไม่ได้เพราะอยากจะไปนั่งดูน้องเสียเหลือเกิน
“เอาอย่างนี้นะครับเดี๋ยวถ้าน้องตื่นน้าเอมจะให้อชิไปตามเนลกับนีลมาหาน้องนะครับ มาวินด้วย” เอมิลูบหัวเด็กชายทั้งสามอย่างนึกเอ็นดู ทั้งสามคนก็พยักหน้ารับอย่างพร้อมเพรียง
“ไปๆๆแยกย้ายก่อนนะลูก น้องจะไปพักแล้ว” วินเนอร์เอ่ยบอกหลานๆทุกคน
“พวกเราขอไปส่งน้องที่ห้องครับ” มาวินเอ่ยขึ้นเมื่อไวโอลินส่งหนูน้อยให้แก่แม่ผู้ให้กำเนิด
“ไปครับน้าเอม เดินระวังนะครับ” นีลเอ่ยขึ้นแล้วเดินนำหน้าไป
“ทางนี้เคลียร์เดินมาได้เลยครับ” เนลที่รีบวิ่งนำไปยังบันไดก็รีบตะโกนบอกราวกับเป็นบอดี้การ์ดเสียจริงๆ ส่วนมาวินกับอชิก็เดินขนาบข้างหญิงสาวที่เดินอุ้มลูกน้อยไม่ห่าง ทุกคนที่ยืนดูก็พากันมองตามอย่างเอ็นดูที่ทุกคนล้วนแล้วแต่รักและเอ็นดูน้องสาวกันเหลือเกิน
เวลาต่อมา
“โอ๋ๆคนดีของพ่อ มาหาพ่อนะให้คุณแม่พักก่อนนะคนสวยของพ่อ” มาร์คัสรีบเดินเข้าไปอุ้มลูกน้อยเอาไว้เมื่อทารกแบเบาะทำเสียงอ้อแอ้เหมือนกำลังจะส่งเสียงร้องออกมา
“หม่ำๆนมนี่นะครับคนเก่ง” ชายหนุ่มเดินไปยังโต๊ะที่มีแต่ของใช้เด็กอ่อนพลางหยิบขวดนมที่หญิงสาวปั๊มใส่ขวดเอาไว้มาป้อนไปที่ปากเล็กจิ้มลิ้ม
“เก่งมากเลยคนดี” มาร์คัสมองลูกน้อยด้วยรอยยิ้ม ที่เธอออกจะเลี้ยงง่ายเขาจึงคอยดูได้สบายๆ โดยให้ภรรยาได้งีบหลับผักผ่อนบ้าง
“ทำไมไม่เรียกเอมล่ะคะ” หญิงสาวที่งัวเงียตื่นขึ้นมาเอ่ยถามพลางค่อยๆหยัดตัวขึ้นนั่ง
“เอมนอนพักเถอะจ่ะ มาร์คดูลูกได้ดูสิกินนมแล้วก็หลับปุ๋ยเลย” ชายหนุ่มเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆภรรยาพลางวางลูกน้อยให้นอนลงยังที่นอนดังเดิม
“แล้วอชิล่ะคะ”
“รายนั้นนอนเฝ้าน้องจนหลับไปแล้วเหมือนกันจ่ะ อยู่ที่เตียงเล็กนู่น” มาร์คัสบอกแล้วพยักพเยิดหน้าไปทางเตียงเล็กของลูกชาย
“เอมหิวมั้ยเดี๋ยวมาร์คให้เด็กทำอะไรมาให้ทาน” มาร์คัสยกมือขึ้นลูบแก้มนวลของภรรยาเบาๆ
“ยังไม่หิวเลยค่ะ” เอมิตอบแล้วจับมือชายหนุ่มมาบรรจงจูบลงไป
“ขอบคุณที่คอยดูแลกันนะคะ” เอมิส่งยิ้มให้พลางมองสบตาเขาด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ ไม่คิดเลยว่าเขาจะทำหน้าที่พ่อได้ดีขนาดนี้
“มาร์คต่างหากที่ต้องขอบคุณเอม ขอบคุณที่อดทนอุ้มท้องลูกถึงเก้าเดือน ขอบคุณที่ทนเจ็บแล้วคลอดเขาออกมาอย่างปลอดภัย ขอบคุณที่ให้มาร์คได้ทำหน้าที่พ่ออย่างสมบรูณ์” มาร์คัสมองสบตาเธอหวานฉ่ำก่อนจะกดจูบไปที่หน้าผากเล็กและแก้มนวลของเธออย่างรักใคร่
“มาร์ครักเอมนะ รักมากๆ มาร์ครู้นะว่ามาร์คพูดบ่อยเหลือเกิน แต่นั่นมันออกมาจากความรู้สึกของมาร์คจริงๆ รัก และรักมากขึ้นทุกๆวัน”
“เอมรู้ค่ะ เพราะเอมก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน รัก และจะรักตลอดไป”
“ที่รักของมาร์ค” มาร์คัสเอ่ยเสียงหวานแล้วเขยิบตัวเข้าไปใกล้ๆก่อนจะดึงเธอมากอดไว้แนบอก ปากหยักกดจูบไปที่กระหม่อมบางด้วยความรักที่มีเอ่อล้นหัวใจ
5ปีต่อมา
“คุณแม่ขา เอวาขอไปเล่นกับพี่ๆข้างนอกนะคะ” เสียงอันสดใสของหนูน้อยวัย5ขวบเอ่ยขึ้น
“ได้สิคะคนสวย” เอมิหันมาหาลูกสาว มือเรียวยกขึ้นลูบศีรษะเล็ก และประทับรอยจูบไปเบาๆ ก่อนที่ลูกสาวจะเดินออกไปยังหน้าบ้านพักริมทะเลที่มีเหล่าบรรดาพี่ชายพากันวิ่งเล่นอยู่
“เอวา น้องออกมาทำไมคะ” อชิที่เห็นน้องสาวเดินออกมาก็หยุดเล่นแล้วรีบเดินเข้าไปหาในทันที
“น้องอยากออกมาเล่นด้วยค่ะ” ผู้เป็นน้องตอบออกไป
“งั้นมานั่งตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่เล่นก่อทรายเป็นเพื่อน ไปวิ่งเล่นมันอันตรายเดี๋ยวจะหกล้มเอา” อชิบอกพลางเดินจูงมือน้องสาวให้ไปนั่งยังใต้ร่มไม้ที่มีผ้าปูอยู่
“เอวา น้องใส่หมวกนี่ไว้นะ แดดมันร้อน” มาวินที่เดินมาจากโต๊ะริมสระน้ำเอ่ยขึ้นพลางถอดหมวกที่ตนสวมใส่ให้กับน้องสาว
“ขอบคุณค่ะพี่มาวิน” เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มหวานเป็นการขอบคุณก่อนที่จะไปตักทรายเล่นต่อ
“เอวา น้องไปเล่นในบ้านไม่ดีเหรอ” เนลที่เดินมาอีกคนเอ่ยขึ้น
“น้องอยากเล่นตรงนี้นี่คะ” เอวาตอบสองมือก็ยังคงเล่นไปตามประสา
“แต่ตรงนี้มีเด็กคนอื่นนอกจากพวกพี่ พี่ไม่อยากให้ใครมองน้อง” เนลที่ดูจะได้นิสัยหวงน้องสาวจากผู้เป็นลุงมามากล้นเอ่ยพลางกวาดสายตามองไปรอบๆที่มีเด็กผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับเขาวิ่งเล่นอยู่
“น้องอยากเล่นตรงนี้ค่ะ ในบ้านไม่มีทราย” เอวาเงยหน้ามามองพี่ชายคนโต
“งั้นช่วยกันตักทรายไปให้น้องเล่นในบ้านดีมั้ย” อชินำเสนอขึ้นเนลก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
“โถ่ให้น้องเล่นที่นี่เถอะ ตักทรายเข้าบ้านมีหวังคุณพ่อกับคุณแม่บ่นตายแน่ๆ” นีลรีบยับยั้งผู้หวงน้องสาวทั้งสองคน
“งั้นอุ้มน้องเข้าบ้านเลย” เนลว่าพลางจะเข้ามาอุ้มน้องสาว
“ไม่ต้องหรอกเนล เรานั่งเฝ้าน้องกันตรงนี้แหละ” นีลเอ่ยห้ามพลางเดินไปนั่งที่ด้านหลังของน้องสาว
“โอเคห้ามใครเข้าใกล้น้องเด็ดขาด” เนลพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปนั่งที่ด้านซ้าย
“........” มาริวผู้ยังคงบุคลิกเงียบขรึมพยักหน้ารับแล้วเดินไปนั่งที่ด้านขวา
“พี่จะดูแลน้องเองนะ” อชิลูบหัวน้องสาวแล้วนั่งลงที่ด้านหน้า ทำให้ตอนนี้พี่ชายทั้งสี่คนกำลังนั่งล้อมอยู่ทั้งสี่ด้านของผู้เป็นน้อง เพื่อเป็นองครักษ์พิทักษ์น้องสาวคนสวยคนเดียวของบ้าน
“ไวน์ว่าลูกๆเราจะหวงน้องกันมากไปหน่อยนะคะ” ไวโอลินที่ยืนอยู่หน้าบ้านเอ่ยขึ้น
“ไม่หน่อยเลยจ่ะไวน์โดยเฉพาะเนลหวงน้องสาวเหมือนมาร์ไม่มีผิดเลย” มิลินบอกพลางหันหน้าไปมองพี่ชาย
“พี่ชายคนโตก็แบบนี้แหละตัวเอง ที่หวงก็เพราะรักไงตัวเองก็รู้” มาริวเดินมาลูบหัวน้องสาว
“ค่ารู้แล้ว” มิลินส่งยิ้มให้กับพี่ชาย
“คิดแล้วก็สงสารคนที่จะมาจีบยัยหนู ขนาดนิคเจอแค่พ่อวินกับไอ้มาร์ก็แทบจะตายแล้วนะ” นิโคลัสเอ่ยพลางเดินเข้าไปสวมกอดภรรยาจากด้านหลัง
“นั่นน่ะสินี่มีทั้งปู่ พ่อ ลุง แล้วพี่ชายอีกสี่ รวมเป็นเจ็ด” มิลินพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย สงสัยเขยคนเล็กของตระกูลบราวน์คงต้องเจอศึกหนักหนาเลยทีเดียว
“ไม่ว่าจะเป็นใครถ้ารักยัยหนูจริงก็ต้องผ่านด่านให้ได้” มาร์คัสเอ่ยพลางมองไปยังลูกสาวแสนสวย
“คิดไวไปมั้ยคะลูกยังเล็กอยู่เลยค่ะ” เอมิบอกกับสามี
“ก็ลูกเราสวยนี่คะ ดูสิตากลมโต ขนตาเป็นแพ ปากนิด จมูกหน่อย ไม่อยากคิดถึงตอนโตเลยค่ะ หนุ่มๆคงรุมขายขนมจีบเพียบ” มาร์คัสบอกแล้วเดินไปยืนข้างๆภรรยา
“มีองครักษ์ล้อมรอบแบบนั้น เห็นทีจะไม่มีใครได้เข้ามาใกล้เสียมากกว่าค่ะ” เอมิจ้องมองดูลูกสาวที่นั่งเล่นอยู่ในวงล้อมของพี่ชายทั้งสี่
“ผมฝากดูลูกหน่อยนะ ไปเดินเล่นกัน” มาร์คัสบอกกับมิลินก่อนจะหันมาหาภรรยาแล้วจับจูงเธอออกไปเดินเล่นยังชายหาด
“ไม่ต้องฝากแล้วมั้งสี่หนุ่มนั่นเฝ้าไม่ห่างเลย” มาริวเอ่ยขึ้นอย่างชอบใจ ให้มันรู้ไปว่าหนุ่มบ้านนี้ขี้หวงกันขนาดไหน
ชายหาด
“มาร์คมีความสุขมากเลยนะ ที่เราเดินเคียงข้างกันมาจนถึงวันนี้” มาร์คัสเอ่ยขึ้นขณะที่ทั้งคู่เดินอยู่เลียบชายหาดโดยสองมือกอบกุมประสานกันไว้แน่น
“เอมก็เหมือนกันค่ะ” เธอหันไปส่งยิ้มหวานให้เขา
“เดินด้วยกันแบบนี้ตลอดไปเลยนะ” มาร์คัสยิ้มรับก่อนจะโน้มใบหน้าสากเคราเข้าไปใกล้ๆหน้าสวยแล้วบรรจงจูบไปที่ริมฝีปากบางอย่างละมุนละไม
“น้องมาขี่หลังพี่นะ” ผู้เป็นพี่ชายเอ่ยบอกน้องสาวเมื่อทั้งคู่กำลังจะเดินมาหาพ่อกับแม่
“พี่อชิไหวเหรอคะน้องตัวหนักนะ” เด็กสาวตอบแต่ก็เดินไปกอดด้านหลังพี่ชายเอาไว้
“ไหวสิ น้องตัวนิดเดียวเอง ต่อให้น้องตัวโตกว่านี้หนักกว่านี้ พี่ชายคนนี้ก็จะพร้อมจะโอบอุ้มน้องไว้เสมอ” พี่ชายวัยสิบขวบเอ่ยขึ้นแล้วเริ่มแบกน้องสาวตัวเล็กขึ้นหลัง
“น้องรักพี่อชินะ พี่อชิเป็นพี่ชายแสนดีที่สุดในโลกเลย” หนูน้อยบอกแล้วก้มหน้าเล็กลงไปหอมแก้มผู้เป็นพี่เบาๆ
“พี่ก็รักน้องนะ น้องสาวของพี่” อชิยิ้มรับแล้วแบกน้องเดินต่อไปด้วยรอยยิ้ม
“คุณพ่อคุณแม่ขา” ลูกสาวคนสวยเอ่ยเรียกเมื่อพากันเดินมาถึง
“ว่าไงคนสวยของพ่อ ถึงกับต้องขึ้นหลังพี่อชิมาเลยเหรอ” มาร์คัสบอกแล้วเดินไปอุ้มลูกสาวเอาไว้
“อชิอยากให้น้องขี่เองครับคุณพ่อ” ลูกชายสุดที่รักตอบแล้วเดินมายืนกอดแขนผู้เป็นแม่เอาไว้
“ลูกชายแม่น่ารักไม่เปลี่ยน เป็นลูกที่ดี และยังเป็นพี่ชายที่ดีของน้องด้วย แม่รักหนูมากนะครับอชิ” เอมิหอมลงที่แก้มลูกชายแล้วยกแขนขึ้นโอบไหล่ลูกชายเอาไว้
“อชิก็รักคุณแม่ครับ” เด็กชายตอบแล้วกอดมารดาเอาไว้เช่นเดียวกัน
“เอวาก็รักคุณแม่ รักคุณพ่อด้วย แล้วก็รักพี่อชิม๊ากมาก” สาวน้อยเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้ว
“พ่อรักเหมือนกัน รักทุกคนเลย” มาร์คัสส่งยิ้มหวานแล้วหอมลงที่แก้มยุ้ยของลูกสาว ไล่ไปที่ลูกชายและภรรยาตามลำดับ
“ขอบคุณเอมนะที่ทำให้มาร์คมีวันนี้ วันที่ครอบครัวของเราได้อยู่เคียงข้างกัน เติมเต็มความรักให้แก่กันแบบนี้ เราจะเดินไปด้วยกัน เฝ้าดูลูกหลานของเราเติบโตไปด้วยกันแบบนี้ตลอดไปนะ” มาร์คัสเอื้อมมือไปลูบแก้มนวลของหญิงสาวอันเป็นที่รัก ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินเข้ามายืนตระกองกอดกัน ทุกสายตามองกันด้วยความรักใคร่ ก่อนจะทอดมองไปยังภาพเบื้องหน้าที่พระอาทิตย์ดวงโตกำลังจะลาลับขอบฟ้าไปในท้องทะเลกว้างใหญ่
ภาพวิวอันแสนสวย บรรยากาศที่แสนดี ยังงดงามไม่เท่าความรักที่พวกเขามีให้แก่กัน ความรักของสองหัวใจที่เติมเต็มให้กันและกันจนมีหัวใจดวงน้อยเพิ่มมาอีกสองดวง และความรักความผูกพันจะหลอมรวมหัวใจของพวกเขาไว้เป็นหนึ่งเดียว...
*****************************************
จบแล้วน๊าา จบตอนอย่างสวยงามด้วยอันดับสองของยอดผู้อ่านสูงสุด ปลื้มปริ่มน้ำตาจะไหล😆😆😆 ขอบคุณรีดที่น่ารักทุกคนที่คอยสนับสนุนและติดตามกันมาถึงตอนจบนี้ ทุกไลค์ทุกเม้นเป็นกำลังใจและแรงผลักดันให้กับไรท์มากมายจริงๆขอบคุณมากๆเลยขอบคุณจากหัวใจ❤❤❤
ยังไงฝากติดตามกันเรื่องต่อๆไปของไรท์ด้วยนะคะ^^ เจอกันเรื่องต่อไป หนี้แค้นแสนรัก ของลุงเซนกับน้าเจน มีอชิไปให้รีดชื่นใจกันอย่างแน่นอนค่าตามไปให้กำลังอชิกันด้วยน๊าา
ปล.อีกวันสองวันไรท์จะติดเหรียญเรื่องนี้นะคะ หากใครอ่านแล้วอยากสนับสนุนไรท์อีกก็ไม่ว่ากันนะอิอิ^^ รักรีดน๊าา❤❤❤ ใครเม้นมาไรท์จำกันได้นะถึงตอบเป็นอีโมติคอนบ้างเป็นคำพูดบ้างแต่ไรท์ก็รักทุกคนนะเลิฟยูววว😘😘😘